ยอดกุ๊กบุกแดนเซียน - บทที่ 403 ถูกฟาดจนหาเถ้าถ่านไม่เจอ
บทที่ 403 ถูกฟาดจนหาเถ้าถ่านไม่เจอ
……….
บทที่ 403 ถูกฟาดจนหาเถ้าถ่านไม่เจอ
การกล่าวว่าเมล็ดพันธุ์ปีศาจรนหาที่ตายนั้น ยังนับว่าประเมินเขาสูงเกินไป เพราะโม่จวินเจ๋อบินไปได้ครึ่งทางก็หมดแรงเสียแล้ว…
บางคนทนดูไม่ไหว ยกมือปิดตาทั้งสองข้าง แค่จะแตะต้องทัณฑ์สวรรค์ยังทำไม่ได้ แล้วจะต่อสู้ได้อย่างไร?
ขณะที่ร่างของโม่จวินเจ๋อกำลังจะกระแทกพื้น แสงใส ๆ ก็โอบล้อมเขาไว้อย่างอ่อนโยน และพาเขาลอยขึ้นไปอีกครั้งด้วยความรวดเร็ว ในชั่วพริบตาก็ไปอยู่หน้าทัณฑ์สวรรค์นั้นแล้ว
ถือว่าโม่จวินเจ๋อเป็นคนใจกล้าเช่นกัน เขาอ้าปากกลืนหัวมังกรสีทองเข้มที่มีขนาดใกล้เคียงกับตัวเขา
เสียงฟ้าคำรามส่องสว่างไปทั่วพื้นที่ ครึ่งหนึ่งของท้องฟ้าเป็นสีรุ้ง ส่วนอีกครึ่งหนึ่งเป็นสีทองเข้ม!
ปรากฏการณ์แปลกประหลาดนี้ดำเนินไปอย่างยาวนาน จนกระทั่งมีร่างหนึ่งถูกกรงเล็บมังกรสีแดงเข้มจับไว้ และถูกฟาดลงพื้นอย่างรุนแรง ผู้คนจึงได้สติกลับมา
ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่ท้องฟ้าสีทองเข้มถูกแทนที่ด้วยสีแดงเข้ม
“เมล็ดพันธุ์ปีศาจทำสำเร็จแล้ว!”
เจ้าวังปีศาจรู้สึกชื่นชมยิ่งนัก เขานับถือเมล็ดพันธุ์ปีศาจว่าเป็นลูกผู้ชายตัวจริง!
“เขาทำได้แล้วจะอย่างไรเล่า?”
ผู้ชมไม่ได้ตั้งใจจะทำลายขวัญกำลังใจ แต่เป็นเพราะสายฟ้ามังกรอัคคีครั้งที่ยี่สิบเก้าได้ก่อตัวขึ้นโดยไม่รู้ตัว เมื่อสายตาของมังกรอสนีสีแดงเข้มทอดมองไปทางใด ผู้คนต่างไม่กล้าแม้แต่จะหายใจ ไม่ต้องพูดถึงการขยับตัว เพราะพวกเขาแทบจะคุกเข่าอยู่ตรงนั้นแล้ว!
หากเมล็ดพันธุ์ปีศาจรับทัณฑ์สวรรค์สายนี้ มันต้องตายแน่!
ชั่วขณะที่โม่จวินเจ๋อถูกซัดลงไปในหลุมสายฟ้า มังกรอสนีก็พุ่งตามลงไปด้วย!
ทั้งสองพบกันในหลุมสายฟ้า โม่จวินเจ๋อไม่ได้หลบหนี แต่กลับเผชิญหน้าเข้าไป
สายฟ้าพุ่งขึ้นจากหลุมสู่ท้องฟ้า สายฟ้าหลากสีกระจัดกระจายไปทั่ว ราวกับทั้งสองกำลังต่อสู้กัน…
กำลังต่อสู้กัน…?
ด้วยร่างกายที่แทบไม่เหลือลมหายใจของเมล็ดพันธุ์ปีศาจ จะเป็นคู่ต่อสู้ของสายฟ้าที่แข็งแกร่งได้อย่างไร?
แม้รู้ว่าไม่ใช่คู่ต่อสู้ แต่โม่จวินเจ๋อยังคงพยายามควบคุมทัณฑ์สวรรค์อสนีที่รุกล้ำเข้ามาในร่างกาย ขณะนี้ในร่างของเขามีทัณฑ์สวรรค์สามสีสลับกันไปมา ใบหน้าที่เคยหล่อเหลาเย็นชาของร่างปฐมวิญญาณเปลี่ยนไปจนแทบจำไม่ได้ แต่ปากเล็ก ๆ ยังคงพยายามขยับไปมา
ร่างปฐมวิญญาณของโม่จวินเจ๋อกำลังกลืนกินสายฟ้าเหล่านั้น
ไม่รู้ว่าไปเรียนรู้มาจากที่ไหนกัน?
