ยอดกุ๊กบุกแดนเซียน - บทที่ 465 แท้จริงแล้วมันคือของบำรุงร่างกายชั้นเลิศ!
บทที่ 465 แท้จริงแล้วมันคือของบำรุงร่างกายชั้นเลิศ!
……….
บทที่ 465 แท้จริงแล้วมันคือของบำรุงร่างกายชั้นเลิศ!
ผู้บำเพ็ญที่รวมตัวกันได้หยอกล้อพวกปีศาจหลายครั้งจนทำให้พวกมันโกรธ ก่อนหน้าพวกมันเพียงแค่ทำตามคำสั่งของเทพปีศาจ แต่ตอนนี้พวกมันต้องการฆ่าผู้บำเพ็ญเหล่านี้ให้ได้!
การไล่ล่าที่รุนแรงได้มาถึงแล้ว!
เหล่าผู้บำเพ็ญไม่ได้โง่ พวกเขารู้ว่าพวกปีศาจโกรธแล้ว จึงไม่ยั่วยุต่อแล้วหนีไปซ่อนตัวแทน ส่งผลให้ในโลกผู้บำเพ็ญเซียนไม่สามารถหาผู้บำเพ็ญได้เลยแม้แต่คนเดียว
นอกจากพวกปีศาจที่วิ่งพล่านไปทั่วโลกผู้บำเพ็ญเซียนแล้ว ยังมีคำสาปที่ลอยไปทั่วด้วย
ในนั้นมีคำสาปหนึ่งได้เข้าไปในป่าต้นไม้มนุษย์ ตอนนี้มันกำลังลอยอยู่ใจกลางป่า สถานที่แห่งนี้คือที่ที่โม่จวินเจ๋อได้ทำลายต้นไม้หน้าคนไปเป็นจำนวนมาก
ที่นี่เต็มไปด้วยกลิ่นอายของผู้ถูกสาป แต่คำสาปกลับไม่สามารถระบุได้ว่าผู้ถูกสาปจากไปทางไหน สมองมันสับสนวุ่นวายยิ่งนัก
พลังคำสาปเปลี่ยนร่างเป็นหนอนสีดำตัวเล็ก ๆ ลอยไปยังต้นไม้หน้าคนที่เหลืออยู่เพียงไม่กี่ต้น
“ข้าขอถามหน่อย ผู้ที่ทำลายที่นี่ไปทางไหนหรือ?”
หากเทพปีศาจรู้ว่าคำสาปมีรูปร่าง และยังสุภาพเป็นมิตร เอ่ยถามทางจาก ‘มนุษย์’ ไม่รู้ว่าเขาจะแสดงสีหน้าเช่นไร?
ต้นไม้ที่แกล้งตายลืมตาขึ้นข้างหนึ่ง เมื่อเห็นว่าเป็นเพียงแมลงตัวน้อยก็พากันเบะปากแล้วหลับตาลงอีกครั้ง
พวกเขารู้ว่าชายโหดร้ายผู้นั้นไปที่ใด แต่จะบอกไม่ได้เด็ดขาด หากชายคนนั้นรู้ว่าพวกตนเปิดเผยเรื่องนี้ พวกเขาจะมีชีวิตรอดหรือ?
“บอกไม่ได้หรือ?”
พลังคำสาปไม่ยอมแพ้
“หากยอมบอก ข้าจะปลดปล่อยพวกเจ้าให้เป็นอิสระนะ”
คำว่าอิสระช่างล่อใจเหลือเกิน ทำให้ต้นไม้บางต้นแอบลืมตาอีกครั้ง “เจ้ามีพลังทำให้พวกข้าเป็นอิสระจริงหรือ? ไม่ได้หลอกพวกข้าใช่ไหม?”
เมื่อเห็นต้นไม้หน้าคนสนใจ พลังคำสาปก็ขยับร่างอย่างอารมณ์ดี “แน่นอน เพียงแค่ต้นไม้ผนึกวิญญาณเท่านั้นนี่”
“งั้นเจ้าช่วยปลดปล่อยพวกข้าให้เป็นอิสระก่อน แล้วพวกข้าจะพาเจ้าไปหาชายผู้นั้นเอง”
“ได้เลย!”
“เจ้าเป็นอิสระแล้ว!”
