ยอดกุ๊กบุกแดนเซียน - บทที่ 517 ประหยัดทั้งเงินและแรง
บทที่ 517 ประหยัดทั้งเงินและแรง
“ไม่มีใครพบเห็นใช่หรือไม่?”
ขณะที่หมายเลข 1 และ 3 กำลังรออยู่นอกทะเลสีม่วง พวกเขาสังเกตรอบรอบข้างด้วยความระแวดระวัง
ดีมาก! ไม่มีหน่วยลาดตระเวนทะเลสีม่วงและไม่มีผู้เช่าที่ทะเลสีม่วงผ่านมาเช่นกัน
ไม่มีใครเห็นหมายเลข 2 ลักพาตัวหลิงเยว่มา ช่างสมบูรณ์แบบ!
“พวกเจ้ายังไม่วางใจในฝีมือข้าอีกหรือ?” หมายเลข 2 วางหลิงเยว่ที่หมดสติลงบนพื้น
วิญญาณอีกสองตนจ้องมองนาง
“พี่ใหญ่ ท่านให้พวกข้าจับนางมาที่นี่เพื่ออะไร?” หมายเลข 3 กวาดตามองรอบ ๆ สถานที่ ที่นี่เคยเป็นอาณาเขตของอสูรหมอกแห่งความว่างเปล่า บริเวณนี้จึงเต็มไปด้วยหมอกควัน
“ใช่แล้ว! หญิงคนนี้ต้องการทำร้ายพวกเรานี่!” หมายเลข 2 กล่าว
วิญญาณทั้งสองนึกถึงภาพที่หมายเลข 1 กินของแปลก ๆ สองอย่างนั้นเข้าไปแล้วทั้งร่างก็มีควันดำลอยออกมา พวกเขารู้สึกตกใจมาก แม้แต่น้ำแข็งก็ไม่สามารถดับได้ ช่างน่ากลัวเหลือเกิน!
พวกเขาทั้งสองได้แต่มองดูหมายเลข 1 ละลายกลายเป็นกลุ่มพลังหยิน…
แต่สภาพนั้นคงอยู่เพียงชั่วพริบตาเดียว หมายเลข 1 ก็กลับคืนสู่สภาพเดิม
ทันทีที่ฟื้นคืนสติ เขาจึงสั่งให้หมายเลขสองไปจับตัวหลิงเยว่ที่หลบหนีไป ส่วนตัวเขากับหมายเลขสามก็ออกจากทะเลม่วงกลับไปยัง ‘บ้าน’ เก่าของลูกกลมสีดำ
“พานางไปยังดินแดนเงาทมิฬ” เขาสั่ง
สองวิญญาณตะลึง “หา?!”
“จะพานางไปยังดินแดนของพวกเราทำไมกัน?” หมายเลขสามถามด้วยน้ำเสียงตกใจสุดขีด ถึงขั้นสงสัยว่าพี่ใหญ่ของตนถูกอาหารประหลาดของหลิงเยว่ทำให้โง่ไปแล้วหรือไม่?
“น้องสี่ต้องการความช่วยเหลือจากนาง” หมายเลขหนึ่งตอบคร่าว ๆ แล้วแบกร่างหลิงเยว่ขึ้นไปบนนกเงาที่เรียกออกมา
“พี่ใหญ่ หญิงผู้นี้จะช่วยน้องสี่ได้อย่างไรกัน?” หมายเลขสองและสามรีบตามไปติด ๆ พวกเขายังคงงุนงงไม่เข้าใจว่าหมายเลขหนึ่งต้องการทำอะไร อีกทั้งหลิงเยว่ผู้อ่อนแอเช่นนี้จะช่วยน้องสี่ที่คลั่งไปแล้วได้อย่างไร?
ที่จริงแล้วเผ่าวิญญาณผีของพวกเขาไม่ได้มีแค่สามคน เพียงแต่คนที่สี่ฝึกฝนเคล็ดวิชา ผิดพลาดจนเกิดคลั่ง
พวกเขาสามคนจึงต้องกักขังคนที่สี่ไว้ในดินแดนเงาทมิฬ
นางฟื้นเร็วถึงเพียงนี้เชียวหรือ?
“คนปกติถูกผนึกผีเข้า อย่างไรก็ต้องสลบไปสักสิบวันสิบคืน”
“เมื่อต้องการให้ข้าช่วยก็ควรปล่อยให้ข้ากลับไปรายงานความปลอดภัยสิ?”
