ยอดกุ๊กบุกแดนเซียน - บทที่ 576 เขายอมรับแล้ว!
บทที่ 576 เขายอมรับแล้ว!
หลิงเยว่ที่ถูกถามชะงักไปครู่หนึ่ง
“ข้าสามารถพาเจ้ามาที่นี่ได้ทุกเมื่อ ขอเพียงเจ้าทำอาหารอร่อยให้ข้ากินเยอะ ๆ”
ตุ๊กตาไม้อ้วนที่แขนขาขาดพูดพลางลูบศีรษะของฮวนฮวน
ฮวนฮวนมองขึ้นไปบนหัวด้วยความประหลาดใจ สิ่งน่าสยดสยองนี้อยู่บนหัวของนางตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?
ไม่เพียงแต่ ‘ตุ๊กตาไม้อัปลักษณ์’ นี้จะปรากฏตัว แต่ด้านหลังของมันยังมี ‘ผี’ สามตนยืนอยู่ สวมเสื้อคลุมสีดำปกปิดตัวเองทั้งหมด แม้แต่เท้าก็ไม่เผยออกมา สามวิญญาณผีนี้นางรู้จัก แต่ที่อยู่เหนือศีรษะ… เป็นกุ่ยซื่อหรือ?
ตอนที่ตั้งแผงขายของในตลาดนอกสำนักฮวนฮวนเคยได้ยินเรื่องราวของสี่วิญญาณผีแห่งดินแดนเงาทมิฬที่มีชื่อเสียงโด่งดัง
“พวกเจ้าเพิ่งไปที่ใดมา?”
หลิงเยว่คิดว่าพวกวิญญาณผีทิ้งกุ่ยซื่อแล้วกลับไปดินแดนเงาทมิฬเพื่อสร้างบ้านใหม่เสียอีก
“ไปเที่ยว”
“ญาติผู้ใหญ่ของข้า/ท่านพ่อท่านแม่ของข้าเล่า?” ลูกกลมสีดำขนาดใหญ่และเล็กที่เกาะอยู่บนไหล่ของโม่จวินเจ๋อถามพร้อมกัน
“บางส่วนจากไปแล้ว ส่วนที่เหลือ…”
กุ่ยซานหันหน้าไปมองทางด้านหลัง กลุ่มลูกกลมสีดำขนาดใหญ่กำลังเกาะอยู่หน้าต้นไม้สีเขียวและมองดูอย่างสนใจ
พวกลูกกลมสีดำขนาดใหญ่กำลังสำรวจดูหญ้าอสนีที่เกิดจากวิญญาณที่เหลืออยู่
“แปลกจริง ทำไมข้ารู้สึกว่ามีคนอยู่ข้างใน?”
“เมื่อครู่ผีสามตนนั้นไม่ได้บอกหรือว่าข้างในมีวิญญาณอยู่?” ที่แท้เมื่อครู่นี้วิญญาณทั้งสามถูกดูดไปยังหญ้านั่นเอง ถึงได้ไม่เห็นเงาพวกมันเลย
“พวกเจ้าพูดว่าอะไรนะ?”
ลู่เป่ยเหยียนมองไปที่ลูกกลมสีดำด้วยสีหน้าตกตะลึง เขาไม่คิดว่าในหญ้าอสนีจะมีดวงวิญญาณของคนอยู่
“เจ้าฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องหรือไร?”
