ยอดกุ๊กบุกแดนเซียน - บทที่ 431 เจ้ากำลังฝันอะไรอยู่? ตื่นเสียทีเถอะ!
บทที่ 431 เจ้ากำลังฝันอะไรอยู่? ตื่นเสียทีเถอะ!
หลิงเยว่รอฟังอยู่นาน แต่ได้รับเพียงการส่ายหัวจากร่างแยกหมายเลขหนึ่ง จากนั้นพวกเขาก็เปลี่ยนไปคุยเรื่องบ่อสวรรค์
“น่าเสียดาย หากพวกเราสามารถไขความลับของบ่อสวรรค์ได้เร็วกว่านี้สักหมื่นปี ผู้บำเพ็ญในโลกวิญญาณคงมีโอกาสดิ้นรนได้บ้าง”
“ใช่แล้ว พวกมนุษย์ที่มีระดับการบำเพ็ญขอบเขตพ้นโลกีย์คงคาดไม่ถึงว่าพวกปีศาจจะแอบซุ่มอยู่ในบ่อสวรรค์ รอสังหารพวกเขาอยู่…”
หัวใจของหลิงเยว่กระตุกวูบ เช่นนั้นนางก็ทำร้ายบรรดาผู้อาวุโสเหล่านั้นน่ะสิ?
แย่แล้ว!
ยังไม่จบเท่านั้น ข่าวที่ทำให้หลิงเยว่ปวดใจยิ่งกว่าก็มาถึง
ผู้บำเพ็ญที่เป็นมนุษย์ในโลกผู้บำเพ็ญเซียนเหลือรอดไม่ถึงหนึ่งในสิบ โลกผู้บำเพ็ญเซียนกลายเป็นของพวกปีศาจแล้ว!
ลมหายใจของหลิงเยว่สะดุดเล็กน้อย โชคดีที่ลูกแก้ววิญญาณปกปิดไว้ได้อย่างรวดเร็ว ทั้งสองที่กำลังสนทนากันจึงไม่ทันสังเกตเห็น
บ่อสวรรค์ปรากฏขึ้นในโลกวิญญาณอย่างกะทันหัน บรรดาผู้อาวุโสที่สามารถฝ่าทัณฑ์สวรรค์ขอบเขตพ้นโลกีย์ได้ ไม่รู้ว่ามีกี่คนที่ขึ้นไปแล้วบ้าง…
หลิงเยว่รู้สึกสับสนยิ่งนัก ท่ามกลางความรู้สึกนั้นมีทั้งความละอายใจและการตำหนิตัวเอง นางไม่ควรปลดผนึกเลย!
โลกผู้บำเพ็ญ โลกผู้บำเพ็ญเซียน และแดนเทพจะกลายเป็นเตาหลอมของเทพปีศาจ การปลดผนึกจะสามารถต่อต้านสิ่งที่จะเกิดขึ้นได้ใช่ไหม?
“เจ้าต้องการทำอะไรกันแน่?”
แน่นอนว่าเขาต้องการเป็นผู้ปกครอง
“แล้วทำไมถึงหมกมุ่นกับเมล็ดพันธุ์ศักดิ์สิทธิ์นัก? การโจมตีแล้วยึดครองสามภพไม่สามารถบรรลุเป้าหมายได้เช่นกันหรือ?”
เพราะเขาต้องการสร้างโลกใหม่ทั้งหมด และต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์แห่งชีวิตก็มีความสามารถในการสร้างโลกพอดี
สีหน้าของหลิงเยว่หม่นลง เทพปีศาจช่างเป็นสิ่งที่มีความคิด ความสามารถ แต่โหดร้ายเหลือเกิน!
เขาปกครองปีศาจทั้งหมดยังไม่พอใจ แต่ยังต้องการสร้างโลกอีก!
ทั้งสามภพนั้นไปรบกวนเขาตรงไหนกัน!
ในเมื่อต้องการสร้างโลก ทำไมไม่ออกไปหาโลกสักใบมาสร้างเองเล่า!
