ยอดกุ๊กบุกแดนเซียน - บทที่ 402 เกรงว่าจะพ่ายแพ้ยับเยิน!
บทที่ 402 เกรงว่าจะพ่ายแพ้ยับเยิน!
……….
บทที่ 402 เกรงว่าจะพ่ายแพ้ยับเยิน!
ในขณะที่สายฟ้าห้าสีจากมังกรประหลาดนับไม่ถ้วนตกลงมานั้น ท้องฟ้าของเขตแดนปีศาจก็กลายเป็นสีรุ้ง ช่างงดงามและน่าตื่นตาตื่นใจยิ่งนัก!
พื้นที่ของเหล่าปีศาจชั้นสูงถูกปกคลุมด้วยสายฟ้าห้าสีทั้งหมด สิ่งมีชีวิตต่างต้องจำใจรับมือกับการลงทัณฑ์จากสายฟ้า ระดับความรุนแรงขึ้นอยู่กับระดับพลังของแต่ละคน ไม่มีใครรอดพ้น แม้แต่ลูกอ่อนก็ถูกฟ้าผ่าเบา ๆ ด้วยเช่นกัน
ทุกคน “???”
พวกเขาก่อกรรมทำเข็ญอะไรไว้ ถึงต้องถูกลงทัณฑ์พร้อมกันทั้งหมดเช่นนี้?!
“ผู่…ตาน เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง?”
หัวหน้าตะขาบมรกตช่างมีน้ำใจ ทันทีที่สายฟ้าลามมาใกล้พวกเขา เขาก็แปลงร่างเป็นร่างเดิมและกระโจนไปปกป้องผู่ตานที่มีระดับการบำเพ็ญเพียงขอบเขตปฐมวิญญาณ
“ยัง… ไหวอยู่” ผู่ตานตอบพลางกลอกตาและพ่นเลือด สายฟ้าห้าสีที่เข้าสู่ร่างทำให้ร่างกายของเขาสั่นสะท้านไปทั้งตัว แต่ก็เป็นดังที่เขากล่าว ยังมีชีวิตอยู่
ตอนนี้สิ่งที่เขากังวลมากกว่าคือหลิงเยว่ที่อยู่ใจกลางของสายฟ้า เกรงว่าคงจะกลายเป็นเถ้าถ่านไปแล้ว โอ้… น่าสงสาร แม้แต่เถ้ากระดูกก็คงถูกฟ้าผ่าจนไม่เหลือแล้วกระมัง?
ผู่ตานกำลังจะร่ำไห้ไว้อาลัยให้กับวิญญาณของศิษย์น้องสุดที่รัก แต่เพิ่งจะอ้าปาก เขาก็ถูกสายฟ้าห้าสีขนาดเท่ากำปั้นทารกฟาดจนสลบไปเสียก่อน
หัวหน้าตะขาบมรกตร่างกายว่องไว หลบซ้ายหลบขวา แต่สุดท้ายก็ไม่อาจหลบพ้นห่าฝนจากสายฟ้าที่ตกหนาทึบจนไม่มีช่องว่างให้หลบได้
“นี่มันฝนอะไรกัน แถมยังมีทัณฑ์สวรรค์อีก”
เหล่าผู้เคราะห์ร้ายถูกฟาดจนสลบไปทีละคน ไม่มีใครสามารถรักษาสติได้ ราวกับว่าเผ่าปีศาจอสูรระดับสูงถูกทำลายในพริบตา ทุกอย่างเงียบสงัด เหลือเพียงเสียงฟ้าผ่าที่ทำลายล้างสิ่งมีชีวิตดังเปรีัยงปร้าง
ฝนสายฟ้าห้าสีงดงามและเจิดจ้า แต่กลับทำให้ผู้สังเกตการณ์อีกด้านหนึ่งรู้สึกหวาดกลัวและตกใจ ไม่อาจเข้าใจความงามของมันได้เลย รู้สึกเพียงแต่สยองขวัญและน่าสะพรึงกลัวเท่านั้น
“ทางนั้น… คงไม่ตายกันหมดหรอกนะ?”
“ข้าติดต่อคนที่ส่งไปไม่ได้แล้ว”
“ข้าเช่นกัน…”
“แย่แล้ว คงจะพ่ายแพ้ยับเยินไปทั้งกองทัพ!”
ผู้สังเกตการณ์สีหน้าซีดเผือด ในใจร้อนรนแต่ไม่กล้าไปสำรวจดู เพราะยิ่งสวยงามก็ยิ่งอันตราย!
“ข้าจะไปดูเอง คราวนี้พวกเจ้าคงไม่ขัดข้าอีกกระมัง?”
“ท่านพ่อ หากท่านจะไป ต้องทิ้งน้องสาวไว้ด้วย หากเกิดเรื่องร้ายขึ้น ข้าจะได้มีเพื่อน”
เจ้าวัง “???”
นี่เป็นคำพูดที่ลูกสาวควรพูดกับพ่อแท้ ๆ หรือ!