ลูกกลมสีดำมองหน้าลู่เป่ยเหยียนอย่างรังเกียจ แล้วยื่นนิ้วไม้ขีดไฟชี้ไปที่หญ้าอสนีต้นหนึ่ง “ต้นนี้เป็นตัวเมีย”
ดังนั้นกลุ่มคนจึงไม่สนใจแม้แต่จะมองดูดินแดนว่างเปล่าที่พวกเขาใฝ่ฝันมาตลอด แต่กลับมารวมตัวกันรอบ ๆ กลุ่มลูกกลมสีดำใหญ่ พร้อมฟังเขาแยกแยะพืชเพศผู้เพศเมียอย่างสนอกสนใจ
หลิงเยว่ “……”
ไม่รู้ว่าบินมานานเท่าไหร่แล้ว ในที่สุดทุกคนก็ผ่านพ้นเทือกเขาทิงหลินที่เคยอยู่มาได้ และมุ่งหน้าไปยังทิศทางของสามภพ
“โลกเล็ก ๆ ของพวกเจ้าทำไมถึงอยู่ในมุมแบบนี้ อยู่ในทะเลสีม่วงยังจะดีกว่าเสียอีก” แม้องค์ชายเย่าจะไม่ได้แสดงสีหน้ารังเกียจ แต่น้ำเสียงของเขากลับเต็มไปด้วยความรังเกียจอย่างชัดเจน
“จัดการทำความสะอาดสักหน่อยก็ดีพอสมควรนะ…”
หลังจากได้เห็นความเจริญรุ่งเรืองของดินแดนว่างเปล่าแล้ว หลิงเยว่ไม่อาจฝืนใจชมสามภพได้ โลกผู้บำเพ็ญนั้นห่างไกลเกินไปจริง ๆ อีกทั้งตอนนี้ยังเต็มไปด้วยพลังแห่งความตาย ไม่เหมาะสำหรับการอยู่อาศัยของผู้คน
โลกผู้บำเพ็ญหยุดอยู่นอกเขตของพลังแห่งความตาย
หลิงเยว่ยื่นมือออกไป พลังแห่งความตายมากมายพุ่งเข้าหามือของนางอย่างรวดเร็ว ก่อนจะเข้าสู่ร่างกาย
แดนเทพและโลกผู้บำเพ็ญเซียนเริ่มปรากฏ
“สวรรค์! ไม่มีสิ่งมีชีวิตเลยสักตัว แต่กลับมีวิญญาณร้ายมากมาย หลิงเยว่ เจ้าคิดอะไรอยู่กันแน่ ถึงได้ตัดสินใจกลับมาที่นี่?” ลูกกลมดำน้อยรู้สึกเสียใจ ที่นี่แย่กว่าดินแดนของมันเสียอีก
“ให้ข้าจัดการพวกมันเอง!” ลูกกลมดำน้อยพูดพลางจะพุ่งเข้าใส่วิญญาณร้าย โชคดีที่ หลิงเยว่คว้าลูกกลมดำกลับมาได้ทัน
“อย่าทำร้ายพวกมันเลย พวกมันยังมีประโยชน์อยู่”
“ใช้ทำอะไรหรือ?” โม่จวินเจ๋อที่ทำตัวเป็นฉากหลังมาตลอดอดไม่ไหว เอ่ยปากถาม
“ศิษย์น้อง เจ้าคงไม่ได้คิดจะเลี้ยงวิญญาณร้ายหรอกนะ?” ผู่ตานรู้สึกประหลาดใจอย่างยิ่ง
“อืม การเลี้ยงวิญญาณก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้” องค์ชายเย่าพยักหน้าเบา ๆ
“แต่พวกวิญญาณเหล่านี้เก่งกว่าศิษย์ของเจ้ามากนัก บางที…”
หลิงเยว่ทนฟังต่อไปไม่ไหวจึงขัดขึ้นทันที “ใครบอกว่าข้าจะเลี้ยงพวกมัน ข้าต้องการช่วยพวกมันต่างหาก”
“หา? ข้าไม่ได้ฟังผิดใช่หรือไม่?” กุ่ยซานมองดูหลิงเยว่แล้วมองดูวิญญาณเหล่านั้น พวกมันจะช่วยได้อย่างไร?
“ข้าได้ยินเช่นกัน หลิงเยว่บอกว่าจะช่วยวิญญาณ” กุ่ยเอ้อร์เอ่ยขึ้นเพื่อยืนยันว่าทุกคนที่อยู่ในที่นี้ไม่ได้ฟังผิด
“เป็นไปได้หรือ? ข้าไม่เคยลองมาก่อนเลย”
พลังแห่งความตายถูกหลิงเยว่ดูดกลืนจนหมดสิ้น วิญญาณร้ายที่อยู่ภายในตื่นตระหนกอย่างเห็นได้ชัด เพราะหากไร้ซึ่งพลังแห่งความตาย พวกมันจะฝึกฝนต่อไปได้อย่างไร!?