หลิงเยว่สบถอย่างเดือดดาล อยากจะบุกเข้าไปในหอคอยปีศาจ เพื่อสังหารตัวก่อกวนนั่นให้รู้แล้วรู้รอด!
หอคอยปีศาจมีทั้งหมดเก้าชั้น นั่นหมายความว่ายังมีร่างแยกของเทพปีศาจอีกหกร่าง และร่างแท้อีกหนึ่งร่าง นอกจากร่างแยกและร่างแท้แล้ว ยังมีสัตว์อสูรที่ส่งร่างแยกมาจากโลกผู้บำเพ็ญเซียนและแดนเทพ รวมถึงผู้ทรงพลังอื่น ๆ อีกมากมาย หากต้องการบุกเข้าไปสังหารเทพปีศาจ หลิงเยว่อาจต้องการร่างกายที่ไม่มีวันตาย และความสามารถในการเกิดใหม่ไม่รู้จบ
กำลังฝันอะไรอยู่? ตื่นเสียทีเถอะ!
แม้แต่เทพสวรรค์ในโลกนี้ยังถูกทำลายได้ หรือแม้แต่ต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์แห่งชีวิตที่มีพลังสร้างโลกก็ยังต้องตาย…
“เจ้าไม่สามารถทำให้ข้าเกิดใหม่ได้หรือ?”
[ระบบนี้ไม่สามารถทำให้เจ้าเกิดใหม่หลาย ๆ ครั้งได้]
“งั้นข้าจะปลูกเสี่ยวจินให้มากขึ้น ไม่ใช่ว่าจะมีชีวิตนับไม่ถ้วนหรอกหรือ?” หลิงเยว่ยังคงจมอยู่ในภาพลวงตาอย่างถอนตัวไม่ขึ้น
เสี่ยวจินหรือต้นกล้าสีทองต้นนั้น หนึ่งต้นต้องใช้เวลาอย่างน้อยหนึ่งแสนปีจึงจะเติบโตเต็มที่
นั่นหมายความว่า หากหลิงเยว่ต้องการเกิดใหม่หนึ่งครั้ง จะต้องใช้เวลาหนึ่งแสนปี กว่านางจะได้เกิดใหม่ แผนการของเทพปีศาจคงสำเร็จไปนานแล้ว
“…”
ความเงียบเปรียบเหมือนสะพานระหว่างสองคน
ในที่สุดหลิงเยว่ก็ตื่นจากภาพลวงตา เพื่อตั้งใจฟังการสนทนาของร่างแยกทั้งสอง เก็บรวบรวมข้อมูลที่เป็นประโยชน์
แต่ถึงมีประโยชน์อย่างไร นางก็ไม่สามารถส่งต่อออกไปได้
ใช่แล้ว…
ตอนนี้คงมีบรรพบุรุษหลายท่านที่พ้นโลกีย์ไปแล้ว บรรพจารย์เล่อเหอแน่นอนว่าอยู่ในกลุ่มนี้ด้วย เพราะเขาอยากพ้นโลกีย์มานานมากแล้ว พอตอนนี้โอกาสมาถึง เขาจะยอมปล่อยให้หลุดมือไปได้อย่างไร?
แต่บรรพจารย์เล่อเหอไม่ใช่คนโง่ เขาต้องเดาได้แน่ว่าเกิดอะไรขึ้น!
หลิงเยว่คิดไปคิดมาก็จมดิ่งสู่ห้วงนิทรา นางเหนื่อยเหลือเกิน ทั้งร่างกายและจิตใจต่างอ่อนล้า
ความวุ่นวายในหุบเหวปีศาจ แสงสีขาวทะลุผ่านโลกปีศาจไปแล้ว!
มนุษย์ที่อาศัยอยู่ในเขตแดนปีศาจต่างรับรู้ได้ถึงขอบเขตพ้นโลกีย์!
