ยอดกุ๊กบุกแดนเซียน - บทที่ 390 คิดไม่ออกเลยสักนิด
บทที่ 390 คิดไม่ออกเลยสักนิด
……….
บทที่ 390 คิดไม่ออกเลยสักนิด
โม่จวินเจ๋อมองดูการก่อตัวของสายฟ้าเหนือศีรษะด้วยสีหน้าเฉยชา ครั้งนี้… จะเป็นทัณฑ์สวรรค์เก้าสายอีกหรือไม่?
สายฟ้าแลบแปลบปลาบไม่หยุดในเมฆดำ เสียงฟ้าร้องราวกับจะระเบิดท้องฟ้าได้
“โอ๊ย… ต้องรับทัณฑ์สวรรค์อีกแล้วหรือ?!”
“สิ่งมีชีวิตชนิดใหม่นี้ไปทำอะไรให้สวรรค์โกรธหรือไง?”
“คงขโมยหินปีศาจมามากเกินไปจนถูกสวรรค์ลงโทษนั่นแหละ…”
เหล่าผู้ยิ่งใหญ่ที่อยู่ในที่เกิดเหตุต่างถอยหลังออกไป หลีกหนีจากสิ่งมีชีวิตชนิดใหม่ที่ดูอัปมงคลนี้ แม้แต่เผ่าปีศาจที่ถูกส่งมาจากผู้ดูแลหอประมูลก็ยังลังเล
ผู้ดูแลสั่งให้จับเป็น แต่ตอนนี้โจรขโมยหินปีศาจคงจะได้ตายเพราะรับทัณฑ์สวรรค์แล้ว พวกเขาจะต้องเข้าไปช่วยรับเพื่อรักษาชีวิตอีกฝ่ายไว้หรือ?
ก่อนอื่น… ขอดูท่าทีก่อนแล้วกัน!
เมฆดำทะมึนเคลื่อนตัวแยกออกไปทางซ้ายและขวา เผยให้เห็นทัณฑ์สวรรค์สายแรก เป็นสายฟ้าสีขาวบริสุทธิ์!
เมื่อสายฟ้าแก่นปราณน้ำแข็งปรากฏขึ้น อุณหภูมิพลันลดลง สมุนไพรปีศาจโดยรอบเริ่มจับตัวเป็นน้ำแข็งอย่างรวดเร็ว
สายฟ้าฟาดลงมา โดยไม่ให้โอกาสโม่จวินเจ๋อได้ตอบสนองแม้แต่น้อย อีกทั้งยังไม่ให้โอกาสปีศาจสิงโตเก้าหางและคนอื่น ๆ ที่ถูกบังคับให้ช่วยหลิงเยว่ได้หลบหลีก
ผู้อาวุโสกระทิงและคนอื่น ๆ ที่ถูกบังคับให้รับทัณฑ์สวรรค์ห้าสาย ถูกฟาดลงไปในหลุมลึก โชคดีที่สวรรค์ไม่ได้ฆ่าให้สิ้นซาก ยังคงให้ปีศาจทั้งห้าได้รับการรักษาจากสายฝนปีศาจ มิเช่นนั้นตอนนี้คงเละเทะไปแล้ว
“ทำไมถึงเป็นแก่นปราณน้ำแข็งเล่า?”
หลิงเยว่ที่ถูกสายฟ้าฟาดจนกลายเป็นรูปปั้นน้ำแข็งแสดงความไม่เข้าใจ นางยังอยากคิดต่อ แต่ร่างกายรวมถึงสมองกำลังถูกแช่แข็งอย่างรวดเร็ว สีหน้าสงสัยเปลี่ยนเป็นหน้ากากแห่งความเจ็บปวดในทันที
สถานที่ศักดิ์สิทธิ์สำหรับผ่านด่านสายฟ้าของเผ่ากระทิงถูกสายฟ้าแก่นปราณน้ำแข็งฟาดจนกลายเป็นผืนน้ำแข็ง ทุ่งหญ้ากลายเป็นสีขาวโพลน พวกกระทิงน้อยที่มาดูเหตุการณ์วิ่งช้าพลอยถูกแช่แข็งไปด้วย
อดีตผู้นำเผ่าที่รอดพ้นจากการถูกแช่แข็งโดยบังเอิญ “…”
หลิงเยว่มีแก่นปราณน้ำแข็งด้วยหรือ?
