ยอดกุ๊กบุกแดนเซียน - บทที่ 443 เล่นเกมกันไหม?
บทที่ 443 เล่นเกมกันไหม?
โม่จวินเจ๋อคำนวณเวลาแล้ว สองร้อยปีคงไม่เพียงพอแน่นอน
กระบี่ศักดิ์สิทธิ์เสวียนเทียนในมือของเขาเปลี่ยนเป็นลูกกลมใส ถูกส่งเข้าไปในร่างของเทพปีศาจอย่างรุนแรง หวังว่าลูกแก้ววิญญาณจะช่วยหลิงเยว่ ให้นางต่อต้านอีกสักพัก และช่วยให้เขามีเวลามากขึ้นด้วย
เทพปีศาจที่ถูกส่งลูกแก้ววิญญาณเข้าไปอย่างกะทันหันตกตะลึงไปชั่วขณะ พอคิดจะขัดขวางก็สายไปเสียแล้ว เพราะลูกแก้ววิญญาณได้หลอมรวมเข้ากับเมล็ดพันธุ์ศักดิ์สิทธิ์เป็นที่เรียบร้อย…
เมล็ดพันธุ์ศักดิ์สิทธิ์ซึ่งถูกขังไว้ในตันเถียนนั้น มีแสงสว่างจ้าออกมา ก่อนจะสงบลงในที่สุด
โม่จวินเจ๋อได้ฉวยโอกาสตอนที่เทพปีศาจตกตะลึงหนีออกมา
ด้วยการปกป้องของลูกแก้ววิญญาณ เทพปีศาจจะไม่สามารถทำอะไรหลิงเยว่ได้ชั่วขณะ อีกทั้งในร่างของนาง… ไม่ได้มีเพียงแค่ลูกแก้ววิญญาณเท่านั้น
เทพปีศาจโกรธจนควบคุมตัวเองไม่อยู่ สัตว์อสูรระดับสูงที่ทรยศจะต้องรับเคราะห์! สัตว์ร่างยักษ์ตัวแล้วตัวเล่าระเบิดออกราวกับดอกไม้ไฟ
งานเลี้ยงหมอกเลือดเบ่งบานใต้สายฝนปีศาจ!
เทพปีศาจเงยหน้ามองท้องฟ้า เผยสีหน้าเต็มไปจิตสังหาร รอให้เขาหลอมรวมเมล็ดพันธุ์ศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมด จะต้องฆ่าเทพสวรรค์ทั้งสามภพให้หมดสิ้น แล้วสร้างโลกที่เป็นของเขาเพียงผู้เดียว!
แม้ว่าตอนนี้เขาจะสามารถทำลายบ่อสวรรค์ของโลกแห่งการบำเพ็ญเพียรได้ แต่ราคาที่ต้องจ่ายนั้นสูงเกินไป!
เทพปีศาจลูบอก มองดูหัวใจที่สมบูรณ์ของตนเอง เมล็ดพันธุ์ศักดิ์สิทธิ์นั้นช่างใช้งานได้ดีเหลือเกิน ไม่เสียแรงที่เขาต้องคิดหนัก จนต้องตกมาจากแดนเทพสู่โลกต่ำต้อยนี้
ตอนนี้เหลือเพียงแค่ซ่อมแซมวิญญาณดั้งเดิมเท่านั้น เพียงแค่ซ่อมแซมให้ดี พลังของเขาจะฟื้นคืนทั้งหมด และยังได้รับการพัฒนาอย่างก้าวกระโดด การฟื้นฟูพลังนั้นเป็นเรื่องรอง สิ่งสำคัญที่สุดคือจะได้ครอบครองพลังแห่งการสร้างโลกด้วย!
พลังแห่งการสร้างโลกเอย…
หัวใจของเทพปีศาจเต้นเร็วขึ้นอีกจังหวะ แต่เมื่อเห็นเมล็ดสีทองครึ่งเม็ดที่ถูกกักขังอยู่ในตันเถียน สีหน้าของเขาพลันมืดลงทันที
“หากเจ้าไม่ยอมร่วมมือ จงรอดูคนที่เจ้าห่วงใยตายไปทีละคนต่อหน้าเจ้าเถิด ข้าคิดว่ารสชาตินั้นคงจะหอมหวานยิ่งนัก”
หลิงเยว่ไม่ตอบสนอง ราวกับไม่ได้ยินไม่ได้เห็นอะไร
แน่นอนว่านั่นเป็นเพียงท่าทีเท่านั้น
ขณะที่ลูกแก้ววิญญาณจมหายเข้าไปในร่าง หลิงเยว่ก็ ‘ตาย’ แล้วฟื้นคืนชีพมาใหม่ แต่นางไม่ได้เอ่ยปาก กลับพยายามควบคุมร่างกายของเทพปีศาจอย่างต่อเนื่อง
ความรู้สึกที่ร่างกายไม่อยู่ใต้การควบคุมนั้นเกิดขึ้นอีกแล้ว เทพปีศาจหัวเราะด้วยความโกรธ “อย่างไร? เจ้าต้องการให้ข้าฆ่าตัวตายอีกหรือ?”
