ยอดกุ๊กบุกแดนเซียน - บทที่ 352 สมองมีปัญหา!
บทที่ 352 สมองมีปัญหา!
……….
บทที่ 352 สมองมีปัญหา!
ภายในห้องรับรองเงียบสงัด หลิงเยว่และสิงโตเก้าหางต่างจ้องตากัน แม้ในใจของหลิงเยว่จะตื่นตระหนกมาก แต่นางยังไม่ยอมเอ่ยคำใดออกมา
ขอเพียงสัตว์อสูรตรงหน้าถามถึงเรื่องชาแปลงกาย นางจะไม่ยอมรับเด็ดขาด… แต่ถ้าเรื่องราวพัฒนาไปถึงขั้นตายละก็… นางยอมรับดีกว่า
ภายนอกการประมูลชาแปลงกายกำลังดุเดือดมาก ราคาสูงเกินกว่าภารกิจหนึ่งล้านล้านหินปีศาจของหลิงเยว่เสียอีก! น่าเสียดายที่หินปีศาจเหล่านี้อาจไม่ได้ตกถึงมือนางแล้ว
หลิงเยว่ถูกจ้องจนเหงื่อไหลไม่หยุด แขนเสื้อที่นางกำไว้บิดเบี้ยวจนแทบขาด
ผู้นำเผ่ากระทิงหันหน้ามามองหลิงเยว่อย่างเย็นชา “เจ้าไปทำอะไรให้ท่านสิงโตเก้าหางโกรธหรือ?”
“ไม่มีอะไร เพียงแค่นำมรดกตกทอดของตระกูลมาขายเท่านั้น”
ก่อนที่หลิงเยว่จะพูด สิงโตเก้าหางก็เอ่ยปากก่อน น้ำเสียงของมันราบเรียบ แต่ม่ละสายตาไปจากหลิงเยว่แม้แต่น้อย
เมื่อคำพูดนี้หลุดออกมา ทุกสายตาในห้องรับรองจึงมารวมกันอยู่ที่หลิงเยว่
ผู้อาวุโสกระทิงถึงกับหยุดกินเนื้อย่าง พลันชี้ไปยังหลิงเยว่สลับกับฝูงชนภายนอกที่กำลังประมูลชาแปลงกายอย่างบ้าคลั่ง “ของนั่นเป็นเจ้าหามาหรือ? หามาจากที่ไหน?”
นี่ก็เป็นสิ่งที่สิงโตเก้าหางอยากรู้เช่นกัน
“ไม่ใช่ข้า” หลิงเยว่ยืนกรานปฏิเสธอย่างแน่วแน่
“บนขวดล้วนมีกลิ่นอายของเจ้า” สิงโตเก้าหางก้าวไปข้างหน้า “เห็นแก่ที่เจ้าเป็นเผ่าปีศาจกระทิง ข้าจึงจะไม่ใช้วิชาค้นวิญญาณ ดังนั้น จงบอกความจริงมาเสีย!”
คำพูดสุดท้าย สิงโตเก้าหางปล่อยพลังทั้งหมดออกมากดดันหลิงเยว่ เสียงคำรามของมันทำให้วิญญาณของนางแทบหลุดออกจากร่าง
“ข้า… ข้าเก็บได้…”
หลิงเยว่ก้มหน้าลงเล่นนิ้วมือ ทำท่าทางไร้เดียงสา “ตอนนั้นข้าลองแล้วว่ามันไม่ได้รับพลังสืบทอดของสิงโตเก้าหางจริง ๆ แถมตอนนั้นข้ายังขาดแคลนหินปีศาจ เลย…”
“เผ่าปีศาจกระทิงของพวกเจ้าไม่ใช่เผ่าที่ร่ำรวยที่สุดในเขตแดนปีศาจหรอกหรือ เหตุใดต้องให้เด็กรุ่นหลังออกมาเก็บของขายด้วย?”
