ยอดกุ๊กบุกแดนเซียน - บทที่ 398 มืดมน
บทที่ 398 มืดมน
……….
บทที่ 398 มืดมน
“ไปกันเถอะ พวกเราไปดูถ้ำปีศาจนั่นกัน!”
องค์หญิงน้อยที่เพิ่งหนีพ้นจากพื้นที่ทัณฑ์สวรรค์ มองดูเงาร่างที่จากไปในระยะไกล หัวใจของนางพลันเต้นระรัว
“ข้าไม่ไป ถ้าเจ้าอยากไปก็ไปเองสิ!”
หัวหน้าตะขาบมรกตมีสติมากกว่า อีกอย่างตอนนี้เขายังมีพวกคนบอบบางอยู่ข้างกาย มีแต่คนโง่เท่านั้นที่จะวิ่งไปหาความตาย!
“ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์หรือแมลงในโลกวิญญาณ” องค์หญิงน้อยมองผู่ตานที่กำลังจะสิ้นใจแล้วหันไปพูดกับหัวหน้าตะขาบมรกตอย่างดูแคลน “ล้วนแต่เป็นพวกขี้ขลาดทั้งนั้น!”
“เจ้า!”
หัวหน้าตะขาบมรกตเกลียดที่สุดเวลาถูกกล่าวหาว่าขี้ขลาด เขากำลังจะลงมือ แต่ผู่ตานก็ห้ามไว้ทันเวลา แล้วกระซิบข้างหูเขาเบา ๆ “ผู้อาวุโสชิงหลงคงอยู่แถวนี้ด้วย…”
แค่ได้พบกับชิงหลงสำเร็จ พวกเขาก็จะสามารถอาศัยนางหนีออกไปได้!
ดวงตาของหัวหน้าตะขาบมรกตสว่างวาบ “ได้! งั้นไปดูกันหน่อยแล้วกัน”
ในระหว่างที่พูดคุยกัน หัวหน้าตะขาบมรกตได้ห่อหุ้มฮวนฮวนและผู่ตานไว้หลายชั้น แล้วตามองค์หญิงน้อยไปอย่างเชื่องช้า
ยิ่งเข้าใกล้ตำแหน่งศูนย์กลางเท่าไร อุณหภูมิยิ่งต่ำลงเท่านั้น ความหนาวเย็นแทรกซึมเข้าถึงกระดูก แม้จะใช้พลังวิญญาณต้านทานก็ไม่ได้ผลเท่าไหร่นัก
พวกเขายังไปไม่ถึงที่หมาย การลงทัณฑ์ด้วยสายฟ้าก็มาอีกแล้ว!
“มันจะต้องผ่านการลงทัณฑ์อีกกี่ครั้งกัน?”
โม่จวินเจ๋อยังไม่ถึงกับสิ้นหวัง แต่ผู้ชมกลับสิ้นหวังเสียก่อน…
แม้พวกเขาจะรับประกันได้ว่าเมล็ดพันธุ์ปีศาจจะไม่ถูกโจมตีโดยไม่รู้ตัวอีก แต่จะหยุดความมุ่งมั่นของสายฟ้าที่จะฟาดฟันเมล็ดพันธุ์ปีศาจได้อย่างไรเล่า?
“เมล็ดพันธุ์ปีศาจ เจ้าผ่านการลงทัณฑ์มามากมายแล้ว เจ้าน่าจะพูดได้แล้วกระมัง บอกพวกข้าได้หรือไม่ว่ามีถ้ำปีศาจกี่แห่ง และอยู่ที่ใดบ้าง?”
เผ่าปีศาจตะโกนถามโม่จวินเจ๋อ
โม่จวินเจ๋อไม่คิดว่าเผ่าปีศาจจะถามเช่นนี้ เขาจึงไม่ลังเลที่จะส่งเสียงบอกตำแหน่งที่แน่ชัดของถ้ำปีศาจที่ข้ารู้ให้แก่ผู้ที่อยู่ใกล้ที่สุด
นอกจากนี้ยังสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของปีศาจสิงโตเก้าหางในนั้นด้วย…
ถ้ำปีศาจเพิ่งเปิดเผยตำแหน่งออกมาเพียงสิบกว่าแห่ง หัวมังกรก็ปรากฏขึ้นอย่างชัดเจน ครั้งนี้มันไม่ได้พุ่งลงมาในทันที แต่กลับว่ายวนอยู่ในเมฆฟ้าคะนองหนาทึบ แล้วคำรามไปยังที่แห่งหนึ่ง
ไม่นาน ทางนั้นก็ส่งเสียงตอบกลับมา!
เสียงคำรามของมังกรดังขึ้นต่อเนื่อง ภาพอันน่าตื่นตาตื่นใจของมังกรโปร่งใสสามสิบสามตัวปรากฏขึ้นพร้อมกัน สั่นสะเทือนทั่วทั้งเขตแดนปีศาจ
การแปลงร่างของสายฟ้าถึงกับทักทายกันได้ด้วยหรือ?!.
