ยอดกุ๊กบุกแดนเซียน - บทที่ 389 คดีโจรกรรมหินปีศาจ
บทที่ 389 คดีโจรกรรมหินปีศาจ
……….
บทที่ 389 คดีโจรกรรมหินปีศาจ
โม่จวินเจ๋อวิ่งหนีพลางถูกฟ้าผ่าไปพลาง สีหน้าเต็มไปด้วยความงุนงง ทำไมหลิงเยว่ถึงได้ก้าวข้ามขอบเขตทะยานเซียนไปเป็นขอบเขตบำเพ็ญเต๋าอย่างกะทันหันเช่นนี้เล่า?
ที่สำคัญคือตอนนี้การรับทัณฑ์สวรรค์ของเขาทำไมถึงมีห้าสายเล่า?
ไม่สิ! ยังมีสายที่หกอีก!
เป็นสายฟ้าแก่นปราณน้ำแข็ง
โม่จวินเจ๋อมั่นใจอย่างยิ่งว่าห้าสายแรกเป็นของหลิงเยว่ ส่วนที่ฟาดลงมาตอนนี้ถึงจะเป็นของเขา
แต่สายฟ้าของเขาควรจะมีแค่สองสายมิใช่หรือ…
นี่คือความคิดของโม่จวินเจ๋อขณะที่ถูกฟ้าผ่าจนตกลงไปกระแทกพื้นเป็นหลุมลึก ทั่วร่างถูกสายฟ้าแก่นปราณน้ำแข็งแช่แข็งไว้ จากนั้นก็ทะลุผ่านเกล็ดมังกรเข้าสู่ร่างกาย เจ็บปวดจนแทบสลบ น่าเสียดายที่เขาทำไม่ได้ เพราะเบื้องหลังยังมีผู้คนมากมายไล่ตามมา เขาจะต้องไม่เปิดเผยตัวตนของโจรขโมยหินปีศาจเด็ดขาด!
เขายังอยากใช้ตัวตนของสนมปีศาจที่สี่ก่อเรื่องต่อไป เพราะตัวตนนี้… ใช้ประโยชน์ได้ดียิ่งนัก!
โม่จวินเจ๋อที่ถูกฟ้าผ่าลงมารีบหนีออกไปอย่างรวดเร็วอีกครั้ง ในขณะที่ผู้คนเข้ามาใกล้มากขึ้นเรื่อย ๆ
เจ้าวังที่ไล่ตามอย่างกระตือรือร้นที่สุด ได้กลิ่นพิเศษขณะผ่านสถานที่ที่ถูกชำระล้างด้วยทัณฑ์สวรรค์ เขาเดาผิดอีกแล้วหรือ?
ผู้ที่กำลังฝ่าทัณฑ์สวรรค์อยู่นั้นไม่ใช่มังกรปีศาจตนที่สองที่หยอกล้อเขาหรอกหรือ?
“ท่านเจ้าวัง ต้องขอรายงานว่าท้องพระโรงถูกปล้นอีกแล้วขอรับ…”
เมื่อได้รับรายงานจากผู้ดูแลหอประมูล เจ้าวังแห่งเมืองปีศาจแทบจะร่วงลงมาจากท้องฟ้า ดีนัก! ท้องพระโรงที่วางกับดักไว้อย่างแน่นหนาก็ยังถูกปล้นอยู่ดี!
“ไอ้พวกไร้ประโยชน์!”
เจ้าวังรีบหันหลังกลับวังปีศาจทันที ไม่ถึงครึ่งชั่วยามเขาก็มาถึงท้องพระโรงแล้ว ไม่มีอะไรแตกต่างจากตอนที่ออกไป หากจะว่าแตกต่างตรงไหน คงเป็นที่ลูกสาวของตนจากที่ยิ้มส่งก่อนออกไป ตอนนี้กลับทำหน้าเศร้าสร้อย
“ท่านพ่อเจ้าคะ… หินปีศาจที่ท่านมอบให้ข้าหายไปแล้ว”
“ของฮวนฮวนก็หายไปด้วยเจ้าค่ะ!”
