ยอดกุ๊กบุกแดนเซียน - บทที่ 534 จะสู้ต่อไปได้อย่างไร?
บทที่ 534 จะสู้ต่อไปได้อย่างไร?
“บังอาจนัก! กล้าดียังไงมาแตะต้องลูกชายข้า!”
เจ้าแห่งความตายที่หนึ่งถูกอุ้งเท้าสัตว์ขนาดมหึมาตบจนกระเด็น แต่ยังไม่ทันตกถึงพื้น ร่างก็แตกกระจายเป็นเสี่ยง ๆ กลางอากาศเสียแล้ว
“ท่านพ่อ พวกมันนั่นแหละ!”
ลูกกลมดำน้อยรีบปีนขึ้นหลังบิดาผู้ให้กำเนิด นิ้วเล็ก ๆ ชี้ไปที่เจ้าแห่งความตายทั้งห้า
เจ้าแห่งความตายทั้งห้าบ่นอยู่ในใจ จะสู้ต่อได้อย่างไรกัน? แต่หากครั้งนี้พวกเขาทั้งหกต้องหนีกระเจิดกระเจิง พวกเขาจะอยู่รอดในดินแดนว่างเปล่าได้อย่างไร?
พวกเขาจำเป็นต้องสู้ต่อ!
เจ้าแห่งความตายทั้งห้าหันไปมองเจ้าแห่งความตายที่หนึ่งที่ถูกทุบจนร่างแตกกระจาย ช่างไร้ประโยชน์จริง ๆ!
พวกเขาไม่คิดบ้างเลยว่า ก่อนที่จะมาโจมตีดินแดนเงาทมิฬนั้น เจ้าแห่งความตายที่หนึ่งต้องทนรับการทุบตีมามากแค่ไหน การที่เขายังทนอยู่ได้จนถึงตอนนี้ก็แสดงถึงพลังอันยิ่งใหญ่ของเขาแล้ว
พวกซากศพนั้นยากที่จะสังหารจริง ๆ แม้จะถูกทุบจนแหลกละเอียดแล้ว เจ้าแห่งความตายที่หนึ่งก็ยังหายใจอยู่ เขาลากร่างที่เหลือเพียงครึ่งศีรษะเข้าไปปะปนกับฝูงซากศพ เศษชิ้นส่วนที่ตกอยู่บนพื้นกลายเป็นน้ำเหนียว ๆ ส่งกลิ่นคาวเหม็นเน่าเพราะการจากไปของเขา แล้วละลายไปกับพื้นของดินแดนเงาทมิฬ
บางทีอาจต้องใช้เวลานานมากกว่าเจ้าแห่งความตายที่หนึ่งจะปรากฏตัวอีกครั้ง เพราะสภาพที่เหลืออยู่นั้นย่ำแย่เหลือเกิน… เว้นแต่จะได้รับร่างวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ ไม่เช่นนั้นคงต้องใช้เวลาหลายหมื่นปีกว่าจะสร้างร่างกายใหม่ขึ้นมาได้
แม้จะสร้างร่างกายใหม่ได้ แต่การฟื้นฟูพลังให้กลับมาเป็นเจ้าแห่งความตายอีกครั้งนั้นต้องใช้เวลายาวนานกว่านั้นมาก
เจ้าแห่งความตายที่หนึ่งคิดไม่ตกว่าเหตุใดตนจึงต้องตกต่ำถึงเพียงนี้…
หากร่างวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ไม่ปรากฏขึ้น ตอนนี้หากเขายังคงเป็นเจ้าแห่งความตายที่รุ่งโรจน์ไร้ขีดจำกัดของโลกความตายที่หนึ่ง น่าเสียดายที่โลกนี้ไม่มีคำว่าหาก สนามรบเปลี่ยนไปเพราะการสนับสนุนของสัตว์อสูรหมอกว่างเปล่าและวิญญาณผีทั้งสาม!
กุ่ยซื่อที่เข้าไปในเมืองผีเพื่อตามหาหลิงเยว่ กลับไม่พบตัว การไม่พบตัวหมายความว่าอะไร?
หมายความว่าต่อไปนี้เขาจะไม่มีอาหารอร่อยให้กินอีกแล้ว!
คนหายไปก็ช่างเถอะ แต่แม้แต่วัตถุดิบที่หญิงผู้นั้นปลูกไว้ก็เหลือน้อยเต็มที การนี้ทนไม่ได้ ทนไม่ได้เลยจริง ๆ!
กุ่ยซื่อสูญเสียการควบคุม เขาเริ่มคลั่งแล้ว! บรรดาวิญญาณร้ายที่กำลังค้นหาอยู่บนพื้นที่พืชพรรณทั้งหมดถูกระเบิดออก หลิงเยว่โชคดีที่รอดพ้นจากหายนะ นางได้ย้ายจากด้านหลังพืชไปอยู่หลังแผ่นไม้ผุแล้ว
“กุ่ยซื่อ ข้าอยู่ตรงนี้!”
