ยอดกุ๊กบุกแดนเซียน - บทที่ 384 สามารถยืดหยุ่นได้
บทที่ 384 สามารถยืดหยุ่นได้
……….
บทที่ 384 สามารถยืดหยุ่นได้
หลิงเยว่จ้องมองขวดไม้เล็ก ๆ สองใบตรงหน้า ภายในบรรจุเลือดบริสุทธิ์อันล้ำค่าของมังกรทองห้าเล็บและตะขาบมรกตสี่ปีก นางเลยไม่กล้าลงมือ
หลิงเยว่รู้ดีว่าหัวหน้าตะขาบมรกตปรารถนาการสืบทอดที่สมบูรณ์เพียงใด หากล้มเหลว นางอาจปิดบังเขาและทำเป็นว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่คงไม่อาจเมินเฉยต่อความรู้สึกผิดไปได้
อีกทั้งเมื่อนึกว่าต่อไปโม่จวินเจ๋อจะต้องพึ่งแหวนเร้นกายเพื่อปลอมตัวเป็นมนุษย์อีกที โดยที่ไม่ใช่ร่างกายของตัวเอง มันช่าง…
ในที่สุดหลิงเยว่ตัดสินใจใช้เลือดของสัตว์วิญญาณระดับสูงฝึกฝนก่อน เมื่อแน่ใจว่าไม่มีข้อผิดพลาดใดแล้ว นางค่อยกลั่นเลือดบริสุทธิ์สองหยดในมือ
ผู้นำเผ่าทิงมี่ที่ถูกบังคับให้ดื่มชาสืบทอดวิญญาณ แรกเริ่มเขายังมีสีหน้าโกรธแค้น แต่ครู่ต่อมาความโกรธกลับถูกแทนที่ด้วยความประหลาดใจ เพียงไม่นานเขาก็สลบไป ทันใดนั้นร่างกายของเขากลับกลายเป็นกลุ่มควันดำลอยอยู่กลางอากาศ
โม่จวินเจ๋อนึกในใจ ดอกไม้ปีศาจที่แทรกซึมอยู่ทุกซอกมุมในร่างของผู้นำเผ่าทิงมี่พลันปรากฏชัดขึ้น ควันดำไม่ได้รวมตัวเป็นกลุ่มอีกต่อไป แต่มันกลายเป็นดอกไม้ปีศาจขนาดเล็ก
เขาสามารถใช้พลังของเมล็ดพันธุ์ปีศาจได้จริง ๆ!
หากการใช้พลังของเมล็ดพันธุ์ปีศาจได้เป็นเพราะโม่จวินเจ๋อช่วยหลิงเยว่กลืนกินดอกไม้ปีศาจ แล้วเหตุใดการที่เขาฝึกบำเพ็ญถึงมีประโยชน์ร่วมกันกับหลิงเยว่ด้วย?
การเปลี่ยนแปลงพิเศษระหว่างทั้งสอง ทำให้โม่จวินเจ๋อรู้สึกยินดีที่สายสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาลึกซึ้งขึ้น…
ดังนั้น สาเหตุที่แท้จริงคืออะไร? สำหรับโม่จวินเจ๋อคงไม่สำคัญอีกต่อไป สิ่งสำคัญคือจะรักษาความสัมพันธ์เช่นนี้ไว้ได้อย่างไรมากกว่า…
ในขณะที่โม่จวินเจ๋อรอให้เผ่าทิงมี่สืบทอดมรดกของเผ่าพันธุ์ นอกจากเจ้าวังแห่งเมืองปีศาจแล้ว ยังมีผู้พิทักษ์อีกสามคนของเจ้าวัง และเจ้าเมืองสามคนของเมืองระดับหนึ่งที่เข้าร่วมไล่ล่าชิงหลง
“ข้าได้ยินมาว่าโจรผู้นั้นอหังการเหลือเกิน แม้แต่วังปีศาจเขาก็บุกเข้าไปขโมยได้!”
ผู้อาวุโสกระทิงมีสีหน้าชื่นชม แต่วินาทีถัดมาสายตาพลันเปลี่ยนเป็นวิตกกังวล “จะทำอย่างไรดีเล่าท่านผู้นำเผ่า เผ่ากระทิงของพวกเรามั่งคั่งเช่นนี้ สักวันคงถูกจับตามองแน่!”
