ยอดกุ๊กบุกแดนเซียน - บทที่ 49 นี่เป็นวิธีที่ถูกต้องที่นางเอกจะเปิดตัว
บทที่ 49 นี่เป็นวิธีที่ถูกต้องที่นางเอกจะเปิดตัว
บทที่ 49 นี่เป็นวิธีที่ถูกต้องที่นางเอกจะเปิดตัว
หลิงเยว่ที่เพิ่งคร่ำครวญบอกว่าตัวเองเป็นคนที่โชคร้ายที่สุดในมิติลับ ตอนนี้อยากจะตบปากตัวเองนัก เหตุใดนางถึงปากเสียแช่งตัวเองเช่นนี้! ถ้ามันเป็นจริงขึ้นมา ผลที่ตามมาจะเกิดขึ้นแต่กับตัวนางเองเท่านั้น!
ท่าทางของหลิงเยว่ที่ร้องไห้ด้วยความเศร้าโศก ทำให้ชิงยวนรู้สึกปวดใจระคนตลกขบขัน
“มอบราชาดอกไม้ให้นางแล้วข้าจะมอบโอสถชำระมารระดับสูงให้แก่เจ้า”
ปิงซู่ที่ได้รับข้อความจากชิงยวนแสดงสีหน้าไม่อยากจะเชื่อ ช่างสมกับเป็นผู้นำยอดเขาโอสถที่ชั่วร้ายชอบขูดรีดผู้คนเสียจริง! ต้องการแลกราชาดอกไม้ของเขากับแค่โอสถชำระมารระดับสูงเม็ดเดียวน่ะหรือ?
“สาม!”
โอสถชำระมารให้ผลตามชื่อของมันเลย มันสามารถช่วยผู้บำเพ็ญที่อยู่เหนือขอบเขตทะยานเซียนที่กำลังติดอยู่ในอุปสรรคสามารถชำระล้างมารในใจออกไปได้
ปิงซู่รอแล้วรอเล่าแต่เขาก็ไม่ได้รับคำตอบตกลงจากชิงยวน อีกฝ่ายไม่อยากต่อรองกับเขาเลยหรืออย่างไร?
“สอง!”
ปิงซู่ต่อรองอีกรอบด้วยสีหน้าเขินอาย
ชิงยวนพ่นลมหายใจ “มันก็เป็นแค่ราชาดอกเกล็ดหิมะ แม้ว่ามันจะมีค่าอยู่บ้างแต่ตราบใดที่ข้าเต็มใจเสนอโอสถระดับสูงสักอย่าง เดี๋ยวก็มีคนเต็มใจที่จะมอบมันให้กับข้าเอง”
ที่ยอมเสนอให้หนึ่งเม็ดถือว่าข้ามีน้ำใจมากแล้วในฐานะที่เป็นคนสำนักเดียวกัน แต่เจ้าอยากได้อีกเม็ดงั้นหรือ กำลังฝันหวานเกินไปหน่อยหรือไม่?
สุดท้ายปิงซู่ก็ยอมตกลงแลกเปลี่ยนกับโอสถชำระมารหนึ่งเม็ดดีกว่าโดนปล้นไปเปล่า ๆ
ชิงยวนเป็นคนชั่วร้ายที่สามารถปล้นของผู้อื่นได้อย่างหน้าตาเฉย!
แดนมายาเหมันต์ที่ก่อนหน้านี้เริ่มบิดเบี้ยวคล้ายกับจะสลายไป ตอนนี้กลับมาเป็นปกติเหมือนเดิม ฉากนี้ทำให้หลิงเยว่ตกใจนัก
เหตุใดกัน เจ้าอยากทำให้ข้าติดกับที่นี่ไปชั่วชีวิตหรืออย่างไร?
