ยอดกุ๊กบุกแดนเซียน - บทที่ 437 ห้ามไม่อยู่ ห้ามไม่อยู่จริง ๆ
บทที่ 437 ห้ามไม่อยู่ ห้ามไม่อยู่จริง ๆ
…………….
บทที่ 437 ห้ามไม่อยู่ ห้ามไม่อยู่จริง ๆ
ผู้อาวุโสกระทิงลูบศีรษะอันเกลี้ยงเกลาของตนอย่างงุนงง ดวงตาที่โตอยู่แล้วเบิกกว้างขึ้นไปอีก เขาจ้องมองละอองของหินเงาในมืออย่างตะลึง
ผู้คนที่ได้ยินเสียงและรีบมามุงดูต่างพากันถอยห่างเมื่อเห็นสภาพอันน่าสังเวชของผู้อาวุโสกระทิง
ไม่คิดว่าสีแดงสดที่ดูไร้พิษภัยและไม่รู้สึกถึงอุณหภูมินั้น จะมีพลังรุนแรงถึงเพียงนี้ สมแล้วที่เป็นตระกูลหงส์เพลิง!
เมื่อหายตื่นตะลึง ผู้ชมจึงสังเกตเห็นความผิดปกติ
“ไม่ถูกต้อง ตระกูลหงส์สูญพันธุ์ไปแล้ว… ทำไมยังมีอยู่อีกตัวเล่า? แถมยังปรากฏในโลกปีศาจ!?”
สิ่งที่ปรากฏในโลกปีศาจ แม้จะเป็นหงส์ ก็ควรเป็นหงส์ปีศาจสิ ทำไมถึงเป็นหงส์… เพลิง?
ไม่ถูก หลังจากผ่านการรับทัณฑ์สวรรค์สามครั้ง เขาเปลี่ยนจากสีแดงเป็นสีทองแดง
เมื่อสีเปลี่ยนไป ก็มีความเป็นไปได้สูงว่าเป็น… สายเลือดสูงสุดของตระกูลหงส์ หงส์ทองคำ!
มนุษย์คนหนึ่งจะวิวัฒนาการเป็นหงส์ทองคำได้อย่างไร!?
เจ้าวังมองดูหงส์ที่ถูกกลืนหายไปอีกครั้งด้วยความประหลาดใจ
“พี่ชายผู่ตานของเจ้าเป็นมนุษย์จริงหรือ?”
“ใช่… กระมัง?” ฮวนฮวนลูบปิ่นปักผมของตัวเอง ในตอนนี้นางไม่แน่ใจแล้วว่าผู่ตานเป็นมนุษย์หรือหงส์กันแน่
หากเป็นมนุษย์จริง เหตุใดจึงกลายเป็นไข่ และตอนนี้ออกมาจากไข่กลับเป็นนกอีก?
ตอนแรกที่ออกมาจากไข่หงส์เป็นลูกนกสีแดง ดูคล้ายกับอีกาสุริยันมาก เพียงแต่เขาไม่ได้มีสามขา…
ศูนย์กลางของการจุดฝ่าทัณฑ์สวรรค์ไม่มีความเคลื่อนไหวเป็นเวลานาน ในขณะที่ทุกคนคิดว่าหงส์คงจะตายไปแล้ว แสงสายหนึ่งก็พุ่งออกมาจากข้างใน
ลูกหงส์ตัวเล็กครึ่งแดงครึ่งทองบินขึ้นสู่ท้องฟ้าอย่างรวดเร็ว ใช้ร่างเล็ก ๆ ของมันพุ่งเข้าชนกับทัณฑ์สวรรค์ที่เพิ่งโผล่ออกมาจากเมฆฝน…
ชิงหลงมองดูด้วยความตกใจ ผู่ตานไม่เพียงแต่สืบทอดสายเลือดของเผ่าหงส์ แต่ยังสืบทอดความกล้าหาญของเผ่าหงส์อีกด้วย หลิงเยว่จะได้เพิ่มกำลังสำคัญอีกคน ช่างเป็นเรื่องที่น่ายินดีจริง ๆ!
จากนั้นชิงหลงหันไปมองไข่มังกรข้างกายก็ตกใจ ไข่มังกรสีทองดำไม่รู้ว่าสีเพิ่มขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไหร่ และสีขาวนั้นกำลังจะกลืนสีทองดำทั้งหมดแล้ว!
ชิงหลงยังไม่ทันได้ตรวจสอบอย่างละเอียด สีทองดำที่เหลืออยู่พลันหายไป กลายเป็นไข่มังกรสีขาว รอบ ๆ ไข่มีแสงสีทองอ่อน ๆ อยู่ด้วย
กลิ่นอายของแก่นปราณแสงอันเข้มข้นแทบจะกลืนกินชิงหลงไปทั้งตัว ผู้อาวุโสกระทิงที่กลัวแก่นปราณแสงมากที่สุดถึงกับกลิ้งหนีห่างจากไข่มังกรสีขาว หากอยู่ต่อไปอีกเขาคงมีชีวิตอยู่ได้ไม่นานแน่!
