ยอดกุ๊กบุกแดนเซียน - บทที่ 367 ใครในโลกนี้จะดีกว่านาง!
บทที่ 367 ใครในโลกนี้จะดีกว่านาง!
หลิงเยว่ทอดตามองภาพวาด แล้วจึงหันไปมองหน้ามหาปุโรหิตผู้มีสีหน้าราวกับไม่อยากมีชีวิตอยู่ นางรู้สึกว่ามหาปุโรหิตผู้มีดวงตาสีรุ้งนั้นดูน่ามองกว่า เพราะอย่างไรเสีย นั่นคืองานชิ้นที่สองของนาง ย่อมต้องงดงามเป็นธรรมดา!
“เมื่อเรื่องปลาหมัวอินเสร็จสิ้นแล้ว เช่นนั้นเรื่องของพวกข้าเล่า!” ผู้อาวุโสกระทิงละสายตาจากมหาปุโรหิต เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงร้อนรน
หลิงเยว่มิได้อ้อมค้อม ยื่นขวดแก้วสี่ใบให้แก่ผู้อาวุโสเผ่ากระทิง “หินปีศาจและสมุนไพรปีศาจที่อดีตผู้นำเผ่าของพวกท่านมอบให้ เพียงพอต่อการสร้างชาสืบทอดวิญญาณได้เพียงสี่หยด”
แท้จริงแล้ว หินปีศาจที่อดีตผู้นำเผ่ากระทิงมอบให้ เพียงพอต่อการซื้อชาสืบทอดวิญญาณได้ถึงสิบหยด แต่นางอุตส่าห์สร้างมันขึ้นมาด้วยความยากลำบาก เช่นนี้ย่อมต้องเก็บค่าแรงและค่าวัตถุดิบบ้างเป็นธรรมดา
หลิงเยว่เลือกที่จะลืมสมุนไพรปีศาจระดับสูงและระดับสุดยอดที่อยู่ในแหวนมิติไปเสียสนิท
“ถึงกับมีตั้งสี่หยด!?” น้ำเสียงของผู้อาวุโสเผ่ากระทิงสั่นเทา ดวงตาเต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ เขาไม่แม้แต่จะกล้ารับขวดไม้ทั้งสี่ที่ยื่นมาให้ เพราะกลัวว่าตนเองจะทำมันตกแตก
สุดท้ายแล้ว ผู้นำเผ่ากระทิงงามก็เป็นผู้รับมันไว้ แม้ว่าบนใบหน้าของนางจะไร้ซึ่งความรู้สึก แต่ปลายนิ้วที่สั่นเท่านั้น กลับเผยความในใจออกมาอย่างชัดเจน
เรื่องชาสืบทอดวิญญาณ นางเคยได้ยินเพียงจากปากท่านพ่อและผู้อาวุโสเผ่ากระทิงเท่านั้น แต่ในตอนที่ได้เห็นสิงโตเก้าหาง นางก็แน่ใจในเรื่องนี้แล้วจริง ๆ
ไม่รู้ว่าชาสืบทอดวิญญาณที่อยู่ในมือของนาง จะมีผลลัพธ์ที่ทรงพลังเทียบเท่ากับของสิงโตเก้าหางหรือไม่?
“พวกเจ้าจะไปทดสอบที่อื่นหรือไม่? ข้าใช้อีกสูตรหนึ่ง ผลลัพธ์ก็ออกมาสำเร็จ แต่ว่า…”
“แต่ว่าอะไรหรือ?” พวกเผ่ากระทิงต่างพากันตื่นตกใจ สายตาทุกคู่จับจ้องไปที่มหาปุโรหิตผู้บาดเจ็บสาหัส หรือว่า… พวกเขาก็จะกลายเป็นเช่นนั้นด้วย!