ผู้อาวุโสเผ่าปีศาจกระทิงที่ถูกถามถึงกับพูดไม่ออก แต่เพื่อไม่ให้เปิดเผยตัวตนของเผ่าพันธุ์มนุษย์ที่อยู่ในห้อง ตาของมันแดงก่ำ ตอบกลับอย่างองอาจว่า “โทษฐานที่เผ่าพันธุ์ของพวกเจ้าไม่ดูแลมรดกของตนให้ดี ผลของการทิ้งขว้างก็คือถูกนำมาขายยังไงเล่า!”
คราวนี้สิงโตเก้าหางเป็นฝ่ายพูดไม่ออกแทน ถ้ามันรู้ว่าบรรพบุรุษทิ้งพลังสืบทอดไว้เช่นนี้ มันจะทิ้งได้อย่างไรกัน!?
ในสงครามเทพและปีศาจ สิงโตเก้าหางได้รับความเสียหายอย่างหนัก ส่วนมรดกยิ่งไม่ต้องพูดถึง เหลือไม่ถึงหนึ่งในสิบด้วยซ้ำ หลายปีมานี้ มันและคู่ของมันเดินทางไปทั่วเขตแดนปีศาจ เพื่อตามหามรดกที่หายไป แต่ก็ไม่พบแม้แต่น้อย!
ตอนนี้สิ่งของปรากฏอยู่เบื้องหน้าแล้ว แต่กลับถูกนำมาประมูล ความโกรธแค้นย่อมเกิดขึ้นอย่างแน่นอน…
“ห้าแสนล้านหินปีศาจครั้งที่หนึ่ง!”
ค้อนในมือของเจ้าหน้าที่ประมูลเคาะลงดังสนั่น ราวกับเคาะเข้าไปในหัวใจของสิงโตเก้าหางเลยทีเดียว
“หกแสนล้าน!”
สามคำนี้ดังก้องด้วยเสียงคำรามทรงพลังของสิงโตเก้าหาง จนเจ้าหน้าที่ประมูลแทบจับค้อนไม่อยู่ เหล่าปีศาจที่มีพลังต่ำกว่า ต่างได้ลิ้มรสชาติของพลังจนวิญญาณแทบหลุดออกจากร่าง ช่างน่าอนาถใจยิ่งนัก
จะประมูลก็ประมูลไป ทำไมต้องตะโกนเสียงดังถึงเพียงนั้น…
เหล่าปีศาจที่วิญญาณกลับคืนสู่ร่างจึงรู้สึกตัวว่า ผู้ที่ตะโกนนั้นคือสิงโตเก้าหางตัวจริงนั่นเอง!
สิงโตเก้าหางไม่เพียงแต่ตะโกน แต่ยังปรากฏตัวต่อหน้าพวกมันด้วยใบหน้าน่ากลัว “เมื่อเป็นสมบัติของตระกูลข้า ขอให้พวกเจ้าโปรดปล่อยด้วย…”
หน้าตานี้ เหล่าปีศาจย่อมให้เกียรติ แต่ก็ยังมีผู้ที่คิดต่าง
“เจ็ดแสนล้าน”
เสียงใสกังวาน ปลายเสียงอ่อนหวาน แต่แฝงไว้ด้วยความเย็นชา
เหล่าอสรพิษเก้าเศียรต่างหันไปมองโม่จวินเจ๋อในร่างของสนมปีศาจที่สี่ทันที
นางต้องการสิ่งใดกัน?
ต้องการสิ่งใดรึ?
ย่อมเป็นการเติมเชื้อไฟให้มังกรปีศาจตัวจริง และมอบความอบอุ่นให้แก่หลิงเยว่ผู้ขาดแคลนหินปีศาจอยู่กระมัง
“สนมปีศาจที่สี่ ท่านประสงค์สิ่งใด?”
ปีศาจสิงโตเก้าหางจำได้ว่าเสียงนี้เป็นของผู้ใด เขาจึงเอ่ยถามอีกฝ่ายเสียงดัง
“การประมูลนี้ ผู้ใดให้ราคาสูงสุดย่อมได้ไป!”