หลิงเยว่ยังคงไม่ส่งเสียง นางไม่เพียงแต่พยายามควบคุมร่างแยกของเทพปีศาจ แต่ยังพยายามควบคุมสิ่งอื่น ๆ ในสถานการณ์ที่ไม่สามารถควบคุมร่างกายได้
นางจะให้เทพปีศาจได้ลิ้มลองรสชาติของร่างกายที่อยู่เหนือการควบคุม!
หลิงเยว่หัวเราะคิกคัก หากนางออกไปไม่ได้ เทพปีศาจก็อย่าหวังว่าจะสบายเลย!
เทพปีศาจได้ยินเสียงหัวเราะคิกคักอันน่าขนลุกของหลิงเยว่ ทำให้เขาชะงักไป นางกำลังเยาะเย้ยเขาหรือ?
ดีนัก! นางคิดว่ามีลูกแก้ววิญญาณคุ้มครองแล้ว เขาจะกลืนกินนางไม่ได้หรือ?!
“ทำไมเจ้าไม่กลืนกินข้าล่ะ? เป็นเพราะไม่อยากหรือไม่สามารถกันแน่ ฮิ ๆ ๆ!”
เทพปีศาจสูดหายใจ ยังคงรู้สึกว่าเมล็ดพันธุ์ศักดิ์สิทธิ์ใบ้น่ารักกว่าเสียอีก เขาจึงเสริมความแข็งแกร่งให้กรงขังเมล็ดพันธุ์ศักดิ์สิทธิ์ชั้นแล้วชั้นเล่า จนกระทั่งไม่ได้ยินเสียงของหลิงเยว่อีก สีหน้าของเขาจึงดีขึ้นบ้าง
ร่างแยกหมายเลขสองของเขา… ระเบิดตัวเองแล้ว!
และเป็นคำสั่งที่เขาออกเอง
เมื่อสหายข้างกายระเบิดอย่างไม่ทันตั้งตัว ร่างแยกหมายเลขหนึ่งที่โดนเลือดกระเด็นใส่เต็มตัวพลันงงงัน และในช่วงที่งงงันนี้เอง ทำให้เขาโดนสายฟ้าฟาดเข้าอย่างจัง
เหตุใดหมายเลขสองจึงระเบิดตัวเอง?
หรือว่า… ชายผู้นั้นกลับมาอีกครั้ง?
บรรดาร่างแยกต่างหวาดระแวง ขณะที่หลบหลีกสายฟ้าและต่อสู้กับสัตว์อสูรระดับสูง พวกเขายังสังเกตสิ่งรอบข้างไปด้วย
พวกเขาคิดว่าร่างแยกหมายเลขสองจะฟื้นคืนชีพในไม่ช้า แต่ผลปรากฏว่า พวกเขาไม่เห็นเงาของหมายเลขสองอีกเลย
สถานการณ์นี้ทำให้บรรดาร่างแยกรู้สึกไม่ดีอย่างยิ่ง เหตุการณ์เช่นนี้มีความเป็นไปได้เพียงอย่างเดียวคือเป็นคำสั่งจากร่างหลัก ร่างหลักคงรู้สึกได้ถึงการหลบหนีการควบคุมตลอดเวลาของหมายเลขสอง จึงจัดการเขาเสีย?
ต้องเป็นเช่นนั้นแน่นอน!
บรรดาร่างแยกต่างหวาดกลัว เพื่อความปลอดภัยของตน พวกเขาไม่กล้าคิดทรยศต่อร่างหลักแม้แต่น้อย แม้จะเป็นเพียงร่างแยก พวกเขาก็ต้องการมีชีวิตอยู่ ไม่อยากจบชีวิตด้วยการระเบิดตัวเองอย่างไม่มีสาเหตุเช่นเดียวกับหมายเลขสอง
เศษเดนคนหนึ่งสามารถหลบหลีกและสั่งให้ร่างแยกระเบิดตัวเองได้ ช่างทำให้เทพปีศาจโกรธจนแทบระเบิด!
อีกเมล็ดพันธุ์ศักดิ์สิทธิ์เพียงครึ่งเดียวไม่มีความสามารถนี้ไม่ใช่หรือ!
เทพปีศาจใบหน้าเรียบนิ่ง สองมือประสานกันแล้วใช้วิชาที่ผู้คนมองไม่เห็น
“ปีศาจทั้งหลายจงฟังคำสั่ง โจมตีโลกวิญญาณอย่างสุดกำลัง!”