โม่จวินเจ๋อ หนึ่งในพวกโจรมองไปทางหลิงเยว่ที่กำลังเก็บตัวบำเพ็ญอย่างไม่แสดงอาการใด ๆ ราวกับว่าไม่เกี่ยวข้องกับตนเองแม้แต่น้อย
“มีสนมปีศาจที่สี่อยู่ที่นี่ ไม่ว่าโจรนั้นโอหังเพียงใด เขาคงไม่กล้ามาแน่!” ผู้นำเผ่ากระทิงงามกล่าว พลางมองไปที่โม่จวินเจ๋ออย่างคลุมเครือ
โม่จวินเจ๋อมองกลับอย่างเย็นชา โดยไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา
เขาไม่จำเป็นต้องพูดอะไร เพียงแค่แรงกดดันมหาศาลจากมังกรปีศาจที่แผ่ออกมาจากร่าง จึงทำให้เผ่ากระทิงเริ่มวางใจลงได้ครึ่งหนึ่ง และตราบใดที่ผู้นำเผ่าทิงมี่ยังไม่ออกมา เผ่ากระทิงของพวกเขาก็จะได้รับการปกป้องจากมังกรปีศาจไปอีกวัน
ผู้อาวุโสกระทิงได้แต่ภาวนา ขอให้ผู้นำเผ่าทิงมี่อย่าได้ออกมาเลย เผ่ากระทิงจะได้อยู่อย่างปลอดภัยแบบนี้ตลอดไป!
น่าเสียดาย สิ่งที่เขาหวังไว้กลับไม่เป็นดังใจ หลังจากผ่านไปสามเดือน ผู้นำเผ่าทิงมี่ได้รับมรดกสืบทอดสำเร็จ
ผู้นำเผ่าทิงมี่ในชุดคลุมสีชมพูเดินผ่านฝูงชนและโม่จวินเจ๋ออย่างไม่รีบร้อน จนมาถึงจุดที่หลิงเยว่กำลังเก็บตัวบำเพ็ญ
“อย่าไปรบกวนนาง”
โม่จวินเจ๋อมองออกถึงความตั้งใจของผู้นำเผ่าทิงมี่ “รอให้นางออกมาก่อนแล้วค่อยขอบคุณเถอะ ตอนนี้ข้ามีภารกิจให้เจ้าไปทำ”
“ในโลกนี้นอกจากราชาปีศาจและมนุษย์ที่อยู่ข้างในนั้นแล้ว ไม่มีใครสั่งข้าได้ เจ้า…”
คำพูดที่เหลือของผู้นำเผ่าทิงมี่ยังไม่ทันได้เอ่ยออกมา ใบหน้าอันงดงามก็เปลี่ยนเป็นทุกข์ทรมานในทันที ผู้คนที่มุงดูยังสามารถเห็นดอกไม้ปีศาจที่ปรากฏขึ้นใต้ผิวหนังของเขาราง ๆ
“เช่นนั้นหรือ?”
“ไม่ใช่ นอกจากพวกเขาแล้วก็รวมถึงท่านด้วย” ผู้นำเผ่าทิงมี่รู้จักโอนอ่อนผ่อนตาม จึงรีบเปลี่ยนคำพูดในทันที
แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าสนมปีศาจที่สี่กับมนุษย์ที่อยู่ข้างในนั้นมีความสัมพันธ์อะไรกัน แต่จากการที่พวกเขาสามารถใช้พลังเมล็ดพันธุ์ปีศาจร่วมกันได้ รวมถึงภารกิจที่มนุษย์มอบให้เขา ก็ทำให้รู้ว่าพวกเขาคงมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้ง และการคาดเดาก่อนหน้านี้ของผู้นำเผ่าทิงมี่มีโอกาสเป็นจริงถึงเจ็ดส่วน!
เหตุใดกันแน่ที่ทำให้มังกรปีศาจที่ยอมตกเป็นทาสรับใช้เทพปีศาจเกิดใจสองฝักสองฝ่ายเช่นนี้?
ผู้นำเผ่าทิงมี่ไม่รู้ แต่เขารู้ว่ามังกรปีศาจคงบ้าไปแล้วเป็นแน่!
“อะไรนะ? ให้ข้าไปขโมยหินปีศาจจากเมืองหลวงระดับหนึ่งงั้นรึ?”
“ข้าสั่งให้เจ้าทำก็ไปทำซะ”
สาเหตุหลักคือตอนนี้ชิงหลงถูกล้อมไว้ แม้ว่าจะยังไม่ถูกจับ แต่สถานการณ์ก็ไม่ปลอดภัยแล้ว
ตอนนี้โม่จวินเจ๋อต้องการคนอื่นมาช่วยเบี่ยงเบนความสนใจของพวกเจ้าวัง ผู้พิทักษ์สามคน พวกเผ่าปีศาจ และเผ่าปีศาจอสูรระดับราชาที่ไล่ตามชิงหลงทุกวัน เหมือนไม่มีอะไรทำกัน
นอกจากผู้นำเผ่าทิงมี่แล้ว โม่จวินเจ๋อตั้งใจจะกลับไปทำงานเก่า เพื่อไปช่วยชิงหลงที่กำลังตกอยู่ในสถานการณ์คับขัน
ผู้นำเผ่าทิงมี่ไม่เคยได้ยินภารกิจที่ประหลาดและเข้าใจยากเช่นนี้มาก่อน ใบหน้าของเขาพลันกระตุกอย่างห้ามไม่ได้
“การขโมยของไม่ใช่จุดแข็งของเผ่าทิงมี่หรอกหรือ? ทำไมถึงทำหน้าไม่เต็มใจเช่นนั้น?”
