ยอดกุ๊กบุกแดนเซียน - บทที่ 349 อยากฟังสิ่งที่เจ้าพูดหรือไม่?
บทที่ 349 อยากฟังสิ่งที่เจ้าพูดหรือไม่?
ในห้องส่วนตัวมีเพียงเสียงเคี้ยวและเสียงร้องอย่างตกใจของผู้อาวุโสกระทิงเท่านั้น
ทั้งชีวิตของเขายังไม่เคยกินเนื้อที่อร่อยขนาดนี้มาก่อน!
“ไม่ได้การ ข้าต้องไปซื้อเพิ่มอีกหน่อย!”
ผู้อาวุโสกระทิงพูดพลางวิ่งออกจากห้องส่วนตัว จนลืมจุดประสงค์ที่มางานประมูลไปเสียสนิท…
โชคดีที่ราชาปีศาจกระทิงดึงผู้อาวุโสกระทิงที่สติหลุดไว้ได้ทัน ถ้าถุงใส่หินปีศาจใบนี้หนีไป พวกเขาคงไม่มีทางได้ของที่จะประมูลแน่!
“ถ้าท่านชอบขนาดนั้น ก็ไปที่ทะเลสาบปีศาจสักครั้งเถอะ”
“จริงด้วย ทำไมข้าไม่คิดถึงเรื่องนี้นะ!”
ผู้อาวุโสกระทิงตบหัววัวขนาดใหญ่ของตัวเอง พลางยิ้มอย่างซื่อ ๆ ปนกับความหื่นกระหายอีกเล็กน้อย “สมองของมนุษย์ช่างใช้การได้ดีจริง ๆ”
มนุษย์ที่อยู่ในเหตุการณ์ “…”
อีกเกือบชั่วยามก่อนงานประมูลจะเริ่ม หลิงเยว่ที่ถูกขังอยู่ในคุกกำลังร้อนใจยิ่งนัก แต่เดิมนางไม่ได้รู้สึกอะไรมากนัก คิดว่ารอให้ปีศาจหมายเลขหนึ่งและสองตื่นแล้ว นางค่อยออกไป แต่พอได้ยินนักโทษฝั่งตรงข้ามพูดว่า วันนี้เป็นงานฉลองครบรอบพันปีของหอประมูลเมืองปีศาจ ทั้งยังมีของมากมายหลากหลายให้ประมูล เลยดึงดูดเหล่าผู้ยิ่งใหญ่จากทุกสารทิศให้มารวมตัวกัน
ผู้ยิ่งใหญ่คืออะไร?
คือตัวแทนของหินปีศาจจำนวนมหาศาลไงละ!
ชาแปลงกายของนางต้องขายได้ราคาสูงแน่ อาจจะได้ถึงหนึ่งแสนล้านหินปีศาจในวันเดียวเลยก็ได้!
“ระบบ ชาแปลงกายของข้านับรวมอยู่ในภารกิจด้วยใช่ไหม?”
หลิงเยว่กลัวว่าระบบจะกลับกลอก นางจึงถามก่อน เพื่อความปลอดภัย
เพราะชาแปลงกายปีศาจสิงโตเก้าหางเป็นสิ่งที่หายาก
“แล้วทำไมถึงไม่มีรางวัล?”
[รางวัลรวมอยู่ในภารกิจหลักที่ 19 แล้ว]
ช่างมันเถอะ
“ปล่อยข้าออกไป!”
“ถ้าไม่ปล่อยข้าออกไป ข้าจะพาทั้งตระกูลมาทุบหอประมูลเฮงซวยนี่แน่!”
หลิงเยว่เริ่มคลุ้มคลั่ง ทุบกรงขังอย่างแรง กรงขังที่สร้างจากหินสีดำที่แข็งแกร่งที่สุดในเขตแดนปีศาจ ถูกหัวกระทิงขนาดใหญ่ของนางชนจนเสียรูปทรง
นักโทษฝั่งตรงข้ามอ้าปากค้าง ไม่น่าแปลกใจเลยที่ได้ฉายาว่าเป็นผู้แข็งแกร่งแห่งเขตแดนปีศาจ ถ้าชนแบบนี้ต่อไป นางน่าจะออกไปได้นะ
“เจ้าคนงาม ถ้าเจ้าชนออกไปได้จริง ช่วยพาข้าไปด้วยได้ไหม?”
“ข้าด้วย ข้าด้วย!”
“เทพธิดากระทิง ช่วยดูน้องสาวข้าหน่อยสิ น้องข้าถูกขังมาสามสิบปีแล้ว…”
คุกเดี่ยวที่เงียบสงบกลายเป็นเสียงอึกทึก ทหารปีศาจที่เฝ้ายามที่นี่ได้ยินเสียงจึงรีบวิ่งมา ภาพที่ปรากฏต่อสายตาคือกรงขังที่บิดเบี้ยวไปหมด
“อึก…”
เสียงกลืนน้ำลายดังขึ้นเป็นระยะ
หอประมูลเมืองปีศาจไม่ได้กลัวเผ่าปีศาจกระทิง แต่เผ่านั้นถือเป็นหนึ่งในลูกค้าระดับสูงสุด ถ้าขังเผ่าของพวกเขาไว้แบบนี้ ไม่รู้ว่าจะมีเรื่องอะไรตามมาภายหลังบ้าง
“ไปรายงานหัวหน้าหน่อยดีไหม?”