พญางูงามเอามือปิดปาก น้ำตาคลอเบ้า หัวหน้ากระทิงจ้องมองแสงสีขาวที่หายไปแล้ว ราวกับวิญญาณหลุดลอยออกจากร่าง
“นางทำสำเร็จแล้ว…”
ชิงหลงเหม่อมองท้องฟ้า จากนั้นก็เบนสายตาไปยังไข่สองฟองที่นิ่งสงบ “พวกเจ้าจะไม่ออกมาอีกแล้วหรือ? แล้วจะไปช่วยคนได้อย่างไร?”
คำพูดนี้ดูเหมือนจะได้ผล ไข่ครึ่งทองครึ่งดำเริ่มกลืนกินสีดำเข้าไป ส่วนไข่สีแดงก็เปลี่ยนเป็นสีเข้มขึ้น
เมื่อชิงหลงพบว่าไข่ตอบสนองเมื่อพูดถึงสถานการณ์ของหลิงเยว่ นางก็เริ่มพูดไม่หยุด “หลิงเยว่ไปหุบเหวปีศาจเพียงลำพัง ตอนนี้บ่อสวรรค์ได้ออกจากเขตแดนปีศาจแล้ว แต่ตัวนางยังไม่กลับมา นางคงจะติดอยู่ในนั้น…”
ไข่สองสีกลืนกินสีดำเร็วขึ้น ไข่หงส์ขยับเล็กน้อย
“การติดอยู่เป็นเพียงการคาดเดาของข้า แต่นางอาจจะตกอยู่ในอันตรายยิ่งกว่านั้นเสียอีก หัวหน้าตะขาบมรกตและผู้นำเผ่าทิงมี่ก็ยังไม่กลับมา”
ไข่สองฟองมีปฏิกิริยารุนแรงขึ้น ไข่หงส์เกิดรอยแตก ส่วนไข่มังกรสองสีนั้น มีสีทองครอบคลุมไปแล้วสองในสาม คาดว่าอีกไม่นานคงจะกลายเป็นไข่ทองทั้งฟอง และใกล้ฟักออกมาแล้ว
เมื่อพวกเขาออกมา นางจะได้ไปตามหาหลิงเยว่สักที
หลิงเยว่เอ๋ยหลิงเยว่ เจ้าต้องอดทนไว้นะ ผู้อาวุโสกระทิงและอดีตผู้นำเผ่าได้ออกเดินทางไปยังหุบเหวปีศาจแล้ว แม้แต่เจ้าวังปีศาจก็ยังรวบรวมเผ่าปีศาจระดับสูงกว่าสิบคนเพื่อเข้าช่วยเหลือ หลังจากฮวนฮวนวิงวอนไม่หยุด
ฝ่ายมนุษย์ก็ส่งคนมาเช่นกัน
ด้วยเหตุนี้ชิงหลงจึงพอจะทนเฝ้าไข่สองฟองต่อไปได้ ไม่เช่นนั้นคงทิ้งพวกเขาไปยังหุบเหวปีศาจตั้งแต่แรกแล้ว!
เมื่อหัวหน้าตะขาบมรกตและผู้นำเผ่าทิงมี่เห็นบ่อสวรรค์วูบผ่านไป พวกเขาก็รีบเข้าไปในหุบเหวปีศาจทันที แต่ทั้งสองกลับหลงทิศ ไม่สามารถแยกแยะทางได้เลย
แต่หลิงเยว่สามารถหาตำแหน่งบ่อสวรรค์ในสภาพแวดล้อมที่เลวร้ายเช่นนี้ได้ และยังทำลายคาถากั้นต่อหน้าต่อตาแม่ทัพปีศาจทั้งสิบสองตน ต้องบอกว่านางแข็งแกร่งจริง ๆ!
ขณะที่ทั้งสองคนกำลังมึนงง มีนกสองตัวบินมาเกาะบนไหล่ของพวกเขา ร่างกายของพวกมันยังคงมีกลิ่นอายของหลิงเยว่หลงเหลืออยู่
“เร็วเข้า พาข้าไปหานายของพวกเจ้า!”
