ยอดกุ๊กบุกแดนเซียน - บทที่ 500 นี่ยังคงเป็นแดนเทพอยู่หรือ?
………………..
บทที่ 500 นี่ยังคงเป็นแดนเทพอยู่หรือ?
ลมหายใจแห่งชีวิตแทรกซึมเข้าสู่ร่างของผู่ตาน ขับไล่ไอแห่งความตายและรักษาบาดแผลของเขา
หลังจากที่หลิงเยว่ช่วยให้ผู่ตานฟื้นคืนชีพขึ้นมาแล้ว นางต้องเผชิญหน้ากับคนอีกหลายสิบคน ในนั้นมีหลายคนที่เป็นเพียงกระดาษรูปคนที่ไม่เหลือรูปร่างมนุษย์แล้ว บางคนเหลือเพียงแผ่นหนังมนุษย์ชิ้นเล็ก ๆ เท่านั้น
นาง… จะช่วยชีวิตพวกเขาอย่างไรดี?
แม้รู้ว่าอาจจะไม่สามารถช่วยชีวิตได้แล้ว แต่หลิงเยว่ยังคงพยายามช่วยเหลือ หากช่วยไม่ได้จริง ๆ ก็ดูว่าจะสามารถหาดวงวิญญาณสักหนึ่งดวงได้หรือไม่ เพื่อในอนาคตจะได้… ชดใช้หนี้
“วิถีสวรรค์ตอบมาหรือไม่?”
เมื่อได้รับสารจากโม่จวินเจ๋อ หลิงเยว่รู้สึกกระอักกระอ่วนใจยิ่งนัก นางยังไม่ได้บรรลุถึงเงื่อนไขที่จะเรียกหาวิถีสวรรค์ได้
“ข้าจะพยายามโดยเร็วที่สุด พวกเจ้าอดทนอีกสักหน่อย” หลิงเยว่กล่าวจบแล้วสกัดเอาพลังส่วนหนึ่งของตนเองออกมา เพื่อรักษาร่างกายและเติมพลังเซียนให้กับผู้ที่กำลังต่อสู้กับต้นไม้ปีศาจ
กระดาษรูปคนที่เกือบจะทนไม่ไหวแล้วรู้สึกว่าพวกเขาสามารถสู้ต่อไปได้อีก!
หลิงเยว่ที่ใช้พลังส่วนหนึ่งออกไปแล้ว แสงรอบกายของนางดูจะหม่นลงเล็กน้อย นางต้องการพลังมากกว่านี้ แต่โลกผู้บำเพ็ญเซียนส่วนใหญ่ถูกต้นไม้ปีศาจครึ่งตนดูดกลืนไปหมดแล้ว แน่นอนว่านางสามารถขอจาก ‘สมุนทั้งหลาย’ ได้ แต่การชำระล้างพวกเขาต้องใช้พลังเช่นกัน…
นางอยากได้พลังที่ไม่ต้องชำระล้างและสามารถดูดซึมได้โดยตรง!
ในฐานะลูกรักของเทพสวรรค์ พลังอันยิ่งใหญ่ของเทพสวรรค์พลันไหลบ่าเข้าสู่ร่างของหลิงเยว่ แสงสลัวพลันระเบิดออกเป็นประกาย กิ่งไม้สีเทาเข้มที่แผ่กิ่งก้านออกมาถูกดูดซึมไปในพริบตา
หลิงเยว่เจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว ราวกับจะทัดเทียมกับต้นไม้กึ่งปีศาจที่แตะถึงด้านล่างของโลกแล้ว
เมื่อเห็นภาพนี้ต้นไม้กึ่งปีศาจอิจฉาจนแทบคลั่ง อีกฝ่ายได้รับความช่วยเหลือจากเทพสวรรค์อีกแล้ว!
เหตุใดเทพสวรรค์แห่งโลกเบื้องบนจึงไม่เข้าใจเหมือนเทพสวรรค์แห่งโลกเบื้องล่างเล่า?!
พลังแห่งเทพสวรรค์พลันหายไปในขณะที่หลิงเยว่กำลังจะทัดเทียมกับต้นไม้กึ่งปีศาจ…
เป็นเพราะไม่มีพลังแล้วหรือ?
