ยอดกุ๊กบุกแดนเซียน - บทที่ 410 คำอธิบายนี้สมเหตุสมผลมาก!
บทที่ 410 คำอธิบายนี้สมเหตุสมผลมาก!
……….
บทที่ 410 คำอธิบายนี้สมเหตุสมผลมาก!
ผู้คนที่มุงดูนึกถึงร่างกายอมตะของเมล็ดพันธุ์ปีศาจ ทำให้ทั้งร่างร้อนผ่าว
น่าเสียดายที่ตอนนี้เมล็ดพันธุ์ปีศาจหายไป ทำให้ความรู้สึกฮึกเหิมของพวกเขาดับมอดลงไปด้วย เว้นแต่ว่าพวกเขาจะแข็งแกร่งกว่าทัณฑ์สวรรค์ทั้งสามสิบเจ็ดสาย มิฉะนั้นคงเป็นไปไม่ได้เลยที่จะได้มันมา
เสียงถอนหายใจดังขึ้นต่อเนื่อง ผู้คนที่มุงดูมองดูพื้นที่ที่เคยถูกสายฟ้าทำลายอย่างอาลัยอาวรณ์ ซึ่งตอนนี้ได้รับการหล่อเลี้ยงด้วยสายฝนปีศาจจนสมุนไพรปีศาจงอกขึ้นมาใหม่แล้ว พวกเขาก็หันหลังจากไป
หลังจากพวกเขาออกไป เขตแดนปีศาจก็เกิดกระแสการค้นหาถ้ำปีศาจหอคอยกระดูกขึ้น โดยเฉพาะเผ่าปีศาจอสูรที่แทบจะออกตามหากันทั้งเผ่า พวกเขาค้นหาตามที่ต่าง ๆ ทั้งใต้ดินและในภูเขา จึงพบถ้ำหลายแห่งที่ยังสมบูรณ์อยู่!
ในตอนนี้สิงโตขนเงินได้รับรู้จากอดีตผู้นำเผ่าถึงชะตากรรมของลูกหลานในเผ่าที่หายไป ว่าพวกเขาคงถูกนำไปใช้เป็นศูนย์กลางของถ้าปีศาจทั้งหมด
ข่าวนี้ทำให้สิงโตขนเงินยอมรับไม่ได้ พวกเขาเคยคิดว่าลูกหลานอาจเสียชีวิต แต่ไม่เคยคิดว่าจะสูญเสียชีวิตด้วยวิธีที่โหดร้ายเช่นนี้!
“นี่คือ… สิ่งที่ข้าพบในถ้ำปีศาจ” นางพญางูลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แล้วหยิบซากศพของลูกหลานที่ยังสมบูรณ์ออกมาจากแหวนเก็บของ
มือของสิงโตขนเงินที่รับซากศพมาสั่นเทา แม้ว่าจะดูอายุเพียงยี่สิบกว่าปี แต่ทุกคนกลับรู้สึกราวกับว่านางแก่ลงในทันทีที่สัมผัสกับซากกระดูก
“ทำไมเงียบเช่นนี้?”
หลิงเยว่กลับมายังเผ่ากระทิงทำลายบรรยากาศอันหนักอึ้งลง
ฝูงชนเปิดทางให้โดยสมัครใจ ไม่จำเป็นต้องรอคำตอบจากพวกเขา หลิงเยว่ก็เงียบลงเมื่อเห็นโครงกระดูกเล็ก ๆ และซ่อนโม่จวินเจ๋อไว้โดยไม่รู้ตัว
แม้เรื่องนี้ไม่ใช่ฝีมือของโม่จวินเจ๋อ แต่ใครใช้ให้เขาเคยปลอมตัวเป็นมังกรปีศาจไปก่อกวนในเขตแดนปีศาจล่ะ?