หลิงเยว่ที่เพิ่งร้องไห้เมื่อครู่นี้ เมื่อเผชิญกับแดนมายาที่ได้รับการฟื้นฟู ดวงตาของนางพลันเต็มไปด้วยน้ำตาอีกรอบ
นางคิดว่ามันน่าสังเวชมากพอแล้ว แต่สิ่งที่ต้องประสบในชั่วพริบตาต่อมา บอกนางว่ามันอาจจะเลวร้ายยิ่งกว่านั้นเสียอีก
ดอกเกล็ดหิมะสีดำเล็ก ๆ โผล่ออกมาจากหิมะ จากนั้นมันก็เคลื่อนตัวอย่างงุ่มง่ามเข้าหาเด็กสาวที่กำลังร้องไห้ แม้ว่ามันจะเป็นเพียงดอกไม้ แต่ใครที่มองอยู่ก็ดูออกได้อย่างง่ายดายเลยว่ามันกำลังลำบากใจสุด ๆ
เจ้านายขายข้าแลกกับโอสถ! เมื่อคิดเช่นนี้ราชาดอกไม้ก็อยากจะร้องไห้เช่นกัน
หลิงเยว่ซึ่งมีน้ำตาคลอเบ้าสังเกตเห็นดอกไม้สีดำเล็ก ๆ ที่เคลื่อนเข้ามาใกล้ท่ามกลางลมหนาว นางสะดุ้งตัวถอยกลับทันทีโดยสัญชาตญาณ
ไม่สิ เหตุใดนางต้องถอยด้วย นางไม่ได้รับผลกระทบอะไรจากฤทธิ์หลอนประสาทของดอกไม้สีดำดอกนี้อยู่แล้วนี่นา นางสามารถคว้ามันมาทำเป็นอาหารได้!
หลิงเยว่กระโจนคว้าดอกไม้สีดำดอกเล็กด้วยมือทั้งสองข้าง แล้วดึงมันขึ้นมาจากหิมะอย่างสุดกำลังทั้งรากและดอก!
นี่… นางสามารถดึงมันออกมาง่ายดายเช่นนี้ได้เลยหรือ?
ฮ่า!
นี่สิ! ถึงเป็นการเปิดตัวนางเอกที่ถูกต้อง!
รอยยิ้มกลับมาที่ใบหน้าของหลิงเยว่อีกครา หากดวงตาของนางไม่แดงจะไม่มีใครรู้ว่าเด็กสาวเพิ่งร้องไห้แน่นอน
แดนมายาเหมันต์กลายเป็นเหมือนกระจกที่แตกสลาย มันพังทลายลงมาและหายไปทีละเศษซาก
ท้องฟ้าสดใสภายนอกแดนมายา และร่องรอยของกองทัพหนอนยังคงอยู่ที่นั่น โดยมีรอยเท้านับไม่ถ้วนอยู่รอบ ๆ
ไม่รู้ว่าศิษย์ถูกกำจัดไปกี่คนในเวลาที่ผ่านมา
หลิงเยว่โชคดีที่ได้เข้าไปในแดนมายาและสามารถหลบหนีจากกองทัพหนอนได้ ถึงแม้ว่าจะติดอยู่ในแดนมายา นางก็ได้รับโชคใหญ่ ทั้งดอกไม้สีดำดอกเล็กนั่นที่มีสติปัญญาและลูกหลานของมันอีกมากมาย ทำให้การผจญภัยนี้คุ้มค่ามาก
ถุงเก็บของที่นางปล้นมานั้นไม่เพียงแต่มีบุปผาวารีหลายดอกเท่านั้น แต่ยังมีหินวิญญาณมากมายอีกด้วย
ที่สำคัญที่สุดคือนางกำจัดศัตรูของนางออกไปได้!
“ศิษย์น้องห้า เหตุใดเจ้าถึงหัวเราะคิกคักเช่นนั้น?”
เสียงเย้าแหย่ทำให้หลิงเยว่ตัวแข็งค้าง และรอยยิ้มบนใบหน้าก็เช่นกัน แต่เมื่อนางหันไปเผชิญหน้ากับผู่ตาน มันก็กลายเป็นรอยยิ้มโง่ ๆ ที่แฝงความประหลาดใจ
“ศิษย์พี่สี่ ท่านรอข้าอยู่ที่นี่มาตลอดเลยหรือไม่เจ้าคะ?”
ผู่ตานไม่ตอบคำถามนี้ ใครจะไปมีเวลารอนางอยู่ที่นี่กัน
หลิงเยว่มุมปากกระตุกแล้วพยักหน้าด้วยรอยยิ้มที่สดใส “มันสนุก สนุกมากเจ้าค่ะ!”
