ยอดกุ๊กบุกแดนเซียน - บทที่ 492 ข้าจะไม่ให้เจ้าวิ่งได้อีกต่อไป!
บทที่ 492 ข้าจะไม่ให้เจ้าวิ่งได้อีกต่อไป!
ร่างของเทพปีศาจนั้นคล่องแคล่วว่องไวและรวดเร็วพอ แต่น่าเสียดายที่มีเพียงเขาคนเดียว ต้นไม้แห่งความตายที่เขากล่าวถึงนั้นมีรากและกิ่งก้านแผ่ขยายไปทั่วทั้งโลกผู้บำเพ็ญเซียน อีกทั้งยังมีใบไม้มากมายดั่งมหาสมุทร
ใบไม้สีเทาขาวบนกิ่งไม้หลุดออกจากลำต้นแล้วรวมตัวกันอย่างรวดเร็ว ก่อเป็นกำแพงใบไม้ล้อมรอบวิหารเชิญเทพ ไม่เว้นช่องว่างไว้แม้แต่น้อย
เทพปีศาจที่เพิ่งหลุดออกจากวิหารผ่านรูที่ถูกกิ่งไม้แทงทะลุ เผชิญหน้ากับกำแพงใบไม้เขาก็ตกอยู่ในความเงียบอย่างไม่คาดคิด
จนถึงตอนนี้เขายังคิดไม่ออกว่าทำไมต้นไม้แห่งความตายถึงได้ไล่ตามเขาไม่หยุด ทั้งที่ผู้สูญเสียมากที่สุดก็คือตัวเขาเอง!
“พวกเรามาทำข้อตกลงกันดีไหม?”
สิ่งที่ตอบกลับเทพปีศาจคือกำแพงใบไม้ที่สั่นไหวและหดตัวเข้ามาอย่างรวดเร็ว
“รอก่อน มีอะไรก็พูดกันดี ๆ…” ปีศาจถูกกำแพงใบไม้บีบให้ถอยหลัง แต่พอถอยเขาก็ต้องรีบก้าวไปข้างหน้าทันที ราวกับถูกอะไรบางอย่างดันออกมา
แน่ละ! เพราะด้านหลังเต็มไปด้วยกิ่งไม้แหลมคม หากเขาถอยหลังอีกแค่นิดเดียวคงถูกแทงทะลุในทันที
“ลาก่อน”
ชั่วขณะที่ต้นไม้สีเทาเข้มเอ่ยปาก กิ่งก้านทั้งหมดก็พุ่งเข้าใส่เทพปีศาจที่ไม่อาจหนีได้
ศีรษะของเทพปีศาจถูกแทงทะลุ ดวงตาทั้งสองถูกใบไม้ทิ่มแทงนับครั้งไม่ถ้วน ส่วนร่างกายก็ถูกแทงจนทะลุปรุโปร่ง ทั้งร่างเต็มไปด้วยกิ่งไม้และใบไม้ สภาพศพช่างน่าเวทนายิ่งนัก
เสียงหัวเราะเย็นเยียบแฝงไปด้วยความสะใจดังก้องไปทั่วโลกผู้บำเพ็ญเซียน
ทว่าเสียงหัวเราะนั้นกลับหยุดกลางคัน ตามด้วยคำพูดที่เต็มไปด้วยความโกรธแค้น ดังไปถึงหูของทุก ‘คน’ ที่ยังมีชีวิตอยู่
“เจ้าหลอกข้า!”
เทพปีศาจที่มีสภาพศพน่าเวทนากลับหายตัวไปทันที และการหายไปครั้งนี้ไม่ใช่ความตาย แต่เป็นการใช้วิชาสลับร่างหนีไป!
ร่างแทนตัวที่ตายไม่มีเลือดสด ยิ่งไม่มีพลังปีศาจที่ให้ต้นไม้ได้ดูดกินแม้แต่น้อย
ส่วนเรื่องที่ว่าเทพปีศาจใช้วิชาสลับร่างเมื่อใดหรือเขาหนีไปที่ไหน ย่อมไม่มีใครรู้!
ต้นไม้ที่ถูกหลอกตกอยู่ในสภาพคลุ้มคลั่งยิ่งกว่าเดิม และผู้ที่ต้องรับเคราะห์ก่อนใครคือเหล่าคนกระดาษแห่งวิหารเชิญเทพ ใครใช้ให้วิหารนี้ไม่มีขาเล่า?
เมื่อนึกถึงวังอีกหลังที่หนีไป ต้นไม้ยิ่งโกรธแค้น สิ่งใดที่ขัดขวางมัน ต้องตายทั้งหมด!
กิ่งก้านและรากส่วนใหญ่ถูกส่งไปไล่ล่าทำลายวิหารอื่น ๆ ส่วนที่เหลือไปเปิดฉากสังหารในโลกผู้บำเพ็ญเซียนและวิหารเชิญปีศาจ ทั้งบนฟ้าและพื้นดินถูกยึดครองด้วยรากและกิ่งก้าน สิ่งมีชีวิตทั้งหมดไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมการถูกดูดพลังจนเหือดแห้งได้
โลกผู้บำเพ็ญเซียนตกอยู่ในนรกอันน่าสะพรึงกลัว มีเพียงวิหารทำลายเทพที่กำลังหนีอย่างบ้าคลั่งเท่านั้นที่ยังคงความสงบไว้ได้ วิหารหลังนี้วิ่งได้เร็วมาก แม้ว่าพื้นผิวจะเต็มไปด้วยรอยของกิ่งไม้และรากราวใยแมงมุม แต่วิหารกลับไม่ได้แตกสลาย มันยังคงวิ่งต่อไป!
“ข้าจะไม่ให้เจ้าวิ่งได้อีกต่อไป!”
เมื่อกิ่งไม้ฟาดลงมาอีกครั้ง วิหารเทพก็ทรุดโทรมลงไปอีก แต่มันกลับวิ่งเร็วขึ้น!
คนกระดาษด้านในทนทุกข์ทรมาน แม้แต่ผู้นำสามคนก็ทนไม่ไหว ใครจะคิดว่าพลังที่โจมตีวิหารจะถูกส่งต่อมายังพวกเขาด้วย?
“ท่าน… ร่างท่านดูเหมือนจะแตกสลาย…”
ผู่ตานที่ถูกศพปากเย็บเหยียบอยู่ใต้เท้าตกตะลึง จากนั้นก็คว้าผิวหนังที่หล่นลงมาได้ชิ้นหนึ่ง มันคือผิวหนังบริเวณแก้ม!
ใบหน้าด้านขวาของศพปากเย็บว่างเปล่า บริเวณที่ว่างมีรอยแตกลามลงมา ดูน่าสยดสยองยิ่งนัก
“แตกก็แตกสิ ทำเป็นตื่นเต้นไปได้!” ศพปากเย็บหยิบผิวหนังจากมือของผู่ตาน จากนั้นก็ควักสิ่งที่คล้ายเข็มด้ายออกมาราวกับกำลังแสดงมายากล แล้วเย็บใบหน้าของตัวเองเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น