ยอดกุ๊กบุกแดนเซียน - บทที่ 378 สนมปีศาจที่สี่ยากจนขนาดนั้นเลยหรือ?
บทที่ 378 สนมปีศาจที่สี่ยากจนขนาดนั้นเลยหรือ?
……….
บทที่ 378 สนมปีศาจที่สี่ยากจนขนาดนั้นเลยหรือ?
หลิงเยว่ลืมตาขึ้น นางเอ่ยประโยคแรกออกมาว่า “ท่านมีหินปีศาจเหลืออีกเท่าใด?”
เหตุใดนางตรวจร่างเขาอยู่ดี ๆ แล้วกลับเอ่ยถามหาหินปีศาจขึ้นมาเล่า?
โม่จวินเจ๋อส่ายหน้า “ไม่รู้สิ เจ้าต้องการมากเท่าไหร่ล่ะ?”
“ต้องการ…” หลิงเยว่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จึงเอ่ยว่า “เส้นพลังวิญญาณระดับสูงสองเส้น”
ต้องการมากมายเพียงนั้นเชียวหรือ!
“จะเอาไปทำอะไรมากมายเพียงนั้น?”
“แน่นอนว่าเพื่อแก้ไขปัญหาในร่างกายของท่านอย่างไรเล่า!”
หลิงเยว่กล่าวด้วยท่าทางองอาจผ่าเผย โม่จวินเจ๋อฟังแล้วยังคลางแคลงอยู่ครึ่งหนึ่ง แต่ยังเอ่ยตอบว่า “สนมปีศาจที่สี่มีเส้นพลังวิญญาณระดับสูงเพียงเส้นเดียว หากให้นางรวบรวมจากเบื้องล่างก็น่าจะรวบรวมได้ครบสองเส้นกระมัง…”
“สนมปีศาจที่สี่ยากจนถึงเพียงนั้นเชียวรึ?”
สองเส้นพลังวิญญาณสูงยังไม่เพียงพอ หยิงเยว่เหลือบมองด้วยหางตา แต่ถ้าหาเพิ่มได้ก็ถือว่าดีแล้ว
ช่างยากจนนัก…
โม่จวินเจ๋อทำท่าครุ่นคิด บางทีเขาอาจจะใช้ฐานะของสนมปีศาจที่สี่ออกแสวงหาทรัพย์สมบัติ ยึดครองเส้นพลังวิญญาณส่วนใหญ่ในเขตแดนปีศาจก็ได้ นับว่าเป็นการกุมเส้นเลือดเศรษฐกิจของเขตแดนปีศาจเอาไว้ในมือ
หากทำคนเดียวไม่สำเร็จ แล้วให้ชิงหลงเข้าร่วมด้วยล่ะ?
“เช่นนั้นท่านก็รีบกลับไปรวบรวมมาเถิด” หลิงเยว่ออกจากตันเถียนของโม่จวินเจ๋อ นางดึงร่างของเขาที่ก้าวตามมาช้ากว่าให้ลุกขึ้น ก่อนจะเร่งเร้าผลักเขาออกไป
“เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้!”
ผู้อาวุโสเผ่ากระทิงที่กลับมารวมกลุ่มกันอยู่หน้าประตูห้อง เมื่อได้ยินเสียงก็รีบเข้ามาใกล้ แต่พอเห็นว่าผู้ที่ออกมาคือสนมปีศาจที่สี่ ต่างพากันตกใจถอยห่างออกไป
โม่จวินเจ๋อเหลือบมองกลุ่มคนที่ส่งเสียงอื้ออึงอย่างเย็นชา ก่อนจะหันกลับไปมองหลิงเยว่อีกครั้งแล้วเดินจากไป
เมื่อมังกรปีศาจจากไป ผู้อาวุโสเผ่ากระทิงจึงค่อยเข้ามาใกล้หลิงเยว่ พิจารณานางตั้งแต่หัวจรดเท้า เมื่อเห็นว่านางดูสบายดี จึงค่อยวางใจ
“นางไม่ได้รังแกเจ้าใช่หรือไม่?”
หลิงเยว่ส่ายหน้าด้วยสีหน้าบึ้งตึง
“เจ้า… รู้จักกับนางหรือ” หัวหน้ากระทิงถามลองเชิง
หลิงเยว่พยักหน้า แล้วถอยห่างจากหัวหน้ากระทิงโดยไม่รู้ตัว เจ้าดอกไม้สีดำน้อยเล่าให้นางฟังแล้วว่า กระทิงตัวนี้ลงมือในตอนที่นางกับเมล็ดพันธุ์ปีศาจต่อสู้กัน!