“ข้าน้อย… ข้าน้อย…”
พวกองครักษ์พากันคุกเข่าลงเป็นแถวใหญ่ ใบหน้าของพวกเขาแสดงออกถึงความอับอายอย่างยิ่ง
พวกเขามีพลังสูงสุดอยู่ในระดับราชาขั้นกลาง กลับไม่สามารถรับรู้ได้ว่ามีสิ่งใดเคลื่อนผ่านไปใกล้ตัว ไม่เพียงแต่ของขององค์หญิงน้อยและฮวนฮวนที่ถูกขโมยไป แม้แต่ของของพวกเขาเองก็ไม่มีใครรอดพ้น
มันเป็นวิชาลับอะไรกันแน่ ที่สามารถแทรกซึมเข้ามาในท้องพระโรงของเจ้าวังได้โดยไม่มีใครรู้ แล้วยังลอบเข้าไปในแหวนปีศาจที่สวมติดตัวเพื่อขโมยหินปีศาจออกมา โดยที่พวกเขาไม่อาจรับรู้ได้เลย!?
เผ่าทิงมี่!
ครั้งที่แล้วเมล็ดพันธุ์ปีศาจถูกขโมยไปจากหอประมูล พวกเขาไม่รู้สึกตัวเลย จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ประมูลร้องตะโกนออกมา ร่างกายอ่อนแรงล้มลงกับพื้น ปากพึมพำว่า ‘เมล็ดพันธุ์ปีศาจหายไปอย่างไร้ร่องรอย’ ผู้คนในที่นั้นถึงได้ตื่นตระหนก!
ตอนนี้เหตุการณ์เกิดขึ้นอีกครั้ง ‘คดีขโมยหินปีศาจที่สั่นสะเทือนทั้งเขตแดนปีศาจ’ คือฝีมือของเผ่าทิงมี่อย่างแน่นอน!
เผ่าทิงมี่เป็นดังที่โม่จวินเจ๋อกล่าวไว้จริง ๆ ความสามารถโดดเด่นที่สุดของพวกเขาคือการขโมย ไม่ใช่การวางค่ายกล!
พวกเขาไม่เพียงแต่สามารถเปลี่ยนร่างกายให้เป็นหมอกได้ แต่ยังสามารถแบ่งร่างกายออกเป็นส่วนเล็ก ๆ นับไม่ถ้วน แล้วอาศัยพลังปีศาจบังตา แทรกซึมเข้าไปในสิ่งต่าง ๆ เพียงแค่ใช้ร่างกายที่เป็นหมอกห่อหุ้มสิ่งที่ต้องการขโมย สิ่งนั้นก็จะละลายไปพร้อมกับร่างกายของพวกเขา แล้วลอยออกมาด้วยกัน
เผ่าทิงมี่ขโมยของโดยอาศัยร่างกาย ส่วนโม่จวินเจ๋อและชิงหลงอาศัยพลังและจิตมังกร จิตมังกรสามารถบดบังประสาทสัมผัสทั้งห้าของเผ่าปีศาจได้ชั่วคราว ทำให้สามารถทำอะไรได้โดยไม่มีใครรู้
เจ้าวังโกรธจัด พลันชี้ไปยังองครักษ์ที่คุกเข่าอยู่แล้วตะโกนไล่พวกเขาออกไป
เผ่าทิงมี่เจ้าเล่ห์และจับตัวยาก พวกเขาไม่มีวิธีจัดการจริง ๆ
“ยังมีที่ไหนถูกขโมยอีก”
“ยังมีตำหนักของท่าน ของข้า ของฮวนฮวน…”
แทบจะทั้งหมดเลย!