พลังคำสาปเรอออกมาอย่างอิ่มเอม มันได้รวบรวมข้อมูลที่ต้องการจากสมองของต้นไม้หน้าคนแล้ว จึงไม่จำเป็นต้องอยู่ที่นี่ให้เสียเวลาอีกต่อไป
ต้นไม้หน้าคนที่รอดพ้นจากเคราะห์กรรมมาได้อย่างหวุดหวิด สั่นเทิ้มไปทั้งตัวแล้วมองตามทิศทางที่พลังคำสาปจากไป หนอนดำตัวนั้นไม่ได้โกหก การตายก็ถือเป็นอิสรภาพอีกรูปแบบหนึ่ง
พวกเขาไปทำอะไรให้ใครเดือดร้อนกันนะ ทำไมช่วงนี้ถึงได้เจอแต่พวกโหดร้ายทารุณ แถมเจ้าตัวเมื่อกี้ยังโหดร้ายกว่าคนแรกเสียอีก!
ต้นไม้หน้าคนตัดสินใจว่าต่อไปนี้จะเป็นใบ้ ไม่ว่าใครจะมาข่มขู่หรือหว่านล้อมอย่างไรก็จะไม่ยอมส่งเสียงอีกเด็ดขาด!
พลังคำสาปตามรอยความทรงจำของวิญญาณที่เหลืออยู่มาถึงน้ำตกเถ้าวิญญาณ
หมอกพิษที่เกิดจากน้ำตกท่วมท้นพลังคำสาปในทันที แต่น่าเสียดายที่หมอกพิษไม่ส่งผลกระทบใด ๆ ต่อพลังคำสาป มันกระโจนลงสู่ทะเลเถ้าวิญญาณอย่างไม่ลังเล
ทันทีที่เข้าสู่ทะเลเถ้าวิญญาณ พลังคำสาปก็ได้กลิ่นของผู้ถูกสาปแช่งได้ชัดเจน!
ความน่าสะพรึงของทะเลเถ้าวิญญาณเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยสำหรับพลังคำสาป ความหนักอึ้งของน้ำสีเทายิ่งไม่ส่งผลกระทบต่อมัน มันว่ายลงไปอย่างรวดเร็ว จนกระทั่งมันเห็นแสงสีทองท่ามกลางความมืดครึ้ม
พลังคำสาปพลันชะงัก
ในขณะนั้นเอง โม่จวินเจ๋อดูเหมือนจะรู้สึกถึงบางสิ่ง เขาหันกลับมามองไปยังตำแหน่งที่พลังคำสาปหยุดอยู่
“ท่านมองอะไร?” หลิงเยว่มองตามสายตาของโม่จวินเจ๋อไป แต่สิ่งที่อยู่ตรงหน้าก็ยังคงเป็นสีเทาเหมือนเดิม ไม่มีอะไรเลย
โม่จวินเจ๋อก็มองไม่เห็นเช่นกัน แต่สัญชาตญาณบอกเขาว่ามีบางสิ่งกำลัง ‘มอง’ เขาอยู่ตรงนั้น และสิ่งนี้ให้ความรู้สึกคุ้นเคยอย่างน่าแปลก แต่ว่ามันคืออะไรกันแน่? โม่จวินเจ๋อยังนึกไม่ออก
จนกระทั่งพลังคำสาปพยายามบุกเข้าไปในร่างของโม่จวินเจ๋อที่หลิงเยว่ปกป้องอยู่ เขาจึงนึกออกว่าสิ่งนี้คืออะไร มันคือคำสาปของเทพ!
สิ่งนี้อีกแล้วหรือ!
ความทรงจำหลั่งไหลเข้ามาในสมองของโม่จวินเจ๋อ ที่เขาตกอยู่ในอันตรายหลายครั้งล้วนมาจากพลังคำสาป คราวนี้เทพปีศาจต้องการสาปอะไรกันแน่ สาปให้เขาตายหรือ?
แน่นอนว่าใช่ ดูสีของพลังคำสาปสิ ดำเหมือนหมึก เทพปีศาจคงใช้พลังทั้งหมดในการสาปครั้งนี้แล้ว
หลิงเยว่พยายามสกัดกั้นพลังคำสาปที่บุกเข้าสู่ร่างของโม่จวินเจ๋อ พลังคำสาปที่ถูกสกัดไว้ภายนอกกลายร่างเป็นแมลง อ้าปากกัดกินแสงสีทองอย่างบ้าคลั่ง
แต่กัดไปเพียงคำเดียว มือของมันกลับกลายเป็นมือไม้ขีดไฟจับคอตัวเองไว้แน่น “นี่มันอะไรกัน?”
