ยอดกุ๊กบุกแดนเซียน - บทที่ 449 ยังมีลูกเล่นแบบนี้อีกหรือ?
บทที่ 449 ยังมีลูกเล่นแบบนี้อีกหรือ?
หลิงเยว่เพิ่งเข้าใจว่าเหตุใดเทพปีศาจถึงเอาแต่อยู่ในทะเลสาบเงา โดยไม่ออกไปไหน
ที่แท้ก็เพื่อ ‘บ่มเพาะ’ ร่างแยกใหม่นั่นเอง
ร่างแยกใหม่ทั้งเจ็ดมีพลังที่แข็งแกร่ง แทบจะเท่ากับพลังของเทพปีศาจในตอนนี้ หากพวกเขาร่วมมือกันโจมตี โม่จวินเจ๋อจะหนีรอดไปได้หรือ?
คำตอบคือ ไม่มีทางรอดแน่นอน!
หลิงเยว่เริ่มพยายามควบคุมร่างแท้ของปีศาจอีกครั้ง วิธีที่เร็วและได้ผลที่สุดคือ สั่งให้ร่างแยกระเบิดตัวเอง!
แต่คราวนี้เปลือกตาของเทพปีศาจไม่ขยับแม้แต่น้อย “ถึงเจ้าจะควบคุมร่างของข้าได้แล้วอย่างไร? เจ้าไม่มีทางสั่งให้ร่างแยกทั้งเจ็ดระเบิดตัวเองได้หรอก”
“เหตุใดกัน?”
“พวกเขาต่างจากร่างแยกทั่วไป พวกเขาคือ ร่างที่ข้าสามารถย้ายไปได้ทุกเมื่อ”
ยังมีลูกเล่นเช่นนี้อีกหรือ!?
หลิงเยว่ที่เงียบงันทำให้จิตใจของเทพปีศาจรู้สึกสุขใจยิ่งนัก
“อ้อ! นอกจากร่างทั้งเจ็ดนี้ ข้ายังมีอีกห้าร่างในแดนเทพด้วย”
จะฆ่าให้หมดได้หรือ?
ชั่วขณะนั้นหลิงเยว่รู้สึกถึงความน่าสะพรึงกลัวของเทพปีศาจอย่างลึกซึ้ง แต่นางไม่ได้ตื่นตระหนก กลับเริ่มคิดว่าจะกำจัดความหยิ่งผยองของชายผู้นี้ได้อย่างไร?
สายตาที่ล่องลอยจับจ้องยังหัวใจที่เต้นระรัวของเทพปีศาจ รอบ ๆ หัวใจสีแดงฉานมีแสงสีทองวูบไหวอยู่เป็นระยะ แสงสีทองนั้นทำให้หลิงเยว่รู้สึกคุ้นเคย แต่ก็ทรมานอย่างบอกไม่ถูก
หลิงเยว่เบนสายตาไปจ้องที่ภารกิจหลักที่ 24 บนแผงภารกิจ ที่บอกให้ค้นหาร่างแท้ของเทพปีศาจ หาหัวใจของเขา เพื่อนำเมล็ดพันธุ์ศักดิ์สิทธิ์ที่เหลือออกมา
ร่างแท้ของเทพปีศาจ… ร่างนี้น่าจะเป็นร่างแท้ใช่ไหม?
กลิ่นอายคุ้นเคยบนหัวใจไม่มีทางหลอกนางได้ อีกอย่าง หลิงเยว่ถูกกักขังอยู่ในตันเถียนของร่างนี้ ถ้าไม่ใช่เทพปีศาจตัวจริงแล้วจะเป็นใครได้?
แม้ว่าเทพปีศาจจะสามารถเปลี่ยนร่างได้ตามใจชอบ แต่หัวใจในร่างนี้เป็นสิ่งที่ร่างอื่นไม่อาจทดแทนได้ ดังนั้นหากเรียกเมล็ดพันธุ์ศักดิ์สิทธิ์อีกครึ่งกลับมา เทพปีศาจคงไม่น่าจะรับมือยากเกินไป!
ถูกต้องแล้ว ต้องเป็นเช่นนั้นแน่นอน!
แต่จะเรียกกลับมาได้อย่างไร?
จำเป็นต้องขุดหัวใจของเขา เพื่อนำเมล็ดพันธุ์ศักดิ์สิทธิ์ที่เหลือออกมาตามที่ภารกิจระบุไว้หรือไม่?
[แน่นอน เมล็ดพันธุ์ศักดิ์สิทธิ์ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของร่างกายเทพปีศาจไปแล้ว มิเช่นนั้นเจ้าคิดว่าเพียงแค่ลูกแก้ววิญญาณจะสามารถควบคุมร่างกายของเทพปีศาจได้หรือ?]
