ยอดกุ๊กบุกแดนเซียน - บทที่ 515 ขายเผ่าพันธุ์เดียว
บทที่ 515 ขายเผ่าพันธุ์เดียวกัน
แม้หลิงเยว่จะไม่ได้พูดอะไร แต่อสูรหมอกว่างเปล่าได้พูดสิ่งที่นางไม่กล้าพูดออกมาแล้ว
ก่อนหน้านี้ตอนที่นางลองชิม แม้นางจะเป็นผู้มีพลังสูงสุดในโลกผู้บำเพ็ญเซียนในปัจจุบัน แต่เพียงแค่ชิมนิดเดียวก็จะระเบิดร่างแล้ว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงพวกศิษย์ที่ยังไม่ถึงขอบเขตทะยานเซียนหรือบำเพ็ญเต๋าเลย
“ศิษย์น้อง ข้าน่าจะลองชิมได้สักนิดใช่ไหม?”
ผู่ตานผู้ชินกับการถูกกระทบกระเทือนจิตใจและมีความสามารถในการทนแรงกดดันสูงมาก เขาไม่ได้ถอยหนีเพราะอาหารมีระดับสูงเกินไปจนไม่มีคุณสมบัติพอจะลิ้มลอง กลับจ้องมองหลิงเยว่อย่างคาดหวัง
“งั้น… ให้ลองเลียสักคำไหม?”
หลิงเยว่พูดด้วยน้ำเสียงลองเชิง จากนั้นหยิบไอศกรีมโคนที่ทำจากดอกไม้สีม่วงผสมกับอสูรหมอกว่างเปล่าออกมา
โคนทำจากดอกไม้สีม่วงผสมกับวัตถุดิบอื่น ๆ ไม่ใช่สีน้ำตาลแบบดั้งเดิม แต่เป็นสีม่วงอ่อน เนื้อไอศกรีมมีสีม่วงเข้มและมีหมอกสีขาวเทาล้อมรอบ
นอกจากหมอกที่เกิดจากความเย็นแล้ว ยังเพิ่ม ‘เนื้อหมอก’ ของลูกกลมสีดำเข้าไปด้วย
“เช่นนั้นเจ้าช่วยข้าลองสิ่งนี้หน่อยสิ” หลิงเยว่ส่งรสชาติเค็มเผ็ดไปตรงหน้าลูกกลมสีดำที่กระโดดโลดเต้น
“เจ้าจะให้ข้ากินเนื้อของตัวเองรึ? เสียสติไปแล้วหรือไง!”
ลูกกลมสีดำโวยวาย แต่ยังคงเกาะติดอยู่บนไอศกรีมรสเค็มเผ็ด มันก็อยากลองชิม ‘เนื้อ’ ของตัวเองว่ามีรสชาติเป็นอย่างไรเหมือนกัน หากมันรสชาติแย่เกินไป รอให้มันหายดีเมื่อไหร่จะต้องซัดหญิงผู้นี้ให้หนักทีเดียว!
“อ้าม…”
ลูกกลมสีดำอ้าปากกว้าง กลืนไอศกรีมรสเค็มเผ็ดที่ใหญ่กว่าตัวมันเข้าไปทั้งก้อน
หลิงเยว่และผู่ตานที่ยืนดูอยู่ยังได้ยินเสียงกรอบของโคนไอศกรีมกรอบแล้วรู้สึกผ่อนคลายยิ่งนัก
“อ๊ะ! เย็น!”
“โอ๊ย! แสบลิ้นไปหมดแล้ว!”
“ทำไมมีกลิ่นทะเลม่วงด้วย…”
“สิ่งที่กรอบ ๆ นี่คืออะไร แล้วก็เนื้อของข้า เนื้อของข้าอยู่ที่ไหน?”
เช่นนั้นไอศกรีมรสเค็มเผ็ดยังพอกินได้สินะ?
“เร็วเข้า บอกข้ามาว่าเนื้อของข้าอยู่ที่ไหน!”
“ก็อยู่ในท้องของเจ้าไม่ใช่หรือ?”
หลิงเยว่มองด้วยหางตา เนื้อของอสูรหมอกที่ระเหยได้นั้นจัดการยากจริง ๆ เพื่อกำจัดรสขมและกลิ่นคาว นางต้องใช้ความพยายามอย่างมาก
“หา?”
