ยอดกุ๊กบุกแดนเซียน - บทที่ 430 สายตาพิฆาต
บทที่ 430 สายตาพิฆาต
เสียงดนตรีอันไพเราะดังมาจากสวรรค์ ราวกับกำลังแสดงความยินดีกับผู้ที่ฝ่าทัณฑ์สวรรค์ขอบเขตพ้นโลกีย์ได้สำเร็จ
บรรดาผู้บำเพ็ญที่อยู่ใกล้บ่อสวรรค์ต่างมีสีหน้าเคลิบเคลิ้ม พลังเซียนกำลังหล่อเลี้ยงร่างกายของพวกเขา ชวนให้หลงใหลยิ่งกว่าพลังวิญญาณเสียอีก
พวกเขาต่างปรารถนาที่จะเข้าสู่โลกผู้บำเพ็ญเซียนเหลือเกิน…
สรรพสิ่งในโลกวิญญาณต่างเงยหน้ามองเหล่าปรมาจารย์ที่หายไปในม่านพลังนั้นทีละคน ดวงตาฉายแววอิจฉาอยู่หลายส่วน
“เหตุใดพวกท่านถึงไม่ได้รับทัณฑ์สวรรค์เล่า?” อีกาสุริยันตัวน้อยเอ่ยขึ้น
“ยังไม่ถึงเวลา”
อิงหลงส่ายหน้า พวกเขาต้องรอหลิงเยว่และเทพปีศาจที่หลับใหลอยู่อีกสักหน่อย!
สิ่งที่เหล่าสัตว์เทพไม่รู้ก็คือ ‘เทพปีศาจ’ ที่หลับใหลอยู่ในชั้นแรกของหอคอยปีศาจนั้น จู่ ๆ ก็ลืมตาขึ้นนั่งบนเตียงน้ำแข็ง สายตาของเขาจับจ้องไปที่หุบเหวปีศาจราวกับกำลังยืนยันบางสิ่ง
เทพปีศาจถามสัตว์อสูรที่นอนอยู่ข้างกาย แท้จริงเขาเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว เพียงแต่อยากยืนยันอีกสักครั้ง
เมื่อรู้ว่าคำสาปที่อยู่นอกบ่อสวรรค์ถูกทำลาย เขาก็แย้มยิ้มประหลาด
“นางมาแล้ว ข้าได้กลิ่นหอมนั่น…”
พูดจบ ร่างในชุดขาวที่ดูบริสุทธิ์แต่แฝงไว้ด้วยความขัดแย้งก็ปรากฏตัวเหนือหุบเหวปีศาจ เมื่อผู้นำแม่ทัพปีศาจเห็นคนผู้นั้น ดวงตาก็หดเล็กลง ร่างกายสั่นเทา จากนั้นเขาก็คุกเข่าลงกับพื้น “ข้าน้อยไร้ความสามารถ ไม่อาจรักษาบ่อสวรรค์ไว้ได้”
เมื่อผู้นำแม่ทัพปีศาจพูดจบก็พ่นเลือดออกมาคำหนึ่ง ล้มลงกับพื้นอย่างอ่อนแรง แม่ทัพปีศาจสิบเอ็ดคนต่างวิงวอนขอความเมตตาภายใต้สายตาไร้ความปรานีคู่นั้น
น่าเสียดายที่มันไร้ประโยชน์ พวกเขาต่างลงเอยเหมือนกับผู้นำแม่ทัพทั้งหมด
“พวกเจ้าไม่ควรทำให้นางบาดเจ็บสิ เพราะท้ายที่สุดแล้วนางคืออาหารอันโอชะที่ข้ารอมานานหลายปี”
ร่างของหัวหน้าเผ่าทั้งสิบสองหายวับไปในพริบตา เทพปีศาจพูดกับพลังปีศาจด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “เจ้าเห็นไหม ข้าได้จัดการกับทุกคนที่ทำร้ายเจ้าแล้ว ตอนนี้เจ้าจะออกมาได้หรือยัง?”
รอบด้านเงียบกริบ
“เจ้ากลัวหรือ?” เทพปีศาจพูดอีก แต่น่าเสียดายที่มีเพียงเสียงลมตอบกลับมาเบา ๆ
แน่นอนว่าหลิงเยว่หวาดกลัวยิ่งนัก แม้ว่านางจะได้ยินและเห็นแล้ว แต่นางกล้ารับรองเลยว่าผู้ที่อยู่เบื้องหน้านี้ไม่ใช่ร่างของเทพปีศาจ เพราะเขาไม่มีกลิ่นอายของเมล็ดพันธุ์ต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์แห่งชีวิต ดังนั้นจึงเป็นเพียงร่างแยกอีกร่างหนึ่งเท่านั้น!
เทพปีศาจตัวจริงยังไม่ปรากฏตัว!