“ดี ดี!”
สิงโตเก้าหางโมโหเดือดดาล “แปดแสนล้าน!”
“เก้าแสนล้าน”
ทั้งสองฝ่ายต่างผลัดกันเสนอราคา เล่นเอาผู้ที่อยู่ในงานประมูลถึงกับมองกันตาค้าง
หลิงเยว่ “…”
โม่จวินเจ๋อกำลังหาเรื่องอะไรกัน?
ท้ายที่สุด โม่จวินเจ๋อก็เป็นฝ่ายชนะ คว้าเอาชาแปลงกายสิงโตเก้าหางไปได้ทั้งสามขวดในราคาสองล้านล้าน
สิงโตเก้าหางแทบจะระเบิดด้วยความโกรธ เขาไม่เข้าใจว่าเหตุใดสนมปีศาจที่สี่จึงจงใจกลั่นแกล้งกันเช่นนี้ หรือคิดว่าตอนนี้เหลือสิงโตเก้าหางเพียงสองตน คงไร้ประโยชน์ และไม่อาจเป็นภัยคุกคามได้อีกแล้วกระมัง?
“บ้าไปแล้ว!” เจ้าของหอประมูลที่เฝ้ามองเหตุการณ์ทั้งหมด ส่งสายตาเหยียดหยามไปยังห้องรับรองฝั่งตรงข้าม
เหล่าผู้ยิ่งใหญ่ท่านอื่นก็คิดเช่นเดียวกัน แม้แต่สนมปีศาจที่หก เจ็ดและสิบก็รู้สึกว่า สนมปีศาจที่สี่นั้นช่างต่างไปจากเดิม แม้ก่อนหน้านี้นางจะทำสิ่งต่าง ๆ โดยไม่ยั้งคิด แต่ก็ไม่ได้ไร้เหตุผลขนาดนี้
ไม่เพียงแต่แบ่งแยกเผ่าอสรพิษเก้าเศียรภายในเวลาเพียงปีเดียว แต่ยังส่งเหล่าอสูรผู้ภักดีไปยังเขตแดนปีศาจที่รกร้างว่างเปล่า นี่มิใช่การลดทอนกำลังของตนเองหรอกหรือ?
สนมปีศาจทั้งสามคนที่เหลือก้มหน้าครุ่นคิด อีกฝ่ายต้องการทำให้พวกนางสับสน แล้วล่อลวงให้พวกนางลงมือหรือ?
การกระทำอันน่าพิศวงของสนมปีศาจที่สี่ที่ตัดแขนขาของตนเอง ทำให้ทุกคนไม่อาจเข้าใจได้ แม้แต่ปีศาจกระทิงก็ยังมีท่าทีร้อนรุ่มอยู่บ้าง…
ช่วงเวลานี้มีข่าวลือแพร่สะพัดว่า พลังของสนมปีศาจที่สี่นั้นลดลง หากข่าวลือนี้เป็นความจริง คงเป็นโอกาสอันดีที่เผ่ามนุษย์จะลงมือสังหารนางและชิงเอาหัวใจมังกรมา เพื่อใช้เข้าสู่วังปีศาจ แต่เกรงว่า นี่อาจเป็นแผนล่อให้พวกเขาติดกับ
คอยดูสถานการณ์ไปก่อน เดี๋ยวคงมีคนลงมือ เช่นเดียวกับสิงโตเก้าหางตรงหน้าที่โกรธจนขนแทบจะลุกเป็นไฟ
เพื่อสืบทอดทายาท มันต้องไปหาสนมปีศาจที่สี่อย่างแน่นอน
และแล้วก็เป็นเช่นนั้นจริง ๆ ชาแปลงกายสามขวดเพิ่งถูกส่งไปถึงชั้นบนสุด สิงโตเก้าหางก็ปรากฏกายอยู่หน้าห้องรับรองของสนมปีศาจที่สี่เสียแล้ว
เมื่อหลิงเยว่เห็นว่าสิงโตเก้าหางตรงไปหาโม่จวินเจ๋อ นางก็เตรียมตัวหนีทันที
“เอ่อ… ท่านผู้อาวุโสเจ้าคะ ท่านพอจะช่วยข้าหาหินปีศาจมาได้หรือไม่เจ้าคะ?” หลิงเยว่นำแผ่นหยกสีดำออกมาจากอกเสื้อ พลางยื่นให้กับผู้อาวุโสเผ่ากระทิงผู้กำลังนั่งจิบน้ำชาและกินขนมหวานอยู่ข้าง ๆ
ผู้อาวุโสปีศาจกระทิงเบิกตากว้าง ส่ายหน้าเป็นพัลวัน บอกปัดนางอย่างไม่ไยดี
“แล้วหากข้านำสิ่งเหล่านี้มาแลกเปลี่ยนกับท่าน ท่านจะยินยอมหรือไม่เจ้าคะ?”