พวกเขาเพิ่งออกมาจากหอประมูล รวมถึงวังที่ถูกปล้น และพวกไร้ประโยชน์ที่ถูกไล่ออกไป เจ้าวังพยายามบังคับตัวเองให้สงบลง แต่ทันใดนั้น ร่างกายของเขาพลันแข็งทื่อ สายตาเหลือบไปเห็นวังของเขาที่กำลังพลังทลายลงมาจากระยะไกล
“อะไรกัน!”
“นี่มัน…”
“ท่านพ่อ ตำหนักของท่านหายไปหมดแล้ว!” องค์หญิงน้อยตกใจ ฮวนฮวนมองนางแล้วค่อย ๆ ถอยห่างออกไป กลัวว่าตนเองจะพลอยโดนลูกหลงไปด้วย
แน่นอนว่าวินาทีถัดมาองค์หญิงน้อยก็กลายเป็นดาวตกพุ่งออกไปด้านนอก จากฝีมือการตบของพ่อนางเอง
ช่างรุนแรงเสียจริง!
“จงเฝ้าฮวนฮวนไว้!” เจ้าสำนักทิ้งคำพูดนี้ไว้แล้วจากไปอีกครั้ง เขาได้กลิ่นของมังกรปีศาจตนที่สอง และยังมีกลิ่นพิเศษอีกกลิ่นหนึ่ง
มันคล้ายเผ่าทิงมี่แต่ก็ไม่เชิง
มังกรปีศาจตนที่สองกับเผ่าทิงมี่ร่วมมือกันหรือ?
พวกเขาวางแผนจะขโมยหินปีศาจทั้งหมดในเขตแดนปีศาจหรืออย่างไร?
เจ้าวังเดาความจริงได้โดยบังเอิญ เพราะชิงหลงตั้งใจจะทำเช่นนั้นจริง ๆ ในเมื่อว่างอยู่แล้ว ไม่สู้หาหินปีศาจให้หลิงเยว่เพิ่มขึ้นอีกหน่อยดีกว่า อีกทั้งการขโมยนั้นทำให้มังกรติดใจได้ง่าย ตอนนี้นางควบคุมตัวเองไม่ได้แล้ว!
“เมื่อภารกิจสำเร็จแล้ว ข้า…” แม้ผู้นำเผ่าทิงมี่จะชอบดูสีหน้าตกตะลึงของผู้ถูกขโมย แต่เมื่อเทียบกับการขโมยแล้ว เขากลับอยากไปหาที่เงียบ ๆ เพื่อศึกษาข้อห้ามต่าง ๆ ในคัมภีร์ที่ได้มาให้ครบถ้วนมากกว่า
“ไม่ได้นะ!” ชิงหลงดึงตัวผู้นำเผ่าทิงมี่ที่กำลังจะวิ่งหนีเอาไว้ แล้วมุ่งหน้าไปยังเป้าหมายถัดไป
ส่วนโม่จวินเจ๋อนั้น เมื่อครู่นี้เขาได้รับข่าวสารแล้วว่าหน้าสุสานไม่ค่อยเลวร้ายนัก
ใช่แล้ว หน้าสุสาน!
โม่จวินเจ๋อมีทัณฑ์สวรรค์รอเขาอยู่ถึงเก้าสาย! หากไม่มีร่างมังกรปีศาจช่วย เขาคงทนรับสายฟ้าของตัวเองไม่ไหวแน่
ไม่เพียงแต่พลังที่เชื่อมถึงกันเท่านั้น แม้แต่สายฟ้าก็ต้องให้เขาช่วยรับด้วยหรือ?
โม่จวินเจ๋อทั้งเจ็บปวดและมีความสุข อีกทั้งเพื่อไม่ให้เผ่าปีศาจที่ไล่ตามมาจำเขาได้ หลังจากรับสายฟ้าเสร็จ เขาถึงกับสละแม้แต่ฝนปีศาจที่ช่วยฟื้นฟูร่างกาย แล้วยังใช้แหวนเร้นกายเปลี่ยนรูปลักษณ์ตัวเองเป็นดอกไม้ปีศาจ และพาคนกลุ่มใหญ่บินวนไปมา
“โอ้ สายฟ้านี้ช่างประหลาดนัก!”