“ถูกต้องแล้ว ถอยห่างจากเขาเสีย เจ้าคนนี้คิดร้ายนัก หากมิใช่ในร่างกายเจ้ามีสิ่งนั้นคุ้มครองอยู่ เกรงว่าวิญญาณคงสลายไปแล้ว” ผู้อาวุโสกระทิงพูดใส่ไฟอยู่ข้าง ๆ
เขาไม่ได้พูดผิด หากตอนนั้นมิใช่ดอกไม้สีดำช่วยรับสายฟ้าไว้ แม้หลิงเยว่จะไม่ถึงตายก็ต้องบาดเจ็บสาหัสอย่างแน่นอน และหลิงเยว่คงถูกเมล็ดพันธุ์ปีศาจกลืนกินไปแล้ว!
หัวหน้ากระทิงหน้าเสียพลันก้มหน้าลง ใครเลยจะคิดว่ามนุษย์ผู้นี้จะรอดชีวิตมาได้ แถมยังแข็งแกร่งกว่าเดิม ในเมื่อถูกเมล็ดพันธุ์ปีศาจสิงร่างอยู่เช่นนี้!
แม้แต่ปลาหนามปีศาจที่แปลงกายสมบูรณ์แล้วกับท่านผู้นำเผ่า…
“ช่างเถิด เขาคงกลัวว่าข้าจะกลายเป็นเมล็ดพันธุ์ปีศาจ แล้วหันกลับมาทำร้ายพวกท่านกระมัง”
หลิงเยว่ไม่อยากให้ความสัมพันธ์กับมนุษย์ในเขตแดนปีศาจเสียหาย อีกทั้งพวกเขายังเคยช่วยเหลือนางมาก่อน จึงถือว่า… หักล้างไปแล้วกัน อีกอย่างหนึ่ง หากคนปกติถูกเมล็ดพันธุ์ปีศาจบุกรุกร่างกาย โอกาสรอดชีวิตย่อมเป็นศูนย์
ลองดูปลาหนามปีศาจกลายพันธุ์และผู้นำเผ่ากระทิงงามที่ยังคงหมดสติอยู่สิ พวกนางเพียงแค่ถูกดอกไม้ปีศาจเกาะกินเท่านั้น แม้จะได้ดื่มชาสืบทอดวิญญาณก็ยังไม่ฟื้นขึ้นมาสักที หลิงเยว่ที่มีพลังเพียงน้อยนิด และร่างกายก็เปราะบางกว่า แต่นางกลับสามารถตื่นขึ้นมาก่อน!
แน่นอนว่าโม่จวินเจ๋อมีส่วนช่วยอย่างมาก แต่ถ้าสืบสาวราวเรื่องแล้ว ก็เป็นเพราะหลิงเยว่… ไม่ใช่มนุษย์!
“อ้อใช่ เจ้าช่วยมาดูอาการของสิงโตเก้าหางด้วยเถิด”
อดีตผู้นำเผ่าหมดปัญญากับอาการบาดเจ็บของสิงโตเก้าหางจริง ๆ แม้แต่นางพญางูผู้เป็นปรมาจารย์ด้านการแพทย์ในโลกมนุษย์ก็ยังไม่รู้ว่าจะลงมือรักษาอย่างไร
เมื่อหลิงเยว่มาถึง นางไม่พบบาดแผลภายนอกใด ๆ จึงพยายามใช้จิตสำรวจร่างกายของสิงโตเก้าหาง แต่กลับถูกพลังบางอย่างขัดขวางไว้ อีกทั้งพลังของนางต่ำเกินไป จึงไม่พบว่าระดับพลังของสิงโตเก้าหางตรงหน้าได้ลดลงจากระดับราชาขั้นต้นมาเป็นระดับแปลงกายสมบูรณ์ขั้นต้นแล้ว
“นางทำอะไรลงไป?” หลิงเยว่ถามชิงหลงที่อยู่ข้าง ๆ ตอนนั้นนางหมดสติไปแล้ว จึงไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
ชิงหลงนึกทบทวนสักครู่ ตอนนั้นนางต้องการใช้พลังของไข่มุกมังกรเพื่อบีบให้เมล็ดพันธุ์ปีศาจออกมา แต่จู่ ๆ ก็ถูกหยุดนิ่งไป…
“นาง… ใช้ผนึกเวลา!”
“ผนึกเวลา? นอกจากได้รับวิชาย้อนรอยแล้ว นางยังมีวิชาผนึกเวลาด้วยหรือ?!” อดีตผู้นำเผ่าประหลาดใจยิ่งนัก
เพียงแค่คำว่าเวลา ก็ทำให้หัวใจของทุกคนที่อยู่ในที่นั้นเต้นรัวแล้ว เวลาเป็นสิ่งที่ยากจะคาดเดาที่สุด บัดนี้มีคนบอกพวกเขาว่า สิงโตเก้าหางสามารถใช้การผนึกเวลาได้ ช่างน่าอิจฉาเหลือเกิน!
