ยอดกุ๊กบุกแดนเซียน - บทที่ 361 กล่าวความจริงก็ไม่มีผู้ใดเชื่อถือ
บทที่ 361 กล่าวความจริงก็ไม่มีผู้ใดเชื่อถือ
……….
บทที่ 361 กล่าวความจริงก็ไม่มีผู้ใดเชื่อถือ
หลิงเยว่ได้ซื้อปลาเป็น ๆ จากระบบแลกเปลี่ยนถึงสามประเภท ทั้งปลาธรรมดาทั่วไป ปลาวิญญาณ และปลาปีศาจ
นางเริ่มจากปลาธรรมดาก่อน ฝ่ามือของนางว่องไว เหวี่ยงลงไปจนปลาสลบ จากนั้นเริ่มแล่เนื้อปลาจากหางขึ้นมา แต่เพิ่งจะแล่ได้เพียงครึ่งตัว ปลาก็สิ้นใจตายเสียแล้ว หลิงเยว่จึงรวบรวมพลังรักษาไว้ที่ฝ่ามือ ค่อย ๆ ส่งผ่านพลังนั้นไปทีละน้อย แต่น่าเสียดายนัก ที่ไม่อาจยื้อชีวิตปลาตัวนั้นไว้ได้ จากนั้นเป็นปลาปีศาจ และปลาวิญญาณตามลำดับ
ชนิดของปลามีมากขึ้นเรื่อย ๆ เช่นเดียวกับระดับที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ…
หลิงเยว่อยู่ด้านใน โดยมีมหาปุโรหิตเฝ้าอยู่ด้านนอก หลิงเยว่ยังไม่ทันได้ออกมา มหาปุโรหิตก็ได้พบกับผู้อาวุโสเผ่ากระทิงที่เพิ่งเสร็จสิ้นการบำเพ็ญเพียร
ผู้อาวุโสเผ่ากระทิงเดินผ่านมหาปุโรหิตไป พลางตบฝ่ามือลงบนประตูหินด้วยความยินดี แต่เขากลับควบคุมพลังไม่ได้ บานประตูหินจึงแตกเป็นชิ้น ๆ เผยให้เห็นร่างของหลิงเยว่และซากปลาที่กองอยู่เต็มไปหมด
ปลาทุกตัวล้วนตายในลักษณะเดียวกัน นอกจากส่วนหัวแล้ว เนื้อตามร่างกายของพวกมันยังถูกแล่จนไม่เหลือชิ้นดี หลิงเยว่ถือปลาในมือเอาไว้ ปลาตัวนั้นรอดชีวิตจากการผ่าอย่างหวุดหวิด แต่กลับต้องมาตกใจตายเพราะเสียงดังสนั่นจากประตูหินที่แตกละเอียด
นาง…
ผู้อาวุโสเผ่ากระทิงกับมหาปุโรหิตมองหลิงเยว่ที่มือเปรอะเปื้อนไปด้วยเลือด ซ้ำดาบในมือยังมีเลือดหยดติ๋ง ๆ ราวกับเพชฌฆาต ทั้งสองไม่กล้าแม้แต่จะหายใจ โดยเฉพาะเมื่อเห็นดวงตาไร้ความรู้สึกของหลิงเยว่ พวกเขาต่างถอยหลังออกไปพร้อมกัน
“ข้าเพียงอยากจะมาขอบคุณเจ้า และ… แม้ท่านผู้นำเผ่าจะมาไม่ได้ในตอนนี้ แต่ท่านอดีตผู้นำเผ่ากำลังจะมาถึง…” ยิ่งพูดเสียงของผู้อาวุโสเผ่ากระทิงยิ่งเบาลงเรื่อย ๆ ราวกับเด็กน้อยที่ทำผิด
หลิงเยว่วางดาบลง นางทำความสะอาดร่างกาย พลางถามขึ้นว่า “แล้วเรื่องการแลกเปลี่ยนของพวกเราล่ะ?”
