ยอดกุ๊กบุกแดนเซียน - บทที่ 5 สายเลือดนักกินถูกปลุกเต็มที่แล้ว
บทที่ 5 สายเลือดนักกินถูกปลุกเต็มที่แล้ว
บทที่ 5 สายเลือดนักกินถูกปลุกเต็มที่แล้ว
เมื่อเนื้อดิบเสียบไม้มาบรรจบกับไฟถ่าน พลันเกิดเสียงฉ่าอันร้อนแรง
หลิงเยว่กัดฟันและใช้ค่าพลังวิญญาณห้าสิบแต้มเพื่อซื้อเครื่องปรุงรสคุณภาพสูง ท้ายที่สุดนางต้องย่างเนื้อวิญญาณคุณภาพสูงซึ่งการใช้เครื่องเทศธรรมดาย่อมไม่เหมาะสม
แน่นอนว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการสร้างความประทับใจที่ดีให้กับเจ้าสำนักใหญ่คนนี้ โอกาสเช่นนี้หาไม่ได้ง่าย ๆ แน่นอนว่านางคงเสียสติไปแน่หากไม่คว้าโอกาสตรงหน้านี้เอาไว้!
นางชโลมเนื้อแต่ละชิ้นด้วยน้ำมันหลายชั้นเพื่อป้องกันไม่ให้มันติดตะแกรง
ส่วนภารกิจหลักนั้น นางมีความคิดของตัวเองอยู่แล้ว และด้วยวิธีที่คิดออกนั้นจะต้องได้รับความชื่นชมจากผู้บำเพ็ญอีกเก้าคนอย่างแน่นอน!
“อยากได้เผ็ดหรือไม่?”
“แน่นอนอยู่แล้ว ใส่เพิ่มไปเลย!”
เมื่อถามคำถามนี้ เล่อเหอพยักหน้าอย่างรวดเร็ว พลางมองดูเนื้อบนตะแกรงด้วยความคาดหวัง
“แล้วคนอื่น ๆ เล่า?”
“ไม่ต้องถามแล้ว เจ้าอยากทำอะไรก็ทำเลย”
เล่อเหอเทเหล้าเซียนหนึ่งแก้วแล้วดื่มขณะรอเนื้อ
“ท่านช่วยบั้งเนื้อให้หน่อยได้หรือไม่? เนื้อชิ้นหนาเกินไปเครื่องปรุงรสมันซึมเข้าไปไม่ถึงเนื้อใน…”
โม่จวินเจ๋อหยิบมีดสีขาวราวหิมะออกมาแล้วบั้งเนื้ออย่างงุ่มง่าม
สิบเฟิน*[1] ต่อมากลิ่นหอมของเนื้อย่างก็แพร่กระจายไปทั่วยอดเขา
“ช่างหอมเหลือเกิน!”
‘คนก่อไฟ’ และ ‘คนแล่เนื้อ’ ที่ตอนแรกอยากจะออกไปจากที่นี่แทบใจจะขาด ขณะนี้ไม่มีความตั้งใจที่จะออกไปอีกแล้วเมื่อได้กลิ่นของเนื้อ
หลิงเยว่ปรุงเนื้อวิญญาณด้วยเครื่องเทศปรุงรสจากระบบแลกเปลี่ยน ซึ่งมันยิ่งทำให้รสชาติดั้งเดิมของเนื้อย่างดียิ่งขึ้นไปอีก!
ลู่เป่ยเหยียนเช็ดน้ำลายที่ไหลย้อยตรงมุมปากของเขา ดวงตาพลันเบิกกว้าง
“ข้าเคยย่างแกะวิญญาณเขาเดียวมาก่อน แต่ทำไมกลิ่นของมันไม่หอมถึงเพียงล่ะ?”
หลิงเยว่รู้สึกประทับใจอย่างมากกับกลิ่นหอมของเนื้อวิญญาณ เมื่อเปรียบเทียบกับเนื้อแกะธรรมดานั้นต่างกันเหมือนฟ้ากับเหว!
หลังจากที่ย่างเนื้อสามสิบไม้เสร็จแล้ว นางก็รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติกับร่างกายของตัวเอง
[ท่านทำอาหารวิญญาณพิเศษสำเร็จ! ได้รับรางวัล ค่าพลังวิญญาณ +1,000 แต้ม อายุขัย +30 วัน!]