หลิงเยว่หัวเราะขบขันกับท่าทางของพลังคำสาป
“ช่างร้ายกาจเหลือเกิน!”
พลังคำสาปปล่อยมือไม้ขีดไฟ แล้วแลบลิ้นออกมา ร่างสีดำสนิทพลันจางลง มันมองแสงสีทองราวกับเห็นสิ่งน่าสะพรึงกลัว
มันผู้ไม่เคยพ่ายแพ้ใคร กลับต้องมาพ่ายแพ้เช่นนี้หรือ?!
ไม่ได้!
ร่างของพลังคำสาปหายวับไป มันแปรสภาพเป็นพลังที่มองไม่เห็นปกคลุมบนแสงสีทอง พยายามละลายแสงสีทองเพื่อบุกรุกเข้าสู่ร่างของโม่จวินเจ๋อ แต่ผลกลับตรงกันข้าม สิ่งที่ถูกละลายกลับเป็นตัวมันเอง!
พลังคำสาปก่อนจะหายไป “???”
โม่จวินเจ๋อเลิกคิ้วด้วยความสนใจ เขาเตรียมรับมือกับพลังคำสาปแล้ว แต่ไม่คิดว่าพลังคำสาปที่เขาไม่มีทางสู้กลับถูกหลิงเยว่กำจัดอย่างง่ายดายเช่นนี้
“มันไปไหนแล้ว?”
หลิงเยว่มีสีหน้างุนงง นางไม่คิดว่าคนผู้นั้นจะยอมแพ้เร็วถึงเพียงนี้?
“เจ้าไม่รู้สึกอะไรเลยหรือ?”
แม้ว่าในฐานะผู้ถูกสาปจะไม่สามารถมองเห็นพลังคำสาปได้ แต่เขารู้สึกว่าพลังคำสาปนั้นหายไปแล้ว หลิงเยว่ในฐานะผู้กลืนกินจะไม่รู้สึกอะไรเลยได้อย่างไร?
“ไม่เลย ข้าควรจะรู้สึกอย่างไรหรือ?”
โม่จวินเจ๋อนิ่งเงียบ ในฐานะที่เขามักเป็นฝ่ายถูกสาป เขาไม่เคยกลืนกินพลังคำสาปกลับมาก่อน ดังนั้นเขาจึงไม่รู้ว่าควรจะรู้สึกอย่างไร
“อืม ตอนนี้ข้ารู้สึกบ้างแล้ว พลังที่ถูกใช้ไปได้กลับคืนมาไม่น้อย” ดวงตาทั้งสองของหลิงเยว่เปล่งประกายวาววับ สิ่งนี้ช่างเป็นของบำรุงชั้นเยี่ยม!
“สิ่งนี้มาหาเจ้าใช่หรือไม่? มันยังมีอีกไหม?”
เมื่อเผชิญกับสายตากระตือรือร้นและคาดหวังของหลิงเยว่ โม่จวินเจ๋อก็ตกอยู่ในความเงียบอีกครั้ง นางต้องการให้เขาถูกสาปด้วยพลังคำสาปอันไม่มีที่สิ้นสุดหรืออย่างไร?
อย่างไรก็ตาม บุคลิกของร่างแยกเทพปีศาจ การใช้คำสาปของเทพคงไม่มีเท่านี้แน่ บางทีอีกสักพักอาจจะมาอีก…
เทพปีศาจที่กำลังฝ่าด่านอยู่บนเส้นทางไปแดนเทพพลันชะงัก เขาได้ใช้คำสาปของเทพไปทั้งหมดสี่สิบแปดครั้ง แต่ตอนนี้กลับมีหนึ่งครั้งที่ยังไม่ทันได้เริ่มสาปก็สูญเปล่าไปเสียแล้ว!
มันถูกทำลายแล้วหรือ!?
เทพปีศาจไม่ทันระวังตัวจึงถูกการทดสอบของแดนเทพเตะลงไป ส่งผลให้เขาที่กำลังจะเข้าสู่การทดสอบรอบที่สองต้องเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง
ร่างแยกทั้งห้าที่ขึ้นไปถึงชั้นสูงสุดแล้ว ได้แต่จ้องมองร่างแท้หายลับไปจากสายตา พวกเขาต่างพากันนิ่งเงียบไปชั่วขณะ
เกิดเหตุการณ์ใหญ่อะไรขึ้น ถึงทำให้ร่างแท้เสียสมาธิจนล้มเหลวเข่นนี้?
……….