ยอดกุ๊กบุกแดนเซียน - บทที่ 512 คนที่อยู่เบื้องหลังคือเขา
บทที่ 512 คนที่อยู่เบื้องหลังคือเขา
หลิงเยว่มองดูหมายเลข 3 ด้วยความตื่นเต้น
“พลังชีวิตบนร่างของเจ้า ได้มาจากที่ใดกัน?”
“หา?” หลิงเยว่แกล้งโง่
“สิ่งที่รวมพลังชีวิตเข้าด้วยกันคือต้นไม้ใช่หรือไม่?” คนในชุดคลุมดำหมายเลข 3 เปลี่ยนวิธีถาม
“ไม่ใช่หรอก มันเป็นเส้นพลังชีวิตเส้นหนึ่ง เพียงแต่มีสีเขียวมรกตเท่านั้น” หลิงเยว่ตอบ ทำให้หัวใจของผู่ตานแทบหลุดออกมา
ไม่รู้ว่าทำไมใบไม้จากร่างแท้จริงของศิษย์น้องถึงมาปรากฏที่นี่ได้
“เส้นพลังนั่นอยู่ที่ใด?”
“นี่! ตอนนี้พวกเราไม่ได้กำลังช่วยหาคนอยู่หรอกหรือ?”
ผู่ตานที่รู้ว่าหลิงเยว่กำลังพูดเหลวไหลรีบเปลี่ยนหัวข้อสนทนาทันที “รอจนกว่าพวกเราจะหาคนเจอ ข้าจะพาท่านไปหาเส้นพลังนั้น แต่อย่าได้หวังมากนักเลย”
ทั้งสามคนเดินตามลูกแก้ววิญญาณเล็ก ๆ ไป จนมันหยุดลงที่จุดหนึ่ง
หลิงเยว่จำได้ว่าที่นี่คือจุดที่พวกเขาขึ้นมาจากต้นไม้กึ่งปีศาจ แต่ตอนนี้กลับไม่มีร่องรอยของนางเหลืออยู่เลย
นางถูกจับตัวไปแล้วหรือ?
นอกจากความเป็นไปได้นี้ หลิงเยว่ก็นึกไม่ออกแล้ว
“เขาอยู่ที่นี่หรือ?”
หลิงเยว่ถามลูกแก้ววิญญาณเล็ก ๆ ที่วนเวียนอยู่ตรงจุดเดิมไม่หยุด นอกจากพื้นที่ขรุขระเป็นหลุมเป็นบ่อแล้ว ก็ไม่มีร่องรอยของโม่จวินเจ๋อเลย
แม้แต่กลิ่นอายของใบไม้สีเขียวยังไม่มี
“หืม? แปลกจริง…” คนในชุดคลุมดำหมายเลข 3 เริ่มเดินวนตามลูกแก้ววิญญาณเล็ก ๆ
“หรือว่า… เขาไม่ได้กลายเป็นวิญญาณ แต่สลายหายไปแล้ว?”
คำพูดของผู่ตานทำให้หัวใจของหลิงเยว่พลันบีบรัด สายเกินไปแล้วหรือ?
หมายเลข 3 ลูบคางที่ไม่มีอยู่จริง “เจ้าแห่งโลกวิญญาณที่สี่จับคนเป็นไปทำไม?”
โลกวิญญาณรวมถึงเจ้าแห่งโลก ล้วนเป็นคนตายทั้งสิ้น คนเป็นที่ถูกจับไป คงใกล้ความตายเต็มที
“เจ้าแห่ง… โลกวิญญาณที่สี่?” หลิงเยว่ทวนคำด้วยสีหน้าเหม่อลอย
“ใช่แล้ว กลิ่นอายของวิญญาณเหล่านี้มาจากเจ้าแห่งโลกวิญญาณที่สี่จริง ๆ”
หมายเลข 3 ในเสื้อคลุมดำแค่นเสียง “ยากกว่าเจ้าแห่งโลกวิญญาณอีกห้าคนเสียอีก ข้าขอแนะนำให้เจ้ายอมแพ้เถอะ”
หลิงเยว่จะยอมแพ้ได้อย่างไร!?
นางต้องช่วยโม่จวินเจ๋อให้ได้!
“ไปกันเถอะ พาพวกข้าไปยังเส้นทางเซียน”
หมายเลข 1 และ 2 ที่หายไปปรากฏตัวขึ้นอย่างกะทันหัน
หลิงเยว่และผู่ตาน “…”
สำคัญคือทั้งสองคนไม่รู้จริง ๆ ว่าเส้นทางเซียนบ้าอะไร ทั้งหมดเป็นเรื่องโกหกทั้งเพ!