[ท่านเข้าสู่ขอบเขตกลั่นลมปราณขั้นสองได้สำเร็จ! ได้รับรางวัล ค่าพลังวิญญาณ 100 แต้ม อายุขัย +5 วัน ค่าพลังวิญญาณคงเหลือ 1,130 แต้ม อายุขัยคงเหลือ 44 วัน]
หลิงเยว่ตกใจมาก
นางไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าเมื่อไหร่ที่เนื้อย่างสามสิบไม้ในมือถูกเอาออกไป จนเหลือเพียงไม้เดียวในมือ
“ปราณที่อยู่ในเนื้อแกะวิญญาณเขาเดียวระดับเจ็ดนั้นแข็งแกร่งเกินไปสำหรับเจ้า เจ้าสามารถกินได้มากที่สุดเพียงไม้เดียวเท่านั้น ไม่เช่นนั้นมันจะทำให้ร่างกายของเจ้าระเบิดจากภายใน”
สีหน้าที่มีความสุขของหลิงเยว่ปรากฏเห็นอย่างเด่นชัด ดังนั้นเล่อเหอจึงดับความคาดหวังที่เป็นอันตรายของนางลงเสีย และอธิบายว่าทำไมอีกฝ่ายถึงได้เนื้อย่างเพียงไม้เดียวเท่านั้น แล้วจึงกัดเนื้อย่างเสียบไม้ที่อยู่ในมือของตน
“!!!”
ปากเต็มไปด้วยรสเนื้อ นุ่ม ฉ่ำ รสเค็มปานกลาง รสเผ็ดแผ่ซ่านถึงหน้าผาก แต่สดชื่นล้นเหลือ!
นี่เป็นเพียงแกะวิญญาณเขาเดียวระดับเจ็ดซึ่งเป็นสัตว์วิญญาณระดับต่ำ ถ้าเปลี่ยนเป็นสัตว์วิญญาณระดับสูงรสชาติมันจะต้องดีกว่านี้แน่นอน!
น่าเสียดายที่ความแข็งแกร่งในปัจจุบันของหลิงเยว่ไม่อนุญาตให้นางย่างเนื้อสัตว์วิญญาณระดับสูงกว่านี้
“อร่อย!!”
“เผ็ดมาก ร้อนไปทั้งร่างแต่กลับสดชื่นมาก!”
อวี้เจินและลู่เป่ยเหยียนดื่มด่ำไปกับรสชาติที่ยอดเยี่ยมของเนื้อย่างจนตะโกนออกมาเสียงดัง ดวงตาของพวกเขาแดงก่ำ กระทั่งมีน้ำตาไหลอาบหน้าพวกเขาก็ไม่ยอมเสียเวลาเช็ดออก
โม่จวินเจ๋อก็เช่นกัน แต่ยังดูสง่าเพราะสงวนท่าทีกว่าอีกสองคน
หลิงเยว่อดไม่ได้ที่จะลองกัดชิม
เพียงกัดคำเล็ก ๆ เท่านั้นปราณอันเข้มข้นก็แผ่ซ่านไปทั่วร่าง และรสชาติของเนื้อในปากก็ทำให้จิตวิญญาณของนางตื่นตัว
นี่คือเนื้อวิญญาณ! ไม่น่าแปลกใจแล้วที่ผู้บำเพ็ญที่ตลาดจะดูหมิ่นวัตถุดิบธรรมดา ๆ
จู่ ๆ หลิงเยว่ก็จำรางวัลสำหรับภารกิจหลักที่สองซึ่งก็คือตำราอาหารวิญญาณได้ ตอนนี้นางอยากจะได้มันมาอย่างยิ่ง!
[ท่านเข้าสู่ขอบเขตกลั่นลมปราณขั้นสามได้สำเร็จ! ได้รับรางวัล ค่าพลังวิญญาณ 100 แต้ม อายุขัย +5 วัน และท่านสามารถเรียนรู้ทักษะ ‘หมื่นชีวางอกเงย’ ค่าพลังวิญญาณคงเหลือ 1,230 แต้ม อายุขัยคงเหลือ 49 วัน]
หลิงเยว่ที่เพิ่งกินเนื้อย่างเสียบไม้เสร็จได้เลื่อนขั้นเข้าสู่ขอบเขตกลั่นลมปราณขั้นสาม สิ่งนี้ทำให้นางตกตะลึงมาก!
การบำเพ็ญมันเลื่อนขั้นง่ายเช่นนี้เลยหรือ?!