การช่วยเหลือของลูกแก้ววิญญาณเพียงแค่ช่วยหลิงเยว่รักษาสติไว้ และต้านการกลืนกินที่เกิดขึ้นตลอดเวลาเท่านั้น
“ระบบ เจ้ากลับมาแล้ว!”
น้ำเสียงของหลิงเยว่เปี่ยมด้วยความยินดี นับตั้งแต่ถูกเทพปีศาจจับตัวเข้ามา ระบบก็เงียบหายราวกับตายไปแล้ว หากไม่ใช่เพราะระบบแลกเปลี่ยนและหน้าต่างภารกิจยังคงอยู่ นางคงคิดว่าระบบถูกเทพปีศาจกำจัดไปแล้ว!
[จุ๊ ๆ]
เทพปีศาจไวต่อความรู้สึกอย่างยิ่ง เขาสำรวจเข้าไปในโซ่ตรวนที่พันธนาการหลิงเยว่ชั้นแล้วชั้นเล่า ค้นหาอย่างละเอียด ท่าทางราวกับต้องการฉีกนางออกเป็นชิ้น ๆ เพื่อดูว่าข้างในเป็นอย่างไรกันแน่?
“ในร่างของเจ้า นอกจากลูกแก้ววิญญาณแล้ว ยังซ่อนอะไรไว้อีก?” เทพปีศาจมั่นใจว่าสิ่งนั้นมันต้องซ่อนอยู่ลึกมาก!
“มีสิ อาวุธประจำกายของข้าเอง” หลิงเยว่แกล้งโง่ ทำให้เทพปีศาจหัวเราะเยาะออกมา
เมล็ดพันธุ์ศักดิ์สิทธิ์นี้ช่างซ่อนความลับไว้มากมายเสียจริง…
แต่ไม่เป็นไร รอกลืนกินนางทั้งหมดแล้ว เขาก็จะสามารถล่วงรู้ความลับทั้งหมดได้
เทพปีศาจยังคงไม่ถอนจิตออกไป แต่หลิงเยว่กลับไม่รู้สึกถึงความผิดปกติใด ๆ
“ตอนนี้ท่านกำลังพยายามกลืนกินข้าอยู่หรือ?”
“อ้าว ทำไมเจ้าถึงไม่รู้สึกอะไรเลยล่ะ? ช่างแปลกจริง ๆ!”
“หรือว่าท่านจะทำไม่ได้แล้ว?”
เขาไม่ควรเลือกร่างนี้เป็นร่างหลัก ช่างควบคุมอารมณ์ยากเหลือเกิน!
แม้เทพปีศาจจะบอกกับหลิงเยว่ว่าการเปลี่ยนร่างนั้นง่ายดาย แต่ความจริงแล้วไม่ง่ายเลย
“เหตุใดเจ้าถึงไม่พูด เพราะไม่อยากพูดหรือกลัวว่าจะควบคุมตัวเองไม่ได้แล้วบีบข้าจนแหลก?”
“ในใจอยากทำเช่นนั้นยิ่งนัก แต่เสียดายที่ยังทำไม่ได้สินะ?”
หลิงเยว่เริ่มพูดไม่หยุด พยายามทำลายกำแพงของเทพปีศาจ หากอารมณ์ของเขาควบคุมไม่ได้ การยึดการควบคุมร่างกายก็จะง่ายขึ้น
ไม่อาจปล่อยให้ร่างระเบิดตัวเองได้ เพราะต้องลองขุดหัวใจ เพื่อนำเมล็ดพันธุ์ศักดิ์สิทธิ์ออกมาดูก่อน
“รอให้ข้าจัดการกับชายชั่วนั่นก่อน ค่อยมาจัดการเจ้าก็ไม่สาย ตอนนี้เจ้าพูดไปเถอะ เพราะต่อไปจะไม่มีโอกาสได้พูดแล้ว”
เทพปีศาจก็เริ่มใช้วาทศิลป์เช่นกัน ใครจะไม่รู้จักพูดประชดประชันกันเล่า?
“ข้าก็กำลังพยายามพูดอยู่ไม่ใช่หรือ?”