หนีกันดีไหม?
ผู่ตานและหลิงเยว่สบตากัน
ไม่ได้! โลกผู้บำเพ็ญยังอยู่ในทะเลสีม่วง พวกเขาจะหนีไปไหนได้?
อีกอย่างหากสามวิญญาณปลดพลังบนร่างของพวกเขา พวกเขาจะกลายเป็นวิญญาณร้ายในทันที
“ทำไมไม่ขยับเล่า? หรือว่าพวกเจ้ากำลังหลอกข้า?”
พลังปีศาจแผ่ซ่านออกมาจากร่างของผู้สวมเสื้อคลุมดำหมายเลข 3 ขณะที่เขากำลังจะลงมือ หลิงเยว่รีบชี้ไปที่ลูกแก้ววิญญาณเล็ก ๆ “มันสามารถนำทางได้ แต่ที่นี่เปลี่ยนแปลงมากเกินไป ข้ายังนึกตำแหน่งที่แน่ชัดของเส้นทางเซียนนั้นไม่ออก”
ลูกแก้ววิญญาณดวงน้อยที่ยังคงหมุนวนอยู่นั้น เมื่อได้ยินก็บินมาอยู่เบื้องหน้าสามวิญญาณทำท่าเหมือนจะนำทาง
หมายเลข 3 จึงดึงแขนเสื้อสีดำกลับ
แม้ว่าการไปเส้นทางเซียนจะไม่สำคัญ แต่ถึงไม่มีใครนำทางก็สามารถให้ใบมรกตนำทางได้ แต่เขาแค่อยากลองดูว่าเจ้าสองตัวที่อ่อนแอนี่กำลังโกหกหรือไม่
ส่วนมันเป็นเส้นทางเซียนจริงหรือไม่ ไม่สิ… ในแดนเทพควรเรียกว่าเส้นทางเทพสินะ?
อีกครั้ง… ที่ได้รับการช่วยชีวิตจากโม่จวินเจ๋อ
นี่ยิ่งทำให้หลิงเยว่มีความมุ่งมั่นที่จะช่วยโม่จวินเจ๋อมากขึ้น
ผู่ตานถอนหายใจอย่างโล่งอก แม้ว่าโม่จวินเจ๋อจะไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุ แต่สิ่งที่อีกฝ่ายทิ้งไว้ยังคงช่วยชีวิตพวกเขาอีกครั้ง…
“จริง ๆ แล้วเส้นทางใหญ่ขนาดนี้ไม่ได้เหลือไว้ให้พวกข้าเลยสินะ”
“มีแต่คนโง่เท่านั้นแหละที่จะอยู่”
“เป็นอย่างไร พวกเราจะไปเยือนโลกวิญญาณที่สี่สักหน่อยไหม?”
หมายเลข 2 และ 3 หันไปมองหมายเลข 1
หมายเลข 1 ส่ายหัว “กลับก่อนเถอะ”
การไปเยือนโลกวิญญาณที่สี่ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
นี่จะปิดปากพยานหรือ?!
“พวกข้าขอสาบานว่าจะไม่เปิดเผยเรื่องที่เจ้าแห่งโลกวิญญาณที่สี่ได้รับเส้นพลังชีวิตไปเด็ดขาด!” ผู่ตานยกมือขึ้นสาบาน
หลิงเยว่พยักหน้าพร้อมกับยกมือสาบานเช่นกัน
ดวงตาของทั้งสองเต็มไปด้วยความจริงใจและความปรารถนาที่จะมีชีวิตอยู่
“โอ้ พวกข้าชาวปีศาจไม่ใช่คนแบบนั้นหรอก ต้องขอบคุณพวกเจ้าที่ให้ข่าวแก่พวกข้าด้วยซ้ำ!” เสื้อคลุมดำหมายเลข 3 กล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน แต่ทันทีที่เขายกมือขึ้น หลิงเยว่และผู่ตานรีบถอยหลังแล้ววิ่งหนีสุดชีวิต
จะหนีรอดหรือไม่ แต่ขอวิ่งก่อนแล้วกัน
น่าเสียดายที่ทั้งสองวิ่งไปได้ไม่ไกลนัก เท้าทั้งสองข้างก็ลอยขึ้นจากพื้น
ผู่ตานและหลิงเยว่หันหน้ากลับไปอย่างแข็งทื่อ เห็นเสื้อคลุมดำหมายเลข 1 กำลังจับพวกเขาไว้
หลิงเยว่แทบจะร้องไห้ “ท่านผู้ยิ่งใหญ่ ได้โปรดปล่อยพวกข้าไปเถิด…”
“พวกเจ้าจะกลับทะเลม่วงด้วยตัวเองหรือ?”