“เจ้ายังไม่ตายหรือ?”
กุ่ยซื่อกลับกลายเป็นหุ่นไม้อ้วนอีกครั้ง เขาจ้องมองหลิงเยว่ด้วยสายตาเหม่อลอยอย่างประหลาดใจ หญิงผู้นี้รอดชีวิตจากการล้อมของกองทัพซากศพได้อย่างไร? แท้จริงแล้วซากศพที่เข้าสู่เมืองผีทุกตนสามารถบดขยี้หลิงเยว่ได้อย่างง่ายดาย
“เจ้าหวังให้ข้าตายหรือไร?” หลิงเยว่ยังคงรู้สึกหวาดกลัว ดีที่นางได้ออกจากบริเวณพืชพรรณแล้ว ไม่เช่นนั้นนางคงได้ตายคามือพวกพ้องเสียเอง
“ไม่” กุ่ยซื่อรู้สึกดีใจ แต่ใบหน้าหุ่นไม้ยังคงไร้อารมณ์
“ดีที่เจ้าไม่ได้ซ่อนตัวอยู่ในพุ่มไม้…” หุ่นไม้อ้วนรู้สึกหวาดกลัวอยู่บ้าง
หลังจากหุ่นไม้อ้วน ลูกกลมดำเล็กพร้อมกับลูกกลมดำจิ๋วก็พบหลิงเยว่เช่นกัน ลูกกลมดำจิ๋วกอดคอหลิงเยว่ ร้องไห้ไม่หยุด “ดีที่เจ้าไม่ตาย ถ้าเจ้าตายข้าก็จะตามไปด้วย ฮือ ๆ ๆ ๆ ๆ”
หลิงเยว่ “…”
ไม่เชื่อหรอก!
“เพิ่งต่อสู้มาหนึ่งยก หิวเหลือเกิน!”
ยังไม่ทันที่หลิงเยว่จะกลอกตา กุ่ยซื่อก็ยื่นมือออกมาเช่นกัน
ได้! ตอนนี้นางก็หิวแล้ว จะได้กินอะไรเพื่อเติมพลังสักหน่อย
ดังนั้นในสนามรบที่กำลังดำเนินไปอย่างบ้าคลั่ง จึงเกิดภาพที่ทำให้ทุกคนต้องอาเจียนเป็นเลือด
มนุษย์คนหนึ่งพาลูกกลมสีดำสองลูกกับหุ่นไม้หนึ่งตัวมานั่งกินอาหารกันอย่างสบายใจกลางสนามรบ โดยรอบตัวพวกเขามีพื้นที่ว่างเปล่า ขณะที่เหล่าทหารวิญญาณกำลังทำงานอย่างขยันขันแข็งเพื่อป้องกันไม่ให้ซากศพเข้ามาใกล้
“พวกเราทำแบบนี้ได้หรือ?” แตกต่างจากหลิงเยว่ที่กินอย่างไม่สบายใจ เพราะนึกถึงการต่อสู้เอาเป็นเอาตายข้างนอก เลือดไหลนอง แขนขาปลิวว่อน ทำให้นางไม่มีความอยากอาหารเอาสียเลย
ขณะที่นางกำลังคิดเช่นนั้น แขนสีเขียวที่ถูกตัดขาดก็ลอยข้ามศีรษะของเหล่าทหารวิญญาณตกลงมาตรงหน้าพอดี หากไม่ใช่เพราะหลิงเยว่เคลื่อนไหวเร็วพอ อาจมีเนื้อเพิ่มเข้ามาในชามก็เป็นได้
ที่รอยตัดของแขนนั้น ดูเหมือนมีสิ่งมีชีวิตสีขาวบางอย่างกำลังเคลื่อนไหว หลิงเยว่ มองอย่างตั้งใจ แล้วอยากจะทิ่มตาตัวเองให้บอด ทำไมนางถึงอยากรู้อยากเห็นสิ่งนี้นักหนา!
เปลวเพลิงสีม่วงเล็ก ๆ กลุ่มหนึ่งตกลงบนแขนที่ถูกตัดขาด
ลูกกลมสีดำเล็ก ๆ พูดพลางจะคว้าชามไป แต่ตุ๊กตาไม้อ้วนกลับฉวยไปก่อนหน้านั้นแล้ว มันไม่ให้โอกาสลูกกลมดำทั้งสองได้แย่งคืน แล้วยัดอาหารเข้าไปในท้องของตัวเองทันที
หลิงเยว่และลูกกลมดำ ๆ สองลูก “…”
ทำตัวเป็นเด็กจริง ๆ
“เมื่อไหร่จะต่อสู้เสร็จสักที?” หลิงเยว่เมื่อเห็นวัตถุดิบชิ้นสุดท้ายล้มลง ความรู้สึกหายใจไม่ออกถาโถมเข้ามาอย่างรุนแรง นางอยากจะฆ่าซากศพชั่วที่ทำลายวัตถุดิบทั้งหมดให้หมดสิ้น!