หลิงเยว่ยิ้ม พลันหัวเราะคิกคัก แต่รอยยิ้มนั้นหยุดชะงักลงกลางคัน
ในยามนี้ทะเลสาบเงาแตกออกเป็นหลายสิบชิ้น แต่ละชิ้นสะท้อนภาพผู้คนที่นางคุ้นเคย ทั้งอาจารย์ มิตรสหาย ลูกศิษย์ รวมถึงกองทัพสัตว์ศึก ทุกคนล้วนตกอยู่ในสถานการณ์คับขัน
เหล่าสนมปีศาจและเหล่าปีศาจดูเหมือนได้รับคำสั่งบางอย่าง พวกเขามุ่งไล่ล่าเฉพาะผู้ที่หลิงเยว่รู้จัก หรือแม้แต่เคยพบหน้าเพียงครั้งสองครั้ง
กองทัพปีศาจเมินเฉยต่อผู้บำเพ็ญที่ไม่เกี่ยวข้องกับหลิงเยว่ พวกเขาจับจ้องเฉพาะผู้บำเพ็ญที่มีความเกี่ยวพันกับนางเท่านั้น รวมถึงเผ่าปีศาจและปีศาจระดับสูงที่ทรยศ ขณะเดียวกัน พุทธวิหารก็ถูกจัดให้เป็นเป้าหมายสำคัญในการไล่ล่า เนื่องจากการปรากฏตัวของหลิงเยว่ในร่างเณรน้อย
ส่วนสำนักอื่น ๆ ถูกจัดสรรตามระดับความคุ้นเคย
กลุ่มผู้บำเพ็ญอิสระกำลังจะต่อสู้เอาเป็นเอาตายกับกองกำลังปีศาจ แต่กลับพบว่าพวกมันเลือกที่จะเดินอ้อมไป
อ้อมไป?
พวกเขาถึงกับเดินอ้อมไปเลยหรือ?!
“นี่… เกิดอะไรขึ้น?”
ขณะที่ผู้บำเพ็ญอิสระรู้สึกเหมือนรอดพ้นจากความตาย เครื่องหมายคำถามในหัวของพวกเขาก็ผุดขึ้นมาทีละอัน
กลุ่มคนมองหน้ากันเลิ่กลั่ก
สถานการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นในทุกมุมของสองโลก
“ดูเหมือนว่าผู้สืบทอดต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์จะทำให้ปีศาจโกรธจนหัวฟัดหัวเหวี่ยงเสียแล้ว…”
ลูกอ่อนของอีกาสุริยันรู้สึกได้อย่างรวดเร็วถึงการโจมตีที่มาจากเผ่าปีศาจ
“แค่ไม่คิดว่าผู้บำเพ็ญที่เกี่ยวข้องกับผู้สืบทอดจะมีเกือบครึ่งหนึ่งของโลกวิญญาณ แม้แต่ในโลกปีศาจก็ยังมีถึงหนึ่งในสาม”
“สมแล้วที่เป็นผู้สืบทอดต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์”
อิงหลงทึ่งในความกว้างขวางของหลิงเยว่เหลือเกิน ทั้งเมืองฮั่วหยางและทั่วทั้งดินแดนทางตอนเหนือ เมืองฝู่ซางทางตะวันออก พุทธวิหารทางตะวันตก สำนักหลานเทียนที่อยู่ทางใต้ ป่าทะเลปีศาจในโลกปีศาจ เผ่ากระทิงปีศาจในถิ่นที่อยู่ของปีศาจระดับสูง รวมถึงวังปีศาจ สิงโตเก้าหางและอสรพิษเก้าเศียร…
นับไปนับมา สมองของอิงหลงก็เริ่มสับสน ดูเหมือนว่าอสรพิษเก้าเศียรจะเป็นพวกที่โม่จวินเจ๋อดึงมาตอนที่เป็นสนมปีศาจที่สี่ แต่การได้เป็นสนมปีศาจที่สี่ก็ดูเหมือนจะเป็นแผนการของหลิงเยว่
ผู้คนที่เผ่าปีศาจต้องโจมตีนั้นมีมากมายเหลือเกิน ไม่ต่างอะไรกับการทำลายล้างสิ่งมีชีวิตในสองภพ
“เจ้านี่ช่างเก่งกาจนัก”
เทพปีศาจที่ได้รับความทรงจำส่วนใหญ่ของหลิงเยว่กล่าวขึ้น พร้อมสีหน้าที่หม่นลง หากให้เวลาแก่เมล็ดพันธ์ุศักดิ์สิทธิ์อีกสักระยะ นางคงทำการรวมสองภพได้สำเร็จจริง ๆ
“ขอบคุณสำหรับคำชม”
น้ำเสียงของหลิงเยว่เปลี่ยนเป็นหม่นหมองเช่นกัน เมื่อใดกันที่เทพปีศาจออกคำสั่งให้แก่สนมปีศาจและแม่ทัพปีศาจในโลกผู้บำเพ็ญ?
นางไม่ทันสังเกตเห็นเลยแม้แต่น้อย
เทพปีศาจราวกับได้ยินเสียงในใจของหลิงเยว่ “ไม่จำเป็นต้องให้ข้าออกคำสั่งด้วยตนเองหรอก”
ดังนั้น นั่นจึงเป็นร่างแยกที่ออกคำสั่งแทน
หลิงเยว่จ้องมองทะเลสาบเงาที่แตกออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย แล้วจมดิ่งสู่ความเงียบงันอีกครั้ง
…………….