ในขณะที่อดีตผู้นำเผ่ากำลังครุ่นคิด สายฟ้าลูกที่สองก็มาถึง ภายในสายฟ้าใสนั้นมีสายฟ้าน้อยใหญ่นับไม่ถ้วนกำลังเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว
มันคือ… สายฟ้าแก่นปราณวายุ?!
ร่างกายของหลิงเยว่ที่เพิ่งละลายจากน้ำแข็งพลันนึกถึงโม่จวินเจ๋อ เขาก็กำลังผ่านการลงทัณฑ์เช่นกัน!
สายฟ้าลงทัณฑ์แยกออกเป็นหกสาย พุ่งเข้าใส่หนึ่งคนห้าปีศาจ พื้นดินที่ถูกสายฟ้าแช่แข็งถูกพายุฟ้าพัดกระชากจนแตกละเอียด…
เมื่อครู่ร่างกายถูกน้ำแข็งและสายฟ้าทรมาน ตอนนี้ถูกสายฟ้าลงทัณฑ์ที่คมราวกับมีดเข้าโจมตี ราวกับเส้นเอ็นกำลังฉีกขาด ผิวหนังมีเลือดซึม เลือดพุ่งออกมาอย่างบ้าคลั่ง…
ทั้งหกคนล้มอยู่ในหลุม ใบหน้าชาไปหมด
จนถึงตอนนี้ห้าปีศาจผ่านการลงทัณฑ์ด้วยสายฟ้ามาแล้วเจ็ดครั้ง พวกเขาก็ยังคิดไม่ออกว่าทำไมถึงเป็นเช่นนี้…
มหาปุโรหิตอยากจะร้องไห้ แต่น่าเสียดายที่เบ้าตาเพิ่งชื้นก็ถูกสายฟ้าลงทัณฑ์แก่นปราณวายุปัดเป่าจนแห้ง แม้แต่เลือดที่ไหลออกมาก็ถูกพัดปลิวไปเช่นกัน
เมฆบนท้องฟ้ายังไม่สลายไป กลับหนาขึ้นกว่าเดิมเสียอีก สายฟ้าหลากสีแลบแปลบปลาบอยู่ในนั้นไม่หยุด ราวกับกำลังปรุงสายฟ้าเหล่านั้นอยู่!
โม่จวินเจ๋อที่ถูกฟ้าผ่าลงไปในหลุม พยายามปีนออกมาอย่างยากลำบาก ใบหน้าดอกไม้ปีศาจของเขาเย็นชา คาดว่าคงจะมีอีกเจ็ดครั้ง ถ้าเช่นนั้น…
ในช่วงที่โม่จวินเจ๋อเป็นสนมปีศาจที่สี่ เขาได้รวบรวมตำแหน่งของหอคอยกระดูกและถ้ำปีศาจส่วนใหญ่ไว้แล้ว ซึ่งมีบางแห่งอยู่ใกล้กับที่เขากำลังรับการลงทัณฑ์ เขาไม่สามารถใช้สถานะมังกรปีศาจไปทำลายได้ งั้นเขาจะทำในฐานะสิ่งมีชีวิตชนิดใหม่นี้แล้วกัน พาทัณฑ์สวรรค์ไปฟาดที่นั่นโดยไม่ตั้งใจดีกว่า!
ดังคาด ทัณฑ์สวรรค์ลำดับที่สามเป็นสายฟ้าแก่นปราณอัคคี ท่ามกลางสีแดงเพลิงมีสายฟ้าสีดำพันเกี่ยวอยู่ เสียงดังตูมตามไม่ขาดสาย
โม่จวินเจ๋อลากร่างอันบอบช้ำของตนไปข้างหน้าสุดกำลังก่อนที่สายฟ้าจะลงมา ทั้งยังต้องแสร้งทำเป็นหนีโดยไร้สติอีกด้วย…
สายฟ้าฟาดตามไปอย่างรวดเร็ว
เผ่าปีศาจที่ยืนดูอยู่รอบ ๆ หัวเราะเยาะ
“สมแล้วที่เป็นสิ่งมีชีวิตชนิดใหม่ คิดว่าจะหนีการไล่ล่าของสายฟ้าได้หรือ?”