พายุหมุนอย่างบ้าคลั่ง ฝุ่นผงนับไม่ถ้วนปลิวว่อนในอากาศ มังกรสายฟ้าทั้งสามสิบสามตัวพุ่งลงมาพร้อมกัน!
โม่จวินเจ๋อสลบไปอีกครั้ง พื้นดินใต้ร่างของเขากำลังทรุดตัว กระดูกซากศพนับไม่ถ้วนถูกสายฟ้าวายุพัดปลิวขึ้นมา กระดูกขาวเหล่านั้นถูกลมพัดพาและถูกสายฟ้าชำระล้าง แม้แต่กระดูกของเผ่าปีศาจอสูรที่แข็งแกร่งก็ทนไม่ไหว ล้วนแตกละเอียดเป็นผงธุลี
ผงดำขาวนับไม่ถ้วนปะปนกับฝุ่นดินถูกลมพัดพา เสียงลมหวีดหวิวราวกับเสียงร้องไห้ของผู้คนนับไม่ถ้วน
พวกเขาดูเหมือนจะอาศัยสายลมเล่าความเจ็บปวดและความสิ้นหวังของตน ประณามการกระทำของตัวการที่ก่อเรื่อง บางคนร้องไห้ออกมาโดยไม่รู้ตัว ได้แต่มองไปอย่างเหม่อลอย
สิงโตตัวผู้กอดผงเถ้าขาวร้องไห้อย่างเศร้าสลด ที่แท้ลูกอ่อนของเผ่าที่ถูกพาตัวไปถูกนำมาทำเป็นกำแพงกระดูก มังกรปีศาจช่างโหดร้ายยิ่งนัก!
ยังมีปีศาจอีกมากมายที่ร้องไห้อย่างไม่อาจระงับได้เช่นเดียวกัน ที่แท้เผ่าพันธุ์ของพวกเขาก็อยู่ในถ้ำปีศาจนี่เอง!
“ไม่น่าเชื่อว่าจะอยู่ในสถานที่เช่นนี้ ไม่แปลกเลยที่หาไม่พบ!”
“เมื่อครู่เมล็ดพันธุ์ปีศาจมีการตอบสนองต่อเจ้าหรือไม่?”
“มีถ้ำปีศาจอยู่กี่แห่งกันแน่? ต้นเหตุคือมังกรปีศาจใช่หรือไม่?”
“หรือว่าเป็นเจ้าวังปีศาจ?”
กลุ่มคนล้อมรอบเจ้าวังปีศาจ และหัวหน้าปีศาจที่เพิ่งถามถึงเมล็ดพันธุ์ปีศาจเมื่อครู่
“อาจมีถึงหนึ่งพันแห่ง… แต่เมล็ดพันธุ์ปีศาจบอกได้เพียงสิบกว่าแห่งเท่านั้น”
หัวหน้าปีศาจในตอนนี้ราวกับยังอยู่ในความฝัน หนึ่งพันถ้ำปีศาจกระดูกอะไรนั่น จำนวนกระดูกที่ต้องการนั้นมากมายมหาศาลเลยทีเดียว!
“ส่วนเรื่องที่ว่าเป็นมังกรปีศาจหรือไม่นั้น เมล็ดพันธุ์ปีศาจไม่ได้กล่าวถึง…”
ขณะที่หัวหน้าปีศาจตอบ เขาก็ใช้หางตาชำเลืองไปยังเจ้าวังปีศาจที่มีสีหน้าหม่นหมองอยู่ด้านข้าง
“หากเป็นข้าที่ทำจริง ตอนนี้ข้าคงไม่มาปรากฏตัวต่อหน้าพวกเจ้าหรอก!”
“ท่านพ่อ! ข้านำคนมาสนับสนุนท่านแล้ว อย่าไปอธิบายอะไรกับพวกเขามากนักเลย ลงมือ…”
องค์หญิงน้อยที่พยายามแทรกตัวเข้าไปในฝูงชนถูกหัวหน้าตะขาบมรกตปิดปากและลากตัวออกได้ทันท่วงที
เจ้าวังจ้องมองธิดาผู้กตัญญูถูกลากออกไปด้วยสายตาที่น่าขนลุกเป็นพิเศษ ราวกับอยากตบนางกลับไปเมืองปีศาจด้วยฝ่ามือเดียว!
“ทั้งครอบครัวของข้ามาพร้อมหน้าแล้ว นั่นคงเพียงพอที่จะพิสูจน์ความบริสุทธิ์แล้วกระมัง?”
เจ้าวังยื่นมือออกไปอุ้มฮวนฮวนเข้ามาในอ้อมกอด
“ท่านพ่อ ท่านไม่เป็นอะไรใช่ไหม!”