เช่นนั้นหลังจากนี้นางก็เพียงแค่ทำอาหารและกิน จากนั้นนางก็จะสามารถเลื่อนขั้นขอบเขตบำเพ็ญของนางได้อย่างรวดเร็วตั้งแต่ขอบเขตกลั่นลมปราณ สร้างรากฐาน จินตาน ปฐมวิญญาณ ทะยานเซียน บำเพ็ญเต๋า แสวงหา ฝ่าทัณฑ์สวรรค์… และสุดท้ายคือพ้นโลกีย์ใช่หรือไม่?
ทว่าหลิงเยว่รู้สึกตามสัญชาตญาณว่าสิ่งต่าง ๆ ไม่ง่ายขนาดนั้น ด้วยเหตุผลพื้นฐานว่าสาเหตุที่นางเลื่อนขั้นมาสู่ขอบเขตกลั่นลมปราณขั้นสามได้อย่างรวดเร็วนั้นน่าจะเป็นเพราะขอบเขตบำเพ็ญของนางต่ำเกินไป และเมื่อนางได้กินอาหารวิญญาณพิเศษที่ทำโดยเนื้อวิญญาณระดับเจ็ด ดังนั้นมันจึง…
แต่ใครจะสนเล่า!
อย่างน้อยขอบเขตบำเพ็ญของนางก็ตามทันผาวฮุยแล้ว! หากชายผู้นั้นมาสร้างปัญหาให้นางอีกครั้ง ต่อให้นางไม่สามารถเอาชนะเขาได้เพราะยังไม่ได้เรียนรู้ทักษะวิชาใดแต่ก็ยังสามารถหนีได้!
หลิงเยว่ยังคงอยากกินอีกแต่ปราณในร่างกายของนางกลับเป็นอย่างที่เล่อเหอพูดจริง ๆ มันเต็มจนแทบเอ่อล้นออกมา ถ้านางกินเพิ่มอีกร่างของนางคงจะระเบิดแล้วจริง ๆ
การเลื่อนขั้นมาสู่ขอบเขตกลั่นลมปราณขั้นสามและสามารถเปิดประตูสู่ขั้นใหม่ได้อย่างรวดเร็วนั้นต้องขอบคุณโม่จวินเจ๋อและเจ้าสำนักเล่อเหออย่างแท้จริง หลิงเยว่กลายร่างเป็นนักย่างเนื้อทันทีและย่างให้คนทั้งสี่ที่กำลังกินอยู่อย่างมีความสุข
หลิงเยว่เห็นว่าทั้งสี่อร่อยมากจนน้ำตาไหล นางจึงซื้อแตงโมขนาดใหญ่สองลูกจากระบบแลกเปลี่ยนโดยแลกด้วยค่าพลังวิญญาณสิบแต้ม
แต้มเล็กน้อยแค่นี้ไม่นับเป็นอะไรได้เลยเพราะตอนนี้นางมีแต้มถึงตัวเลขสี่หลักแล้ว!
“นี่คืออะไร?”
โม่จวินเจ๋อสังเกตเห็นผลไม้สีเขียวขนาดใหญ่สองลูกทันที
“ไม่ใช่ว่าท่านเคยดื่มน้ำของมันมาก่อนแล้วหรือ? นี่คือสิ่งที่สร้างเลือดปลอมนั่นขึ้นมา!”
หลิงเยว่เหลือบมองโม่จวินเจ๋อ ในเวลานี้อารมณ์เย็นชาของชายหนุ่มไม่มีอีกต่อไป รอบดวงตาดอกท้อของเขาแดงจากความเผ็ดร้อน และในดวงตาของเขาก็เป็นประกายจากน้ำตาที่คลอเบ้า เขาดูหล่อเหลาน่าดึงดูดและเย้ายวนจริง ๆ หลังจากได้ยินคำตอบของนาง เขากระตุกริมฝีปากบางสีแดงของเขา
หลิงเยว่ที่คิดว่านางไม่ใช่คนคลั่งไคล้คนหล่อทว่าบัดนี้เกือบจะกลายเป็นเช่นนั้นเสียแล้ว!
นางรีบมองไปทางอื่นด้วยเกรงว่าจะอดไม่ได้ที่จะยื่นมือบาปออกไปบีบแก้มของเขา
ด้วยมีดในมือ แตงโมลูกใหญ่ก็ถูกตัดออกเป็นสองส่วน เนื้อแตงโมสีแดงเข้มพลันปรากฏออกมา ส่งกลิ่นหอมอบอวลไปในอากาศ
“แท้จริงแล้วหน้าตามันเป็นแบบนี้หรือ?”