หากปรากฏตัวในร่างจริงที่นี่ คงไม่ต้องคิดเลย เขาจะต้องถูกรุมทำร้ายอย่างแน่นอน
“ข้าอยากไปตามหามังกรปีศาจ” นี่คือประโยคแรกที่สิงโตขนเงินกล่าวเมื่อพบหลิงเยว่
“อยากตามหามังกรปีศาจหรือ? เจ้าต้องฝ่าเขตแดนปีศาจเข้าไปในโลกวิญญาณถึงจะพบนางได้”
“หมายความว่าอย่างไร?” สิงโตขนเงินถามชิงหลง นางไม่เข้าใจประโยคนั้นเท่าไหร่นัก
“นางคงหมายความว่ามังกรปีศาจออกจากเขตแดนปีศาจไปแล้ว กลับไปยังโลกวิญญาณ?” ผู่ตานเคยหมดสติไปก่อนที่จะเข้าเขตแดนปีศาจ เขาจำไม่ได้เลยว่าเข้ามาได้อย่างไร บางทีศิษย์น้องอาจพาพวกเขาเข้ามาพร้อมมังกรปีศาจจริง ๆ ก็ได้
ตอนนี้แผนการของมังกรปีศาจถูกเปิดโปง ทำให้ทุกคนโกรธแค้น แม้นางจะแข็งแกร่ง แต่พลังก็ถูกจำกัดไว้ที่ขอบเขตฝ่าทัณฑ์สวรรค์ขั้นปลาย ในเขตแดนปีศาจมีผู้แข็งแกร่งมากมาย หากรวมพลังกันก็มีโอกาสสูงที่จะถลกหนังและถอนเอ็นมังกรได้ ดังนั้นนางจึงหนีไปใช่ไหม!
หลิงเยว่พยักหน้าหงึก ๆ นางไม่คิดว่าผู่ตานจะมีความคิดเช่นนี้ คำอธิบายนี้สมเหตุสมผลมาก! ด้วยเหตุนี้ นางไม่จำเป็นต้องอธิบายปัญหาเรื่องมังกรปลอมมังกรจริงอีกต่อไป
มหาปุโรหิตผู้รู้ความจริงได้ส่งสายตาอันลึกซึ้งให้แก่หลิงเยว่ ที่กำลังตอบกลับด้วยรอยยิ้ม
“นางทำอย่างไรถึงเข้าออกเขตแดนปีศาจและโลกวิญญาณได้ตามใจชอบ?” ผู้นำเผ่าคนก่อนเชื่อในการคาดเดาของผู่ตาน มิเช่นนั้นมังกรจะหายไปอย่างไร้ร่องรอยได้อย่างไร?
ตามนิสัยอวดโอ่ของมังกรปีศาจ หากไม่ใช่ฝีมือของนาง นางคงออกมาฆ่าฟันกันใหญ่แล้ว จะยอมให้ผู้ใดโยนน้ำสกปรกใส่ตัวนางได้อย่างไร?
หลิงเยว่และผู่ตานพร้อมใจกันส่ายหน้า
“หากยังไม่อาจหามังกรมาแก้แค้นได้ในตอนนี้ ทำไมเราไม่…”
“ทำลายแผนการของนางเสีย!”
สิงโตขนเงินต่อประโยคที่หลิงเยว่ยังพูดไม่จบ ตอนนี้นางได้รับกลิ่นอายของลูกอ่อนแล้ว ย่อมสามารถใช้วิชาย้อนรอย เพื่อหาซากศพของพวกพ้องได้!
เช่นนี้ก็สามารถหาถ้ำปีศาจได้มิใช่หรือ?