“ฮวนฮวนอยากไปดูด้วย”
มีเพียงฮวนฮวนที่รู้สึกว่าฝนห้าสีสวยงามจนเธอละสายตาไม่ได้
“น้องสาวอย่าไปเลย รอให้ท่านพ่อของพวกเราตายไป พวกเราพี่น้องจะได้รับสืบทอดเมืองปีศาจ และได้เสวยสุขในความมั่งคั่งร่ำรวย…”
ในที่สุดเจ้าวังก็ทนไม่ไหว ตบลูกสาวผู้กตัญญูของตนไปทีหนึ่ง แล้วกำลังจะพาฮวนฮวนไปสำรวจดู แต่ผลคือลมพายุที่พัดกระหน่ำขึ้นมาอย่างกะทันหัน และสายฟ้าจำนวนมากได้ขวางทางของพวกเขาไว้
เมฆฝนฟ้าคะนองของเมล็ดพันธุ์ปีศาจรวมตัวกันอีกครั้ง คราวนี้รุนแรงกว่าครั้งก่อน ทำให้ผู้คนไม่ทันได้ตั้งตัว พร้อมกับมังกรสายฟ้ารัตติกาลที่ฟาดลงมาอย่างรุนแรง
พลังที่เหลือจากทัณฑ์สวรรค์ได้ส่งผลกระทบไปถึงผู้ชมทั้งหมด แม้แต่ผมของฮวนฮวนก็ฟูขึ้นมา!
“!!!”
เหตุใดครั้งนี้จึงไม่มีสัญญาณอะไรเลย!
ผู้คนที่มุงดูด้วยทรงผมฟูฟ่องรีบถอยออกไปอย่างรวดเร็ว พร้อมกับเงยหน้ามองฟ้า ด้วยดวงตาเต็มไปด้วยความสงสัย เมล็ดพันธุ์ปีศาจทำสิ่งใดกัน ถึงต้องฝ่าทัณฑ์สวรรค์มากมายเช่นนี้?
หลังจากผ่านพ้นไปแล้ว คงไม่ใช่ว่าจะเข้าสู่ขอบเขตพ้นโลกีย์กระมัง?!
เหตุใดจึงทำสิ่งโหดร้ายเช่นนี้เพียงลำพัง ไม่พาพวกข้าไปด้วยเล่า!
นี่คือเสียงจากใจของผู้คนที่มุงดูมากมาย ในขณะที่หวาดกลัวตกใจก็อิจฉาเสียเหลือเกิน อยากจะฆ่าตัวตายแล้วอธิษฐานขอให้ได้เกิดเป็นเมล็ดพันธุ์ปีศาจด้วยเถิด!
โม่จวินเจ๋อที่เพิ่งได้รับการรักษาจากสายฝนปีศาจเมื่อครู่ ร่างกายของเขากลับระเบิดอีกครั้ง หางมังกรเหลือเพียงกระดูกสีดำ เขามังกรเหลือเพียงครึ่งเดียว กรงเล็บทั้งห้าเหลือเพียงสอง ส่วนบาดแผลอื่นยังคงฉีกขาด กลิ่นคาวเลือดยิ่งรุนแรงขึ้น
ลูกแก้วศักดิ์สิทธิ์ที่สูญเสียพลังไปครึ่งหนึ่งรีบรักษาโม่จวินเจ๋ออย่างร้อนรน แต่การฟื้นฟูบาดแผลช้าเกินไป หากฟ้าผ่าลงมาอีกครั้ง เจ้านายของมันอาจตายเป็นแน่!
“ไม่เป็นไร ข้าจะฟื้นฟูเอง”
โม่จวินเจ๋อพูดด้วยน้ำเสียงสงบนิ่ง เขาเริ่มใช้เคล็ดวิชา พยายามเปลี่ยนสายฟ้าที่ทำลายร่างกายของเขาให้เป็นประโยชน์!
ผู้ที่ไม่มีแก่นปราณสายฟ้าต้องการจะควบคุมสายฟ้า ซึ่งทรมานกว่าการฝ่าทัณฑ์สวรรค์ร้อยเท่าพันเท่า ร่างกายของโม่จวินเจ๋อที่เดิมยับเยินอยู่แล้วยิ่งยับเยินหนักขึ้นไปอีก แต่เขากัดฟันอดทนไม่ร้องครวญครางออกมาสักแอะ หากไม่มีแก่นปราณอสนี ก็สร้างขึ้นมาเองสิ!
ดวงตาของโม่จวินเจ๋อเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น เขาจับจ้องสายฟ้าเส้นที่ใหญ่ที่สุดและมีพลังทำลายล้างมากที่สุดในร่างกาย ร่างปฐมวิญญาณที่แตกสลายยื่นมือทั้งสองออกไปคว้าสายฟ้าที่ใหญ่กว่าร่างกาย แล้วกลืนเข้าในคราวเดียว
ร่างกายของร่างปฐมวิญญาณกำลังแตกร้าว โม่จวินเจ๋อเจ็บปวดจนกระสับกระส่ายไปมา ร่างกายอันใหญ่โตของเขากระแทกสายฟ้าที่ยังคงโถมเข้ามาไม่หยุด ฟันของเขาแทบจะถูกบดเป็นผุยผง เลือดไหลออกมาจากทวารทั้งเจ็ดแห่ง…
“เมล็ดพันธุ์ปีศาจ เจ้าจะ… ทนไม่ไหวแล้วหรือ?”