ความจริงหลิงเยว่ได้ยินทั้งสามพูดคุยกันหมดแล้ว
“เหตุใดเจ้าถึงตื่นได้เร็วเช่นนี้!?” หลิงเยว่สร้างความตกใจให้กับวิญญาณหมายเลขสองมากที่สุด เขาเริ่มสงสัยว่าผนึกของตนเองอาจจะเสียแล้ว และยังมีแรงกระตุ้นอยากจะให้วิญญาณหมายเลขสามที่อยู่ข้าง ๆ โดนสักที
ดูเหมือนว่าวิญญาณหมายเลขสามจะรู้ทันความคิดของวิญญาณหมายเลขสอง จึงรีบหลบไปอยู่ด้านหลังวิญญาณหมายเลขหนึ่งอย่างรวดเร็ว
“ข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน” หลิงเยว่กะพริบตาอย่างไร้เดียงสา
วิญญาณทั้งสาม “…”
“พวกเจ้าต้องการให้ข้าช่วยอะไร?”
ผ้าคลุมดำหมายเลข 1 กล่าวพลางยกแขนเสื้อดำใหญ่ขึ้นลูบอกตัวเอง อาหารสามารถขับไล่ ‘สิ่งเจือปน’ ในร่างกายของเขาได้ นอกเหนือจากพลังหยินแล้ว เขารู้สึกประหลาดใจมากที่ร่างกายถูกชำระล้าง แม้จะไม่สะอาดหมดจด แต่ถือว่าได้ผลดีทีเดียว
วิญญาณตนที่สี่มีสิ่งเจือปนในร่างกายมากเกินไป จึงทำให้เสียสติ
พวกเขาจึงจับหลิงเยว่ไปยังดินแดนเงาทมิฬ ให้นางทำอาหารวันละสิบมื้อ น้องสี่ของพวกเขาต้องฟื้นคืนสติอย่างรวดเร็วแน่นอน!
“กุ่ยซาน เจ้าไปรายงานความปลอดภัย บอกว่านางออกไปฝึกฝนประสบการณ์”
หมายเลข 1 ไม่เต็มใจที่จะต้องวนกลับไปเพียงเพื่อรายงานความปลอดภัยให้หลิงเยว่
“งั้นเจ้าเอากระดาษแผ่นนี้ไปด้วย” หลิงเยว่หยิบกระดาษออกมาเขียนตัวอักษรแล้วส่งให้อีกฝ่าย
“เจ้าน่าจะยังมีแก่นว่างเปล่าอยู่ใช่ไหม? ขอยืมหน่อยสิ”
ขณะที่ส่งกระดาษไป หลิงเยว่ก็หน้าด้านขอยืมเงินด้วย
นอกจากรายงานความปลอดภัยแล้ว หลิงเยว่ยังเขียนกระบวนการทำอาหารว่างเปล่าของตนลงไป และแนะนำให้ลูกศิษย์ลองเปลี่ยนวัตถุดิบจากโลกผู้บำเพ็ญเป็นวัตถุดิบระดับต่ำสุดของโลกว่างเปล่าดู บางทีอาจมีผลลัพธ์ที่คาดไม่ถึง
หมายเลข 3 ที่ถูกยืมเงิน “…”
“ให้นางไป…”
“ไม่ต้องให้ข้าหรอก เอาไปมอบให้ผู่ตานก็พอ”
หลิงเยว่ยิ้มส่งหมายเลข 3 ที่มีสีหน้าอึดอัดใจมาก
ระหว่างทางไปยังดินแดนเงาทมิฬ หลิงเยว่ถึงรู้ว่าไอศกรีมของนางสามารถขับไล่สิ่งเจือปนในร่างของหมายเลข 1 ได้
หมายเลข 2 ที่เพิ่งรู้ “???”
เพียงแค่อาหารธรรมดา กลับมีสรรพคุณวิเศษถึงเพียงนี้?
หมายเลข 2 ไม่ค่อยเชื่อนัก แต่ดูจากท่าทางของหมายเลข 1 แล้ว ดูเหมือนจะเป็นความจริง
หากเป็นเช่นนั้น บางทีนางอาจจะช่วยวิญญาณที่สี่ได้!
