ยอดกุ๊กบุกแดนเซียน - บทที่ 462 ข้า… เป็นอะไร?
……….
บทที่ 462 ข้า… เป็นอะไร?
ด้วยการหลีกทางของต้นไม้หน้าคน การเดินทางของทั้งสามจึงเป็นไปอย่างราบรื่นมาก จนกระทั่งมาถึงน้ำตก เงือกหนุ่มจึงได้สติกลับคืนมา
สิ่งที่ปรากฏตรงหน้าทั้งสามคือน้ำตกขนาดมหึมาที่ประกอบด้วยน้ำตกเล็ก ๆ ด้านในนับไม่ถ้วน ความกว้างของน้ำตกดูราวกับครอบคลุมครึ่งหนึ่งของท้องฟ้าในโลกผู้บำเพ็ญเซียน แต่สีของน้ำตกกลับเป็นสีเทา แม้ดูยิ่งใหญ่อลังการแต่แฝงไปด้วยความหดหู่อย่างยิ่ง
เพื่อป้องกันไม่ให้ถูกน้ำตกกระเซ็นใส่ โม่จวินเจ๋อรีบสร้างกำแพงป้องกันให้หลิงเยว่ทันที ส่วนเงือกหนุ่มถูกน้ำสีเทากระเซ็นใส่จนวิญญาณละลายไปต่อหน้าต่อตา
ละลายไปแล้ว…
หลิงเยว่ชี้ไปยังเงือกหนุ่มที่กลายเป็นแอ่งน้ำสีเทา ปลาที่นางอุตส่าห์ช่วยเหลือมาด้วยความยากลำบากจบลงแบบนี้เลยหรือ!?
ก็ได้ แท้จริงแล้วไม่ได้ลำบากอะไรมากนัก แค่ใช้เวลาค้นหานานหน่อยเท่านั้นเอง
“เขา…”
“ช่างไร้ประโยชน์จริง ๆ”
โม่จวินเจ๋อใช้พลังดึงแอ่งน้ำสีเทานั้นขึ้นมา ไม่นานเงือกหนุ่มก็ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง เพียงแต่จากเดิมที่มีสีสันกลับกลายเป็นสีเทา แม้แต่ดวงตาสีฟ้าสวยงามก็กลายเป็นสีเทาหม่นไปด้วย
สิ่งนี้ทำให้หลิงเยว่นึกถึงร่างแยกของเทพปีศาจต้อกระจกและพวกปลาหมัวอิน
ร่างแยกของเทพปีศาจต้อกระจกคงจะตายไปแล้ว ไม่รู้ว่าเผ่าปลาหมัวอินจะเป็นอย่างไรบ้าง?
“ถูกขังนานเกินไป จนลืมความน่าสะพรึงกลัวของหมอกพิษน้ำตกเถ้าวิญญาณแล้วหรือ?”
เงือกหนุ่มหลบไปอยู่ด้านหลังของหลิงเยว่ มองไปยังน้ำตกมหึมาที่สูงตระหง่านเทียมเมฆเบื้องหน้าด้วยความหวาดกลัว
ท่าทางขี้ขลาดนี้ทำให้หลิงเยว่อดสงสัยไม่ได้ว่าเงือกตัวนี้จะสามารถพาพวกเขาเข้าไปในสุสานใต้น้ำได้จริงหรือ?
ถูกต้อง ทะเลสาบสีเทาใต้น้ำตก… ไม่สิ พูดให้ถูกต้องกว่านั้นควรเรียกว่ามหาสมุทรสีเทา ชนิดที่มองไปสุดลูกหูลูกตาก็ไม่เห็นจุดสิ้นสุด ด้านบนนั้นคือหมอกควันสีเทาดำที่ลอยวนเวียน ไม่สามารถมองเห็นว่าใต้น้ำนั้นมีอะไรอยู่
เพียงแค่สีก็ทำให้หลิงเยว่รู้สึกกดดันแล้ว พอนึกว่าต้องลงไปในน้ำ ยิ่งรู้สึกหดหู่หนักขึ้นไปอีก
โม่จวินเจ๋อโยนกิ่งไม้วิญญาณลงไปในน้ำ กิ่งไม้เพียงสัมผัสกับหมอกควันสีเทาดำกลับกลายเป็นผุยผงละลายไปในน้ำทันที
จากนั้นแร่หายากสีม่วงทองก็ถูกโยนลงไปอีก มันทนทานกว่ากิ่งไม้วิญญาณเล็กน้อย แต่ยังต้องละลายไปเช่นกัน
หลิงเยว่กลืนน้ำลายด้วยความหวาดกลัว สิ่งไร้ชีวิตเข้าไปแล้วยังหายสาบสูญ หากพวกเขาเข้าไปคงไม่เหลืออะไรแน่!
ไม่ต้องไปยุ่งกับสุสานใต้น้ำก็ดีอยู่แล้ว!