“ใช่น่ะสิ ผู้ที่กำลังรับทัณฑ์สวรรค์ก็แปลกมาก ทำไมถึงแยกแยะไม่ออกเลยว่าเขาเป็นอะไรกันแน่ บางครั้งดูคล้ายดอกไม้ แต่บางครั้งกลับคล้ายงูด้วย…”
“หรือว่าจะเป็นสายพันธุ์ใหม่ของเผ่าปีศาจอสูร?”
“อย่าเบี่ยงประเด็นสิ ตอนนี้กำลังพูดถึงสายฟ้านั่นอยู่!”
การไล่ตามโม่จวินเจ๋อไม่ได้เป็นปัญหาต่อการสนทนาของเหล่าผู้ยิ่งใหญ่
พูดว่าสายฟ้าแรงก็ใช่ แต่เก้าสายรวมกันยังไม่เท่ากับสายเดียวของสายฟ้าระดับราชาของเผ่าปีศาจสักหน่อย…
เรียกได้ว่าชนะสายฟ้าระดับราชาของเผ่าปีศาจในด้านปริมาณ
หรือว่าเขาจะเป็นสายพันธุ์ใหม่ของเขตแดนปีศาจจริง ๆ มีหัวเป็นดอกไม้แต่มีร่างเป็นงู?
จะมีเผ่าปีศาจอสูรที่มีรูปร่างน่าตกใจขนาดนี้จริง ๆ หรือ?
ทันใดนั้นทุกคนก็นึกถึงพวกปีศาจอสูรประหลาดต่าง ๆ ที่มีหัววัวร่างคน ตัวปลามีแขนขา และรูปร่างแปลกประหลาดอื่น ๆ อืม… เผ่าปีศาจอสูรที่มีหัวเป็นดอกไม้ตัวเป็นงูก็ดูจะไม่ยากที่จะยอมรับเท่าไหร่ อาจจะบอกได้ว่าดูดีกว่าด้วยซ้ำ
โม่จวินเจ๋อผู้หล่อเหลาใช้พลังของมังกรปีศาจฉีกช่องว่างมิติแล้วมุดหนีไปอย่างรวดเร็ว!
“เขาไปทางนี้หรือทางนั้น?”
“น่าจะเป็นทางนี้…”
การฉีกพื้นที่เป็นวิธีที่ผู้ยิ่งใหญ่ทั้งหลายใช้กัน แต่ละคนอาศัยลางสังหรณ์ของตนเองฉีกและมุดเข้าไป ส่วนคนที่เหลือยังคงอยู่ที่เดิม จมอยู่กับความคิดของตัวเอง
สิ่งใดกันแน่ที่ต้องผ่านการรับทัณฑ์สวรรค์ถึงเก้าสาย และยิ่งไปกว่านั้น…
อากาศเบื้องหน้าพลันบิดเบี้ยวไปในชั่วขณะ ทันใดนั้น สิ่งมีชีวิตที่มีหัวเป็นดอกไม้และลำตัวเป็นงูก็ถูกพ่นออกมาจากพื้นที่ว่างเปล่า
“!!!”
เผ่าปีศาจที่ยังคงอยู่ที่เดิมถูกขัดจังหวะความคิดทันทีด้วยสิ่งมีชีวิตชนิดใหม่นี้
เปรี้ยง…
สายฟ้าส่องให้เห็นสิ่งมีชีวิตที่มีหัวเป็นดอกไม้และลำตัวเป็นงูดำ เมฆฟ้าผ่าที่ยังไม่สลายไปหมดรวมตัวกันอีกครั้ง เสียงฟ้าร้องดังขึ้นกว่าครั้งก่อนเสียอีก!
โม่จวินเจ๋อ “…”
หลิงเยว่กินโอสถอะไรเข้าไปกันแน่ ถึงต้องฝ่าทัณฑ์สวรรค์สองครั้งติดกันเช่นนี้?
……….