ยอดกุ๊กบุกแดนเซียน - บทที่ 509 ข้าจะทำอะไรเพื่อเจ้าได้บ้าง
บทที่ 509 ข้าจะทำอะไรเพื่อเจ้าได้บ้าง
ผู่ตานโกรธจนแทบจะพ่นไฟออกมาตรงนั้น หากไม่ใช่เพราะหลิงเยว่คอยห้ามอยู่ เขาคงจะจบชีวิตพร้อมกับสามสิ่งที่ไม่ใช่คนไม่ใช่ผู้ฝึกวิญญาณพวกนั้นไปแล้ว!
คน ต้นไม้ นก ผู้ฝึกวิญญาณสามตนและสี่คนหนังกระดาษนั่งอยู่บนนกเงา
หลิงเยว่แทบไม่มีเวลาได้กล่าวลาผู้คน แต่สิ่งที่ควรสั่งก็ได้สั่งไว้หมดแล้ว ส่วนร่างหลักของนาง หลิงเยว่ตัวน้อยสามารถควบคุมได้
“โลกของพวกเจ้าเพิ่งถูกวิญญาณร้ายบุกรุกใช่หรือไม่?” ผู้ฝึกวิญญาณหมายเลขสามทำลายความเงียบ
“ระบบ ข้าควรตอบอย่างไร?”
หากบอกว่าเพิ่งถูกบุกรุก เมื่อไปถึงแล้วสามผู้ฝึกวิญญาณพบว่าไม่ใช่ พวกเขาจะหนีไประหว่างทางหรือขึ้นราคาหรือ?
แต่ถ้าบอกว่าถูกบุกรุกมานานแล้ว สามผู้ฝึกวิญญาณนี่จะขึ้นราคาไหม?
หลิงเยว่รอคำตอบจากระบบจนทนไม่ไหว จึงจำใจตอบไปว่า “เพิ่งถูกบุกรุกไม่นาน”
“ตราบใดที่เขายังมีชีวิตอยู่ พวกข้าสามารถช่วยเขาออกมาได้”
หมายเลขสามในชุดคลุมดำไม่ได้สนใจผู่ตานเลยแม้แต่น้อย เขาเอ่ยปากอีกครั้ง “แต่ถ้าเขาถูกวิญญาณร้ายกลืนกิน พวกเราคงช่วยอะไรไม่ได้แล้ว”
“หากกลายเป็นวิญญาณร้าย จะไม่มีทางช่วยเหลือได้เลยหรือ?”
หลิงเยว่กังวลมากว่าโม่จวินเจ๋อจะกลายเป็นวิญญาณร้าย ถ้าแค่ตายไปอาจคิดหาวิธี ตามหาดวงวิญญาณได้ พอมีความหวังที่จะฟื้นคืนชีพหรือกลับมาเกิดใหม่
ผู้ฝึกวิญญาณทั้งสามมองแล้วส่ายหน้าพร้อมกัน
พูดเช่นนี้แสดงว่ายังมีวิธีอยู่ เพียงแต่ผู้ฝึกวิญญาณทั้งสามคิดว่าผู้ว่าจ้างคนนี้ไม่มีความสามารถพอที่จะขอให้หลิงเยว่ผู้นั้นออกโรง จึงเลือกที่จะส่ายหน้า
หลิงเยว่เข้าใจความหมายของพวกเขา แต่ไม่ได้รีบร้อนถามต่อ ขอเพียงยังมีวิธีก็พอ นางเชื่อว่าโม่จวินเจ๋อยังมีชีวิตอยู่แน่นอน!
นกเงาบินได้เร็วมาก เพียงชั่วครู่พวกเขาก็มองไม่เห็นทะเลสีม่วงแล้ว
และเป็นไปตามที่ระบบบอกจริง ๆ ร่างกายที่หดเล็กลงของพวกเขาทั้งหมดกลับคืนสู่ขนาดปกติทันทีที่ออกจากทะเลสีม่วง เพียงแต่ขนาดของนกเงาที่อยู่ใต้ร่างทำให้หลิงเยว่และผู่ตานอัศจรรย์ใจ
ทั้งสองคนแสดงสีหน้าเหมือนพวกนอกเมืองทันที
ผู่ตานเคยคิดว่าร่างเดิมของตนนั้นงดงามและใหญ่โตพอ แต่เมื่อเทียบกับนกเงาที่อยู่ด้านล่างแล้ว คงไม่อาจเทียบได้แม้แต่ลูกหลานของมัน
“ศิษย์น้อง เจ้าว่าหากข้าเข้าสู่แดนเทพแล้ว จะสามารถเติบโตได้เช่นนี้หรือไม่?”