โม่จวินเจ๋อเบนสายตาไปยังเงือกหนุ่มที่ยังคงซ่อนตัวอยู่หลังหลิงเยว่ แล้วเอ่ยอย่างเย็นชา “ข้าไม่ได้ช่วยเจ้าออกมา เพื่อให้มายืนดูเฉย ๆ”
“ข้าขอเวลาคิดสักครู่”
เงือกหนุ่มเดินออกมาจากด้านหลังของหลิงเยว่อย่างเก้อเขิน แล้วนั่งลงบนพื้น
“เขา… ไว้ใจได้จริงหรือ?” หลิงเยว่มีสีหน้าลำบากใจ
“น่าจะได้กระมัง?”
โม่จวินเจ๋อเหลือบมองหลิงเยว่ที่ขยับเข้ามาใกล้ ในใจรู้สึกยินดี แต่ภายนอกเขายังคงแสดงท่าทางเย็นชาเช่นเคย
“ในฐานะที่ท่านเป็นอะไรสักอย่าง ท่านไม่มีวิธีพาข้าลงไปอย่างปลอดภัยหรือ?”
“ข้า… เป็นอะไรหรือ?” โม่จวินเจ๋อถามด้วยสีหน้างุนงง
หลิงเยว่ทำสัญญาณให้โม่จวินเจ๋อก้มหัวลงมา แล้วกระซิบเบา ๆ ว่า “ท่านไม่ใช่ผู้ทรงพลังที่กลับชาติมาเกิดหรอกหรือ?”
“เจ้า…”
เดิมทีโม่จวินเจ๋ออยากถามหลิงเยว่ว่าเดาได้อย่างไร แต่เมื่อเห็นดวงตาเป็นประกายอยากรู้อยากเห็นของนาง เขาได้แต่ส่ายหน้าเงียบ ๆ
โม่จวินเจ๋อรู้ดีว่าหากเขาพยักหน้ารับ หลิงเยว่จะต้องมีคำถามนับไม่ถ้วนรออยู่แน่
หลิงเยว่ทำหน้าเบื่อหน่าย คิดในใจว่า ‘ช่างเถอะ ตอนนี้ไม่ยอมรับก็ได้ รอถึงแดนเทพเมื่อไหร่ ข้าคงได้คำตอบเองแหละ’
แดนเทพจะเป็นเช่นไรหนอ?
หลิงเยว่รู้สึกตื่นเต้นยิ่งนัก
เพียงแต่ตอนนี้พวกเขายังมีน้ำตกเถ้าวิญญาณขวางอยู่ หากข้ามผ่านดินแดนอันตรายนี้ไปได้จึงจะใกล้แดนเทพไปอีกก้าว
“นี่ เจ้าคิดออกหรือยัง?”
จากท่าทีของโม่จวินเจ๋อ หลิงเยว่รู้ว่าอีกฝ่ายคงไม่มีวิธีรับมือกับน้ำตกเถ้าวิญญาณ หรือถ้ามี แต่วิธีนั้นคงไม่เหมาะกับนางกระมัง?
ย่อมเป็นเช่นนั้น โม่จวินเจ๋อมีวิธีเข้าสู่น้ำตกเถ้าวิญญาณจริง แต่เขาไม่อาจรับประกันได้ว่าหลิงเยว่จะไม่ได้รับบาดเจ็บ ราคาที่ต้องจ่ายนั้นสูงเกินไป อีกทั้งตอนนี้มีคนเต็มใจนำทางเข้าไปโดยไม่บาดเจ็บ แล้วเขาจะต้องพยายามไปทำไม?
“หากเจ้ายังนึกไม่ออก ข้าช่วยเจ้าทบทวนความจำก็ได้”
เมื่อโม่จวินเจ๋อเอ่ยจบ เงือกหนุ่มที่กำลังหลับตาครุ่นคิดพลันลืมตาขึ้น แล้วกระโดดถอยหลังออกไป
ให้ชายผู้โหดร้ายคนนี้ช่วยทบทวนความจำหรือ? เขาไม่ได้เบื่อชีวิตตัวเองเสียหน่อย!
เพื่อป้องกันไม่ให้โม่จวินเจ๋อลงมือโดยไม่พูดพร่ำทำเพลง เงือกหนุ่มเผยอริมฝีปากเล็กน้อย แล้วเริ่มใช้เสียงอันไพเราะเรียกสหายออกมา
เรียกสหาย?!
หลิงเยว่ตกตะลึง เผ่าเงือกคงไม่ได้อาศัยอยู่ในน้ำตกเถ้าวิญญาณกระมัง?
หากเป็นเช่นนั้นจริง เผ่าพันธุ์ของพวกเขาคงแข็งแกร่งมาก!
เงือกหนุ่มร้องเรียกจนเสียงแหบแห้ง แต่เพื่อนร่วมเผ่าที่เขากล่าวถึงกลับไม่ปรากฏตัวสักที มีเพียงเสียงน้ำตกกึกก้องตอบรับเสียงขับขานของเขา
“เผ่าพันธุ์ของเจ้าคงไม่ได้ถูกผนึกอยู่ในต้นไม้ผนึกวิญญาณเช่นเดียวกับเจ้ากระมัง?”