โม่จวินเจ๋ออยากจะหัวเราะ แต่น่าเสียดายที่ในปากมีเสียงดังตูมตาม จนหัวเราะไม่ออก
ตอนนี้ลูกแก้ววิญญาณยุ่งมาก มันต้องซ่อมแซมร่างกายของโม่จวินเจ๋อ และช่วยร่างปฐมวิญญาณกลืนกินสายฟ้าด้วย
โชคดีที่หลิงเยว่เตรียมพร้อมก่อนทัณฑ์สวรรค์ครั้งสุดท้ายของตนจะมาถึง นางซื้อโอสถฟื้นปราณระดับเทพด้วยค่าพลังวิญญาณที่เหลือทั้งหมด เพื่อเป็นแหล่งพลังวิญญาณให้กับลูกแก้ววิญญาณ
แน่นอนว่าเพื่อตัวนางเองด้วย
ตอนนี้หลิงเยว่รู้สึกว่าวิญญาณของตนหลุดลอยออกมา
นางก้มมองร่างกายของตนเองที่ไม่อาจเรียกว่าร่างกายได้อีกต่อไป นี่มันไม่ใช่โครงกระดูกที่ถูกฟ้าผ่าจนแตกกระจายหรือ?
บนโครงกระดูกมีใบหน้าคุ้นเคยปรากฏขึ้นเป็นระยะ นั่นคือ… วิญญาณที่เหลืออยู่ของบรรพบุรุษในร่างของหลิงเยว่?!
“ท่านอาวุโส พวกท่านรีบออกมาเถิด!”
ไม่ว่าหลิงเยว่จะร้องเรียกอย่างไร วิญญาณที่เหลือดูเหมือนจะไม่ได้ยิน พวกเขาปรากฏตัวขึ้นทีละคนแล้วหายไป
เมื่อพวกเขาพยายามอย่างไม่ลดละ โครงกระดูกที่แตกกระจายก็มีร่องรอยของการกลับคืนสภาพ พร้อมกับปฐมวิญญาณที่แตกสลายไปแล้ว ยังค่อย ๆ ถูกประกอบคืนทีละน้อย ปรากฏเป็นแสงสว่างโปร่งใสชั้นหนึ่งห่อหุ้มนางไว้
พวกเขากำลังช่วยนางหรือ?
นางหมดสภาพขนาดนั้นแล้ว นางจะมีชีวิตอยู่ได้อีกหรือ?
ดวงตาของหลิงเยว่แดงก่ำ นางอยากจะขัดขวางการกระทำที่เหมือนการส่งตัวเองไปตายของบรรดาวิญญาณอาวุโส แต่กลับถูกพลังที่มองไม่เห็นกีดกันไว้ภายนอก
“ระบบ รีบปล่อยข้าไปเดี๋ยวนี้!”
[แน่ใจหรือ? หากเข้าไปแล้ว วิญญาณของเจ้าจะไม่สามารถเข้าสู่ร่างอื่นได้อีก]
“แน่ใจ!”
หลิงเยว่ไม่ลังเลแม้แต่น้อย อย่างมากก็ตายไปด้วยกัน!
เมื่อถูกปล่อยให้เป็นอิสระ หลิงเยว่ก็เข้าสู่ร่างที่แตกสลายของตน ชั่วขณะที่ร่างและจิตรวมเป็นหนึ่ง แสงสีขาวแผ่ซ่านไปทั่วร่างของนาง ภายในแสงสีขาวนั้นยังมีสีอื่น ๆ สลับกันไปมา สายฟ้าไม่ได้ทำลายกระดูกของนาง แต่กลับทำให้กระดูกแข็งแกร่งขึ้น
ดอกไม้สีดำผลิบานบนโครงกระดูก ดอกไม้ปีศาจแผ่คลุมหลิงเยว่เพื่อช่วยนางดูดซับทัณฑ์สวรรค์ ดอกไม้สีดำเล็ก ๆ กลายเป็นเส้นด้ายสีดำยาว เชื่อมต่อกระดูกที่แยกออกจากกัน
วิญญาณที่เหลืออยู่เห็นหลิงเยว่กลับมา พวกเขาจึงไหลเข้าสู่จิตวิญญาณของนาง เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้พลังวิญญาณของหลิงเยว่!
วมือของโครงกระดูกที่ปกคลุมด้วยดอกไม้ปีศาจเริ่มขยับ จากนั้นดวงตาของหลิงเยว่ก็เปิดขึ้น ดวงตาสีทองและเขียวเปล่งประกายวาววับ
ร่างปฐมวิญญาณที่แตกสลายถูกประกอบขึ้นใหม่ทีละน้อยโดยลูกแก้ววิญญาณ ร่างปฐมวิญญาณที่เดิมมีเพียงห้าสีกลับกลายเป็นเจ็ดสี เพิ่มสีขาวบริสุทธิ์และสีใสเข้าไปด้วย… มันยิ่ง… น่าเกลียดกว่าเดิม!