ไม่ ไม่ใช่
เทพสวรรค์แห่งโลกเบื้องล่างเคยเรียกคืนพลังสายฟ้ากะทันหันมาก่อน หรือว่าเทพสวรรค์แห่งโลกเบื้องบนจะถูกบังคับเช่นกัน?
เป็นเพราะเทพแห่งสองภพอ่อนแอ หรือว่าผู้อยู่เบื้องหลังนั้นทรงพลังเกินไป?
แต่หากเขาทำได้จริง เหตุใดจึงต้องวางแผนทั้งหมดนี้อย่างพิถีพิถัน
หลิงเยว่ไม่เข้าใจ นางเพียงรู้ว่าต้องแจ้งเทพสวรรค์ในแดนเทพโดยด่วน
“มา! ข้าจะส่งท่านเข้าสู่แดนเทพ” หลิงเยว่กล่าวเช่นนั้น กิ่งไม้ได้เคลื่อนมาหาโม่จวินเจ๋อและพันรอบตัวเขาไว้
โม่จวินเจ๋อกำลังจะถามนางว่าพบอะไร แต่ไม่รู้ว่าหลิงเยว่มีพลังมาจากไหน เพราะนางเติบโตขึ้นด้วยความเร็วที่แทบมองไม่เห็น ทั้งยังสูงเกินกว่าต้นไม้ครึ่งปีศาจ จนจะถึงแดนเทพแล้ว
หลิงเยว่ไม่ลังเลแม้แต่น้อย นางทะลุผ่านเขตกั้นระหว่างแดนเทพและโลกผู้บำเพ็ญเซียนในคราวเดียว ขณะส่งโม่จวินเจ๋อเข้าไป ใบไม้สีเขียวใบหนึ่งก็ร่วงลงบนมือของเขา
เมื่อโม่จวินเจ๋อได้สติ เขาก็เข้าสู่แดนเทพสำเร็จ
กิ่งไม้ที่ส่งเขาเข้ามาหายไปไม่เห็นร่องรอย เขตกั้นนั้นไม่รู้ว่าหลิงเยว่ใช้วิธีใดจึงฟื้นฟูมันได้เช่นนี้
ทุกอย่างเงียบงันราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
เมื่อโม่จวินเจ๋อย้ายสายตาไปที่ใบไม้สีเขียวในฝ่ามือที่ละลายเข้าไปในฝ่ามือของเขา จากนั้นเสียงของหลิงเยว่ก็ดังขึ้นในหัว
“เทพสวรรค์แห่งโลกผู้บำเพ็ญเซียนก็ยัง…?”
ต่อไปต้องเป็นเทพสวรรค์แห่งแดนเทพแน่นอน โม่จวินเจ๋อก้มหน้าลงแล้วเงยขึ้น
จากนั้นทั้งร่างของเขาพลันชะงักงัน
ที่นี่เป็นแดนเทพจริงหรือ?
เขาไม่รู้สึกถึงสิ่งมีชีวิตใดเลย แม้แต่พืชพรรณพื้นฐานยังไม่เห็นแม้แต่ต้นเดียว มีแต่ความมืดมิดสุดลูกหูลูกตา ต่างจากแดนเทพในความทรงจำของเขามากเกินไป
ที่นี่ดูเหมือนจะเป็นโลกไร้วิญญาณหรือที่เรียกกันว่าโลกแห่งความตายมากกว่า
โม่จวินเจ๋อมุ่งหน้าไปยังตำหนักเหมันต์ของตน แต่พบว่าฝีเท้าของเขาหนักอึ้งเหมือนกับตอนที่เขาอยู่ในทะเลเถ้าตายไม่มีผิด
ในตอนนี้ร่างของเขาเปล่งแสงสีขาวออกมา ลูกแก้ววิญญาณห่อหุ้มโม่จวินเจ๋อเอาไว้ แล้วพุ่งไปยังทิศทางหนึ่งอย่างรวดเร็ว
ลูกแก้ววิญญาณมีความทรงจำสมบูรณ์กว่าโม่จวินเจ๋อ จึงจำเส้นทางไปยังที่อยู่เดิมได้อย่างแม่นยำ
หัวใจของโม่จวินเจ๋อหนักอึ้งเช่นเดียวกับฝีเท้าของเขา บางทีเขาและหลิงเยว่อาจเดาผิดไป ผู้อยู่เบื้องหลังอาจจะลงมือกับแดนเทพไปก่อนหน้านี้แล้ว
สาเหตุที่ลงมือกับโลกเบื้องบนและโลกเบื้องล่างช้าเช่นนี้ อาจเป็นเพราะได้รับบาดเจ็บสาหัสในแดนเทพ ต้องรอให้หายดีก่อนจึงปรากฏตัวอีกครั้ง
ลูกแก้ววิญญาณพาโม่จวินเจ๋อบินไปจนถึงตำหนักที่พวกเขาเคยอาศัยอยู่ใน ‘ชาติก่อน’
ตำหนักอันงดงามที่สร้างจากผลึกน้ำแข็งยามนี้ดูเหมือนไร้ชีวิตชีวา แตกต่างอย่างมากจากตอนที่แสงอาทิตย์ส่องกระทบและเปล่งประกายอบอุ่น
จากภายนอก ทั้งลูกแก้วและคนไม่พบร่องรอยความเสียหายใด ๆ แม้แต่ประตูที่ปิดสนิทก็ยังเหมือนในความทรงจำไม่มีผิดเพี้ยน
โม่จวินเจ๋อรู้สึกลังเลอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
“หากไม่เข้าไปแล้วจะเปิดโลงน้ำแข็งได้อย่างไร?”