โม่จวินเจ๋อจำรสชาติหวานหอมของน้ำผลไม้ได้และตั้งตารอ
หลิงเยว่มอบชิ้นที่ใหญ่ที่สุดให้กับเขา
“กินแบบนี้ก็อร่อย และยังคลายความเผ็ดได้”
เมื่อได้ยินว่ามันไม่เผ็ด อวี้เจินก็คว้าแตงโมมากินอย่างบ้าคลั่ง
“มันหวานและชุ่มฉ่ำมาก! นี่มันผลไม้วิญญาณชนิดใดกัน ทำไมข้าถึงไม่เคยกินมันมาก่อนเลย?”
ด้วยน้ำแตงโมบนริมฝีปากของนาง อวี้เจินยิ่งดูน่ารักและน่าดึงดูดอย่างยิ่ง แต่พอมองท่าทางการกินที่มูมมามของนาง ความน่ารักก็ถูกทำลายทันที
ดูเหมือนพวกผู้บำเพ็ญจะไม่ได้น่ารังเกียจทุกคนเฉกเช่นผาวฮุยคนนั้น! หลิงเยว่นึกถึงผาวฮุยอีกครั้งและสาปแช่งด้วยความหงุดหงิด
“นี่ไม่ใช่ผลไม้วิญญาณ มันเป็นผลไม้ธรรมดาที่เรียกว่าแตงโม ถ้าแช่เย็นจะมีรสชาติดีกว่านี้อีก!”
หลิงเยว่แนะนำสั้น ๆ แม้ว่าแตงโมจะไม่ใช่ผลไม้วิญญาณ แต่มันก็ถูกปลูกในสถานที่ที่มีปราณวิญญาณซึ่งถือได้ว่าเป็นผลไม้ครึ่งวิญญาณ นี่คือคำอธิบายที่เขียนอยู่ในระบบแลกเปลี่ยน
“อืม อร่อยมาก!” เล่อเหอหยิบแตงโมและลองกัดไปคำหนึ่ง สายตาของเขาจ้องมองไปยังโม่จวินเจ๋อที่กำลังกินแตงโมอย่างเงียบ ๆ “เจ้าได้ยินหรือไม่ศิษย์คนดีของข้า มันจะรสชาติดีกว่าถ้ากินแบบเย็น ๆ!”
โม่จวินเจ๋อตกตะลึงและเงียบไป
จากนั้นหลิงเยว่ก็สังเกตเห็นว่าแตงโมที่กินไปครึ่งหนึ่งของเขาค่อย ๆ กลายเป็นน้ำแข็ง
“!!!”
เครื่องทำน้ำแข็งเคลื่อนที่?
เมื่อเผชิญหน้ากับดวงตาที่ส่องประกายของหลิงเยว่ โม่จวินเจ๋อก็เลือกที่จะเบือนศีรษะหนี
ใช้ปราณน้ำแข็งแช่แข็งอาหารและสิ่งของอื่น ๆ ได้…
“ท่านมีแก่นปราณเหมันต์ใช่หรือไม่?”
“เขามีสองแก่นปราณคือเหมันต์และวายุ เจ้าไม่รู้หรือ?” ลู่เป่ยเหยียนมองไปที่หลิงเยว่ราวกับว่านางเป็นคนประหลาด
มีลมด้วย เช่นนั้นก็ใช้เป่าแห้งได้ใช่หรือไม่?
ดวงตาของหลิงเยว่ยิ่งเป็นประกายมากกว่าเดิมเมื่อนางมองไปที่โม่จวินเจ๋อ
โม่จวินเจ๋อที่กำลังถูกมองอย่างลึกลับเริ่มรู้สึกถึงลางสังหรณ์ที่ไม่ดี
กระทั่งเนื้อแกะเขาเดียวระดับเจ็ดถูกย่างจนหมดและหลิงเยว่ก็ถูกส่งกลับไปโดยอวี้เจิน ลางสังหรณ์ไม่ดีนั้นก็ยังไม่จางหายไป
บางทีข้าอาจรู้สึกไปเอง?
[1] เฟิน คือ หน่วยนับเวลา 1 เฟิน เท่ากับ 1 นาที