เงือกหนุ่มตอบทันควัน เผ่าของพวกเขาคอยปกป้องสุสานใต้น้ำมาหลายชั่วอายุคน แม้จะมีอันตราย เพียงแค่หลบซ่อนนิดหน่อยเท่านั้น แต่เป็นไปไม่ได้ที่เผ่าของเขาจะสูญพันธุ์
“แล้วเหตุใดพวกเขาจึงไม่ตอบรับการเรียกของเจ้า?”
โม่จวินเจ๋อซ้ำเติม ทำให้เงือกหนุ่มพูดไม่ออก
“ลองอีกครั้งไหม? บางทีพวกเขาอาจซ่อนตัวอยู่ลึกเกินไป จนไม่ได้ยินเสียงเรียกของเจ้า?”
หลิงเยว่เพิ่งพูดจบ หนุ่มหล่อทั้งสองก็หันมามองนาง
“การสื่อสารของเผ่าเงือกสามารถส่งตรงถึงหัวใจของเผ่าพันธุ์เดียวกัน”
ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะไม่ได้ยิน มีเพียงความเป็นไปได้ว่าพวกเขาไม่สามารถตอบสนองได้ในตอนนี้ หรือไม่ก็ถูกทำลายล้างทั้งเผ่าแล้ว
โม่จวินเจ๋ออธิบายอย่างใจเย็น
เงือกหนุ่มหมดอาลัยตายอยาก แต่เขายังไม่ยอมแพ้ เรียกหาเหล่าสหายในน้ำตกเถ้าวิญญาณซ้ำแล้วซ้ำเล่า
“จะทำอย่างไรดี?”
“คงต้องใช้วิธีของข้าแล้วละ แต่เจ้าอาจจะต้องทนเจ็บหน่อย”
“ไม่เป็นไร”
ทนเจ็บนิดหน่อยจะเป็นอะไรไป นางเคยทนเจ็บมาน้อยเสียเมื่อไหร่ล่ะ?
แม้หลิงเยว่จะพูดเช่นนั้น แต่โม่จวินเจ๋อก็ยังลังเลอยู่ดี ความเจ็บปวดนั้นยากจะทนกว่าการถูกฟ้าผ่าจนร่างแหลกสลายเสียอีก
อีกอย่าง สายฟ้าทำลายเพียงร่างกาย แต่น้ำตกเถ้าวิญญาณนั้นมุ่งทำลายดวงวิญญาณ… หลิงเยว่จะทนได้จริง ๆ หรือ?
เมื่อทั้งสองเตรียมตัวออกเดินทาง เงือกหนุ่มที่เรียกหาสหายด้วยเสียงแหบพร่าก็ปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าพวกเขาอย่างกะทันหัน
“พวกเจ้ายืนกรานจะเข้าไปในน้ำตกเถ้าวิญญาณตอนนี้หรือ?”
“อืม”
หลิงเยว่รู้ดีว่าเหลือเวลาไม่มากแล้ว พวกเขาจำเป็นต้องมีพลังที่จะต่อกรกับเทพปีศาจได้โดยตรง ก่อนที่ค่ายกลสะท้อนพันธะและค่ายกลวิถีดาราจะถูกทำลาย!
ขอเพียงแค่จัดการกับเทพปีศาจได้ ปัญหาอื่น ๆ ย่อมง่ายขึ้น
“ข้าสามารถพาพวกเจ้าเข้าไปในสุสานใต้น้ำได้อย่างปลอดภัย หากพวกเจ้ายอมรับเงื่อนไขของข้าหนึ่งข้อ”
“เจ้าไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วหรือ?” โม่จวินเจ๋อเลิกคิ้วอย่างประหลาดใจ
“ตราบใดที่เจ้ายินดีช่วยตามหาญาติพี่น้องของข้า หากวิญญาณที่เหลือเพียงน้อยนิดนี้ต้องดับสูญไปก็ถือว่าคุ้มค่า”
แววตาของเงือกหนุ่มฉายแววมุ่งมั่น
“หากเจ้าแน่ใจว่าเผ่าพันธุ์ของเจ้ายังมีชีวิตอยู่ ข้าสามารถช่วยตามได้”
“ข้าแน่ใจว่าพวกเขา… บางส่วนยังมีชีวิตอยู่” เงือกหนุ่มเอ่ยด้วยน้ำเสียงขมขื่น
“ถ้าเช่นนั้น ขอให้ความร่วมมือของเราเป็นไปได้ด้วยดี”
โม่จวินเจ๋อตัดสินใจทำข้อตกลงแล้ว
หลิงเยว่ “…”
“ช้าก่อน ข้ามีอะไรจะพูด”
โม่จวินเจ๋อและเงือกหนุ่ม “?”