“ดูเหมือนว่าการใช้การผนึกเวลาจะมีผลทำให้พลังถดถอยสินะ…” หลิงเยว่ขมวดคิ้วแน่น ไม่รู้ว่าวิชารักษาขั้นสูงจะใช้ได้ผลกับสิงโตเก้าหางหรือไม่
แต่หลิงเยว่ก็ตัดสินใจจะลองดู นางให้คนที่ไม่เกี่ยวข้องออกไป เหลือเพียงชิงหลง ผู้อาวุโสกระทิง ผู้นำเผ่ากระทิงงาม อดีตผู้นำเผ่า และมหาปุโรหิตผู้มีสีสันสดใสเท่านั้น
มนุษย์… นางมิได้เหลือไว้แม้แต่คนเดียว
ก่อนจากไป นางพญางูยังคงมีเรื่องอยากเอ่ย แต่สุดท้ายก็ได้แต่ถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วจากไป
“เป็นข้าเองที่วู่วามเกินไป”
หัวหน้ากระทิงยังคงรู้สึกเสียใจ พวกเขาล้วนเป็นพวกเดียวกันแท้ ๆ แต่บัดนี้กลับถูกกีดกันเช่นนี้
“เหตุใดจึงเป็นเช่นนี้ พวกข้าก็ช่วยเหลือตั้งมากมาย ตอนที่นางถูกเมล็ดพันธุ์ปีศาจรุกราน”
“ใช่แล้ว ทั้งที่เป็นฝีมือของหลินชิงแท้ ๆ แต่ตอนนี้พวกเรากลับต้องถูกลงโทษไปด้วย”
หัวหน้ากระทิง หลินชิง “…”
“พอได้แล้ว พูดน้อย ๆ หน่อย อย่างน้อยนางก็มิได้หันมาเป็นศัตรูกับเผ่าพันธุ์กระทิงของพวกเรา” นางพญางูกล่าวพลางปรายตามองหัวหน้ากระทิง แม้จะเข้าใจการกระทำของเขา แต่ก็เข้าใจได้เช่นกันที่ตอนนี้ผู้ที่ได้รับผลกระทบจะยังทำใจไม่ได้
ข้างกายหลิงเยว่ไม่เพียงมีมังกรสองตน แต่ยังมีสิงโตเก้าหางที่เข้าใจกฎแห่งเวลา และยังได้รับการสนับสนุนจากเผ่าพันธุ์กระทิง พวกเขาต้องหาทางดึงตัวหลิงเยว่มาเป็นพวกให้ได้!
ทั้งหมดขึ้นอยู่กับว่าหลินชิงจะทำเช่นไร
แม้แต่ตัวหัวหน้ากระทิงเองก็ยังพยายามคิดหาทางให้หลิงเยว่ยกโทษให้เช่นกัน พวกเขาทำได้เพียงแค่เอ่ยคำขอโทษงั้นหรือ?
เพียงแค่คำขอโทษคงไม่เพียงพอกระมัง…
พวกเขาต่างพากันมาปรึกษาหารือถึงวิธีทำให้หลิงเยว่ยกโทษให้ ส่วนคนที่ถูกทิ้งไว้ในห้องต่างจ้องมองหลิงเยว่ด้วยความตกตะลึง!
หลิงเยว่ไม่ได้เลือกที่จะรักษาสิงโตเก้าหางเป็นอันดับแรก แต่กลับกำมือของนางไว้บนร่างของปลาหนามปีศาจกลายพันธุ์ที่ยังคงสลบไสลไม่ได้สติ
เส้นใยสีดำเส้นเล็ก ๆ ลอยออกมาจากร่างกายของปลาหนามปีศาจ และลอยเข้าไปในดวงตาของหลิงเยว่ ภาพเช่นนี้ปรากฏให้เห็นไม่นานนัก จนกระทั่งไม่มีเส้นใยลอยออกมาอีกต่อไป ปลาที่สลบไสลก็ลืมตาขึ้น
นี่เป็นครั้งแรกที่หลิงเยว่ได้ใช้วิชาของเมล็ดพันธุ์ปีศาจ หรือวิชาเรียกคืน!
นางสามารถเรียกคืนดอกไม้ปีศาจที่สิงสถิตอยู่ในร่างกายผู้อื่นกลับมายังร่างกายของนางได้
ความรู้สึกเช่นนี้ ช่างดีเหลือเกิน!
ต่อไปคือผู้นำเผ่ากระทิงงาม แม้จะฟื้นขึ้นมาแล้วแต่ใบหน้าของนางยังคงซีดเซียว
ดอกไม้ปีศาจที่เกือบคร่าชีวิตของพวกนางไป กลับถูกหลิงเยว่เก็บไปอย่างง่ายดาย นี่เป็นการพิสูจน์ว่านางได้กลืนกินเมล็ดพันธุ์ปีศาจ จนได้รับพลังจากมันมาแล้ว!
มนุษย์กลืนกินเมล็ดพันธุ์ปีศาจสำเร็จก็แล้วไป แต่ยังไม่ถูกครอบงำด้วยหรือ!?
อดีตผู้นำเผ่าถึงกับตกตะลึง หลิงเยว่… เป็นเพียงผู้บำเพ็ญธรรมดา ๆ จริงหรือ?