ขณะที่ประโยคนี้ก้องกังวานไปทั่วโลกปีศาจ กำแพงที่ไม่อาจข้ามผ่านระหว่างโลกวิญญาณและโลกปีศาจพลันเปิดออก ประตูนั้นแข็งแกร่งจนผู้ฝ่าทัณฑ์สวรรค์ขั้นปลายโดยสมบูรณ์ก็ไม่อาจทิ้งร่องรอยไว้ได้
แรงสั่นสะเทือนบนพื้นรุนแรงยิ่งกว่าครั้งใด และประโยคที่ดังก้องในใจประทับอยู่ในความทรงจำนั้น ทำให้ผู้คนในโลกปีศาจรู้สึกขัดแย้งในใจ
หากพวกเขาไม่รู้เรื่องที่มังกรปีศาจแอบสร้างหอคอยกระดูกอันโหดร้าย และวางแผนจะใช้มันร่วมกับโพรงหนอนในโลกวิญญาณ เพื่อสังเวยสิ่งมีชีวิตจากสองโลกให้แก่เทพปีศาจ พวกเขาคงรับคำสั่งนี้ด้วยความตื่นเต้น แต่ตอนนี้… หากสามารถฆ่าเทพปีศาจได้ พวกเขาจะต้องฆ่าอย่างแน่นอน!
หลังจากนั้นพวกเขาเห็นเพียงประตูระหว่างโลกเปิดออกกว้างเท่าคนหนึ่งคน แล้วค่อย ๆ ปิดลงราวกับว่าพลังของปีศาจไม่เพียงพอ ไม่สามารถเปิดประตูระหว่างโลกวิญญาณและโลกปีศาจได้
คำตอบแน่นอนว่าไม่ใช่เช่นนั้น แต่เป็นเพราะหลิงเยว่ควบคุมร่างของปีศาจได้อีกครั้ง แม้จะเพียงชั่ววินาทีสั้น ๆ ก็เพียงพอที่จะทำอะไรบางอย่างได้
ประตูระหว่างสองโลกที่ปิดลงถูกเปิดออกอย่างรุนแรงอีกครั้ง…
ไม่ทันที่ร่างแยกจะพุ่งออกไป ประตูใหญ่ก็ถูกปิดลงอย่างรุนแรง แล้วเปิดขึ้นอีกครั้ง จากนั้นก็ปิดลงอีก วนเวียนไปมาราวกับกำลังเล่นเกม
เหล่าผู้คนในโลกปีศาจ “?”
คนในโลกวิญญาณที่ได้ยินเสียงและรีบมาที่หน้าประตูระหว่างสองโลก “?”
ผู้บำเพ็ญทั้งสองโลกต่างมีเครื่องหมายคำถามเต็มศีรษะ
“นี่คือมีคนกำลังพยายามเปิดประตูระหว่างโลกหรือ?” สยงฉีเลวี่ยถามคำถามที่ไม่จำเป็น จนถูกเหล่าผู้อาวุโสจากสำนักอื่นมองด้วยสายตาดูแคลน
สถานการณ์มันชัดเจนอยู่แล้วไม่ใช่หรือ?
“หรือว่าจะเป็นหลิงเยว่? หรือไม่ก็โม่จวินเจ๋อ?”
ผู้อาวุโสมู่รีบปฏิเสธความคิดนี้ ตอนที่หลิงเยว่บอกว่าจะไปก่อเรื่องในเขตแดนปีศาจนั้น ระดับการบำเพ็ญของนางอยู่แค่ขอบเขตทะยานเซียนเท่านั้น จะเปิดประตูนี้ได้อย่างไร?
ทุกคนต่างหันไปมองหญิงสาวร่างเล็กที่ยืนอยู่ข้างผู้อาวุโสมู่
หญิงสาวผมแดงส่ายหน้า “ข้าไม่รับรู้ถึงพลังของหลิงเยว่เลย”
แต่ที่นางยังไม่ตาย นั่นหมายความว่าหลิงเยว่ยังมีลมหายใจอยู่เช่นกัน
อีกาสุริยันไม่ได้มีรูปร่างเป็นลูกสัตว์ตัวน้อย แต่เติบโตเป็นเด็กสาวอายุราวหกเจ็ดขวบ ข้างกายนางยังมีเหล่าสัตว์เทพยืนอยู่ ทั้งอิงหลงและกิเลนเพลิง
“ไม่มีกลิ่นอายของชิงหลง… เช่นกัน” เสวียนอู่ขมวดคิ้วแน่น
ขณะนี้ประตูระหว่างโลกยังคงเปิดปิดราวกับเด็กน้อยกำลังเล่นสนุก เปิดนิดหน่อยแล้วปิด ปิดแล้วก็ถูกเปิดอีก ทำให้ผู้คนทั้งสองโลกรู้สึกสงสัย
เหล่าร่างแยกพากันอึ้งงัน ไม่รู้ว่าร่างหลักกำลังทำอะไรอยู่?
กำลังทำอะไรอยู่น่ะหรือ?
เขากำลัง ‘เล่นเกม’ กับหลิงเยว่อยู่ยังไงละ!
เทพปีศาจไม่ได้โกรธมานานแล้ว แต่การกระทำของหลิงเยว่ทำให้เขาโกรธจริง ๆ! รู้สึกอยากบีบร่างที่เหลือของนางให้แหลกคามือเสียตรงนั้น แต่ก็เสียดายเหลือเกิน
ดังนั้นจึงได้แต่เล่นเกมเปิดปิดประตูกับนางต่อไป!
“ข้าอยากรู้นักว่าเจ้าจะสามารถควบคุมได้กี่ครั้งกันแน่!”
เทพปีศาจกัดฟันด้วยความโกรธแค้น!
…………….