“ร่วมมือกันหรือ? งั้นเผ่าของพวกข้าจะส่งคนไป ส่วนเจ้าใช้วิชานำทางไปแล้วกัน”
ผู้นำเผ่าวัวงามอยากได้วิชาย้อนรอยของปีศาจสิงโตเก้าหางมานานแล้ว การร่วมมือกันย่อมช่วยลดการเดินทางผิดทางไปได้มาก
“พวกข้ามนุษย์ก็ร่วมด้วย…”
เผ่าต่าง ๆ ที่อยู่ในที่นั้นต่างเห็นพ้องต้องกัน เตรียมจับมือกันทำการใหญ่
หลิงเยว่เห็นว่าไม่มีธุระอะไรแล้ว จึงเอ่ยปากว่า “งั้นข้าต้องไปเก็บตัวบำเพ็ญก่อนนะ”
“เก็บตัวบำเพ็ญอีกแล้วรึ?!” ผู้นำเผ่าวัวป่าเพิ่งเคยเห็นมนุษย์ที่ชอบเก็บตัวบำเพ็ญขนาดนี้ เขาไม่เคยเห็นพวกหลินชิงจะเก็บตัวบ่อยขนาดนี้เลย พวกนั้นมักจะเที่ยวไปมาในเขตแดนปีศาจทั้งวัน
หลิงเยว่ยิ้มแหย ๆ นางกลัวว่าหากอยู่นานกว่านี้ ผู้นำเผ่าวัวงามจะขอหินปีศาจจากนาง แถมก่อนจากไปนางยังลากผู่ตานและหัวหน้าตะขาบมรกตไปด้วย ส่วนชิงหลงและผู้นำเผ่าทิงมี่ก็ตามมาเอง
“ท่านผู้อาวุโส พวกท่านช่วยไปหาหินปีศาจมาให้ข้าอีกได้หรือไม่?”
เมื่อมาถึงห้องใต้ดินที่ขุดไว้ชั่วคราวสำหรับการบำเพ็ญ หลิงเยว่กล่าวอย่างอ้อมค้อมกับชิงหลงและผู้นำเผ่าทิงมี่
นางแสดงเจตนาชัดเจนว่า ให้พวกเขาไปแย่งชิงหินปีศาจ
“หินปีศาจมากมายขนาดนั้นเจ้าใช้หมดแล้วหรือ?” ผู้นำเผ่าทิงมี่ มองสีหน้าของหลิงเยว่ราวกับกำลังมองสิ่งมีชีวิตประหลาด นั่นมันหินปีศาจจากเมืองนับสิบเมืองเชียวนะ!
พอผู่ตานได้ยินว่าหลิงเยว่ต้องการหินปีศาจ ก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาทันที
“ศิษย์น้อง ข้าเป็นศิษย์พี่ร่วมสำนักของเจ้า ข้ามีหินปีศาจมากมายนะ!”
ในพริบตาหินปีศาจก็เต็มโพรงใต้ดินขนาดมหึมา หลิงเยว่จึงอุทานด้วยความประหลาดใจ
“ศิษย์พี่สี่ หินปีศาจมากมายเช่นนี้ ท่านได้มาจากที่ใดกัน?”
“ขโมยมาจากสนมปีศาจที่หกใช่หรือไม่?” หัวหน้าตะขาบมรกตเหลือบมองผู่ตาน
“ถูกต้อง!” ผู่ตานภาคภูมิใจ
“ขโมยมามากมายเช่นนี้ แต่กลับไม่ถูกฆ่าตาย ท่านช่างเก่งกาจจริง ๆ!”
ผู่ตาน “…”
ฟังดูเหมือนจะเป็นคำชม แต่ทำไมรู้สึกแปลก ๆ นัก?
“ต้องการหินปีศาจอีกเท่าไรจึงจะบรรลุถึงขอบเขตพ้นโลกีย์?”