นกทั้งสองตัวคว้าเสื้อผ้าของทั้งสองคน แล้วยกพวกเขาขึ้นบินไปข้างหน้าอย่างง่ายดาย
ประสบการณ์การถูกพาบินโดยนกที่มีขนาดเล็กกว่ากำปั้นของพวกเขานั้น… พูดได้ยากจริง ๆ แต่ตอนนี้ไม่มีเวลามาสนใจแล้ว หัวหน้าตะขาบมรกตรู้ดีว่าหลิงเยว่คงไม่สบายใจอยู่แน่ ๆ!
ดังนั้นเขาจึงเร่งเร้าให้นกบินเร็วขึ้น “บินให้เร็วกว่านี้!”
น่าเสียดายที่หุบเหวปีศาจไม่เอื้อต่อการบิน นกทั้งสองตัวใช้ความเร็วสูงสุดที่พวกมันทำได้แล้ว
ผู้คนที่เข้าไปในหุบเหวปีศาจมีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ‘กองทัพสัตว์นักรบ’ ของหลิงเยว่แสดงบทบาทสำคัญอย่างยิ่ง อดีตผู้นำเผ่าจับกรงเล็บเล็ก ๆ ของนก แล้วค่อย ๆ เคลื่อนตัวไปข้างหน้า
หุบเหวปีศาจไม่ใช่ที่ที่มนุษย์ควรอยู่จริง ๆ!
ผู้อาวุโสกระทิงบ่นพึมพำ รู้สึกไม่คุ้นเคยอย่างยิ่งกับสภาวะที่ประสาทสัมผัสทั้งห้าอ่อนแอลงเช่นนี้ เหมือนกับว่าพลังของพวกเขาถูกกดลงไปมาก แล้วพวกเขาจะช่วยหลิงเยว่ได้อย่างไรเล่า?
หวังว่าเมื่อพบนางแล้ว จะไม่ใช่หลิงเยว่ที่ต้องหันมาช่วยพวกเขาแทนนะ?
คิดถึงตรงนี้ผู้อาวุโสกระทิงก็สงบสติอารมณ์ลงทันที ไม่ได้! พวกเขาไม่สามารถบุ่มบ่ามเช่นนี้ จำเป็นต้องหารือเพื่อวางแผนที่สมบูรณ์แบบเสียก่อน
นกส่งเสียงร้องจิ๊บ ๆ พวกมันลากผู้คนที่อยู่ใต้กรงเล็บบินออกไปรวมตัวกัน
ความกังวลของผู้อาวุโสกระทิงไม่ไร้เหตุผล เมื่อถึงตอนนั้น อย่าให้เป็นหลิงเยว่ที่ต้องมาช่วยพวกเขาจริง ๆ เลย!
“เป็นไปไม่ได้!”
หัวหน้าตะขาบมรกตที่บินมาใกล้จุดศูนย์กลางแล้วมีสีหน้าหม่นหมอง “หากมีเวลามาถกเถียงกันตรงนี้ พวกเราคงหาหลิงเยว่เจอนานแล้ว”
“พวกเราต่างมองข้ามจุดหนึ่งไป นอกจากสิบสองแม่ทัพปีศาจแล้ว การที่จู่ ๆ บ่อสวรรค์หายไป คงปลุกสิ่งที่อยู่ในหอคอยปีศาจให้ตื่นขึ้นมาแน่ เราไม่อาจบุ่มบ่ามได้!”
ผู้อาวุโสกระทิงมองผู้นำเผ่าทิงมี่ที่กำลังพูดแล้วส่งเสียงฮึดฮัด หากสิ่งที่อยู่ในหอคอยปีศาจตื่นขึ้นมา ต่อให้พวกเขารวบรวมผู้คนทั้งหมดในเขตแดนปีศาจมามากเท่าไหร่ ก็ไม่อาจเป็นคู่ต่อสู้ของสิ่งนั้นได้หรอก
จะทำ… อย่างไรดี?
…………….