ยอดกุ๊กบุกแดนเซียน - บทที่ 470 ช่างโหดร้ายนัก!
บทที่ 470 ช่างโหดร้ายนัก!
“ค่ายกลนี้ช่างโหดร้ายเหลือเกิน!”
หลิงเยว่โกรธแค้นพลางรู้สึกถึงความน่าสะพรึงกลัวของเหล่าปรมาจารย์ด้านการวางแผนผังอย่างลึกซึ้ง แต่ก่อนก็น่ากลัวอยู่แล้ว แต่ไม่เท่ากับที่นางได้เห็นกับตาในตอนนี้
ต้องเป็นคนที่ชั่วร้ายเพียงใดกันถึงจะสร้างค่ายกลที่ดูดวิญญาณคนนับแสนในพริบตา โดยที่พวกเขาไม่อาจต่อต้านได้เลย!
“ท่านเป็นปรมาจารย์ด้านการวางแผนผังด้วยไม่ใช่หรือ ค่ายกลแบบนี้เจ้าก็ทำได้ใช่ไหม?”
โม่จวินเจ๋อนิ่งเงียบ หากบอกว่าค่ายกลดูดวิญญาณนี้เป็นฝีมือของเขาเอง นางจะมองเขาอย่างไรเล่า?
จะไม่คิดว่าเขาโหดร้ายหรือ?
“ทำไมไม่พูดล่ะ?”
โม่จวินเจ๋อยังคงมองไปข้างหน้าราวกับคนหูหนวก
“ค่ายกลนี้… คงไม่ใช่ท่านเป็นคนสร้างขึ้นมาหรอกนะ!?”
“เป็นข้าเอง” โม่จวินเจ๋อกล่าวด้วยเสียงที่ค่อย ๆ อ่อนลง “แต่การดึงวิญญาณของชาวเงือกในทะเลลึกไม่ใช่ฝีมือของข้า ตอนนั้นข้าเพียงแต่คิดสร้างค่ายกลดูดวิญญาณขึ้นมาเฉย ๆ โดยไม่ได้บอกใครเลย”
“ถ้าท่านไม่ได้บอกใคร แล้วทำไมถึงเป็นแบบนี้ล่ะ?”
“อาจเป็นไปได้ว่าคนอื่นก็คิดเหมือนเขา หรือไม่อาจเป็นคนใกล้ตัวของเขาเอง…”
เงือกหนุ่มเอ่ยด้วยน้ำเสียงน้อยใจ แต่เขารู้ว่าคนที่ทำเรื่องนี้คงไม่ใช่ชายโหดเหี้ยมตรงหน้า แต่คนที่วางค่ายกลต้องรู้จักโม่จวินเจ๋อแน่นอน และยังมีความสัมพันธ์ที่ดีด้วยใช่หรือไม่?
โม่จวินเจ๋อไม่สนใจเงือกหนุ่ม คำพูดเช่นคนใกล้ตัวนั้นช่างไร้สาระสิ้นดี เพราะรอบตัวเขาไม่มีใครเลย
อืม… ถ้ามีก็คงเป็นในอนาคต
โม่จวินเจ๋อแอบมองหลิงเยว่แวบหนึ่ง แล้วเดินลึกเข้าไป
ครั้งนี้มีศพเงือกลอยน้ำจำนวนมาก เดินไปนานก็ยังไม่พ้น
ไม่ถูกสิ พวกเขากำลังเดินวนอยู่กับที่?
“เป็นไปได้อย่างไร?”
‘ในฐานะที่เป็นกายาต้านหายนะ ข้าไม่เคยติดอยู่ที่ใดที่หนึ่งมาก่อน หรือว่าเป็นเพราะตอนนี้ข้าอยู่ในร่างของโม่จวินเจ๋อ ทำให้คุณสมบัตินี้ใช้ไม่ได้?’ หลิงเยว่คิด
“ที่นี่อาจถูกออกแบบมาเป็นพิเศษสำหรับกายาต้านหายนะก็ได้”
คำพูดของโม่จวินเจ๋อปฏิเสธข้อสันนิษฐานของหลิงเยว่
หลิงเยว่ “…”
คงไม่ใช่อีกคนที่หมายปองร่างของนางอยู่หรอกนะ?
แต่เขาจะรู้ได้อย่างไรว่านางจะมาที่นี่?
“ใช่แล้ว เขาจะรู้ได้อย่างไรกัน?”
“พวกเจ้าช่างมั่นใจเสียจริง ใครบอกว่าที่นี่ถูกจัดเตรียมไว้สำหรับพวกเจ้า?”