ผู้นำเผ่าทิงมี่ “…”
ไม่ใช่สักหน่อย! พวกเขาชำนาญการกางค่ายกลต่างหาก!
การขโมยเมล็ดพันธุ์ปีศาจเป็นเพียง… ช่างเถอะ พูดกับมังกรโง่เง่าตัวนี้ไม่รู้เรื่องหรอก
ผู้นำเผ่าทิงมี่แปรร่างเป็นกลุ่มควันแล้วหายวับไปในอากาศ ตามด้วยโม่จวินเจ๋อที่จากไปในทิศทางตรงกันข้าม
เหล่าผู้พิทักษ์จากไปแล้ว!
หัวใจของผู้อาวุโสกระทิงพลันว่างเปล่า เขามองไปยังคลังเก็บของของเผ่าด้วยความกังวล ที่นั่นเต็มไปด้วยหินปีศาจ หากโจรมาในเวลานี้ มันจะไม่…
ขณะที่เขากำลังจะเอ่ยปากแนะนำให้ผู้นำเผ่ากระจายหินปีศาจไปให้สมาชิกแต่ละคนในเผ่า ผู้นำเผ่ากระทิงงามก็เก็บหินปีศาจจำนวนมหาศาลไปเสียแล้ว
ในขณะที่ผู้อาวุโสกระทิงคิดว่าตนเองและผู้นำเผ่าคิดเหมือนกัน ผู้นำเผ่ากระทิงงามกลับเดินผ่านเขาไปโดยตรง โดยไม่มีท่าทีว่าจะรวบรวมสมาชิกเผ่าเพื่อแบ่งหินปีศาจชั่วคราวแต่อย่างใด
ผู้อาวุโสกระทิงมั่นใจว่า หากโจรมาเยือนเผ่ากระทิงจริง เป้าหมายแรกจะต้องเป็นผู้นำเผ่าแน่นอน ดังนั้นการเก็บหินปีศาจทั้งหมดไว้กับตัวมิเท่ากับเป็นการประหยัดเวลาให้โจรไม่ต้องไปที่คลังเก็บของหรอกหรือ?
“ท่านผู้นำเผ่า ท่านเข้าใจผิดแล้ว!”
ผู้นำเผ่ากระทิงงามหันกลับมา “?”
ผู้อาวุโสกระทิงจึงรีบพูดความคิดของตนออกมาทันที แต่ใครจะคิดว่าพอพูดไปครึ่งทาง ผู้นำเผ่ากระทิงงามกลับเมินแล้วเดินจากไปทันที
เมื่อผู้อาวุโสกระทิงไล่ตามมาทัน ทั้งสองก็มาถึงสถานที่เก็บตัวบำเพ็ญของหลิงเยว่แล้ว
การมอบหินปีศาจให้หลิงเยว่เก็บรักษาไว้ชั่วคราวเป็นวิธีที่ปลอดภัยที่สุด และค่าตอบแทนในการเก็บรักษาคือหนึ่งในสามของหินปีศาจในมือนาง ซึ่งมีค่าเท่ากับครึ่งเส้นเลือดปีศาจระดับสูง…
เมื่อได้ยินว่าเพียงแค่เก็บรักษาหินปีศาจก็จะได้รับครึ่งเส้นเลือดปีศาจระดับสูง หลิงเยว่ไม่รอช้าแม้แต่วินาทีเดียว นางกะพริบตาปรากฏตัวต่อหน้าผู้นำเผ่ากระทิงงามแล้วคว้าแหวนปีศาจ ซึ่งก็คือแหวนเก็บของของปีศาจออกจากมือนาง แล้วหายวับไปอีกครั้ง
เมื่อแหวนปีศาจระดับสูงมาอยู่ในมือแล้ว หลิงเยว่จึงรู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ชอบมาพากล ทำไมต้องมอบของให้นางเก็บรักษา แถมยังสัญญาจะให้ค่าตอบแทนสูงเช่นนี้?
หลิงเยว่ไม่รู้เรื่องโจรขโมยหินปีศาจ เพราะทุกครั้งที่ออกมา นางมักจะรีบร้อนเสมอ ครั้งนี้เมื่อนางทำชาสืบทอดวิญญาณของเผ่าทิงมี่สำเร็จ นางก็มอบของให้โม่จวินเจ๋อแล้วกลับไปเก็ฐตัวบำเพ็ญอีกครั้ง
ส่วนเงินก้อนใหญ่ที่โม่จวินเจ๋อให้นางนั้น หลิงเยว่ไม่ได้ถาม ด้วยคิดว่าเป็นถึงสนมปีศาจที่สี่ จะมีเพียงเส้นเลือดปีศาจระดับสูงเส้นเดียวได้อย่างไร?
คงเป็นเพราะครั้งก่อนที่นางบอกว่าโม่จวินเจ๋อจน ทำให้เขาเกิดความรู้สึกเสียศักดิ์ศรีขึ้นมา จึงรีบไปขนภูเขาเส้นเลือดปีศาจมาให้ทันที
ตอนนั้นหลิงเยว่ยังตกใจอยู่เลย!