ท่านมหาปุโรหิตผู้ถูกจับจ้องมอง ลากร่างที่บาดเจ็บและหัวใจที่แตกสลายออกไปทีละก้าว ผู้นำเผ่าปลาและปุโรหิตน้อยรีบเข้าไปประคองไว้
เผ่าปลาหมัวอินรีบตามมหาปุโรหิตหายลับเข้าไปในป่า
เช่นนี้คงไม่จำเป็นต้องหาสถานที่อื่นแล้ว บุคคลภายนอกต่างพากันปลอบใจผู้นำทางจิตวิญญาณของตน เหลือไว้เพียงที่ว่างเปล่า พวกเผ่ากระทิงจะลองได้ตามสบาย
“พวกเจ้าไม่ต้องกังวล ข้ามิได้ใส่สิ่งแปลกปลอมใด ๆ ลงไป เพียงแต่ข้าเกิดคิดขึ้นได้กะทันหัน ไม่ทราบว่าจะได้ผลกับเผ่าของพวกเจ้าหรือไม่”
หลิงเยว่ไม่กล้าพูดความจริงออกไปทั้งหมด เพราะนางได้ผสมเลือดของเผ่านกปีศาจลงไปในเลือดบริสุทธิ์ของเผ่ากระทิงเล็กน้อย พวกเผ่านกปีศาจย่อมว่องไว เผ่ากระทิงแม้มีพละกำลังมหาศาลแต่ความเร็วยังเทียบกับผู้ฝึกฝนร่างกายไม่ได้ นางจึงคิดว่าจะให้พวกเขารับพลังของเผ่านกปีศาจบ้างคงดี
“สูตรปกติอยู่ในขวดทั้งสามนี้ สูตรปรับปรุงใหม่มีเพียงขวดเดียว แต่สูตรปรับปรุงใหม่นี้ควรค่าแก่การลองจริง ๆ นะ!” หลิงเยว่ชี้ไปที่ขวดไม้สัญลักษณ์พิเศษ มองดูพวกเผ่ากระทิงที่เงียบอยู่ด้วยความคาดหวัง
ผู้นำเผ่ากระทิงงามจ้องมองขวดที่หลิงเยว่ชี้ไป นางลังเลอยู่นาน “สูตรปรับปรุงใหม่นี่คือการปรับปรุงที่ดีขึ้น หรือว่า…?”
“ย่อมเป็นการปรับปรุงที่ดีขึ้นอยู่แล้ว หากท่านลองดู บางทีอาจไม่เพียงแต่ได้รับมรดกที่สมบูรณ์ของเผ่าของท่านเท่านั้น แต่ยังอาจได้ผลลัพธ์ที่คาดไม่ถึงอีกด้วย!”
“ข้าเอง!” ผู้อาวุโสเผ่ากระทิงเห็นว่าผู้นำเผ่าไม่ค่อยจะเชื่อใจหลิงเยว่ แต่ตัวเขานั้นเชื่อมั่นในตัวนางเป็นอย่างยิ่ง แม้ว่าการที่ท่านมหาปุโรหิตกลายร่างจะเป็นเรื่องที่ไม่คาดคิด แต่สุดท้ายก็สามารถกลายร่างได้สำเร็จ!
รูปลักษณ์ภายนอกไม่สำคัญ ขอเพียงมีพลังที่แข็งแกร่งพอ แม้จะน่าเกลียดน่ากลัวเพียงใดก็ยังถือว่างดงาม!
ผู้นำเผ่าวัวงามไม่ได้คัดค้าน แต่มอบขวดที่มีเครื่องหมายพิเศษให้แก่ผู้อาวุโสกระทิง ส่วนขวดที่เหลืออีกสามใบนางก็เก็บไว้เอง
รอให้ผู้อาวุโสปลอดภัยและได้รับการถ่ายทอดอย่างสมบูรณ์ก่อน นางค่อยลองก็ยังไม่สาย
ผู้อาวุโสกระทิงดื่มชาสืบทอดวิญญาณสูตรปรับปรุงลงไปภายใต้สายตาหลายคู่ จากนั้นเขาก็ล้มลง ในระหว่างที่ล้มลงนั้นเขายังเปลี่ยนร่างกลับเป็นร่างเดิมด้วย
ร่างกายของเผ่ากระทิงไม่ได้เล็กไปกว่าสิงโตเก้าหางเลย ป่าทั้งผืนถูกร่างของเขายึดครองไว้ และยังมีแนวโน้มว่าจะโตขึ้นอีก
หลังจากสุสานถูกทำลาย ป่าบนเกาะหายไปด้วย
เผ่าปลาหมัวอิน “…”
“นั่นคืออะไร?!” กระทิงน้อยชี้ไปที่แผ่นหลังของปู่ตน ดูเหมือนเขาจะเห็นบางอย่างโผล่ออกมา
หลิงเยว่มองตามมือของเขาไป แล้วดวงตาก็เบิกกว้าง
“สำเร็จแล้ว!”
ในเขตแดนปีศาจ เผ่ากระทิงที่มีปีกกำลังจะถือกำเนิดขึ้นแล้ว!
“หมายความว่าอย่างไร?” ผู้นำเผ่าวัวงามจ้องมองปีกเล็ก ๆ ที่ไม่มีขนคู่หนึ่งซึ่งแทบมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า สีหน้าของนางแทบจะแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ คงไม่ใช่อย่างที่นางคิดกระมัง มนุษย์ผู้นี้กล้าคิดจะติดปีกให้เผ่าของพวกเขาหรือ?
ต้องเป็นปีกแบบไหนถึงจะพาร่างพันตันของเผ่ากระทิงบินได้?