ใช่แล้ว แม้ว่าร่างแท้ของเขาจะไม่ได้หลับใหลอยู่ในตำหนักเหมันต์ แต่กุญแจที่จะเปิดมันกลับอยู่ข้างใน มีเพียงการได้กุญแจมาเท่านั้น จึงจะเปิดโลงน้ำแข็งได้
“เจ้ากลับมาแล้ว”
โม่จวินเจ๋อมั่นใจว่าเขาไม่ได้ฟังผิด!
แต่เมื่อหันกลับไปมองก็ไม่เห็นเงาของใครเลย
ช่างน่าพิศวงนัก!
ยิ่งไปกว่านั้น เขาถึงกับไม่รู้สึกว่ามีคนอยู่ด้านหลังด้วย!
โม่จวินเจ๋อหมุนตัว จ้องมองไปยังทิศทางที่มาของเสียง สัญชาตญาณบอกเขาว่ามีคนยืนอยู่ตรงนั้น เพียงแต่ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายใช้วิธีใดทำให้เขาไม่สามารถมองเห็นได้ชัดเจน
“รีบไปเถิด อย่ากลับมา…”
“อย่าพยายามเปิดประตูวิหารด้วย รีบไปเถิด เร็วเข้า ถ้ามัวช้าจะไม่ทันแล้ว”
เสียงของคนพูดฟังดูร้อนรนอย่างเห็นได้ชัด ราวกับอยากจะวิ่งออกมาส่งโม่จวินเจ๋อออกไปจากที่นี่ด้วยตัวเอง
โม่จวินเจ๋อเอ่ยถามพลางก้าวออกจากประตูตำหนักเหมันต์ มุ่งหน้าไปยังต้นเสียง
แต่น่าเสียดายที่ไม่มีใครอยู่ที่นี่เลย
“รีบไป รีบไป…”
เสียงแหบพร่าของชายคนหนึ่งดังขึ้นซ้ำ ๆ ยิ่งพูดยิ่งฟังดูร้อนรนมากขึ้น
แน่นอนว่าโม่จวินเจ๋ออยากจะออกไปเช่นกัน เพราะความรู้สึกที่ข้ามีต่อแดนเทพในตอนนี้ช่างแย่เหลือเกิน เพียงแต่หลิงเยว่อุตส่าห์ส่งเขามาถึงแดนเทพ ด้วยหวังให้เขารวมร่างกับร่างแท้โดยเร็ว เพื่อรับความทรงจำและพลังทั้งหมด สืบทอดสถานะเทพ บอกเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นแก่เทพสวรรค์ผู้ปกครองแดนเทพ เพื่อให้ท่าน… เตรียมพร้อมรับมือ
แต่ดูเหมือนตอนนี้จะไม่จำเป็นอีกต่อไป
ผู้ปกครองแดนเทพเป็นคนแรกที่ถูกลงมือ และไม่ใช่แค่จมอยู่ในห้วงนิทราเท่านั้น แต่อาจถึงขั้นตายไปแล้ว
บางทีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่อาจเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่เขากลับมาเกิดก็เป็นได้…