ผู้อาวุโสเผ่ากระทิงมองดูหลิงเยว่ที่ยืนอยู่หน้าซากปลา คิดอยากจะคายเนื้อเพียงน้อยนิดที่กินเข้าไปคืนให้นางเสียตอนนี้ ทำไมนางดูน่ากลัวยิ่งนัก!
“อืม… เนื้อของเจ้าก็ไม่รีบร้อน”
หลิงเยว่โยนไฟใส่กองซากปลา แล้วอุ้มถังไม้ขนาดใหญ่ขึ้นมาวางไว้ตรงหน้ามหาปุโรหิตราวกับกำลังนำของล้ำค่ามาให้
“ท่านมหาปุโรหิตดูสิ นี่คือปลาปีศาจแปลงกายที่ข้าทดลอง มันยังมีชีวิตอยู่ แต่ว่า…”
ผู้อาวุโสเผ่ากระทิงกับมหาปุโรหิตมองเข้าไปในถังไม้พร้อมกัน พวกเขาเห็นปลาที่ถูกปกคลุมด้วยเปลือกไม้ทั้งตัวยกเว้นส่วนหัว กำลังจ้องมองพวกเขาอย่างสิ้นหวัง
“วิชาการรักษาของข้าไม่สามารถช่วยฟื้นฟูเนื้อใหม่ทั้งหมดในเวลาอันสั้นได้ ดังนั้น ข้าจึงใช้เนื้อของเผ่าปีศาจอื่นมาเติมเต็มส่วนที่ขาดหายไป…”
หลิงเยว่พูดถึงกระบวนการทดลองของตนเองอย่างละเอียด มหาปุโรหิตและผู้อาวุโสกระทิงยิ่งฟังยิ่งรู้สึกประหลาดใจและยากที่จะเชื่อ
มนุษย์ช่างน่ากลัวเหลือเกิน!
“หากการหลอมรวมสำเร็จ มันจะวิวัฒนาการเป็นเผ่าพันธุ์ใหม่ทั้งหมด และหากไม่มีเหตุผิดพลาด โอกาสที่จะแปลงกายได้สมบูรณ์ก็มีสูงมาก!”
ปลาปีศาจครึ่งร่างในถังได้ยินถึงตรงนี้ ดวงตาที่เคยหม่นหมองกลับเริ่มมีประกายขึ้นมา
เผ่าพันธุ์ใหม่และการแปลงกายที่สมบูรณ์มีแรงดึงดูดมหาศาลสำหรับมัน หากไม่สามารถแปลงกายได้สมบูรณ์ แม้จะไม่ถูกหลิงเยว่ทรมาน มันก็จะตายภายในหนึ่งปีอยู่ดี
เหตุผลที่มันปรากฏตัวที่นี่ เพราะในขณะที่กำลังรอความตาย มีเสียงเย้ายวนดังขึ้นในหัวของมัน ถามว่ามันเต็มใจจะต่อสู้เพื่อโอกาสที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไปหรือไม่?
ประโยคนี้เปรียบเสมือนฟางเส้นสุดท้าย ปลาปีศาจครึ่งร่างตอบตกลงโดยไม่ต้องคิด
จากนั้นเมื่อลืมตาขึ้น มันก็พบว่าตัวเองอยู่ต่อหน้ามนุษย์คนหนึ่ง
“มันจะฟื้นตัวได้ในเวลาประมาณเท่าไร?”
“อย่างน้อยห้าวัน อย่างมากสิบห้าวันกระมัง?” หลิงเยว่กล่าวอย่างไม่แน่ใจ แล้วหันไปมองมหาปุโรหิต
นางสามารถรักษาชีวิตมันไว้ได้ แต่สุดท้ายจะเป็นปลาหมัวอินหรือไม่ หลิงเยว่ไม่กล้ารับรอง
มหาปุโรหิตเข้าใจความหมายของหลิงเยว่ จึงลังเลขึ้นมา
“ท่านปู่ อดีตผู้นำเผ่ามาถึงแล้ว!”