บนโต๊ะที่ว่างเปล่าเกือบครึ่ง บัดนี้กลับเต็มไปด้วยอาหารเลิศรสมากมาย
ผู้คนรอบด้านที่ได้กลิ่น ต่างหันมามองอาหารที่น่ารับประทานตรงหน้าเป็นตาเดียว
“สิ่งเหล่านี้ ข้าตั้งใจนำมามอบให้ท่านผู้อาวุโสทุกท่านเจ้าค่ะ” หลิงเยว่แสดงท่าทีกระตือรือร้น นางนำขนมดอกบัว ขนมดอกท้อ ขนมเค้ก ซาลาเปา เกี๊ยวทอด ลูกชิ้น และอื่น ๆ ยัดใส่มือของผู้อาวุโสปีศาจกระทิง ผู้อาวุโสเผ่างู และคนอื่น ๆ
แม้ว่าอาหารวิญญาณที่ส่งกลิ่นหอมกรุ่นจะไม่ใช่สิ่งที่ผู้อาวุโสปีศาจกระทิงใฝ่ฝันถึง แต่มองดูอาหารบนโต๊ะแล้ว พวกมันช่างมีให้เลือกหลากหลาย น่ารับประทาน และส่งกลิ่นหอมเย้ายวนกว่าที่เขาไปหาซื้อจากเผ่าปลาหมัวอินมากนัก…
“ทั้งหมดนี่เป็นของข้าจริงหรือ?”
หลิงเยว่เพิ่งจะพยักหน้า แผ่นหยกสีดำในมือก็ถูกคว้าไป พร้อมกับร่างของผู้อาวุโสปีศาจกระทิงที่หายวับไปแล้ว
“เจ้า…” ผู้นำเผ่าปีศาจกระทิงมองอาหารในอ้อมกอด สลับกับมองหลิงเยว่
“ในเขตแดนปีศาจ พลังวิญญาณนั้นล้ำค่ายิ่งนัก จะมอบให้พวกข้าเช่นนี้หรือ?” นางพญางูตกตะลึงงัน
“ก็เพราะพวกเราเป็นเผ่าพันธุ์เดียวกันไงเจ้าคะ!”
หลิงเยว่ยิ้ม แต่น่าเสียดายที่หัวกระทิงของนางส่งผลกระทบต่อความงามอย่างรุนแรง นอกจากจะดูโง่เขลาเบาปัญญาแล้ว ยังไม่น่ามองเลยสักนิด
เมื่อผู้อาวุโสกระทิงเอาหินปีศาจมาแล้ว หลิงเยว่ก็แอบสอดกระดาษแผ่นหนึ่งใส่มือของผู้นำกระทิงอย่างลับ ๆ จากนั้นก็หอบหินกองโตหนีไป…
ส่วนเรื่องเมล็ดพันธุ์ปีศาจนั้น นางเชื่อว่าโม่จวินเจ๋อจะไม่ทำให้นางผิดหวังแน่นอน!
……….