“ฮ่า ๆ ๆ เมื่อครู่คงตกใจจนขวัญหนีดีฝ่อสินะ?”
ผู่ตานและหลิงเยว่ “…”
หัวเราะอีกสิ เดี๋ยวข้าจะปล่อยคนหนังกระดาษออกมา ดูซิว่าพวกเจ้าจะยังหัวเราะออกไหม!?
ในใจคิดเช่นนั้น แต่สุดท้ายหลิงเยว่ก็ไม่ได้ปล่อยคนหนังกระดาษออกมา เพราะดูจากท่าทางของอีกฝ่ายไม่เหมือนจะปิดปากฆ่าพวกเขา
“ถ้าจะกลับทะเลม่วงเองก็มอบพลังชีวิตที่เหลือให้พวกข้าเถอะ” วิญญาณหมายเลข 1 วางทั้งสองคนลง
“คิดว่าพวกข้าจะกลับไปเองได้หรือ?” หลิงเยว่พูดอย่างไร้อารมณ์
ผีหมายเลข 2 “ถ้าอย่างนั้นพวกเจ้าวิ่งหนีทำไม?”
ผีหมายเลข 3 “วางใจเถอะ พวกเราเผ่าวิญญาณไม่ทำร้ายเด็กที่อ่อนแอหรอก”
หลิงเยว่และผู่ตานนิ่งเงียบอีกครั้ง
“ส่งพวกข้าเข้าม่วงทะเลอย่างปลอดภัยก่อน แล้วจะให้พลังชีวิตที่เหลือแก่พวกท่าน” ผู่ตานพูดอย่างแข็งกร้าวขณะยืนบังหน้าหลิงเยว่
“ได้”
เสื้อคลุมสีดำหมายเลข 1 เรียกนกเงาแห่งความว่างเปล่าออกมา
ในขณะที่นกเงาแห่งความว่างเปล่าปรากฏตัว ดวงตาของเหล่าวิญญาณร้ายกลับเต็มไปด้วยความโลภผิดปกติ
ทันทีที่พวกมันกรูกันเข้ามา นกเงาก็กลายเป็นลำแสงหายวับไปบนท้องฟ้า
เมื่อออกจากโลกผู้บำเพ็ญเซียน หลิงเยว่ถอนหายใจด้วยความโล่งอก แม้ว่าจะไม่ได้ช่วยโม่จวินเจ๋อ แต่อย่างน้อยยังได้รับข้อมูลมากมาย
เขายังมีชีวิตอยู่ แม้จะถูกจับตัวไปก็เถอะ
ผู้อยู่เบื้องหลังการเปลี่ยนสามภพให้กลายเป็นโลกแห่งความตายคือเจ้าแห่งโลกวิญญาณที่สี่
อีกทั้งต้นไม้กึ่งปีศาจคงถูกเขาจับตัวไปด้วยแน่นอน
ข่าวสารเหล่านี้แลกมาด้วยพลังชีวิตสองก้อน หลิงเยว่รู้สึกว่าคุ้มค่ามาก
อ้อ! ยังได้ลูกกลมสีดำเล็ก ๆ เป็นของแถมมาด้วย
“ในเมื่อพวกเจ้าจะไปยังโลกวิญญาณที่สี่ ข้าขอร้องให้พวกเจ้าช่วยเหลือผู้ที่ถูกเจ้าแห่งโลกวิญญาณจับตัวไปด้วยได้หรือไม่?”
“ข้าจะพยายามจ่ายค่าตอบแทนให้เพียงพอ…”
หลิงเยว่รู้ดีว่าความสามารถของนางในตอนนี้ การไปช่วยคนในโลกวิญญาณแห่งความตายนั้นเป็นไปไม่ได้เลย
อา…
ทำไมกัน? นางเกือบขึ้นสู่ระดับเทพได้แล้ว แต่พอมาถึงดินแดนแห่งความว่างเปล่ากลับกลายเป็นเด็กน้อยอ่อนแอไปเสียได้!
………………..