“ต้องใช้เวลาอีกสักพักกว่าจะรู้ผลแพ้ชนะ”
หุ่นไม้อ้วนตบท้องของตัวเองอย่างพึงพอใจ จากนั้นก็ละลายไปต่อหน้าหลิงเยว่และลูกกลมสองลูก กองทัพวิญญาณที่อยู่ภายใต้การควบคุมของมันเสียการควบคุม เพราะการละลายของมัน ซากศพจึงฉวยโอกาสบุกเข้ามา
ลูกกลมดำสองลูกรีบยัดอาหารตรงหน้าพร้อมชามเข้าปากอย่างรวดเร็ว แล้วเริ่มต่อสู้กับกองทัพซากศพระดับสูง
ตรงหน้าหลิงเยว่มีเศษซากร่างกายปลิวไปมาไม่หยุด เท้าของนางที่เดิมทีสะอาดสะอ้าน แค่เหม่อลอยไปครู่เดียวก็เต็มไปด้วยชิ้นส่วนศพ แถมในชิ้นส่วนศพยังเต็มไปด้วยหนอนตัวใหญ่มาก แหวะ!
พวกซากศพดูเหมือนคนปกติมาก แต่ข้างในกลับ… มีแมลงมากมายเหลือเกิน
หลิงเยว่แทบจะกระโดดออกจากที่เดิม นางคิดจะใช้เพลิงพิสดารเผาให้สะอาด แต่กลัวว่าจะทำให้เพลิงพิสดารอันงดงามของนางแปดเปื้อน
ร่างของกุ่ยซื่อที่ละลายได้ฟื้นคืนสภาพ ทหารวิญญาณที่ควบคุมไม่ได้ก็กลับมาแล้ว
การต่อสู้ครั้งใหญ่… ยังคงดำเนินต่อไป
จู่ ๆ หลิงเยว่ก็อยากกลับไปยังโลกผู้บำเพ็ญ เพราะโลกภายนอกอันตรายเกินไปและยัง… น่าขยะแขยงเกินไปด้วย!
…
ในตอนนี้โม่จวินเจ๋อตามรอยพลังของหลิงเยว่มาถึงประตูทะเลสีม่วงแล้ว
เขายังไม่ทันได้เข้าไป ลูกแก้ววิญญาณก็ตื่นเต้นขึ้นมา แต่สิ่งที่ตื่นเต้นยิ่งกว่าลูกแก้ววิญญาณคือใบไม้สีเขียวมรกตที่โม่จวินเจ๋อซ่อนไว้ในหัวใจ พวกมันลอยวนเวียนรอบ ๆ เสี่ยวจินไม่หยุด ราวกับอยากจะบินออกไป
ส่วนต้นไม้ครึ่งปีศาจนั้น… นางไม่ได้รู้สึกถึงกลิ่นอายของหลิงเยว่ในทะเลสีม่วง อีกทั้งยังไม่เห็นเสี่ยวจินที่ซ่อนอยู่ในหัวใจของโม่จวินเจ๋อ และใบไม้สีเขียวที่เคลื่อนไหวอย่างคึกคัก
“นางไม่ได้อยู่ข้างใน”
“อืม แน่นอนว่าไม่ได้อยู่” โม่จวินเจ๋อกดข่มใบไม้สีเขียวที่อยากจะบินออกมา แล้วหมุนตัวจากไป
ร่างแท้ของหลิงเยว่อยู่ที่นี่…
แต่กลิ่นอายของตัวนางเองกลับหายไปนอกทะเลสีม่วง โม่จวินเจ๋อรู้ว่าโลกผู้บำเพ็ญอยู่ในทะเลสีม่วง แต่ร่างของเขายังมีต้นไม้กึ่งปีศาจติดอยู่ หากให้นางเข้าใกล้ร่างแท้ที่ไม่มีหลิงเยว่ควบคุมอย่างไม่ระมัดระวัง เรื่องร้ายจะต้องเกิดขึ้นแน่นอน
“ไปทางไหนกันนะ?”
ต้นไม้กึ่งปีศาจไม่มีเบาะแสใด ๆ เลย
โม่จวินเจ๋อไม่ได้ส่งเสียงใด ๆ แต่กำลังคิดว่าจะทำอย่างไรให้ต้นไม้ปีศาจหลับไปสักพัก ไม่จำเป็นต้องนานมาก ขอแค่ชั่วครู่ก็พอ
เสี่ยวจินดูเหมือนจะได้ยินเสียงในใจของโม่จวินเจ๋อ จึงใช้ใบไม้ตบเขาเบา ๆ ราวกับกำลังบอกว่ามันสามารถลองดูได้
………………..