แล้วแอบสังเกตผู่ตานที่อยู่ตรงหน้า เสื้อผ้าของเขาเลอะเทอะและมีวัชพืชติดอยู่บนศีรษะ เฮ้อ… ชายคนนี้ที่ถูกดึงเข้าสู่มิติลับด้วยดูเหมือนว่าเขาเองก็ต้องผจญกับความทุกข์ทรมานไม่น้อยเช่นกัน
เมื่อคนโชคร้ายสองคนมารวมกัน พวกเขาจะไม่ได้หักลบโชคร้ายของตัวเองจากโชคดีของอีกฝ่าย แต่พวกเขาจะเผชิญกับโชคร้ายเป็นสองเท่า…
ใช่เลย เมื่อพวกเขาทั้งสองออกไปค้นหาสมุนไพรวิญญาณและสัตว์อสูรตามภารกิจด้วยกัน ไม่นานนัก… พวกเขาก็พบกับฝูงสัตว์อสูร!
“รีบหนีไป มีสัตว์อสูรมากมายนัก!”
“โอ้สวรรค์! การแข่งขันสำนักในปีนี้จะมีใครรอดชีวิตบ้าง ไม่เพียงก้าวเข้าสู่แดนมายา แต่ยังมีสัตว์อสูรเป็นฝูงอีกด้วย!”
“อ๊าก! พี่น้อง ปีนี้ข้าขอลาก่อน!”
…
ผู้คนที่บดขยี้ป้ายหยกเคลื่อนย้ายพุ่งผ่านดวงตาของหลิงเยว่ไปทีละคน
หากเป็นอย่างอื่นหลิงเยว่จะหันหลังกลับและวิ่งหนีไปโดยไม่ลังเลอย่างแน่นอน แต่นั่นเป็นฝูงสัตว์อสูร นี่มันไม่ต่างจากการมีอาหารมาส่งถึงหน้าประตูบ้านของนางเสียด้วยซ้ำ!
“เหตุใดจึงไม่หนีเล่า?”
ผู่ตานถามด้วยความประหลาดใจ นี่ใช่ศิษย์น้องที่ขี้ขลาดของเขาหรือไม่?
“ศิษย์พี่สี่… ข้าอยากจะไปดูเจ้าค่ะ”
ความปรารถนาในดวงตาของหลิงเยว่ทำให้ผู่ตานยิ้ม
คนหนึ่งต้องการได้รับวัตถุดิบอาหารโดยไม่ต้องเสียเงิน ในขณะที่อีกคนต้องการฆ่าสังหารให้เหี้ยน ท้ายที่สุดทั้งสองก็ตกลงพร้อมใจกัน
ในบรรดาผู้คนที่หลบหนีด้วยความตื่นตระหนก มีร่างที่เห็นได้ชัดเจนสองคน ร่างหนึ่งชุดสีแดงและอีกร่างชุดสีเขียวกำลังเดินสวนทางไป
สัตว์อสูรพวกที่บินอยู่บนฟ้าต่างก็พ่นไฟและพิษออกมา ส่วนพวกที่วิ่งบนพื้นก็มีตาสีแดงก่ำและคำรามขึ้นไปบนฟ้า เสียงคำรามของสัตว์อสูรทำให้วิญญาณของผู้คนแทบหลุดออกจากร่าง แก้วหูแทบแตก
ผู้บำเพ็ญบางคนที่ถูกพิษกรีดร้องและบดขยี้ป้ายหยกเคลื่อนย้ายทันที บางคนถูกเผาจนกลายเป็นมนุษย์เพลิงแต่ไม่ยอมถอดใจ แต่เมื่อตระหนักได้ว่าตัวเองใกล้ตายเต็มทนจึงบดขยี้ป้ายหยกเคลื่อนย้ายออกไป
เสียงกรีดร้อง เสียงตะโกน การระเบิด และเสียงร่ายคาถานั้นน่าตื่นตระหนกมากจนหลิงเยว่แทบจะหันหลังกลับและวิ่งหนี
ขนาดว่าที่นี่เป็นเพียงมิติลับของการแข่งขันของสำนักที่มีป้ายหยกเคลื่อนย้ายเอาไว้ช่วยชีวิตยังดูโหดร้ายถึงเพียงนี้ แล้วถ้าเป็นนอกมิติลับหรือนอกสำนักที่เป็นโลกแห่งความแข็งแกร่งเล่า?
มันจะโหดร้ายยิ่งกว่าตอนนี้หลายเท่าแน่นอน!