ทหารเพิ่งจะหันหลังกลับ ก็เจอสหายที่แบกปีศาจหมายเลขหนึ่งเข้ามา
“รีบปล่อยท่านผู้มีเกียรติออกมาเดี๋ยวนี้!”
ปีศาจหมายเลขหนึ่งที่นอนอยู่บนเปลมาถึงก่อนงานประมูลเริ่มเพียงครู่ เมื่อเขาพูดจบ ปีศาจหมายเลขสองที่บาดเจ็บหนักกว่าก็มาถึง
เมื่อเผชิญหน้ากับปีศาจที่บาดเจ็บสาหัสทั้งสองตน หลิงเยว่จึงหยุดคลุ้มคลั่ง
ถึงขนาดนี้แล้วยัง…
นางรู้สึกซาบซึ้งใจยิ่งนัก แม้ว่าพวกเขาจะมาช้าไปสักหน่อยก็ตาม…
ตอนที่หลิงเยว่ถูกปล่อยตัว งานประมูลก็เริ่มไปแล้ว แต่เนื่องจากชาแปลงกายของนางเป็นของหายาก ถูกจัดอยู่ในระดับสมบัติล้ำค่า และอยู่ในลำดับท้าย ๆ โดยเฉพาะ
อันดับที่ห้าจากท้ายสุดเชียวนะ!
คนที่มาช้าย่อมไม่มีที่นั่งดี ๆ หลิงเยว่และปีศาจพิการสองตนถูกจัดให้นั่งที่มุมห้องโถง ล้อมรอบด้วยเผ่าปีศาจที่มีรูปร่างประหลาดมากมาย
ถือว่าได้เปิดหูเปิดตาเลยทีเดียว
หลิงเยว่รู้สึกว่าเผ่าปีศาจรอบตัวมีรูปลักษณ์ที่แปลกประหลาด แต่ตอนนี้นางมีหัวกระทิงขนาดใหญ่ จะไม่ใช่สิ่งแปลกประหลาดในสายตาของปีศาจอื่น ๆ ได้อย่างไร?
“สมบัติชิ้นสุดท้ายคืออะไร?”
“เมล็ดพันธุ์ปีศาจ”
เมื่อปีศาจหมายเลขหนึ่งพูดคำนี้ออกมา แสงในดวงตาของเขาแทบจะทำให้หลิงเยว่ตาพร่า
“ระบบ เมล็ดพันธุ์ปีศาจคืออะไร?”
“แค่นี้เองเหรอ?”
หลิงเยว่เปิดร้านค้าของระบบ ค้นหาเมล็ดพันธุ์ของดอกไม้นรกด้วยตัวเอง แต่ไม่พบสินค้าที่เกี่ยวข้อง จึงเปลี่ยนเป็นค้นหาเมล็ดพันธุ์ปีศาจ แต่ก็ยังไม่พบ
ไม่มีจริง ๆ ด้วย!
หลิงเยว่จินตนาการได้เลยว่ามันมีค่าขนาดไหน แค่คำว่านรกนี่ หลิงเยว่ก็รู้สึกถึงแรงกดดันแล้ว
“มันมีพลังมากกว่าเมล็ดพันธุ์ต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์อีกเหรอ?”
ระบบไม่ได้ตอบ แต่เริ่มร่ายภารกิจให้หลิงเยว่ฟัง
[ภารกิจหลักที่ 20 : ได้รับเมล็ดพันธุ์ปีศาจ แล้วกลืนกินมัน รางวัลคือค่าพลังวิญญาณ +900,000,000,000 อายุขัย +100,000 วัน การลงโทษเพิ่มเป็นสองเท่า]
“!!!”
เมล็ดพันธุ์ปีศาจกลับมีราคาเดียวกับยันต์ทำลายล้างระดับเทพ!
“ถ้าข้ากลืนกินมัน ข้าจะกลายเป็นอะไร?”
เพราะนั่นคือเมล็ดพันธุ์ปีศาจ แต่นางเป็นเมล็ดพันธุ์ของต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์!
ถึงแม้ตอนนี้จะมีแค่ครึ่งเดียว แต่เร็ว ๆ นี้เธอจะสมบูรณ์แบบ!
[ไม่รู้]
ไม่รู้เหรอ?
ถ้าไม่ใช่ว่ามีคนอยู่ข้าง ๆ หลิงเยว่คงจะกระโดดขึ้นมาด่าแล้ว!