ลูกกลมสีดำเบิกตาโตอย่างงุนงง
“ก้อนนี้ทำจากเนื้อของเจ้า น้ำดอกไม้สีม่วง และส่วนผสมอื่น ๆ” หลิงเยว่ยังตั้งใจทำโคนให้เป็นรสเค็ม มีกลิ่นหอมของดอกไม้ผสมอยู่ในรสเค็มด้วย
อย่างไรก็ตาม มันไม่น่าจะไม่แย่กระมัง…
“ใส่อะไรบ้าง ใส่อะไรบ้าง?” ลูกกลมสีดำเกาะศีรษะของหลิงเยว่พลางถามอย่างร้อนรน
เพียงสิ่งเล็กๆ นี้สิ่งเดียวก็ช่วยประหยัดเวลาของมันไปได้ถึงสิบปี หากได้กินอีกหลายร้อยหลายพันอัน บางทีพลังหยินในร่างอาจหมดไปก็ได้!
ไม่จำเป็นต้องใช้เวลาหลายร้อยปีเพื่อขับไล่พลังหยินเลย
เจ้าพวกผีร้ายชั่วช้า ลงมือโหดเหี้ยมเหลือเกิน!
นึกถึงชะตากรรมของตัวเอง ลูกกลมดำน้อยอดเศร้าสลดไม่ได้ ดวงตาร้อนผ่าวขึ้นมาอีกครั้ง
หลิงเยว่หยิบลูกกลมดำน้อยบนศีรษะลงมา สีหน้าเรียบเฉยขณะบอกวิธีทำและส่วนผสมทีละอย่าง
ส่วนผสมมากมายนั้นทำให้ลูกกลมดำน้อยงุนงงไม่แพ้ผู่ตาน ช่างซับซ้อนยิ่งกว่าการทำโอสถชั้นเลิศเสียอีก
ความจริงแล้วส่วนผสมไม่ได้ซับซ้อนนัก ส่วนใหญ่อยู่ที่วิธีทำ แค่วิธีดับกลิ่นคาวและขจัดรสขมของเนื้อลูกกลมดำน้อยก็ทำเอาผู่ตานตาลอยสมองว่างเปล่าแล้ว
ถึงขนาดมองไอศกรีมรสหวานในมือแล้วรู้สึกมีค่าขึ้นมาทันที แม้แต่จะเลียสักคำก็ยังเสียดาย
“อย่าพูดอีกเลย ข้าฟังไม่เข้าใจ!” ลูกกลมดำน้อยปิดหูตัวเองแล้วรีบหนีไปจากหลิงเยว่ มันรู้สึกเสียใจที่ถามคำถามเช่นนี้ ทำไมไม่บอกตรง ๆ ว่าต้องการอะไรสักหลายร้อยอย่างดีกว่า?
หลิงเยว่หุบปากเงียบ ใบหน้าที่ไร้อารมณ์กลับมีชีวิตชีวาขึ้น “เจ้าคิดว่ารสชาติเนื้อของเจ้าเป็นอย่างไร? หากนำออกไปขายจะได้แก่นว่างเปล่าหรือไม่?”
“อะไรนะ!?” ลูกกลมดำน้อยตะโกนเสียงหลง
“เจ้าจะเอาเนื้อของข้าไปขาย!?”
“ข้าไม่ยอม! รีบเอาคืนมาเดี๋ยวนี้!”
“ได้สิ เจ้าเอาแก่นว่างเปล่ามาแลกก็ได้ ประหยัดเวลาข้าไปตั้งแผงขายด้วย” หลิงเยว่ยื่นมือเรียวงามไปหาลูกกลมดำน้อยที่กำลังคลุ้มคลั่ง
ลูกกลมดำน้อยจ้องมองหลิงเยว่ด้วยดวงตากลมโตอย่างไม่อยากเชื่อ เนื้อของมันเองกลับต้องใช้แก่นว่างเปล่ามาแลก?
