ยอดกุ๊กบุกแดนเซียน - บทที่ 556 หมอกแห่งความตาย
บทที่ 556 หมอกแห่งความตาย
นับตั้งแต่จอมวิญญาณเข้าใกล้ทะเลสีม่วง ต้นไม้สีเขียวรู้สึกไม่สบายตัวนัก แต่ไม่รู้ว่าจะแสดงออกอย่างไรต่อ จึงได้แต่ส่งสัญญาณเตือนออกมาอย่างต่อเนื่อง
“จอมวิญญาณต้องการทำอะไรกันแน่?” หลิงเยว่ไม่ได้โง่ นางเดาได้อย่างรวดเร็วว่าอะไรคือสิ่งที่ส่งผลกระทบต่อต้นไม้สีเขียว แต่มันเตือนมานานกว่าครึ่งปีแล้ว จอมวิญญาณก็ยังไม่ปรากฏตัว…
อีกทั้งนางได้แจ้งข่าวการปรากฏตัวของจอมวิญญาณในบริเวณใกล้เคียงทะเลสีม่วงแล้ว ตอนนี้ทั่วทั้งทะเลสีม่วงอยู่ในภาวะเตรียมพร้อมอย่างเต็มที่ เตรียมพร้อมมาเกือบครึ่งปีแล้ว แต่ยังไม่เห็นแม้แต่เงาของจอมวิญญาณ
“จะเป็นไปได้ไหมว่าเขาแค่ผ่านมาเท่านั้น?” ภูตสีม่วงลงมาเกาะบนกิ่งของต้นไม้สีเขียว ในฐานะที่เป็นพืชเหมือนกัน พวกมันสามารถสื่อสารกันได้ แต่ไม่มากนัก เพราะต้นไม้ตรงหน้านี้ยังไม่มีสติปัญญา ไม่สามารถพูดและไม่มีทางแปลงร่างได้
ดังนั้นกองกำลังวิญญาณที่คุ้มครองโลกผู้บำเพ็ญจึงเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง เพราะพวกมันมีวิชาสูงกว่าต้นไม้สีเขียว หากจอมวิญญาณมาจริง คนแรกที่ควรพบคือพวกมัน หรือไม่ก็ผู้เช่าที่แข็งแกร่งกว่า แล้วทำไมจึงเป็นต้นไม้นี้ล่ะ?
ต้นไม้สีเขียวไม่ใช่ต้นไม้ที่ไร้สติปัญญา นางคือต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์แห่งชีวิต!
หลิงเยว่น้อยหัวล้านเกือบจะหลุดปากออกมา แต่ยังอดกลั้นเอาไว้ได้
“มันส่งสัญญาณเตือนถี่ขึ้นเรื่อย ๆ แล้ว พวกเจ้าควรเพิ่มความระมัดระวังเถอะ” นอกจากเตือน หลิงเยว่ก็ไม่มีวิธีอื่น หากหลิงเยว่ไม่อยู่ก็ไม่มีทางพาโลกผู้บำเพ็ญออกจากทะเลม่วงได้
ได้แต่หวังพึ่งเผ่าวิญญาณสีม่วงเท่านั้น
แต่แม้หลิงเยว่จะอยู่… ก็ดูเหมือนว่าจะไม่มีทางแก้ไขได้เช่นกัน
หลิงเยว่มำท่าทางหดหู่
ที่ไหนกันแน่ที่จะปลอดภัยและรองรับพวกเขาได้
หากสามภพไม่ถูกทำลายก็คงจะดี…
“วางใจเถิด พวกข้าคอยป้องกันอยู่ตลอด” เมืองมิติและเมืองการค้าเป็นบทเรียนจากอดีต อีกทั้งราชินียังนำทัพออกรบ พวกเขายิ่งระแวดระวังมากขึ้น
“ดีแล้ว”
ตอนนี้หลิงเยว่ได้แต่ภาวนาว่าทั้งหมดนี้เป็นเพียงความรู้สึกผิดพลาดของครึ่งต้นไม้สีเขียวเท่านั้น ความจริงแล้วจอมวิญญาณเพียงแค่ผ่านมาเท่านั้น และได้จากไปไกลแล้ว
“พวกเจ้าเก็บร้านกลับมาเถอะ”
เหล่าศิษย์ที่ได้รับสารจากหลิงเยว่ต่างรู้สึกประหลาดใจ แม้ว่าตอนนี้ผู้คนในตลาดนอกสำนักจะไม่มากเท่าแต่ก่อน แต่อาหารจากความว่างเปล่าของพวกเขายังขายได้อยู่
มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นหรือ? หรือว่าอาจารย์หลิงกลับมาแล้ว?