“หากเจ้าสามารถทำให้กุ่ยซื่อฟื้นคืนสติได้…”
“เจ้าก็จะไปช่วยคนในโลกวิญญาณแห่งความตายที่สี่ใช่หรือไม่?” ดวงตาทั้งสองของหลิงเยว่เป็นประกายวาววับ ในม่านตาสะท้อนเงาร่างของกุ่ยอี
“ใช่” กุ่ยอีพยักหน้า
หลิงเยว่แทบจะร้องไห้ด้วยความซาบซึ้ง เพียงเพราะเรื่องนี้นางก็จะใช้สมองของนางเพื่อช่วยเหลือกุ่ยซื่อนั่นให้ได้!
เมื่อถึงเวลานั้นสี่วิญญาณคงจะบุกเข้าโลกวิญญาณแห่งความตายที่สี่ได้ง่ายขึ้น
ยิ่งไปกว่านั้นมีสามวิญญาณคอยคุ้มครองและสนับสนุนเงินทุนอยู่ นางก็สามารถทุ่มเทศึกษาอาหารแห่งความว่างเปล่าได้อย่างไม่ต้องกังวล ช่วยประหยัดทั้งเงินและแรงงาน!
ดินแดนเงาทมิฬอยู่ห่างไกลจากทะเลสีม่วงพอสมควร จากตอนแรกที่หลิงเยว่ยังตื่นเต้นชมทิวทัศน์แห่งความว่างเปล่า จนกระทั่งสีหน้าเรียบเฉย แล้วรู้สึกหมดอาลัยตายอยาก
“เมื่อไหร่จะถึง?”
“เจ้าถามมาหกพันเจ็ดร้อยสิบเอ็ดครั้งแล้ว เปลี่ยนคำถามได้หรือไม่?” น้ำเสียงของกุ่ยเอ้อร์เต็มไปด้วยความรำคาญ
“สิ่งที่ข้าถามได้ ข้าก็ถามหมดแล้ว”
แม้แต่ส่วนผสมที่ต้องการก็จดไว้หมดแล้ว
“อ้อ! พอดีข้ามีซากงูวิญญาณแห่งความว่างเปล่าอยู่ตัวหนึ่ง เจ้าต้องการไหม?”
แต่เดิมเขาตั้งใจจะเอาไปขาย ช่างเป็นโชคดีของนางคนนี้จริง ๆ!
ซากงูว่างเปล่าครอบคลุมครึ่งร่างของนกเงา ทั้งตัวดำสนิท มีเพียงจุดสีขาวบริสุทธิ์ตรงหน้าผาก ดูเหมือนว่ามันจะตายอย่างสงบ
“มันมีพิษทั่วทั้งร่างใช่ไหม?” รายการส่วนผสมทั้งหมดของหลิงเยว่ไม่รวมถึงสิ่งมีชีวิตจากความว่างเปล่า บางทีระบบอาจไม่คิดว่าพวกเขาจะมาถึงโลกแห่งความว่างเปล่า จึงไม่ได้เตรียมการไว้?
“อืม ใช่แล้ว”
หลิงเยว่ “…”
“เจ้าสามารถกำจัดพิษของดอกม่วงแห่งความว่างเปล่าได้ ข้าคิดว่าพิษของงูตัวนี้คงไม่ยากสำหรับเจ้าหรอกนะ?”
หลิงเยว่ชำเลืองมองกุ่ยอีที่ยืนพูดโดยไม่คิดถึงความยากลำบาก งูตัวใหญ่ขนาดนี้ การกำจัดพิษทั้งหมดอาจต้องใช้เวลาถึงหนึ่งปี แต่เวลาของนางนั้นมีค่ามากนะ!
“สัตว์แห่งความว่างเปล่าส่วนใหญ่มีพิษรุนแรง ยิ่งมีพลังมากเท่าไร พิษยิ่งแรงขึ้นเท่านั้น หากเจ้าต้องการทำกำไรมหาศาลจากอาหารแห่งความว่างเปล่า สัตว์ระดับสูงคือตัวเลือกอันดับหนึ่ง พลังงานที่พวกมันให้นั้นสูงกว่าพวกระดับต่ำเป็นพันเป็นหมื่นเท่า”
“เช่นนั้นหรือ?” หลิงเยว่ลูบคางพลางครุ่นคิด
การกำจัดพิษช่างยุ่งยากเหลือเกิน มีความเป็นไปได้หรือไม่ที่จะเปลี่ยนพิษเหล่านั้นให้กลายเป็นยาบำรุง?
ความคิดนี้ทำให้หัวใจอันเฉยชาของหลิงเยว่สั่นสะท้านด้วยความตื่นเต้น!