ขณะที่ทั้งสามคนกำลังจ้องมองกันอย่างเงียบงัน เสียงของกระทิงน้อยก็ดังมาถึงที่นี่
“หรือว่ารอให้วิชารักษาของข้ามีประสิทธิภาพมากขึ้นก่อน แล้วค่อยลองดู?” หลิงเยว่พูด
นางจัดการผมและเสื้อผ้า หลังจากแน่ใจว่าพร้อมพบผู้คนแล้ว นางจึงเดินตามผู้อาวุโสกระทิงไปต้อนรับผู้ยิ่งใหญ่
โอกาสในการสร้างอาหารปีศาจหายากกำลังมาถึงแล้ว!
หากต้องการสร้างอาหารปีศาจ วัตถุดิบจะต้องมาจากผู้ที่ยังมีชีวิตและสมัครใจบริจาคเนื้อ การตัดเนื้อหลังจากตายหรือบังคับตัดจะไม่มีผลต่อพลัง!
ในระบบแลกเปลี่ยนล้วนเป็นเนื้อที่ถูกบังคับตัดมา ดังนั้น นางจึงล้มเหลวในการสร้างอาหารปีศาจที่มีพลังสืบทอด…
ในขณะที่หลิงเยว่และผู้อาวุโสกระทิงเดินออกจากสุสาน เผ่ากระทิงที่มาถึงพอดีก็เดินเข้ามา
เผ่ากระทิงสามคนที่แปลงกายเป็นมนุษย์อย่างสมบูรณ์ สองชายหนึ่งหญิง มีรูปร่างหน้าตาเหมือนมนุษย์ทุกประการ ชายชราที่ยืนอยู่หน้าสุดจ้องมองหลิงเยว่ด้วยสายตาเพ่งพินิจ
“ช่างกล้าหาญนัก”
หลิงเยว่ “?”
“ไม่เพียงแต่กักขังสิงโตเก้าหางเท่านั้น ยังกล้าคิดจะใช้เผ่ากระทิงเป็นวัตถุดิบอีก!”
พลังของปีศาจระดับราชาแผ่กระจายออกไป ปลาในทะเลสาบต่างพลิกท้องลอยตายเป็นเบือ เผ่าพันธุ์ทั้งเก้าที่อยู่ตรงนั้นพากันตัวสั่นคุกเข่าลงเป็นแถว
แต่พลังนั้นไม่อาจบีบบังคับให้หลิงเยว่คุกเข่าลงได้ เพราะนางไม่รู้สึกถึงมันแม้แต่น้อย
“ท่านผู้อาวุโสโปรดระงับโทสะเถิด เหล่าปลาตัวน้อยมิได้ทำสิ่งใดผิด”
“พวกมันไม่ได้ตาย เพียงแค่สลบไปเท่านั้น”
เหล่าเผ่าพันธุ์ปลาหมัวอินต่างถอนหายใจอย่างโล่งอก เพียงแต่ปลาฝูงนี้ช่างอาภัพเหลือเกิน สลบแล้วสลบอีกเช่นนี้จะกระทบการเติบโตหรือไม่?
หลิงเยว่เองก็เบาใจ พลางกล่าวอธิบายด้วยท่าทางนอบน้อม “นี่เป็นเพียงการแลกเปลี่ยน มิใช่การนำเผ่าพันธุ์กระทิงป่ามาเป็นอาหารจริง ๆ”
“จะตื่นเต้นอันใด? มิใช่เนื้อของเจ้าเองสักหน่อย” ผู้อาวุโสเผ่าพันธุ์กระทิงกลอกตาใส่อดีตผู้นำเผ่า
“โง่เขลา!” อดีตผู้นำเผ่าพ่นน้ำลายใส่หน้าผู้อาวุโสเผ่าพันธุ์กระทิง
“เจ้าต่างหากที่…” ผู้อาวุโสกระทิงกำลังจะโต้ตอบ แต่ชายอีกคนรีบแทรกขึ้นมาก่อนว่า “สิงโตขนเงินอยู่ที่ไหน?”
“ตามข้ามา!”