ความเคลื่อนไหวอันยิ่งใหญ่ดึงดูดความสนใจของผู้ชมเข้ามา พวกเขาไม่สามารถมองเห็นโม่จวินเจ๋อที่ถูกปกคลุมด้วยสายฟ้าหนาทึบได้อย่างชัดเจน แต่พอจะเห็นเค้าโครงคล้ายงูหรือมังกรสักอย่าง
“ท่านพ่อ เขาน่าสงสารเหลือเกิน”
ตอนนี้ฮวนฮวนเรียกเจ้าวังว่าท่านพ่อได้อย่างคล่องปาก ดวงตาของนางเต็มไปด้วยความเห็นอกเห็นใจและสงสารเมื่อมองไปยังสายฟ้าที่กำลังพลิกกลับไปมา
เจ้าวังถอนหายใจเบา ๆ แล้วจัดทรงผมฟูฟ่องของฮวนฮวนให้เรียบร้อย “นี่คือทัณฑ์สวรรค์ที่ผู้ฝึกฝนทุกคนต้องผ่าน ไม่มีใครช่วยได้ ต้องพึ่งพาตนเองเท่านั้น”
แน่นอนว่าพวกเขามีคนมากมายขนาดนี้ จริง ๆ แล้วสามารถเข้าไปช่วยแบ่งเบาได้ แต่การช่วยฝ่าทัณฑ์สวรรค์ที่ไม่ใช่ของตัวเอง ต้องรับมือกับสายฟ้าที่รุนแรงกว่าเจ้าของทัณฑ์สวรรค์หลายเท่าหรือแม้กระทั่งหลายสิบเท่า ใครเล่าจะยอมรับสายฟ้าที่ทรงพลังขนาดนี้เพื่อเมล็ดพันธุ์ปีศาจ?
ไม่มีใครยอมหรอก!
“เมล็ดพันธุ์ปีศาจ ตำแหน่งถ้ำปีศาจที่เหลือ…”
หัวหน้าเผ่าปีศาจพยายามส่งเสียงไปหาโม่จวินเจ๋อ ก่อนหน้านี้เมล็ดพันธุ์ปีศาจมักจะตอบกลับเสมอ แต่ครั้งนี้ผ่านไปนานแล้วยังไม่มีการตอบรับ หากไม่ใช่เพราะยังมีสิ่งมีชีวิตกำลังดิ้นรนอยู่กลางสายฟ้า ทุกคนคงคิดว่าเมล็ดพันธุ์ปีศาจตายไปแล้วจริง ๆ
“สายฟ้ามาอีกแล้ว…”
ผู้ชมที่หลบไปไกลแล้วต่างถอยหลังออกไปอีกทันที พร้อมกับมองไปยังศีรษะมังกรสีทองเข้มที่โผล่ออกมาจากเมฆฝน
“ทัณฑ์สวรรค์ระดับราชา…”
กลืนน้ำลายอึกใหญ่พร้อมกับถอยหลังเป็นจังหวะเดียวกัน จนกระทั่งถอยไม่ได้อีก ผู้ชมจึงหยุดลง
โม่จวินเจ๋อลืมตาขึ้นด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยเส้นเลือด มองดูหัวมังกรอย่างเย็นชา วัตถุดิบสำหรับสร้างแก่นปราณยังขาดอยู่บ้าง เขา…ยังต้องการอีกสักหน่อย!
กรงเล็บมังกรที่แหลกสลายค้ำยันร่างกายให้ลุกขึ้นยืน ร่างมังกรสั่นสะท้าน เลือดไหลไม่ขาดสาย โม่จวินเจ๋อขมวดคิ้วแน่น เขากำลังทนรับความเจ็บปวดรุนแรงที่คนทั่วไปไม่อาจทนได้
เขาแหงนหน้าร้องคำรามก้องฟ้า จากนั้นก็ไม่รู้ว่าพลังมาจากไหนที่ส่งร่างเขาพุ่งทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า!
ผู้คนที่มุงดูอยู่เห็นเงาดำพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าอย่างรวดเร็ว ต่างตะลึงงัน
“เขาคิดจะ… ทำอะไร? ฆ่าตัวตายหรือ?”
“ดิ้นรนก่อนตาย? หรือจะโจมตีก่อนตาย?”
“ด้วยสภาพกึ่งตายแบบนั้นยังจะโจมตีก่อนได้อีกหรือ?”
ไม่ใช่ว่าผู้คนดูถูกโม่จวินเจ๋อ แต่หากเป็นตอนที่เขาอยู่ในช่วงรุ่งโรจน์ บางทีเขาอาจจะสามารถฝ่าทัณฑ์สวรรค์ได้ก่อนที่มันจะก่อตัวเต็มที่
แต่ตอนนี้ มันเป็นเพียงการวิ่งเข้าหาความตายเท่านั้น!
……….