ในโลกนี้ไม่มีผู้ใดหนีสายฟ้าพ้น ได้แต่ต้องรับมันเท่านั้น
โม่จวินเจ๋อมองไปข้างหน้า ใกล้เข้าไปอีกแล้ว เร็วอีกนิด… ก็จะ…
โครม!
เสียงดังสนั่นหวั่นไหว แสงสีแดงปะปนสายฟ้าฟาดแลบแปลบปลาบ ย้อมท้องฟ้าครึ่งหนึ่งให้แดงฉาน โม่จวินเจ๋อถูกฟ้าผ่ากลางทาง…
ไม่เป็นไร ยังเหลืออีกสี่ครั้ง เขาสามารถ…
เปลวไฟแผดเผา สายฟ้าแล่นไปทั่วร่าง หางงูของโม่จวินเจ๋อกำลังจะรักษาสภาพไว้ไม่อยู่แล้ว เขาพยายามอย่างยากลำบากในการระดมพลังของเมล็ดพันธุ์ปีศาจเพื่อปกคลุมหางของตนเอง ร่างงูที่เดิมเป็นสีดำสนิทเริ่มผลิดอกออกมา
“สิ่งมีชีวิตชนิดใหม่นี้เป็นพืชปีศาจหรือ?!”
“พวกเจ้ารู้สึกไหมว่าดอกไม้สีดำเล็ก ๆ นี้ดูคุ้นตาราวกับเคยเห็นที่ไหนมาก่อน?”
“ในเขตแดนปีศาจมีดอกไม้แบบนี้ไม่น้อย รู้สึกคุ้นตาก็เป็นเรื่องปกติไม่ใช่หรือ?”
“ไม่ ไม่ใช่ กลิ่นอาย กลิ่นอายนี้…”
มันคือเมล็ดพันธุ์ปีศาจ!
เหล่ามือสังหารจากหอประมูลที่ถูกส่งมาเพื่อไล่ล่าโจรขโมยหินปีศาจจำได้แล้ว
“เมล็ดพันธุ์ปีศาจถูกเขากลืนกินไปแล้ว!”
กลิ่นอายของเมล็ดพันธุ์ปีศาจถูกจับได้ในตัวของโม่จวินเจ๋อ ซึ่งเป็นไปตามที่คาดไว้ ระหว่างการเปิดเผยมังกรปีศาจและเมล็ดพันธุ์ปีศาจ เขาต้องเลือกอย่างหลังแน่นอน!
“มีความเป็นไปได้หรือไม่ว่าเมล็ดพันธุ์ปีศาจเกาะกินร่างของงูปีศาจ จึงทำให้มันมีรูปร่างประหลาดเช่นนี้?”
เหล่าผู้ยิ่งใหญ่ที่มาชมเหตุการณ์ไม่คาดคิดว่าจะได้พบเมล็ดพันธุ์ปีศาจ หากพวกเขาแย่งชิงและกลืนกินมันได้ อาจจะสามารถก้าวข้ามขอบเขตพ้นโลกีย์เข้าสู่โลกผู้บำเพ็ญเซียนก็เป็นได้!
สายฟ้าอัคคีส่องประกายดวงตาอันโลภมากให้เจิดจ้า
“ลงมือ!”
หัวหน้ามือสังหารของหอประมูลบุกเข้าไปในสายฟ้าอัคคีเป็นคนแรก แล้วปีศาจอื่น ๆ ก็เคลื่อนไหวพร้อมกัน
“สิ่งมีชีวิตชนิดใหม่นั้นยังไม่ได้ผ่านทัณฑ์สวรรค์เลย การฉวยโอกาสเช่นนี้เป็นสิ่งไม่ดีนัก!”