แต่ระบบยังคงอยู่ข้างหน้านาง ภารกิจหลักยังไม่เสร็จสิ้น แต่กลับรีบเผยภารกิจใหม่ออกมา ดูเหมือนจะเป็นการตัดสินใจกะทันหัน
ระบบตัดสินใจกะทันหันจริง ๆ และได้รับแรงบันดาลใจมาจากเจ้าดอกไม้สีดำ มันจึงรอคอยอย่างใจจดใจจ่อว่าเมล็ดพันธุ์ศักดิ์สิทธิ์ที่กลืนกินเมล็ดพันธุ์ปีศาจจะเปลี่ยนไปในทิศทางใด
ถึงแม้จะเป็นวิธีที่เสี่ยงมากก็ตาม
“ระบบ เจ้าคิดว่าตอนนี้ข้าจะซื้อเมล็ดพันธุ์ปีศาจได้ไหม?”
ถ้าขายเผ่าพันธุ์ปีศาจกว่าสามร้อยเผ่าในป่าปีศาจทั้งหมด คงไม่เพียงพอที่จะนำเงินมาประมูลเมล็ดพันธุ์ปีศาจอยู่ดี!
[หากประมูลไม่ไหวไม่เป็นไร เพราะจะมีคนส่งมาให้เจ้าถึงที่]
ตอนนี้ระบบเหมือนหมอดูเก่ายิ่งนัก! หลิงเยว่ไม่กล้าเชื่อสักเพียงนิด แต่นางไม่มีทางเลือก ยังไงนางก็เป็นแค่ยาจกคนหนึ่ง เลยทำได้แต่ภาวนาให้เป็นจริงอย่างที่ระบบบอก
ถ้าได้ทั้งเมล็ดพันธุ์ปีศาจและยันต์ทำลายล้างระดับเทพด้วยคงดี!
ถ้าได้ยันต์ทำลายล้างระดับเทพมาแล้ว นางจะรีบไปที่เหวปีศาจทันที!
“ข้าได้ยินมาว่า สนมปีศาจที่หก เจ็ด และสิบจากวังมารปีศาจก็มาด้วยหรือ?”
“ข่าวของเจ้าเก่าไปแล้ว เพราะสนมปีศาจที่สี่ก็มาด้วย!”
“ทุกคนมาเพื่อเมล็ดพันธุ์ปีศาจ”
“ดูเหมือนว่าพวกเราคงไม่ได้เมล็ดพันธุ์ปีศาจแล้ว…”
ทันทีที่หลิงเยว่ได้ยินชื่อสนมปีศาจที่สี่ ร่างกายของนางพลันดีดผึงขึ้นมาทันที โม่จวินเจ๋อก็มาด้วยเหรอ?
หรือว่าระบบหมายถึง โม่จวินเจ๋อจะเป็นคนส่งเมล็ดพันธุ์ปีศาจมาให้นาง?
ฮ่า ๆ ๆ ถึงนางจะไม่มีเงิน แต่สนมปีศาจที่สี่ผู้สูงศักดิ์จะไม่มีเงินได้ยังไง?
หลิงเยว่ยิ้มกว้างจนเห็นฟันเรียงกันสองแถว จนแผ่นดินแทบสั่นสะเทือน ทั้ง ๆ ที่นางยิ้มอย่างหยาบกระด้าง แต่ยังทำท่าปิดปากอย่างประดิษฐ์ จนปีศาจรอบข้างต่างหัวใจเต้นแรง ปีศาจพิการข้าง ๆ กลอกตาไปมา เกือบจะสิ้นใจเสียตรงนั้น
หลิงเยว่ไม่สนใจพวกมันเลยแม้แต่น้อย แถมยังขยิบตาผิวปากให้เหล่าปีศาจที่มองนางอยู่
“…”
พวกมันอยากแทงตาตัวเองยิ่งนัก จะทำยังไงดี?
“กระทิงตัวนั้นดูขี้เหร่และโง่เง่ามาก ว่าไหม?”
ผู่ตานที่มางานประมูลพร้อมกับสนมปีศาจที่หก เพิ่งจะชะโงกหน้าออกไปดู เขาก็ได้เห็นสิ่งมีชีวิตที่น่าขยะแขยงที่สุดในบรรดาปีศาจแล้ว
“มันยังกะพริบตาหวานใส่อีก!”
ผู่ตานเมื่อเห็นภาพนั้นแล้ว ความอยากรู้อยากเห็นพลันเหือดหาย รีบปิดหน้าต่างดังปัง
มันไม่รู้หรือไงว่าตัวมันน่าขยะแขยงขนาดไหน?
หลิงเยว่รู้อยู่แล้ว แต่นางมองไม่เห็น ดังนั้น สิ่งที่น่าขยะแขยงคือตาของคนอื่น ไม่เกี่ยวกับนางสักนิด!
และสิ่งที่นางยิ่งไม่รู้คือ ศิษย์พี่สี่ที่พลัดพรากจากกันเกือบปีกำลังนินทานางอยู่ชั้นบน และยังไม่อยากมองนางแม้แต่นิดเดียว
ทั้งสองคนจึงคลาดกันอย่างน่าเสียดาย…
……….