แม้จะเป็นเพียงร่างแยก แต่เขาก็สามารถทำลายแม่ทัพปีศาจทั้งสิบสองที่ทำให้นางหวาดกลัวอย่างที่สุดได้แล้ว หากนางออกไปย่อมตายแน่! นางจึงได้แต่แกล้งตาย อธิษฐานให้ท่านผู้นี้หาไม่พบแล้วรีบจากไปเสียที!
น่าเสียดายที่คำอธิษฐานของหลิงเยว่ไม่ได้ผล เทพปีศาจหยิบเก้าอี้ออกมานั่งลงอย่างสบาย ๆ จากนั้นก็นำโต๊ะที่มีกาน้ำชาหนึ่งใบและถ้วยชาสองใบออกมา หลังจากรินชาเต็มถ้วยแล้ว เขาก็หยิบถ้วยหนึ่งขึ้นมา แล้วผลักออกไปตรงข้าม
“ออกมาดื่มชาสักถ้วยไหม?”
ร่างแยกของเทพปีศาจพูดพลางจิบน้ำชาสีทองอ่อน ดวงตาหรี่ลงเล็กน้อย
“ชาที่ชงจากยอดอ่อนของต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์อายุเก้าแสนเก้าหมื่นปี ช่างรสชาติวิเศษจริง ๆ”
แม้จะไม่มีสิ่งใดตอบสนอง แต่ร่างแยกของเทพปีศาจยังคงพูดอย่างสนุกสนาน ดูเหมือนว่าเขาตั้งใจจะรอหลิงเยว่จนกว่านางจะทนไม่ไหว
หลิงเยว่รู้สึกสิ้นหวังในทันที
นางได้รับบาดเจ็บสาหัส ยังไม่ทันได้รักษาก็ต้องใช้วิชาพรางตัวเสียแล้ว ตอนนี้ยังหายใจอยู่ได้เพราะอาศัยลูกแก้ววิญญาณต่อลมหายใจไว้เท่านั้น แล้วนางจะเป็นคู่ต่อสู้ของร่างแยกปีศาจได้อย่างไร?
“วิชาพรางตัวของเจ้าร้ายกาจนัก ถึงกับหลอกข้าได้ด้วย ใครสอนเจ้ามาเล่า?”
“หากเจ้ายังไม่ออกมา แล้วปล่อยให้พวกที่อารมณ์ร้ายออกมาก่อน คงไม่เป็นผลดีแน่”
เขาหมายความว่าอะไร?
นอกจากร่างแยกตรงหน้านี้ ยังมีร่างแยกอื่น ๆ รออยู่อีกหรือ?
หลิงเยว่ที่แต่เดิมรู้สึกหวาดหวั่นอยู่แล้ว ยิ่งตื่นตระหนกมากขึ้น เทพปีศาจมีร่างแยกอยู่กี่ร่างกันแน่!?
แค่ร่างเดียวก็ยากจะรับมืออยู่แล้ว หากมาอีกหลายร่าง บวกกับร่างจริง…
หลิงเยว่ที่หมดอาลัยตายอยากอยู่แล้ว ยิ่งรู้สึกสิ้นหวังมากขึ้นไปอีก
[ภารกิจหลักที่ 24 บุกเข้าไปในหอคอยปีศาจเพื่อค้นหาร่างจริงของเทพปีศาจ เอาหัวใจของเขา เพื่อนำเมล็ดต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์แห่งชีวิตที่เหลืออยู่ออกมา รางวัลคือชีวิตอมตะ ระยะเวลาภารกิจหนึ่งหมื่นปี]
หลิงเยว่ “…”
“ระบบ เจ้าไม่เห็นหรือว่าแค่มีชีวิตอยู่ก็ยากเย็นแสนเข็ญแล้ว”
[ก็เห็นอยู่]
“แล้วเจ้ายังจะส่งภารกิจบ้า ๆ แบบนี้มาให้ข้าอีก ภารกิจระดับนรกขนาดนี้ คิดว่าข้าจะทำสำเร็จหรือไง?”
[ข้าเลยให้เวลาเจ้าหนึ่งหมื่นปีไง ถ้าไม่พอ ข้าจะเพิ่มให้อีกหนึ่งหมื่น…]
“หุบปากไปเลย!”
ตอนนี้หลิงเยว่อยากจะฉีกระบบออกเป็นชิ้น ๆ เหลือเกิน!
ถึงระบบจะหุบปากไปแล้ว แต่ร่างแยกของเทพปีศาจไม่ได้หุบปากไปด้วย เขายังคงพูดคุยกับหลิงเยว่อย่างอ่อนโยน แม้กระทั่งชวนคุยเรื่องทั่วไป และเล่าถึงเรื่องสนุก ๆ ระหว่างเขากับเหล่าสนมปีศาจ
หลิงเยว่มีเครื่องหมายจุดไข่ปลาลอยอยู่เหนือศีรษะเป็นชั้น ๆ
“โอ้! เจ้ามาเร็วกว่าที่ข้าคิดไว้เสียอีก?”