โดยทั่วไปแล้วเผ่าปีศาจที่บินได้มักจะมีร่างกายเบา เช่นเผ่ายุงปีศาจที่ติดตามเผ่าช้างวัวปีศาจไปไหนมาไหน ต้องใช้ยุงหลายแสนตัวถึงจะยกช้างวัวได้หนึ่งตัว แต่นี่กลับเป็นปีกเล็ก ๆ เพียงคู่เดียว…
แน่นอนว่าหลิงเยว่ได้คำนึงถึงน้ำหนักแล้ว ดังนั้นจึงเลือกใช้เลือดวิเศษของเผ่านกปีศาจโบราณที่สูญพันธุ์ไปแล้ว สัตว์ตัวนั้นมีขนาดใหญ่พอ ๆ กับเผ่ากระทิง แต่ปีกกลับเล็กกว่าลำตัวเป็นพันเท่า
แต่ความเร็วไม่ได้ช้ากว่าเหยี่ยวเลย น่าจะ… ลากร่างของกระทิงได้
แม้ว่าจะไม่สามารถทำได้ ปีกก็ยังช่วยเพิ่มความเร็วได้ หรือแม้แต่ใช้เป็นอาวุธก็ได้ เพียงแค่ตีด้วยปีกก็เจ็บมากแล้ว!
สรุปแล้วหลิงเยว่พอใจกับปีกเนื้อเล็ก ๆ ของผู้อาวุโสกระทิงมาก!
แต่เมื่อได้ยินว่าเมล็ดพันธุ์ปีศาจยังคงหายไป อารมณ์ของนางก็ไม่ค่อยดีนัก
สองปีผ่านไปแล้ว ยังหาเมล็ดพันธุ์ปีศาจไม่ได้ แม้แต่ผู้นำเผ่าทิงมี่ก็ยังจับไม่ได้!
ดูเหมือนนางต้องพาสิงโตเก้าหางออกตามหาด้วยตัวเองเสียแล้ว พึ่งคนอื่นมิสู้พึ่งตนเอง โม่จวินเจ๋อช่างไม่น่าพึ่งพาเอาเสียเลย แม้แต่ชิงหลงก็ยังมิได้เรื่อง ถูกผู้นำเผ่าทิงมี่นั้นเล่นสนุกเสียได้!
“ช่วยข้าหน่อยสิ” หลิงเยว่ดึงเจ้าสิงโตเก้าหางที่นั่งดูละครอยู่
“ได้”
คำพูดที่นางเตรียมไว้ยาวเหยียด ทั้งปลุกระดมทั้งอ้อนวอน ไม่ได้ใช้แม้แต่คำเดียว ตอบรับง่าย ๆ เช่นนี้เลยเหรอ?
“แต่ข้ามีข้อเสนอ ข้าขอชาสืบทอดอีกหนึ่งขวด” ดูเหมือนสิงโตขนเงินจะรู้สึกว่าตนได้เปรียบมากเกินไป จึงเสริมว่า “พวกข้าทั้งสองสามีภรรยาจะเป็นผู้รับใช้ท่าน!”
กล่าวจบ นางก็คุกเข่าคำนับหลิงเยว่
“!!!”
ความดีใจมาแบบไม่ทันตั้งตัวเช่นนี้จะทำเช่นไรดี?
หลิงเยว่กลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก นางพยักหน้าหงึก ๆ จนแทบจะหลุดออกจากบ่า
องครักษ์ระดับราชาสองตน แล้วยังมีปลากลายพันธุ์ด้วย อีกหน่อยก็จะมีมหาปุโรหิตกับหัวหน้าตะขาบมรกตมาร่วมด้วย อีกทั้งพลังที่สืบทอดมาทั้งหมด… กองกำลังแบบนี้! ขบวนแบบนี้!
อ๊ะ ไม่สิ ถ้ายังชักชวนเผ่าปีศาจอสูรชั้นสูงได้อีก…
หลิงเยว่แอบยิ้มกริ่มอยู่ในใจ นางอดหัวเราะออกมาไม่ได้ ใต้หล้านี้คงไม่มีผู้ใดเทียบนางได้อีกแล้ว!
ต่อให้บุกตะลุยขุมนรกก็คงมิใช่เรื่องยากเย็นอันใด!
เอาเถอะ! เรื่องบุกเหวปีศาจค่อยว่ากันทีหลัง ตอนนี้นางยังไม่อยากคิดไปไกลขนาดนั้น เอาเรื่องตรงหน้านี้ก่อนดีกว่า เช่น… ฟื้นฟูพลังวิญญาณ รักษาอาการบาดเจ็บของมหาปุโรหิต
ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว นางขอแอบดูโฉมหน้าหลังจากที่นางลงมือดัดแปลงท่านมหาปุโรหิตสักหน่อยเถิด…
……….