ยอดกุ๊กบุกแดนเซียน - บทที่ 388 ทำไมสายฟ้าถึงฟาดเขาด้วย?
บทที่ 388 ทำไมสายฟ้าถึงฟาดเขาด้วย?
……….
บทที่ 388 ทำไมสายฟ้าถึงฟาดเขาด้วย?
สถานที่ศักดิ์สิทธิ์สำหรับการก้าวข้ามขอบเขตของเผ่ากระทิง นอกจากหลุมต่าง ๆ ที่เกิดจากการฟาดของสายฟ้าแล้ว ยังมีผู้คนนั่งยอง ๆ อยู่ริมหลุม เพื่อดูดซับพลังสายฟ้าที่เหลืออีกด้วย
“เจ้าอยู่ตรงนั้นเถอะ หลุมสายฟ้าน้อยดี” ผู้นำเผ่ากระทิงงามชี้ไปทางหนึ่ง
“ขอบคุณ”
หลิงเยว่ไม่รู้สึกอะไรกับที่นั่น เพราะในสายตาของนางทุกที่ก็เหมือนกัน เมื่อเห็นหลิงเยว่เข้าสู่สภาวะการฝึกฝน กระทิงทั้งสองมองหน้ากันครู่หนึ่งแล้วเดินจากไป
“เอ่อ… ท่านผู้นำเผ่า ท่านเชื่อจริง ๆ หรือว่าหลิงเยว่มีการฝึกฝนพิเศษที่สามารถก้าวกระโดดจากขอบเขตทะยานเซียนขั้นกลางไปสู่ขอบเขตบำเพ็ญเต๋าได้ทันที?”
อย่างไรก็ตาม ผู้อาวุโสกระทิงไม่เชื่อเลยสักนิด แม้เขาจะเคยได้ยินมาว่าในโลกวิญญาณหรือโลกผู้บำเพ็ญมีโอสถหลากหลายชนิด และดูเหมือนจะมียาที่ช่วยในการก้าวกระโดดด้วย แต่หลิงเยว่ไม่มีทีท่าว่าจะกินโอสถเหล่านั้นเลยไม่ใช่หรือ? หรือนางอาจจะกินในอีกสักพัก?
ผู้อาวุโสกระทิงที่เดินไปครึ่งทางก็เดินกลับมา ตัดสินใจสังเกตการฝึกฝนพิเศษของหลิงเยว่อยู่ห่าง ๆ ส่วนผู้นำเผ่ากระทิงงามรู้สึกอยากรู้อยากเห็นเช่นกัน จึงตามไปด้วย
เมื่อสามผู้พิทักษ์ของหลิงเยว่ ได้แก่ ปลาหนามปีศาจที่กลายพันธุ์ ปีศาจสิงโตเก้าหาง และมหาปุโรหิตผู้มีสีสันมาถึง จึงพบว่ากระทิงทั้งสองกำลังจิบสุราและกินของว่าง พลางมองไปยังผู้คนที่อยู่ไกลออกไปเป็นระยะ
จากนั้นพวกมันก็นั่งร่วมวงด้วย
ครึ่งเดือนผ่านไป ทั้งห้าคนเปลี่ยนท่านั่งไปหลายสิบท่าแล้ว แต่หลิงเยว่ก็ยังไม่มีความเคลื่อนไหวใด ๆ แต่ในทางกลับกันพลังของนางกลับเพิ่มขึ้นอย่างช้า ๆ
“นี่มันอะไรกัน? หลิงเยว่เป็นมนุษย์ ทำไมถึงดูดซับพลังปีศาจได้เล่า?!”
เมื่อผู้นำเผ่ากระทิงงามพูดเช่นนี้ คนที่เหลือจึงค้นพบจุดที่ไม่ถูกต้องในที่สุด
จริงสิ ตลอดครึ่งเดือนที่ผ่านมา หลิงเยว่ใช้พลังปีศาจในการฝึกฝนตลอดเวลา!