เสียงแทรกของเงือกหนุ่มดึงดูดความสนใจของทุกคน
“แล้วเจ้ารู้หรือ?” หลิงเยว่และโม่จวินเจ๋อถามพร้อมกัน
“ข้าไม่รู้”
โม่จวินเจ๋ออยากบีบหัวเงือกตนนั้นให้แหลกคามือเหลือเกิน
“แต่ข้าได้แอบฟังผู้นำเผ่ากับสมาชิกเผ่า ข้าจึงรู้เหตุผลว่าทำไมเผ่าของพวกเราถึงต้องปกป้องสุสานใต้น้ำสืบทอดกันมาหลายชั่วอายุคน” คำพูดนั้นช่วยให้เขารักษาหัวของตนเองไว้ได้
“เป็นเพราะคนที่ให้พวกเราปกป้องสุสานสัญญาว่า เมื่อถึงเวลาอันเหมาะสม เขาจะฟื้นคืนชีพสมาชิกทุกคนในเผ่าที่ตายไปทันที!”
“…”
หลิงเยว่และโม่จวินเจ๋อมองเงือกหนุ่มอย่างเงียบงัน ไม่คิดว่าเผ่าของพวกเขาจะซื่อและโง่เขลาถึงเพียงนี้
คำสัญญาแบบนี้ก็เชื่อหรือ?
“ฮึ! ผู้นำเผ่าของพวกข้าไม่ได้โง่หรอก คนผู้นั้นมีความสามารถจริง ๆ เขาฟื้นคืนชีพลูกปลาสองตัวที่ตายก่อนวัยอันควรต่อหน้าต่อตาเลย”
แม้ว่าเขาจะไม่ได้เห็นเหตุการณ์นั้นด้วยตาตนเองก็ตาม
หลิงเยว่และโม่จวินเจ๋อมองหน้ากันอย่างงุนงง และยืนยันจากคำพูดของเงือกหนุ่มว่า นี่เป็นอีกคนหนึ่งที่หมายปองพลังของเมล็ดพันธุ์ศักดิ์สิทธิ์แน่นอน!
และคนผู้นี้วางแผนมานานกว่าเทพปีศาจ ทั้งยังซ่อนตัวได้เก่งกว่า ทำให้พวกเขาไม่อาจเดาได้เลยว่าใครกันแน่ที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้
โม่จวินเจ๋อไม่อยากสืบหาต่อแล้ว หากเป็นเขาคนเดียว เขาจะต้องสืบค้นต่อไปอย่างแน่นอน แต่ตอนนี้รู้แล้วว่าเป้าหมายของผู้ที่ซ่อนตัวอยู่คือเมล็ดพันธุ์ศักดิ์สิทธิ์ ด้วยพลังที่ยังไม่ฟื้นคืนสมบูรณ์ของเขาในตอนนี้ เขาไม่มั่นใจเลยว่าจะปกป้องหลิงเยว่ได้
หลิงเยว่รู้สึกสับสนอย่างยิ่ง นางเป็นคนดี ๆ คนหนึ่งกลายเป็นเมล็ดพันธุ์ครึ่งซีกก็แล้วไป แต่ตอนนี้ทำไมทุกคนต่างอยากกลืนกินนางด้วยเล่า?
การมีชีวิตอยู่… ช่างยากเย็นเหลือเกิน!
โม่จวินเจ๋อไม่อยากสืบหาต่อ แต่หลิงเยว่ไม่เห็นด้วยแน่นอน ในเมื่อมาถึงที่นี่แล้ว หากเดินกลับไปไม่ใช่เสียเปล่าหรอกหรือ? หากบังเอิญเจอเทพปีศาจที่ตามมาระหว่างทางเล่า?
ไม่ว่าจะเป็นศัตรูคนเดียวหรือสองคน นางจะไม่ถอยกลับเด็ดขาด!
“บางทีคนผู้นั้นอาจตายไปแล้ว”
“อืม…” โม่จวินเจ๋อตอบอย่างขอไปที แต่ไม่ได้เดินกลับ
ส่วนเทพปีศาจที่หลิงเยว่พูดถึง ตอนนี้เขากำลังคลั่ง เส้นทางแห่งเทพถูกเขาทำลายจนย่อยยับ
ต้องมีเส้นทางที่สองแน่นอน ศัตรูคู่อาฆาตและเมล็ดพันธุ์ศักดิ์สิทธิ์ต้องอยู่ที่นั่นแน่นอน!
เส้นทางที่สองอยู่ที่ไหนกันนะ?
เทพปีศาจที่เดินอยู่ท่ามกลางซากปรักหักพังใช้จิตสำรวจออกไปครอบคลุมแทบจะทั่วโลกผู้บำเพ็ญเซียน
ผู้รอดชีวิตที่ถูกกวาดผ่านด้วยจิตอันทรงอำนาจต่างสั่นเทิ้มด้วยความหวาดกลัวว่า จิตอันทรงพลังของผู้ทำลายล้างนี้จะทำอะไรพวกเขาสักอย่าง ซึ่งจะต้องทำให้พวกเขาตายอย่างแน่นอน!