ผู่ตานไม่ได้คิดมากอย่างที่หลิงเยว่คิด การเผชิญหน้ากับฝูงสัตว์อสูรร้ายทำให้เขาตื่นเต้น เขากลายร่างเป็นกระบี่เพลิงและพุ่งเข้าไปหากลุ่มสัตว์อสูรโดยไม่ลังเล
หลิงเยว่ระงับความกลัว ทันใดนั้นแส้ไฟก็ปรากฏขึ้นในมือของนาง เด็กสาวเหยียบเบา ๆ ขึ้นไปบนหัวของหมูป่าแล้วกระโดดอย่างแรง ก่อนฟาดแส้พันรอบนกดำขาวตัวใหญ่ที่กำลังพ่นพิษอยู่
นกนี่คือหนึ่งในเป้าหมายของภารกิจกำจัดสัตว์อสูร
นกตัวใหญ่ที่ถูกแส้ไฟมัดพยายามบินขึ้นไป พิษในปากของมันพ่นออกมาอย่างไม่หยุดยั้ง และร่างเล็ก ๆ ของหลิงเยว่ก็แกว่งไปมาในอากาศ
นางพยายามดิ้นรนเพื่อปีนแส้ไฟขึ้นไป ทว่านกตัวใหญ่ก็ไม่ได้โง่และไม่ให้โอกาสนาง
“ดอกไม้สีดำน้อย โปรดช่วยข้าด้วย”
ราชาดอกไม้ที่พันข้อมือของหลิงเยว่แสร้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้
หึ ไม่อยากช่วยก็ไม่ต้องช่วย!
หลิงเยว่ซึ่งแต่เดิมต้องการใช้ยันต์อยู่แล้วได้หยิบยันต์ระเบิดน้ำแข็งออกมา แล้วโยนมันไปที่พวกสัตว์อสูรด้านล่าง แรงระเบิดจากเบื้องล่างส่งให้ร่างของเด็กสาวเด้งขึ้นไปที่หลังของนกตัวใหญ่ได้สำเร็จ
หลิงเยว่เช็ดเลือดออกจากมุมปากแล้วคว้าปีกของมันที่กำลังขยับขึ้นลง เพื่อให้นางกระโดดขึ้นไปกลางอากาศแล้วพุ่งลงมาอีกครั้ง นางจับมีดเล็ก ๆ ด้วยมือข้างหนึ่ง แล้วฟันออกไปโดยไม่ลังเล
เกิดเป็นเลือดสาดกระเซ็นลงไปที่พื้น ยิ่งทำให้พวกสัตว์อสูรด้านล่างยิ่งบ้าคลั่งมากขึ้นไปอีก
หลิงเยว่อาจจะยังไม่กล้าลงมือกับมนุษย์ แต่ในฐานะแม่ครัวผู้ช่ำชอง นางสามารถฆ่าสัตว์ปีกได้หลายสิบล้านตัวโดยไม่ลำบากใจเลย
หลังจากที่นกตัวใหญ่พ่นพิษเสียหัว มันก็สูญเสียการควบคุมร่างกาย ก่อนจะดิ่งตกลงไปบนพื้นดิน ทั้งร่างของหลิงเยว่ถูกฝังอยู่ในขนของมัน ศพนกและหนึ่งคน ตกลงท่ามกลางฝูงสัตว์อสูรบนพื้นดิน
ศพนกถูกเก็บกลับเข้าไปในถุงเก็บของอย่างรวดเร็วโดยหลิงเยว่ แล้วนางก็ใช้ทักษะเคลื่อนไหวเพื่อวิ่งหนีอย่างรวดเร็ว โดยกระโดดเหยียบตามหลังของเหล่าสัตว์อสูรทั้งหลาย
ในขณะที่หลบหนีหลิงเยว่ก็อดไม่ได้ที่จะหันกลับไปมองฝูงสัตว์อสูรที่ดุร้ายซึ่งกำลังไล่ล่านางอยู่ จังหวะนั้นเองที่นางเผลอไม่ได้ใส่ใจกับการก้าวเท้าของตัวเอง จึงเกิดพลาดตกลงไปตรงช่องว่างระหว่างสัตว์อสูรด้วยเสียงดังตุบ!
แต่หลังจากนั้นเพียงชั่วพริบตาก็มีฝ่ามือขนาดยักษ์ค่อย ๆ ประทับลงมาโดยมีเป้าหมายเป็นแผ่นหลังของนาง!