“แน่นอนว่าไม่ได้ เพียงหงส์ทองคำธรรมดากล้าเทียบขนาดกับนกเงาแห่งความว่างเปล่าหรือ?” น้ำเสียงเหยียดหยามของผู้ฝึกวิญญาณในชุดคลุมดำหมายเลข 2 แทบจะกระเด็นใส่หน้าผู่ตาน
หลิงเยว่ได้ยินประโยคนั้นก็ตกใจ มองทะลุร่างแท้ของผู่ตานได้ในแวบเดียว เช่นนั้นนางก็เหมือนเปลือยกายต่อหน้าผู้ฝึกวิญญาณทั้งสามมิใช่หรือ?
ผู่ตานนึกถึงจุดนี้เช่นกัน จึงไม่โต้ตอบอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน แต่แอบจับข้อมือของหลิงเยว่ไว้ หากเห็นท่าไม่ดีจะได้พานางหนีไปทันที!
ลมหายใจแห่งชีวิตในดินแดนแห่งความว่างเปล่านั้นสามารถใช้เป็นของแลกเปลี่ยนได้ นั่นเพียงพอที่จะพิสูจน์ว่าต้นไม้แห่งชีวิตนั้นล้ำค่าและหายากเพียงใด
การฆ่าคนชิงทรัพย์นั้นเป็นเรื่องปกติในสามภพ ผู่ตานไม่เชื่อว่าในดินแดนแห่งความว่างเปล่าจะไม่มี!
“เจ้าได้ลมหายใจแห่งชีวิตมาจากที่ใด?” คนในชุดคลุมดำหมายเลข 1 ที่เงียบมาตลอดเอ่ยปากขึ้น
แปลกจริง ก่อนหน้านี้นางใช้ร่างแท้พาโลกบำเพ็ญเซียนขึ้นมาที่ทะเลม่วง แล้วเหล่าภูตพวกนั้นไม่รู้จักว่าต้นไม้แห่งชีวิตหน้าตาเป็นอย่างไรหรือ?
[ข้าใช้วิชาอำพรางและกลั้นลมหายใจไว้] ระบบออกมาไขข้อข้องใจให้หลิงเยว่
แม้ว่าคนที่เคยเห็นร่างแท้ของต้นไม้แห่งชีวิตจะมีไม่มาก แต่พลังชีวิตที่แผ่ออกมาจากร่างแท้ของหลิงเยว่นั้นบริสุทธิ์เกินไป เพียงคิดสักนิดก็สามารถเชื่อมโยงนางกับต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ได้
[ข้าต้องหลับไปสักพัก หวังว่าตอนที่ตื่นขึ้นมาเจ้าจะยังมีชีวิตอยู่]
“อืม ข้าจะพยายาม”
ครั้งนี้หลิงเยว่ไม่ได้ถามว่าทำไมระบบต้องหลับ นางคิดว่าการพาโลกผู้บำเพ็ญออกจากสามภพแล้วพากลับมายังความว่างเปล่า คงต้องใช้พลังงานมหาศาลจึงเข้าใจได้
“มีอะไรที่ข้าพอจะทำให้ได้บ้างไหม?”
ระบบที่กำลังจะเข้าสู่ภวังค์หลับไม่คิดว่าหลิงเยว่จะถามเช่นนี้
[มีชีวิตอยู่]
[แน่นอนว่าหากสามารถทำภารกิจหลักที่ 24 สำเร็จ อาจจะช่วยข้าได้บ้าง]
จู่ ๆ หลิงเยว่ก็นึกไม่ออก เวลาผ่านไปนานมากแล้ว อีกทั้งเกิดเหตุการณ์มากมายจนลืมไปแล้ว
[ภารกิจหลักที่ 24 เดินทางไปยังโลกวิญญาณ ชำระล้างและผสานรวมกับต้นไม้กึ่งปีศาจ รางวัลคือชีวิตนิรันดร์ จำกัดเวลา 10,000 ปี]
“หืม? ทำไมข้าจำได้ว่าภารกิจหลักไม่ใช่อันนี้? ดูเหมือนจะเป็นการค้นหาร่างแท้ของเทพปีศาจ แล้วค่อยผสานรวมกับเมล็ดพันธุ์ครึ่งเมล็ดนั่น”
[แก้ไขชั่วคราวไม่ได้หรือไง?]