แม้จะเพิ่มเครื่องปรุงมากมาย แต่เครื่องปรุงเหล่านั้นฟังดูไม่มีค่า โดยเฉพาะดอกม่วงที่มีอยู่ทั่วทะเลสีม่วงยิ่งไม่มีค่าเข้าไปใหญ่
“ไม่จริงกระมัง เจ้าคงไม่มีแก่นว่างเปล่าหรอกนะ?” ผู่ตานมองลูกกลมดำน้อยด้วยสายตาไม่อยากเชื่อเช่นกัน
“ใคร…” ลูกกลมดำพูดติดอ่าง “ใครบอกว่าข้าไม่มี ข้ามีแก่นว่างเปล่าเยอะแยะ!”
“งั้นเอามาสิ” หลิงเยว่ถูมืออย่างตื่นเต้น
“ทั้งหมดถูก… ผีบ้านั่นปล้นไปแล้ว” เมื่อพูดถึงตรงนี้ ลูกกลมดำก็รู้สึกเศร้าขึ้นมาอีกครั้ง มันไม่เคยสนใจแก่นว่างเปล่าเลย อยากได้อะไรก็แค่ปล้นเอา ดังนั้นตอนถูกปล้นมันจึงไม่รู้สึกอะไร ถ้ารู้แต่แรกก็น่าจะสู้กับผีสามตนนั่นให้ถึงที่สุดเสียเลย!
ผู่ตาน หลิงเยว่ “…”
พูดมาตั้งนาน สุดท้ายก็เป็นคนจนเหมือนพวกเขานั่นแหละ!
“ขอเพียงเจ้าให้เนื้อของข้าแก่ข้าตอนนี้ เมื่อรักษาบาดแผลหายแล้ว ข้าสัญญาว่าจะรีบไปปล้นแก่นว่างเปล่ามากมายมาให้พวกเจ้าทันที!” ลูกกลมดำกะพริบตาอย่างกระหาย “เป็นไงล่ะ?”
หลิงเยว่ไม่ตอบอะไร
“เจ้าต้องการหาแก่นว่างเปล่า แน่นอนว่าต้องใช้เนื้ออสูรหมอกว่างเปล่าเยอะใช่ไหม?”
หลิงเยว่พยักหน้า
“ข้าสามารถช่วยท่านหลอกเอาสัตว์ร่วมเผ่าพันธุ์มาได้หลายตัวเลยนะ!”
“อะไรนะ!” หลิงเยว่และผู่ตานอุทานพร้อมกัน
“แต่ต้องเป็นตัวเด็กเท่านั้น ตอนนี้ข้าควบคุมตัวโตไม่ไหว พวกเจ้าสองคนอ่อนแอยิ่งทำไม่ได้หรอก”
ลูกกลมดำพูดต่อไปเรื่อย ๆ แล้วกลายร่างเป็นสายลมจากไป
“เพื่อแสดงความจริงใจ ข้าจะไปหลอกเอาตัวหนึ่งมาให้พวกเจ้าก่อน อย่าเพิ่งขายเนื้อของข้านะ!”
สายลมพัดพาคำพูดสุดท้ายของลูกกลมดำมา
“มัน… ไปจริง ๆ เหรอ?” ผู่ตานทำหน้างุนงง
หลิงเยว่ตอบกลับด้วยสีหน้างุนงงเช่นกัน “ดูเหมือนว่า… จะไปจริง ๆ นะ”
ไม่ใช่พวกเดียวกันหรอกหรือ?
อสูรหมอกแห่งความว่างเปล่าพวกนั้นเอาไว้ ‘ขาย’ กันเหรอ?
หลิงเยว่และผู่ตานจ้องมองไปยังทิศทางที่ลูกกลมสีดำหายไป พวกเขาไม่อาจตั้งสติได้เป็นเวลานาน จนกระทั่ง… ภูตผมสั้นมาถึง หลิงเยว่จึงได้สติกลับคืนมา
ภูตผมสั้นคงไม่รู้เรื่องที่นางไปเด็ดดอกไม้สีม่วงกระมัง?
หลิงเยว่แสร้งทำเป็นสงบนิ่ง “เจ้าว่างทุกวันหรือไร?”
“ข้าเป็นองค์ชายที่ยุ่งมากเชียวนะ! เพียงแต่ได้ยินว่าเจ้าทำอาหารใหม่ ข้าจึงแวะมาลองชิม”
ไม่รู้ว่าทำไมอาหารฝีมือมนุษย์พวกนี้รสชาติแย่มาก แต่เขายังอดใจไม่ไหวที่จะมาลองชิมดู
………………..