“อาจเป็นเพราะกลืนกินเมล็ดพันธุ์ปีศาจ ดังนั้น…”
ผู้นำเผ่ากระทิงงามที่พูดไปครึ่งหนึ่งรู้สึกว่าเหตุผลนี้ค่อนข้างเข้าใจยาก แต่หลิงเยว่สามารถกลืนกินเมล็ดพันธุ์ปีศาจได้สำเร็จในฐานะมนุษย์ ดูเหมือนจะไม่ใช่เรื่องที่ฝืนเกินไปนัก
ขณะที่มหาปุโรหิตกำลังจะเอ่ยปากเข้าร่วมวงสนทนา ปีศาจสิงโตเก้าหางก็ลุกพรวดขึ้นจากที่นั่ง มองหลิงเยว่ด้วยสายตาเต็มไปด้วยความตกตะลึง
“นาง… นางกำลังจะก้าวข้ามขอบเขตแล้ว”
พลังของหลิงเยว่ที่เพิ่มขึ้นอย่างช้า ๆ ตอนนี้ดูเหมือนจะพุ่งทะยานไปถึงขอบเขตบำเพ็ญบำเพ็ญเต๋าขั้นปลายแล้ว…
จากนั้นทัณฑ์สวรรค์ก็รวมตัวกันอย่างรวดเร็วเหนือดินแดนของกระทิง ในชั่วขณะที่สายฟ้าแลบแปลบปลาบ ดูเหมือนจะทำให้ทั้งเขตแดนปีศาจสว่างไสว เสียงฟ้าร้องดังสนั่นอยู่ข้างหูของปีศาจทั้งห้า
หลิงเยว่ลืมตาขึ้น พลางเงยหน้ามองท้องฟ้า สายฟ้าลงทัณฑ์สายแรกดูเหมือนกำลังก่อตัว
“พวกเจ้ารีบออก…”
ยังไม่ทันพูดคำว่า ‘ไป’ ปีศาจทั้งห้าที่จ้องมองนางอยู่ รวมทั้งตัวหลิงเยว่เองก็ถูกสายฟ้าลงทัณฑ์สายแรกฟาดเข้าพร้อมกัน
การที่สายฟ้าลงทัณฑ์แยกออกเป็นหกสายนั้นช่างคล่องแคล่วเหลือเกิน มันฟาดใส่ผู้คนด้วยความเร็วและรุนแรง แม้แต่ปีศาจสิงโตเก้าหางที่มีพลังสูงสุดในบรรดาพวกเขาก็ยังหลบไม่พ้น
ปีศาจทั้งห้าที่ถูกสายฟ้าลงทัณฑ์ฟาด มีควันลอยออกจากปาก ทั่วร่างปกคลุมด้วยสายฟ้าสีน้ำเงินเข้ม ในบรรดานั้นมหาปุโรหิตที่อ่อนแอที่สุดถึงกับได้กลิ่นปลาย่างลอยออกมาจากร่างของตัวเอง
ทำไมสายฟ้าลงทัณฑ์ถึงฟาดเขาด้วยเล่า?
มหาปุโรหิตรู้สึกไม่เข้าใจและตกตะลึงเป็นอย่างยิ่ง
“เมื่อกี้หลิงเยว่ตะโกนบอกให้พวกเราออกไปใช่หรือไม่?” ผู้อาวุโสกระทิงถูกควันที่พ่นออกมาจากปากบดบังใบหน้า ทำให้การมองเห็นพร่ามัว
แม้ว่าการรับทัณฑ์สวรรค์จะไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับเขา แต่ยังดีที่ไม่ถึงกับถูกฟาดจนได้กลิ่นเนื้อไหม้
ในอากาศตอนนี้จึงมีเพียงกลิ่นหอมของปลาที่แพร่กระจายไปทั่ว
“ดูเหมือน… เราจะออกไปไม่ได้แล้ว” ผู้นำเผ่ากระทิงงามพยายามขยับเท้าเพื่อออกไป แต่กลับพบว่าขาทั้งสองของนางถูกตรึงอยู่กับพื้น ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้แม้แต่น้อย ส่วนอื่น ๆ ของร่างกายก็ไม่สามารถขยับได้เช่นกัน
“เจ้าก็ถูกตรึงไว้เหมือนกันหรือ?!” ปลาหนามปีศาจไม่สามารถก้มหน้าลงได้ ได้แต่พยายามเคลื่อนสายตาไปที่เท้าของตน แต่น่าเสียดายที่มองเห็นเพียงสายฟ้าที่ฟาดลงมาที่เท้า ทำให้ตำแหน่งที่นางยืนอยู่ถูกฟาดจนยุบลงไป
“ข้าก็ขยับไม่ได้เช่นกัน!”