ชิงหลงถามหลิงเยว่ด้วยวิธีส่งเสียงผ่านจิต ตอนนี้นางเชื่อจริง ๆ แล้วว่าสมบัติล้ำค่าและโอสถนานาชนิดไม่มีประโยชน์เท่าหินวิญญาณและหินปีศาจสำหรับผู้สืบทอด
หลังจากหลิงเยว่บอกจำนวน ชิงหลงก็พาผู้นำเผ่าทิงมี่จากไป
ในห้องเหลือเพียงสองคนกับแมลงหนึ่งตัวจ้องตากันอยู่ หลิงเยว่พูดขึ้นว่า “ศิษย์พี่ ท่าจะดื่มโอสถเพื่อเพิ่มระดับการบำเพ็ญไหม? ข้ามีวิธีป้องกันไม่ให้ธาตุไฟเข้าแทรกท่านด้วย”
“ระดับการบำเพ็ญของเจ้าพุ่งไปถึงขอบเขตฝ่าทัณฑ์สวรรค์ด้วยการกินโอสถหรือ?” ผู่ตานตกใจอย่างยิ่ง จากขอบเขตทะยานเซียนขั้นต้นไปสู่ขอบเขตฝ่าทัณฑ์สวรรค์ขั้นปลาย ต้องใช้โอสถมากมายเท่าภูเขาหลายลูกเลยทีเดียว
“ไม่ต้องใช้ถึงหลายภูเขาหรอก”
หลิงเยว่พูดกับผู่ตานพลางถามระบบว่าโอสถชนิดใดที่ช่วยเพิ่มระดับการบำเพ็ญได้อย่างมีประสิทธิภาพบ้าง
[ไม่จำเป็นต้องใช้โอสถอะไร เพียงแค่ปลดผนึกในร่างของเขา ให้เลือดสัตว์วิเศษสองหยด แล้วจับเพลิงพิสดารมาอีกหนึ่ง ระดับการบำเพ็ญของเขาก็จะถึงขอบเขตฝ่าทัณฑ์สวรรค์แล้ว]
“อะไรกัน!”
บนร่างของสี่พี่ชายมีตราผนึกอยู่จริง ๆ!
หลิงเยว่ทำตามคำแนะนำของระบบ ดึงคอเสื้อของผู่ตานออก แล้วกระชากเสื้อคลุมจนขาดวิ่นไปเสียอย่างนั้น
“…”
นางไม่ทันระวังจึงออกแรงมากเกินไป
ผู่ตานที่ร่างกายท่อนบนเย็นวาบอีกครั้งถึงกับตาเหลือก หัวหน้าตะขาบมรกตและโม่จวินเจ๋อที่แกล้งตายก็อึ้งไปด้วย
“เจ้าถอดเสื้อผ้าเขาทำไม?” โม่จวินเจ๋อเอ่ยด้วยน้ำเสียงขมขื่นเล็กน้อย หากอยากดูก็ดูของเขาสิ รูปร่างเขาดูดีกว่าผู่ตานคนผอมแห้งนี่ตั้งเยอะ
โม่จวินเจ๋อมีอคติอย่างชัดเจน เพราะความจริงแล้วรูปร่างของผู่ตานไม่ได้แย่ขนาดนั้น อย่างน้อยเขาก็มีกล้ามท้องนะ!
“หญิงลามก!” หัวหน้าตะขาบมรกตถ่มน้ำลายด่า
ผู่ตานกอดตัวเองแล้วหลบไปอยู่ด้านหลังหัวหน้าตะขาบมรกต ทำไมทุกคนชอบถอดเสื้อผ้าของเขานัก!
หลิงเยว่ชื่นชมกล้ามท้องเสร็จแล้ว จึงถามเรื่องสำคัญ “ศิษย์พี่สี่ ใต้กระดูกไหปลาร้าด้านซ้ายของท่านมีไฝสีแดงเล็ก ๆ อยู่ใช่หรือไม่?”
“มีสิ ทำไมหรือ?”
“นั่นคือตราผนึก เข้ามาใกล้ ๆ หน่อย ข้าจะช่วยปลดผนึกให้”
ต้นกล้าสีทอง ตะขาบ และมนุษย์ที่อยู่ในที่นั้นต่างสงสัย “???”