หลิงเยว่และร่างปฐมวิญญาณสบตากัน ฝ่ายแรกหดหู่ ฝ่ายหลังกลับยิ้มกว้างด้วยความยินดี ยิ่งมีสีมากหมายถึงความแข็งแกร่ง ร่างปฐมวิญญาณอยากรวบรวมสีสันทั้งหมดในโลกมาไว้บนตัวเอง!
สถานการณ์ค่อย ๆ ดำเนินไปในทิศทางที่ดีขึ้น
เมื่อเห็นเช่นนั้น ระบบแอบถอนหายใจด้วยความโล่งอก ดีแล้วที่หลิงเยว่ไม่ได้สละร่างนี้
ต้นกล้าสีทองนั้นเป็นอีกชีวิตหนึ่งจริง แต่มันเป็นเพียงต้นกล้าอ่อน การจะมีจิตสำนึกและแปลงกายได้ คงต้องใช้เวลาหลายหมื่นหลายแสนปี… ดังนั้นการเข้าสิงร่างต้นกล้าสีทองจึงเป็นทางเลือกที่แย่ที่สุด หากรอให้หลิงเยว่ฟื้นคืนสติ โลกแห่งการบำเพ็ญเซียนคงกลายเป็นดินแดนแห่งความตายไปแล้ว
หลิงเยว่ที่ลืมตาขึ้นก็หลับตาลงอีกครั้ง แสงสว่างต่าง ๆ บนร่างพลันหายไป
พื้นที่ของปีศาจระดับสูงกลับสู่ความเงียบสงบอีกครั้ง มีเพียงดอกไม้ปีศาจบนกระดูกของหลิงเยว่ที่บานแล้วโรยไป หมุนเวียนไม่สิ้นสุด…
บริเวณที่ถูกสายฟ้ามังกรห้าสีถล่ม ได้ก่อตัวเป็นกำแพงกั้นผู้คนด้านนอกเอาไว้
“เหตุใดจึงเป็นเช่นนี้?”
“ไม่เคยได้ยินมาก่อนว่าหลังจากฝ่าทัณฑ์สวรรค์แล้วจะห้ามคนนอกเข้าไป!”
“ข้างในนั้นคงไม่มีใครรอดชีวิตแล้วกระมัง?”
พวกช่างสงสัยยืนอยู่นอกเขตกั้นพยายามมองเข้าไปข้างใน แต่น่าเสียดายที่เห็นเพียงบ่อสายฟ้าห้าสี ไม่เห็นสิ่งมีชีวิตใด ๆ เลย
“ผู้รับทัณฑ์สวรรค์ล้มเหลวแล้ว… หรือ?”
“ช่างโหดร้ายนัก ถึงกับลากผู้คนมากมายมาตายตามนางเช่นนี้!”
“พูดเช่นนั้นคงเร็วเกินไป สายฟ้ายังไม่จางหาย แสดงว่าผู้รับทัณฑ์สวรรค์ยังมีสติอยู่ หากนางสามารถทนได้จนกระทั่งสายฟ้าจางหาย และรอสายฝนปีศาจโปรยลงมาได้ ผู้คนที่ช่วยนางรับทัณฑ์สวรรค์ก็ยังมีโอกาสรอด!”
ทัณฑ์สวรรค์ที่มองไม่เห็นจุดสิ้นสุดนี้จะจางหายเมื่อใดกัน?
ขณะที่พวกเขากำลังพูดคุยกันอยู่นั้น อีกด้านหนึ่งของฟากฟ้าก็เปลี่ยนสีไป หัวมังกรสีเงินปรากฏขึ้นอีกครั้ง!
เงาดำกระโจนขึ้นสู่ท้องฟ้า พุ่งไปหามังกรสีเงินที่โบยบินอยู่ในเมฆ
หนึ่งสีเงินและหนึ่งเงาดำปรากฏเป็นระยะ พร้อมกับสายฟ้าที่ฟาดลงมาไม่หยุดหย่อน เงาดำถูกฟาดร่วงลงมาแล้วบินขึ้นไปใหม่ พลังวิญญาณอันแกร่งกล้าทำให้ผู้ชมตะลึงพรึงเพริด
ลมหายใจสุดท้ายของเมล็ดพันธุ์ปีศาจนั้น ทำไมถึงใช้ไม่หมดเสียที!? ทั้งที่ทัณฑ์สวรรค์รุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ตามหลักแล้ว มันควรถูกฟาดจนหาเถ้าถ่านไม่เจอแล้วสิ…
……….