ผู้อาวุโสกระทิงกล่าวด้วยความตกใจ มองไปยังสายฟ้าสีน้ำตาลเข้มที่โผล่ออกมาจากเมฆฝน มหาปุโรหิตเงยหน้ามองตามไปด้วย จากนั้นก็ตกใจอยากจะวิ่งหนีสุดชีวิต สาเหตุหลักคือสายฟ้าสีน้ำตาลเข้มที่เดิมทีไม่ได้หนามากนักได้แยกออกเป็นหกสาย โดยสายที่บางที่สุดฟาดลงมาที่หลิงเยว่ซึ่งนอนราบอยู่กับพื้น
ส่วนอีกห้าสายที่มีความหนาบางต่างกันพลันฟาดลงมาที่ปีศาจทั้งห้า
ร่างของพวกเขาถูกกลืนหายไปในสายฟ้า พวกกระทิงที่มาดูรวมถึงผู้นำเผ่าคนก่อนต่างเบิกตาโพลงจนแทบถลน
“การรับทัณฑ์สวรรค์ยังแบ่งแยกได้อีกหรือ!?”
“ทัณฑ์สวรรค์ของมนุษย์กับเผ่าปีศาจอาจจะไม่เหมือนกันก็ได้… ใช่ไหม?”
“นั่นมันเหตุผลบ้าอะไร! เขตแดนปีศาจไม่ใช่ว่าไม่มีมนุษย์สักหน่อย! แต่ข้ายังไม่เคยเห็นมนุษย์รับทัณฑ์สวรรค์แบบนี้มาก่อนเลย!”
…
เผ่าปีศาจอสูรชั้นสูงในบริเวณใกล้เคียงก็เห็นสถานการณ์ด้วยสายฟ้าที่แยกออกจากที่ไกล ๆ บางตนถึงกับไม่เชื่อสายตาตัวเองจนต้องขยี้ตาไปมา แต่ภาพที่เห็นเมื่อครู่ยังคงประทับอยู่ในความทรงจำอย่างลึกซึ้ง
ในขณะเดียวกัน โม่จวินเจ๋อที่แอบเข้ามาในหอประมูลในเมืองปีศาจได้สำเร็จ รู้สึกถึงความผิดปกติในร่างกาย ก่อนหน้านี้ตอนที่แยกกับชิงหลงและผู้นำเผ่าทิงมี่ เขาก็รู้สึกแปลก ๆ นิดหน่อยแล้ว พลังปีศาจที่ใช้ไปกำลังฟื้นคืน เขาจึงเดาว่าน่าจะเป็นเพราะหลิงเยว่กำลังเก็บตัวบำเพ็ญเลยส่งผลมาถึงเขา
ตอนนั้นโม่จวินเจ๋อจึงไม่ได้คิดอะไรมาก แต่ตอนนี้พลังปีศาจรอบตัวกลับหลั่งไหลเข้าสู่ปฐมวิญญาณในร่างกายของเขาอย่างบ้าคลั่ง เมฆพายุเหนือหอประมูลกำลังรวมตัวกันอย่างรวดเร็ว สายฟ้าฟาดลงมาทีละสาย พร้อมกับเสียงฟ้าร้องที่ใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ
ดูเหมือนว่าเขา… กำลังจะก้าวข้ามขอบเขต… ซึ่งไม่ใช่ร่างของมังกรปีศาจ แต่เป็นร่างมนุษย์ที่หายไปของโม่จวินเจ๋อ!