เมื่อชายคนหนึ่งและกระทิงสี่ตัวที่แปลงกายเดินจากไป เผ่าพันธุ์ทั้งหมดที่อยู่ในที่นั้นก็พากันทรุดตัวลง
หนึ่งคือการกดดันด้วยสายเลือด สองคือไม่คิดว่าสิงโตขนเงินที่หลิงเยว่พากลับมาจะถูกจองจำไว้!
เพราะหลิงเยว่บอกพวกเขาว่าสิงโตเก้าหางตัวนั้นได้จากไปแล้ว!
เมื่อชายคนหนึ่งและกระทิงสี่ตัวมาถึงถ้ำใต้ดิน เห็นสิงโตขนเงินนั่งอยู่ในค่ายกลอย่างไร้ชีวิตชีวา พวกเขาก็พูดไม่ออก
มนุษย์ที่อยู่ในขอบเขตทะยานเซียน สามารถใช้ค่ายกลกักขังสิงโตเก้าหางระดับแปลงกายได้ ต้องเป็นค่ายกลระดับสูงแค่ไหนกัน?!
“นี่มันค่ายกลระดับใดกัน?”
“ฮึ! ไอ้แก่ เจ้าจะมาแกล้งโง่ต่อหน้าข้าทำไม? ที่ข้าถูกขังอยู่ที่นี่ ไม่ใช่กับดักที่พวกเจ้าเผ่ากระทิงวางไว้หรอกหรือ?”
หลิงเยว่ยังไม่ทันพูดอะไร สิงโตขนเงินก็โยนความผิดใส่คนอื่นเสียแล้ว
“เผ่าพันธุ์ของพวกเรา… ติดกับพวกมันงั้นรึ?” กระทิงสามตนที่เพิ่งมาถึง ต่างหันมามองหลิงเยว่เป็นตาเดียว
“ข้าอธิบายไปแล้ว แต่พวกเขาไม่เชื่อ” หลิงเยว่กล่าวพลางกะพริบตาปริบ ๆ “พลังอ่อนแอก็แบบนี้ ถึงพูดความจริงไปก็ไม่มีใครเชื่อ”
เหล่ากระทิงที่เพิ่งมาถึงได้แต่ “…”
การที่พวกมันมายืนอยู่ที่นี่ ยิ่งตอกย้ำคำกล่าวของสิงโตเก้าหางให้เป็นจริงมากยิ่งขึ้น
แต่หากจะกล่าวว่าใครเป็นผู้วางกับดัก บรรดาเผ่าพันธุ์มนุษย์ที่ยืนอยู่ข้าง ๆ นี่ต่างหาก ที่เป็นผู้วางกับดักพวกมัน ทั้งเผ่าพันธุ์กระทิงและสิงโตเก้าหาง!
มนุษย์ช่างเจ้าเล่ห์นัก!
“เอาอย่างนี้ดีหรือไม่ พวกเราจัดการเรื่องนี้ให้เรียบร้อยเสียเดี๋ยวนี้” กระทิงสาวเอ่ยเสนอ
“อย่า อย่า อย่า! พวกเจ้าอย่าทำเช่นนั้นเลย นางยังมีชีวิตอยู่ นางมีประโยชน์มาก!”
หลิงเยว่ไม่มีทางยอมให้พวกมันฆ่าสิ่งที่นางหมายตาเป็นอาหารได้หรอก
อดีตผู้นำเผ่าส่งเสียง “อ้อ!” ออกมาก่อนเอ่ยต่อ “ไม่ใช่ว่าเจ้าสนใจในรสชาติเนื้อของเผ่าที่แปลงกายได้แล้วหรือ?”
เอ่อ…
สิ่งที่ท่านกล่าวก็ถูกต้อง แต่หากตายไปแล้ว ความสดใหม่ย่อมหายไปด้วยมิใช่หรือ!
“หากนางยังมีชีวิตอยู่ ข้าย่อมสามารถให้พวกเจ้าได้สัมผัสกับวิชาย้อนรอยได้ชั่วขณะ!”
กระทิงทั้งสี่ตัวและสิงโตเก้าหาง “!!!”
นางรู้ตัวหรือไม่ว่านางกำลังพูดถึงสิ่งใดกันแน่!