แต่ในตอนนี้จิตใจของเขากลับเปี่ยมไปด้วยความยินดียิ่งนัก หากหงส์ที่กำลังฝ่าทัณฑ์สวรรค์พัฒนาเป็นหงส์ทองคำอย่างสมบูรณ์ และมังกรก็พัฒนาเป็นมังกรแก่นปราณแสง การมีสัตว์เทพแก่นปราณแสงสองตัวช่วยเสริมพลัง การบุกเข้าไปในหุบเหวปีศาจเพื่อช่วยเหลือหลิงเยว่ ก็จะง่ายดายขึ้นมาก
หัวหน้าตะขาบมรกตคิดเช่นเดียวกัน เขาย่อตัวลงหน้าไข่มังกร แล้วแตะเบา ๆ อย่างระมัดระวัง จากนั้นจึงเอ่ยปากว่า “เจ้าอย่าได้ชักช้าเลย รีบออกมาเถิด ตอนนี้หลิงเยว่กำลังตกอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ดีเอาเสียเลย”
เห็นได้ชัดว่าหัวหน้าตะขาบมรกตยังไม่ได้รับข่าวการ ‘ตาย’ ของผู้นำเผ่าทิงมี่ และความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในหุบเหวปีศาจ
ผู้อาวุโสกระทิงก็เช่นกัน
ดังนั้นพวกเขายังคงสงบนิ่งเฝ้าดูผู่ตานฝ่าทัณฑ์สวรรค์อยู่
ไข่มังกรสีขาวไม่ตอบสนองต่อหัวหน้าตะขาบมรกต ราวกับเป็นไข่ที่ตายแล้ว
จนกระทั่งถูกทัณฑ์สวรรค์ครั้งที่ห้า ผู่ตานที่เปลี่ยนจากหงส์สีทองแดงเป็นหงส์ทองคำสำเร็จ ส่งเสียงร้องแหลมสูงใส่ไข่มังกรสีขาวสามครั้ง ไข่มังกรจึงตอบสนอง เปลือกไข่เรียบลื่นที่มีแสงสีทองอ่อน ๆ ล้อมรอบเริ่มปรากฏรอยแตก
แรกเริ่มเป็นเพียงรอยแตกเล็ก ๆ จากนั้นเพิ่มขึ้นทีละน้อย และในขณะที่ทัณฑ์สวรรค์ครั้งที่หกของผู่ตานฟาดลงมานั้น ไข่มังกรก็แตกออกทันที
ระเบิดแล้ว!
ลำแสงสีขาวสายหนึ่งสว่างวาบขึ้นในดวงตาของหัวหน้าตะขาบมรกต จากนั้น… ก็หายวับไป
มันหายไปจริง ๆ!
“เขา… เขารับทัณฑ์สวรรค์หรือ?” หัวหน้าตะขาบมรกตชี้ไปยังแสงสีขาวที่หายไปด้วยความงุนงง
ในขณะที่ผู่ตานกำลังเผชิญหน้ากับความเป็นความตายในการฝ่าด่าน โม่จวินเจ๋อกลับวิ่งหนีไปเฉย ๆ เลยเหรอ!
สำคัญกว่านั้นคือ พวกเขาไม่ทันได้เห็นว่าแสงสีขาวนั้นมีลักษณะอย่างไรด้วยซ้ำ…
หัวหน้าตะขาบมรกตถอนหายใจอย่างเสียดาย มันเคยจินตนาการว่า โม่จวินเจ๋อจะกลายร่างเป็นมังกรทองขนาดใหญ่ แต่ผลคือในพริบตาเดียวทั้งมังกรดำและมังกรทองก็หายไป เหลือเพียงลำแสงสีขาวสายเดียว
“ดูทิศทางนั้นสิ เขาคงจะไปที่หุบเหวปีศาจแล้ว”
ชิงหลงมีพลังมากกว่าหัวหน้าตะขาบมรกต จึงมองเห็นได้ชัดเจนกว่านิดหน่อย ส่วนในแสงสีขาวนั้นเป็นคนหรือมังกรน้อย นางมองไม่ออกจริง ๆ
ช่างน่าประหลาดใจนักที่นางกลับมองไม่เห็น!
“ผู่ตานยังต้องฝ่าฟันอุปสรรคอีกกี่ครั้ง?”