โม่จวินเจ๋อคิดจะฉีกมิติเพื่อหนีออกจากหอประมูลในเมืองปีศาจ ก่อนที่สายฟ้าลำแรกจะก่อตัวเสร็จ
แต่ปรากฏว่า เขาฉีกมิติไม่ได้! ร่างกายของเขากำลังเปลี่ยนไปมาระหว่างมังกรปีศาจกับมนุษย์
“ใครกันที่กล้าฝ่าทัณฑ์สวรรค์ในหอประมูลข้า ช่างกล้าหาญเสียจริง!”
เจ้าวังแห่งเมืองปีศาจสีหน้าเคร่งเครียด พลางกระจายพลังปีศาจออกไป…
จู่ ๆ ก็มีลำแสงสีดำพุ่งออกมาจากหอประมูลหกชั้น ฝ่าด่านกีดขวางอย่างบ้าคลั่ง เพื่อพาสายฟ้าออกไป
เหล่าผู้ยิ่งใหญ่ที่มีสายตาเฉียบคมยังเห็นเงาดำที่หายไปถูกสายฟ้าฟาดร่วงลงมาจากท้องฟ้า ขณะที่พวกเขากำลังจะไล่ตามไปดู เงาดำที่ถูกฟาดก็ลอยขึ้นฟ้าด้วยความเร็วสูงสุดอีกครั้ง ผู้ที่มีพลังต่ำกว่าขอบเขตฝ่าทัณฑ์สวรรค์ย่อมไม่อาจมองเห็นได้ว่ามันคืออะไร
“แปลก ๆ นะ ดูจากความเร็วแล้ว ผู้ที่ฝ่าทัณฑ์สวรรค์น่าจะอยู่ขอบเขตฝ่าทัณฑ์สวรรค์แล้ว แต่ทำไมสายฟ้าที่ไล่ตามเขาถึงดูอ่อนแอเหลือเกิน?”
“พวกเราไปดูกันเถิด!”
ลำแสงสีดำวาบผ่านท้องฟ้าเหนือเมืองปีศาจไม่หยุด เสียงคำรามด้วยความโกรธแค้นดังมาจากหอประมูลในเมืองปีศาจ
“คราวก่อนเพิ่งถูกลูกน้องมังกรปีศาจปล้น ตอนนี้โจรขโมยหินปีศาจบ้านั่นกลับมาอีกแล้ว!”
ผู้ดูแลมองดูโถงประมูลที่มีรูโหว่ใหญ่สี่รู หน้าอกกระเพื่อมขึ้นลง แทบจะหมดสติด้วยความโกรธ เขาพยายามกลั้นความโมโหไว้พลางบีบหยกดำในมือจนแตกละเอียด “โจรขโมยหินปีศาจกำลังรับทัณฑ์สวรรค์อยู่ มันหนีไม่พ้นหรอก พวกเจ้าไปไล่ตามจับมาให้ได้!”
นักรบฝีมือดีครึ่งหนึ่งของหอประมูลในเมืองปีศาจถูกส่งออกไปไล่ล่า “โจรขโมยหินปีศาจ” ผู้ดูแลก็ไม่ได้อยู่เฉย แต่หันหลังมุ่งหน้าไปยังวังของเจ้าเมือง
โจรขโมยหินปีศาจทำงานเป็นกลุ่ม หนึ่งคนปรากฏตัวที่โถงประมูล บางทีอีกสองคนอาจจะแอบซ่อนอยู่ในวังของเจ้าเมืองก็ได้!
การคาดการณ์ของผู้ดูแลไม่ผิด ชิงหลงและผู้นำเผ่าทิงมี่กำลังขโมยของในวังของเจ้าเมืองอย่างสนุกสนาน หากไม่ติดขัดเรื่องเงื่อนไข คนแรกถึงกับอยากจะขนวังทั้งหลังกลับไปประมูลในโลกวิญญาณเลยทีเดียว
วังที่เจ้าเมืองของเมืองปีศาจอาศัยอยู่ จะว่าไปก็น่าจะมีค่าเท่ากับเส้นเลือดพลังวิญญาณระดับสูงสักเส้นใช่หรือไม่?
……….