“ใช่แล้ว หากพวกเจ้าเบื่อหน่าย ข้าจะขอประลองกับพวกเจ้าสักตั้ง…”
“ข้าก็จะร่วมด้วย!”
เหล่าผู้ยิ่งใหญ่ที่มาชมเหตุการณ์ขวางมือสังหารของหอประมูลไว้ ปากกล่าวคำอันสง่างาม แต่ใครเล่าจะไม่รู้ว่าพวกเขามีเจตนาอันใด?
“เช่นนั้นรึ พวกเจ้าคิดจะต่อกรกับหอประมูลเมืองปีศาจหรือไง?”
“ขอให้พิจารณาให้ดีเสียก่อน แม้จะได้เมล็ดพันธุ์ปีศาจมา แต่ก็ยังไม่แน่ว่าจะมีชีวิตรอดหรือไม่”
มือสังหารที่ถูกส่งมาไม่ใช่คนไร้ชื่อเสียง พวกเขาไม่หวั่นเกรงเผ่าปีศาจที่ขวางทาง แม้พวกเขาจะมีจำนวนน้อยกว่า แต่ในทันทีที่พบเมล็ดพันธุ์ปีศาจ หัวหน้ามือสังหารก็ส่งสัญญาณไปยังผู้บัญชาการแล้ว กองหนุนจะมาถึงในไม่ช้า!
ในขณะที่ทั้งสองฝ่ายกำลังปะทะกัน โม่จวินเจ๋อสามารถเคลื่อนไหวได้แล้ว และฉวยโอกาสนี้บินไปยังทิศทางของถ้ำปีศาจอีกครั้ง ทั้งที่ระยะทางใกล้เพียงนี้ แต่ทำไมถึงรู้สึกว่ามันยาวจนมองไม่เห็นปลายทางเลย?
สายฟ้าสีทองดำได้ปรากฏขึ้นแล้ว ในทันทีที่โม่จวินเจ๋อเงยหน้าขึ้น มันก็ฟาดลงมา
โม่จวินเจ๋อไม่รู้ว่าพลังมาจากไหน แต่เขาสามารถหลบพ้นได้อย่างน่าอัศจรรย์!
แม้จะไม่โดนโดยตรง แต่ยังถูกคลื่นกระเพื่อมของสายฟ้าอยู่บ้าง การกระทำเช่นนี้ดูเหมือนจะยั่วโทสะสวรรค์ คราวนี้ไม่มีการรอช้า สายฟ้าจึงฟาดลงมาอย่างรุนแรง
โม่จวินเจ๋อหนีไปถึงตำแหน่งของถ้ำปีศาจซึ่งเป็นพื้นที่ของหอคอยกระดูกแล้ว แต่เขาก็ถูกสายฟ้าแก่นปราณทองคำที่โกรธแค้นฟาดลงไปในหลุมลึก จากนั้นทั้งร่างราวกับตกลงสู่เหวลึกไม่มีที่สิ้นสุด
สวรรค์ที่ใจแคบฟาดโม่จวินเจ๋อแล้วก็รีบเรียกสายฟ้าแก่นปราณปฐพีลำดับที่ห้าออกมาฟาดใส่สิ่งมีชีวิตชนิดใหม่ที่ตกลงไปในเหวลึกอีกครั้ง พร้อมกับทำลายถ้ำปีศาจไปด้วย!
ถ้ำปีศาจกำลังพังทลาย มีแสงสีดำจำนวนมากพุ่งออกมาจากถ้ำอย่างรวดเร็ว ด้วยสีหน้าโกรธแค้นและไม่อยากเชื่อ
พวกเขาใช้ความพยายามหลายร้อยปีในการสร้างหอคอยกระดูกและถ้ำปีศาจขึ้นมา แต่กลับถูกฟ้าผ่าเสียอย่างนั้น!
“ฆ่ามันเสีย ฆ่ามันเสีย!”
เผ่าปีศาจที่เพิ่งหนีออกมา พากันบุกเข้าไปในถ้ำปีศาจที่ถูกสายฟ้าฟาดครั้งแล้วครั้งเล่า
……….