เมื่อโม่จวินเจ๋อได้ไปสำรวจเส้นทางที่หุบเหวปีศาจแล้ว พวกเขาไม่อาจอยู่ที่นี่นานเกินไป ยิ่งล่าช้าเท่าไร หลิงเยว่ยิ่งตกอยู่ในอันตรายมากเท่านั้น
อีกอย่าง ที่นั่นก็ไม่มีข่าวคราวมานานแล้ว หัวหน้าตะขาบมรกตรู้สึกว่าต้องมีเรื่องบางอย่างเกิดขึ้นแน่
“พวกเจ้าไปก่อนเถิด ข้าจะตามไปทีหลัง”
ผู่ตานกัดฟันส่งเสียงไปหาชิงหลงและหัวหน้าตะขาบมรกต พร้อมลากร่างที่บอบช้ำเงยหน้ามองฟ้า ไม่รู้ว่ายังเหลือทัณฑ์สวรรค์อีกเท่าไร แต่คงไม่… น้อย
หากมีมากเกินไป เขาจะพาสายฟ้าไปถล่มหุบเหวปีศาจเสียเลย!
ใช่แล้ว! ทำไมเขาเพิ่งนึกได้ว่าสามารถทำเช่นนั้นได้ด้วย?
ผู่ตานคุ้นเคยกับการบินด้วยปีกแล้ว ครั้งนี้เขากระพือปีก ฉวยโอกาสขณะที่สายฟ้ายังไม่ทันรวมตัว บินไปยังหุบเหวปีศาจอย่างรวดเร็ว
“ข้าก็… จะไปหุบเหวปีศาจ…”
ร่างของผู่ตานที่ทิ้งประโยคนี้ไว้ได้หายไปแล้ว พร้อมกับเขายังมีร่างอีกหลายร่างที่จากไป รวมถึงฮวนฮวนที่อยู่ในกลุ่มที่กำลังมุ่งหน้าไปยังหุบเหวปีศาจ
“อนุญาตให้อยู่แค่บริเวณรอบนอกเท่านั้น ห้ามเข้าไปข้างในนะ!”
เจ้าวังเตือนฮวนฮวนอย่างเข้มงวด
ผู้รับทัณฑ์สวรรค์จากไปกลางคันเช่นนี้ นี่มิใช่การท้าทายหรอกหรือ?
แน่นอนว่าสวรรค์ย่อมโกรธแค้น ทัณฑ์สวรรค์ไม่รอช้า ฟาดผู่ตานที่กำลังบินอยู่ให้ร่วงลงมาทันที ร่างที่ลอยขึ้นมาใหม่ไม่ใช่ร่างทองงดงามอีกต่อไป แต่เป็นนกน้อยน่าสงสารที่ไหม้เกรียมไม่มีขน บินโซเซไปมาด้วยร่างที่เต็มไปด้วยสายฟ้า
“จะรีบร้อนไปไหนกัน?” ผู้สังเกตการณ์ถามอย่างแปลกใจ
“คงกลัวถูกทำสัญญาผูกมัดกระมัง?”
“ใครกล้าไปทำสัญญากับหงส์ทองคำแก่นปราณแสงกัน นั่นมันเหมือนฆ่าตัวตายชัด ๆ”
“พวกเราปีศาจทำไม่ได้ แต่ในโลกปีศาจไม่ได้มีแค่พวกปีศาจสักหน่อย…”
“จริงด้วย นอกจากมนุษย์แล้ว ยังมีพวกในหอคอยปีศาจอีก…”
โดยสรุปแล้ว มีผู้คนมากมายที่อยากได้หงส์ทองคำ การที่เขาหนีไประหว่างฝ่าทัณฑ์สวรรค์นั้นก็เข้าใจได้ แต่เขาจะหนีไปที่ไหนกัน?
เหล่าผู้ยิ่งใหญ่แห่งเผ่าปีศาจที่ไล่ตามผู่ตานมองไปยังทิศทางที่เขามุ่งหน้าไป ใบหน้าของพวกเขากระตุกไม่หยุด การไปยังหุบเหวปีศาจนั้นมิใช่การเดินเข้ากับดักหรอกหรือ?
“คราวนี้เผ่าหงส์คงสูญพันธุ์แน่แล้ว”
“ช่างโง่เหลือเกิน ไปที่ไหนไม่ไป ดันไปหุบเหวปีศาจ”
เหล่าผู้ยิ่งใหญ่ต่างส่ายหน้าถอนหายใจ หากนกหงส์ทองคำตัวนี้เติบโตขึ้นมา น่าจะเป็นกำลังสำคัญในการต่อต้านเทพปีศาจ น่าเสียดายที่เขาคิดสั้นเหลือเกิน!
สิ่งที่พวกเขาทำได้มีเพียงส่งเสียงไปบอกหงส์ตัวน้อย ให้เปลี่ยนเส้นทาง
น่าเสียดายที่คำเตือนด้วยความหวังดีนั้นกลับจมหายไปในทะเลลึก หงส์ทองคำตัวน้อยกลับบินเร็วขึ้นอีก
ผู้เฝ้าดู “…”
พวกเขามั่นใจว่าส่งเสียงไปถึงแล้ว แต่กลับไม่อาจหยุดยั้งหงส์ทองคำตัวน้อยที่มุ่งมั่นจะตายให้ได้
…………….