ร่างแยกของเทพปีศาจหมายเลขสองมาถึงแล้ว คนผู้นั้นสวมชุดขาวและมีใบหน้าหล่อเหลาเหมือนกัน เขาหยิบถ้วยชาที่ไม่มีใครดื่มขึ้นมาดื่มรวดเดียวหมด เห็นได้ชัดว่าร่างนี้ค่อนข้าง ‘ไร้มารยาท’ พอสมควร
หลิงเยว่ที่เป็นพลังปีศาจลอยอยู่กลางอากาศแสดงความรู้สึกสิ้นหวังและเศร้าใจ ในเมื่อร่างแยกหมายเลขสองมาแล้ว หมายเลขสาม หมายเลขสี่… คงตามมาในไม่ช้ากระมัง?
นางรู้สึกว่าตนเองคงทนไม่ไหวแน่
หากร่างแยกของเทพปีศาจที่มาทีหลังใช้วิธีเดียวกับผู้นำแม่ทัพปีศาจก่อนหน้านี้ นางคงต้องตายแน่นอน!
ใครจะมาช่วยนางได้บ้าง!
ไม่มีการตอบสนองอย่างที่คาดไว้ ร่างแยกของเทพปีศาจทั้งสองกลับเริ่มคุยกันเอง ร่างแยกหมายเลขสองไม่มีท่าทีจะลงมือ ทำให้หลิงเยว่ลอบถอนหายใจด้วยความโล่งอก
“ระบบ ข้าต้องการซื้อของที่สามารถเพิ่มพลังของลูกแก้ววิญญาณ!”
ลูกแก้ววิญญาณในร่างของโม่จวินเจ๋อเดิมทีไม่สมบูรณ์อยู่แล้ว ตอนนี้ยังแบ่งให้นางไปครึ่งหนึ่งก็ยิ่งไม่สมบูรณ์เข้าไปใหญ่
[ได้สิ ๆ]
ระบบเอ่ยด้วยน้ำเสียงสนุกสนาน ไม่แสดงความเห็นอกเห็นใจต่อสถานการณ์ของหลิงเยว่แม้แต่น้อย
หลิงเยว่ได้แต่มองดูค่าพลังวิญญาณที่เพิ่งได้มาจากภารกิจหลักที่ 22 และ 23 หายวับไปในพริบตา อีกทั้งจำนวนอายุขัยก็ลดลงเรื่อย ๆ โชคดีที่ระบบยังมีความเมตตาหลงเหลืออยู่บ้าง จึงเหลือให้นางไว้สามหมื่นวัน
สามหมื่นวันจะเพียงพอให้ต่อสู้กับร่างแยกของปีศาจหรือ?
แสงสว่างจากลูกแก้ววิญญาณที่เคยริบหรี่พลันสว่างวาบขึ้น มันส่งความรู้สึกยินดีมายังหลิงเยว่ บาดแผลของมันค่อย ๆ ดีขึ้นแล้ว
หลิงเยว่ถอนหายใจอย่างโล่งอก ด้วยความเร็วในการฟื้นฟูเช่นนี้ ไม่เกินสิบวันนางก็จะสามารถรักษาบาดแผลทั้งหมดบนร่างกายได้แล้ว พอถึงตอนนั้นนางต้องหาทางหลบหนีให้ได้!
พวกของนางทุกคนล้วนมีระดับพลังอยู่ในขอบเขตฝ่าทัณฑ์สวรรค์ขั้นปลาย น่าจะมีโอกาสหนีรอด!
หลิงเยว่นึกถึงภาพแม่ทัพปีศาจทั้งสิบสองนายที่มีขอบเขตฝ่าทัณฑ์สวรรค์ขั้นปลาย ที่ถูกร่างแยกของปีศาจสังหารด้วยเพียงสายตาเดียว ร่างของหลิงเยว่พลันสั่นสะท้าน นั่นต้องเป็นการกดข่มทางสายเลือดแน่ ๆ!
นางเป็นผู้สืบทอดต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์แห่งชีวิตอันสูงส่ง ปีศาจไม่มีทางกดข่มนางได้หรอก!
เมื่อคิดได้เช่นนี้หลิงเยว่ก็รู้สึกสงบลง แล้วเริ่มใช้ชีวิตลอยไปมาตามสายลมอ่อน ๆ โดยไม่สนใจแม้แต่จะฟังบทสนทนาของร่างแยกปีศาจทั้งสอง
ปกตินางก็ไม่ได้เป็นคนช่างซุบซิบนินทาเท่าไหร่…
“ท่านผู้นั้นยังไม่ฟื้นอีกหรือ?”
หลิงเยว่หูผึ่งขึ้นมาทันที ท่านผู้นั้นที่กล่าวถึงต้องเป็นร่างจริงของเทพปีศาจแน่นอน! หากนางรู้ว่าเขาอยู่ชั้นใดของหอคอยปีศาจ นางอาจพิจารณาเข้าไปดูสักหน่อย!
…………….