โชคดีที่… ทุกคนถูกกวาดผ่านไปโดยไม่มีใครเสียชีวิต แม้แต่ผู้ที่เตรียมใจจะถูกจิตของเทพปีศาจสังหารอย่างผู่ตานและคนอื่น ๆ ก็ยังปลอดภัยดี
ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าจิตนี้เป็นของใคร เพราะทั่วทั้งโลกมีเพียงเทพปีศาจเท่านั้นที่มีความสามารถนี้
ท้ายที่สุด… เส้นทางสู่แดนเทพถูกทำลายโดยเขาที่จู่ ๆ ก็คลุ้มคลั่งขึ้นมา
คงเป็นเพราะหาหลิงเยว่และโม่จวินเจ๋อไม่พบสินะ?
พอคิดถึงเรื่องนี้ผู่ตานก็รู้สึกดีใจเป็นพิเศษ
ไม่รู้ว่าทั้งสองคนหลบไปซ่อนตัวที่ไหนกันแน่ ถึงขนาดเทพปีศาจยังหาไม่พบ
คงไม่ใช่ว่าได้เข้าสู่แดนเทพสำเร็จแล้วกระมัง?
จู่ ๆ เทพปีศาจก็มีเลือดไหลออกจากปากและจมูก แต่เขากลับขยายจิตสัมผัสต่อไป จนกระทั่งแผ่ครอบคลุมทั่วทั้งโลกผู้บำเพ็ญเซียน
ครั้งนี้ความปรารถนาที่จะค้นหาเมล็ดพันธุ์ศักดิ์สิทธิ์ของเขาแรงกล้ายิ่งกว่าครั้งใด!
ดวงตาทั้งสองของเทพปีศาจเต็มไปด้วยเส้นเลือดสีแดง แล้วกลายเป็นเลือดไหลลงมา…
ต่อมาคือหูทั้งสอง… ทั้งอวัยวะภายใน แม้แต่ผิวหนังก็ยังมีเลือดซึม ราวกับมนุษย์เลือด!
นี่คือผลกระทบจากการใช้พลังเกินขอบเขตของโลกผู้บำเพ็ญเซียน
เมล็ดพันธุ์ศักดิ์สิทธิ์ที่ปกป้องหัวใจเริ่มซ่อมแซมอาการบาดเจ็บของเทพปีศาจอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย
เมื่อรู้สึกได้ถึงอาการบาดเจ็บที่กำลังฟื้นฟู เทพปีศาจยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย นี่คือพลังของเมล็ดพันธุ์ศักดิ์สิทธิ์ ช่างน่าหลงใหลเหลือเกิน…
และสิ่งที่ทำให้เทพปีศาจตื่นเต้นยิ่งกว่านั้นคือ…
เขาถึงกับมองเห็นพลังคำสาปที่ตนเองแผ่ออกไป รวมตัวกันอยู่ในป่าแห่งหนึ่ง
ศัตรูคู่อาฆาตและเมล็ดพันธุ์ศักดิ์สิทธิ์อยู่ที่นั่น!
ช่างเป็นโชคดีของเขาเหลือเกิน!
เทพปีศาจปรากฏกายยังป่าต้นไม้มนุษย์ เหนือศีรษะมีพลังคำสาปนับสิบกำลังส่งเสียงจ้อกแจ้ก
ที่แท้พวกมันยังมีร่างเดิมและสามารถสื่อสารกันได้?
“เป็นพลังของเจ้าหรือที่ทำให้ข้าเห็นพวกมันหรือ?”
เทพปีศาจถามเมล็ดพันธุ์ศักดิ์สิทธิ์ที่ยังคงรักษาบาดแผลให้เขา แน่นอนว่าไม่มีคำตอบ
เทพปีศาจมั่นใจว่าต้องเป็นฝีมือของเมล็ดพันธุ์ศักดิ์สิทธิ์แน่นอน
แต่ทำไมก่อนหน้านี้เมื่อเขาใช้คำสาปแห่งเทพ จึงไม่เห็นพวกมันเล่า?
ช่างเถอะ ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาสนใจเรื่องนี้ แต่ต้องรีบหาคนและเมล็ดพันธุ์ที่ซ่อนอยู่ที่นี่ให้เร็วที่สุด!
“พวกเจ้ากำลังตามหาชายหนุ่มในชุดคลุมดำใช่หรือไม่? เขาอยู่ที่ทะเลเถ้าวิญญาณ พวกเจ้ารีบไปเถิด หากช้าไปอาจไม่ทันการณ์!”
พวกต้นไม้หน้าคนยังไม่ทันรอให้พลังคำสาปและปีศาจถามคำถาม ก็เปิดทางให้พวกเขาทันที
เทพปีศาจ “?”
นี่เป็นแผนการของชายผู้นั้นหรือเปล่า?