“เฮ้อ พวกเจ้ารู้สึกหรือไม่ว่าช่วงนี้ดินแดนว่างเปล่าเงียบเกินไป เงียบจนทำให้ผู้คนรู้สึกหวาดหวั่น”
“ข้าคาดว่าจอมวิญญาณกำลังคิดแผนร้ายอยู่ เพียงแต่ไม่รู้ว่าเมืองใดจะเป็นเป้าหมายถัดไป”
“พวกเจ้าคิดว่ามีความเป็นไปได้หรือไม่ว่าจะเป็นทะเลสีม่วง?”
…
เซี่ยซิ่นรุ่ยและฮวนฮวนต่างพากันเงี่ยหูฟัง
“เป็นไปไม่ได้ที่จะเป็นทะเลสีม่วง ที่นี่ไม่มีแท่นมิติ และไม่มีเมืองการค้าที่อุดมสมบูรณ์ มีเพียงพวกเราที่ไร้บ้านกลุ่มหนึ่งและทุ่งดอกไม้เท่านั้น”
“ใช่แล้ว ข้าว่าเมืองถัดไปต้องเป็นเมืองการศึกษาแน่นอน ที่นั่นมีนักเรียนมากมาย ล้วนเป็นกำลังสำคัญในอนาคตของดินแดนว่างเปล่า…”
“สิ่งที่เจ้าพูดมานั้นเป็นไปได้จริง แต่ทะเลสีม่วงก็ไม่ได้ไร้ประโยชน์เสียทีเดียว พวกเจ้าลืมไปแล้วหรือว่าที่นี่อยู่ในตำแหน่งใด? ตำแหน่งศูนย์กลาง! หากทะเลสีม่วงถูกทำลาย มันสามารถทำให้สรรพชีวิตทั่วทั้งโลกหวาดกลัว นำไปสู่ความวุ่นวายได้!”
ทุกคนหันไปมองผู้พูด รู้สึกว่าสิ่งที่เขาพูดนั้นมีเหตุผลมาก
ชายผู้เป็นจุดสนใจเชิดคางขึ้นอย่างหยิ่งผยอง “แน่นอนว่านี่เป็นเพียงการคาดเดา แต่ข้าอยู่ที่ทะเลม่วงนานเกินไป ข้าควรจะไปได้แล้ว”
“ขอขนมและเนื้อย่างสักสองสามชิ้น ข้าจะเอาไปกินระหว่างทาง” ชายผู้นั้นโยนถุงแก่นว่างเปล่าขนาดเล็กให้จื่อเฉาอวี่
“อ่า ได้ ๆ” จื่อเฉาอวี่ที่ได้สติกลับมารีบเก็บถุงแก่นว่างเปล่า แล้วห่อของกินให้ชายคนนั้นอย่างรวดเร็ว
หลังจากทำเสร็จอันนี้ก็คงต้องเก็บร้านแล้ว
บางทีหลิงเยว่อาจจะคิดเหมือนกับชายคนก่อนหน้านี้ก็ได้ ถึงได้เรียกพวกเขากลับไป เพราะข้างนอกไม่ปลอดภัย
หลังจากที่ชายคนนั้นพูดออกมา มีคนบางส่วนในตลาดนอกสำนักเลือกที่จะจากไป ตอนนี้สถานที่ที่ปลอดภัยคงมีแต่เมืองเล็ก ๆ เหล่านั้นแล้ว เพราะทะเลสีม่วงดึงดูดความสนใจมากเกินไป
“ฮึ พวกเขาไม่กลัวบ้างหรือว่าจะเจอวิญญาณร้ายระหว่างทางกลับ”
“อย่างไรเสียข้าก็จะอยู่ที่นี่ แม้ว่าทะเลสีม่วงจะถูกโจมตีจริง…”
คำพูดของชายชราที่ตามมายังไม่ทันจบ พื้นดินสั่นสะเทือนเล็กน้อย แต่เป็นเพียงชั่วขณะ ผู้ที่ไม่ไวพอจะไม่สามารถรับรู้ได้เลย
“เมื่อครู่นี้…”
ชายชราลุกพรวดขึ้นมา “ทุกคนรีบออกไปจากที่นี่เร็ว!”
ในสถานการณ์เช่นนี้ ความเคลื่อนไหวใต้เท้าไม่อาจเป็นเพียงแผ่นดินไหวธรรมดาได้ อาจเป็นการต่อสู้ที่เกิดขึ้นในบริเวณใกล้เคียง หรือไม่ก็จอมวิญญาณกำลังซ่อนตัวอยู่ในที่มืด รอโอกาสลงมือ!
“ออกไปจากที่นี่ แล้วจะไปที่ไหนเล่า?”