หลิงเยว่ “…”
แน่นอนว่าได้ ระบบว่ายังไงก็ทำอย่างนั้นนี่
ระบบพอใจมากกับความว่านอนสอนง่ายของหลิงเยว่ ทำไมไม่เป็นแบบนี้ตั้งแต่แรกล่ะ?
[ภารกิจหลักที่ 25 ค้นหาผู้อยู่เบื้องหลังที่ทำให้สองโลกกลายเป็นโลกแห่งความตาย แล้วจัดการเขา! รางวัลคือ วิชาชุบชีวิต ไม่จำกัดเวลา]
[ภารกิจหลักที่ 26 ฟื้นฟูพลังชีวิตให้แก่แดนเทพและโลกผู้บำเพ็ญเซียน ช่วยเหลือวิถีสวรรค์ของทั้งสองโลก รางวัลคือ พลังบุญ ไม่จำกัดเวลา]
“!!!”
หลิงเยว่ได้ยินภารกิจหลักสองอย่างหลังแล้วถึงกับตะลึงงัน
ภารกิจเหล่านี้เป็นสิ่งที่นางสามารถทำสำเร็จได้หรือ?
แต่รางวัลนั้นช่างน่าหลงใหลเสียจริง!
หลิงเยว่หัวโล้นต้องการเติบโต จำเป็นต้องอาศัยพลังบุญกุศล อีกทั้งวิชาชุบชีวิตก็ชวนให้หลงใหลยิ่งนัก
หากสามารถชุบชีวิตเหล่าเทพได้ นางจะกลายเป็นผู้มีพระคุณต่อชีวิตของพวกเขามิใช่หรือ?
ในฐานะผู้มีพระคุณต่อชีวิตของพวกเขา นางจะสามารถเดินข้ามความว่างเปล่าได้อย่างสง่างามมิใช่หรือ?
ดวงตาทั้งสองของหลิงเยว่เปล่งประกาย หัวใจเต้นรัว นางอยากจะทำภารกิจทั้งสามให้สำเร็จในทันที!
น่าเสียดายที่จินตนาการช่างงดงาม แต่ความเป็นจริงนางยังทำไม่ได้แม้แต่การเดินในความว่างเปล่า
ผู่ตานและสามผู้ฝึกวิญญาณคอยสังเกตหลิงเยว่อยู่ตลอด โดยเฉพาะสีหน้าของนางที่แสดงออกมากเกินไป ทำให้ผู้คนไม่อาจละสายตาไปจากนางได้
“หากราบรื่นก็ประมาณครึ่งเดือน”
เสียงของเสื้อคลุมดำหมายเลข 3 เพิ่งจะจบ นกเงาบินดิ่งลงอย่างกะทันหัน แล้วบินเฉียงหลบก้อนหินยักษ์หลากสีที่พุ่งมาแต่ไกล
“ฝนหินสีรุ้ง!”
เสื้อคลุมดำหมายเลข 2 จ้องเสื้อคลุมดำหมายเลข 3 หากพูดไม่เป็นก็ไม่รู้จักปิดปากหรือไร!
นกเงาแห่งความว่างเปล่าบินฝ่าฝนหินไปได้ระยะหนึ่งก็ตัดสินใจบินกลับ
“เราผ่านตรงนี้ไม่ได้ คงต้องอ้อมไปทางอื่นแทน” เสื้อคลุมดำหมายเลข 1 หันไปอธิบายให้หลิงเยว่ฟัง
“ไม่ใช่แค่ฝนหินหรอกหรือ? จำเป็นต้องอ้อมทางด้วยหรือ?”
ผู่ตานมองนกเงาด้วยสายตาดูแคลน ช่างเปล่าประโยชน์ที่มีร่างกายใหญ่โตเช่นนี้
เสื้อคลุมดำหมายเลข 3 หยิบก้อนหินที่ตกลงมาส่งให้ผู่ตาน “หากเจ้าสามารถจับมันไว้ได้ ก็ไม่จำเป็นต้องอ้อมแล้ว”
หลิงเยว่รู้สึกถึงพลังของก้อนหินที่ตกลงมา จึงรีบห้ามผู่ตานไว้ “พวกเราอ้อมไปเถอะ”