ฮวนฮวนมองสำรวจเจ้าวังด้วยความกังวล เมื่อพบว่าเขาไม่มีบาดแผลใด ๆ นางจึงถอนหายใจด้วยความโล่งอก นางไม่ได้ไร้หัวใจ การอยู่ร่วมกันในช่วงเวลาที่ผ่านมาก็ทำให้เกิดความรู้สึกบางอย่างขึ้นมาบ้าง
เจ้าวังส่ายหน้า เมื่อเผชิญหน้ากับฮวนฮวน สีหน้าอันเคร่งขรึมของเขาจึงผ่อนคลายลง
ความรักระหว่างพ่อลูกทำให้ความสงสัยของผู้คนที่มีต่อเจ้าวังปีศาจลดลงไปมาก กล้าพาครอบครัวมาด้วยขนาดนี้ หากไม่มั่นใจว่าสามารถหนีการล้อมได้ ก็อาจไม่ใช่ฝีมือของเขาจริง ๆ
เผ่าปีศาจที่มีจุดประสงค์ร่วมกันแบ่งออกเป็นสิบกว่ากลุ่มมุ่งหน้าไปสำรวจตำแหน่งถ้ำปีศาจของหัวหน้าปีศาจ ส่วนที่เหลือก็เฝ้าโม่จวินเจ๋อไว้ หากเขายังหายใจอยู่ก็จะฉวยโอกาสถามถึงตำแหน่งถ้ำปีศาจที่เหลือ
โม่จวินเจ๋อหายใจอย่างยากลำบาก ทุกลมหายใจเข้าออกทำให้ร่างกายปวดไปหมด ความเจ็บปวดที่ยากจะบรรยายทำให้เขาไม่สามารถคิดหรือพูดได้ แม้แต่การใช้เคล็ดวิชาเพื่อบรรเทาความเจ็บปวดก็ยังทำไม่ได้
เมื่อนึกถึงว่ายังมีสายฟ้าอีกกว่าสิบสาย เขาก็หน้ามืดและสลบไป
หลิงเยว่ที่อยู่อีกฟากหนึ่งมีสภาพดีกว่าโม่จวินเจ๋อมาก เพราะมีคนช่วยแบ่งเบาสายฟ้าถึงสามสิบเอ็ดคน!
“เหลืออีก… สามสายใช่ไหม?” หลิงเยว่นอนคว่ำอยู่ตรงหน้าต้นกล้าสีทอง พลางใช้จิตถามระบบ
[ใช่]
“ถ้าข้า… แค่ก! ผ่านพ้นไปได้ ชีวิตอีกหนึ่งชีวิตนี้จะยัง… มีประโยชน์อยู่หรือไม่?”
[มี]
หลิงเยว่เมื่อได้ยินดังนั้น จึงรู้สึกสบายใจและต่อสู้กับสายฟ้าในร่างกาย หากในอนาคตเข้าสู่เหวปีศาจแล้วโชคร้ายตายไป ก็ยังมีชีวิตอีกหนึ่งอยู่!
ภายในใจเต็มไปด้วยความหวังอันยิ่งใหญ่!
หลิงเยว่ผู้เต็มเปี่ยมด้วยความมุ่งมั่น ใช้เคล็ดวิชาได้คล่องแคล่วขึ้นเรื่อย ๆ การใช้วิชารักษาขั้นสูงไม่ได้ยากลำบากเหมือนตอนแรกอีกต่อไป
ปีศาจหกตนที่ถูกห่อหุ้มด้วยแสงเยียวยาต่างถอนหายใจ พวกเขารอดชีวิตอีกครั้งแล้ว!
พวกเขารอดชีวิตมาได้ แต่ผู้พิทักษ์ถ้ำปีศาจทั้งยี่สิบห้าคนกลับเหลือลมหายใจเพียงครึ่งเดียว
อดีตผู้นำเผ่าที่ปีนออกมาจากหลุมสายฟ้า พยายามคลานไปยังตำแหน่งที่หลิงเยว่อยู่อย่างยากลำบาก
“หลิง… เยว่… วิชาของเจ้า… จะใช้กับผู้โจมตีได้หรือไม่?”
หลิงเยว่ลืมตาขึ้น เหนือศีรษะของนางคือหัวกระทิงขนาดมหึมา เขาข้างหนึ่งแตกร้าว อีกข้างหักไปครึ่งหนึ่ง ดูเหมือนจะถูกทรมานด้วยสายฟ้าไม่น้อย
เมื่ออดีตผู้นำเผ่าถามเช่นนี้ หลิงเยว่พลันรับรู้ได้ถึงความต้องการของเขา หากผู้โจมตีพลาดพลั้งตายไปแล้วเหลือพวกเขาเจ็ดคนจะฝ่าทัณฑ์สวรรค์ที่เหลือได้อย่างไร?
“ข้าจะลองดู”
หลิงเยว่จึงใช้วิชารักษาขั้นสูงทันที ครั้งนี้แสงรักษาถูกแบ่งออกเป็นจำนวนมากเกินไป ทำให้แสงสว่างอ่อนลง เมื่อตกลงบนร่างของผู้โจมตีที่เกือบตายแล้วก็ทำให้พวกเขาฟื้นคืนมาได้เพียงหนึ่งในสิบส่วนเท่านั้น
นางมีพลังขอบเขตแสวงหาแล้ว เหตุใดการรักษาคนเพียงยี่สิบห้าคนจึงยากลำบากเช่นนี้? เป็นเพราะพลังวิญญาณถูกดึงออกเร็วเกินไปงั้นเหรอ?