ชายชราผู้มีพลังแกร่งกล้า คำพูดของเขาไม่ได้ก่อให้เกิดข้อสงสัยแต่อย่างใด
“ไปที่ไหน…”
ผู้แข็งแกร่งที่มีพลังเท่าเทียมกับชายชราหัวเราะขมขื่น “ตอนนี้ไปที่ไหนก็สายเกินไป จอมวิญญาณซุ่มโจมตีมานานขนาดนี้ ข้ากลับไม่รู้สึกตัวเลยแม้แต่น้อย”
พื้นดินสั่นสะเทือนอีกครั้ง คราวนี้แม้แต่เซี่ยซิ่นรุ่ยและคนอื่น ๆ ยังรู้สึกได้ เป็นดังคาด จอมวิญญาณไม่คิดจะซ่อนตัวอีกต่อไป ถึงขนาดตั้งใจส่งสัญญาณเตือนสองครั้งเพื่อสร้างความหวาดกลัวให้กับผู้คนในทะเลม่วง! ผู้แข็งแกร่งแห่งทะเลม่วงทั้งหมดออกปฏิบัติการ กองทัพภูตที่เหลืออยู่ในทะเลสีม่วงก็เริ่มรวมตัวกัน ต้องจับตัวจอมวิญญาณผู้โอหังให้ได้!
ต้นไม้สีเขียวแผ่กิ่งก้านสาขาออกไปห่อหุ้มโลกผู้บำเพ็ญเอาไว้อย่างแน่นหนา
“บรรพบุรุษ พวกท่านรีบไปรับเซี่ยซิ่นรุ่ยเถอะ…” หลิงเยว่หัวโล้นน้อยพูดยังไม่ทันจบ สามีภรรยาตระกูลเซี่ย อาจารย์ใหญ่ นักกลั่นโอสถอาวุโสและคนอื่น ๆ ก็หายตัวไปแล้ว
นักเรียนทั้งหลายถูกรับตัวไประหว่างทาง
ช่องว่างสุดท้ายที่ต้นครึ่งสีเขียวทิ้งไว้ถูกปิดสนิทหลังจากนักเรียนเข้ามา มองจากภายนอกดูคล้ายลูกกลม ๆ ปักดอกไม้สีเขียวมรกตขนาดใหญ่
ตูม!
ด้านหลังทะเลสีม่วงพลันเบ่งบานออกเป็นดอกไม้ไฟสีสันสดใส ละอองหมอกหลากสีปกคลุมทั่วทั้งทะเลสีม่วงในชั่วพริบตา
ละอองหมอกสีสันสดใสผสานกับทะเลดอกไม้สีม่วงได้อย่างลงตัว ราวกับดินแดนเทพนิยายแห่งสีสัน สะกดสายตาของทุกคน…
และจุดประสงค์ของจอมวิญญาณสำเร็จแล้ว ผู้บำเพ็ญทั้งหมดในดินแดนว่างเปล่าต่างถูกดึงดูดสายตาด้วยดอกไม้ไฟหลากสี
“นี่ยังไม่ทันได้เริ่มต่อสู้เลย พวกภูตสีม่วงก็เริ่มเฉลิมฉลองกันแล้วหรือ?”
“คิดอะไรอยู่ นั่นคือหมอกแห่งความตายของเผ่าวิญญาณ เจ้าไม่เคยได้ยินหรือว่ายิ่งสวยงามเท่าไหร่ยิ่งอันตรายเท่านั้น หมอกสีรุ้งนั่นแตะต้องเมื่อไหร่ร่างกายจะเน่าเปื่อยทันที…” ผู้บำเพ็ญที่กำลังอธิบายให้คนรอบข้างฟังพูดไปพูดมาก็ถึงกับตาโต “ที่แท้ของขวัญชิ้นที่สามของจอมวิญญาณก็อยู่ที่ทะเลสีม่วงนี่เอง!”
จอมวิญญาณแอบเข้ามาในใจกลางของดินแดนว่างเปล่าโดยไม่มีใครรู้ตัว และยังสามารถใช้หมอกแห่งความตายกับทะเลม่วงได้สำเร็จอีกด้วย!
ทะเลม่วงคงจะพ่ายแพ้ยับเยินเป็นแน่!
ราชินีภูตได้แต่มองดูบ้านของตนถูกขโมยไปต่อหน้าต่อตา ใบหน้าของนางเปลี่ยนเป็นสีเขียวคล้ำ โลกแห่งความตายอยู่ใกล้แค่เอื้อม แต่บ้านของนาง…
ชั่วขณะหนึ่ง ราชินีภูตม่วงตกอยู่ในสภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก
ช่างเป็นเจ้าแห่งความตายที่น่าสะพรึงกลัวเสียจริง!
“ฝ่าบาท หากข้าน้อยนำทหารกลุ่มหนึ่งไปช่วยเหลือที่ทะเลม่วงเล่า ส่วนท่าน…”
“ถึงทะเลม่วงพังก็สร้างใหม่ได้ แต่เจ้าแห่งความตายต้องตายเสียก่อน!”
บัลลังก์อันงดงามวิจิตรแตกเป็นเสี่ยง ๆ อยู่ใต้ร่างของราชินีภูต