สภาพของสองโลกนั้นย่ำแย่ยิ่งกว่าดินแดนว่างเปล่าเสียอีก นอกจากวิญญาณร้ายแล้ว ไม่มีแม้แต่พืชสักต้นหรือสัตว์สักตัว แม้แต่ก้อนหินยังเต็มไปด้วยพลังแห่งความตาย ทำให้ผู้พบเห็นรู้สึกหดหู่ใจ
“หรือพวกเราควรกลับไปยังทะเลม่วงดีกว่า?” องค์ชายเย่าเสนออีกครั้ง ชัดเจนว่าที่นี่ไม่เหมาะสำหรับมนุษย์และสิ่งมีชีวิตแล้ว โลกแห่งความตายและดินแดนทมิฬยังดีกว่าเสียอีก
ทุกคนดูเหมือนจะลังเลเล็กน้อย แต่ส่วนใหญ่ยังคงมองไปที่หลิงเยว่
“ไม่จำเป็นหรอก ที่นี่จะฟื้นคืนในอีกไม่ช้า”
“ใช่แล้ว พวกข้าลืมไปได้อย่างไรว่าเจ้าคือต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์?”
“ถูกต้อง อาจารย์เป็นต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ การฟื้นฟูที่นี่ให้กลับมาเหมือนเดิมไม่ใช่เรื่องยากเลย”
“แน่นอนว่าต้องดีกว่าเดิมด้วย!”
เหล่าศิษย์มีความมั่นใจในตัวหลิงเยว่อย่างประหลาด และความคิดที่จะกลับไปยังทะเลม่วงเมื่อครู่นี้ก็สลายไปตามสายลมทันทีที่นึกถึงร่างแท้จริงของหลิงเยว่
เมื่อเทียบกับการอาศัยอยู่ใต้ชายคาของผู้อื่น พวกเขากลับอยากเห็นว่าโลกของพวกเขาจะเปลี่ยนไปเป็นอย่างไร ภายใต้การหล่อเลี้ยงของต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์
หลิงเยว่นำหน้าเข้าสู่แดนเทพเป็นคนแรก หลังจากนั้นต้นไม้สีเขียวขจีที่ใหญ่พอจะครอบคลุมสองโลกปรากฏขึ้น
แม้จะเป็นการพบเห็นครั้งที่สอง แต่กุ่ยซื่อ ภูตม่วงและลูกกลมสีดำยังคงรู้สึกตื่นตะลึง นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้สัมผัสกับต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์เยียวยาฟ้าอย่างใกล้ชิดเช่นนี้
ต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์เยียวยาฟ้า!
ถูกต้อง ตอนนี้ผู้บำเพ็ญในดินแดนว่างเปล่าต่างเรียกหลิงเยว่ผู้ปรากฏตัวเพียงชั่วครู่ว่า ต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์เยียวยาฟ้า!
“ร่างแท้ของอาจารย์หลิงช่างงดงามราวกับความฝัน…” ดวงตาของจื่อเฉาอวี่เต็มไปด้วยความเลื่อมใส “ใช่แล้ว เราได้เป็นศิษย์ของอาจารย์ คงเป็นเพราะพวกเราได้ทำบุญมามากมายสินะ?”
“หากสุสานบรรพบุรุษของสำนักหลานเทียนยังอยู่ตอนนี้ คงมีควันสีเขียวลอยขึ้นมาแล้ว!”
“ดูสิ โครงกระดูกของบรรพบุรุษของพวกเรากำลังมีควันสีเขียวลอยออกมา!”
ทุกคน “……”
“ที่นี่ยังเล็กเกินไป ไม่สามารถรองรับหลิงเยว่ได้”
กุ่ยซานกล่าวอย่างเสียดาย ต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์เยียวยาฟ้าเคยปกคลุมทั่วทั้งดินแดนความว่างเปล่า ซึ่งดินแดนว่างเปล่านั้นใหญ่กว่าสองโลกในปัจจุบันหลายพันหลายหมื่นเท่าหลิงเยว่แปลงร่างเป็นร่างแท้ แผ่กิ่งก้านสาขารวบเอาวิญญาณร้ายที่หลบหนีเข้ามา
เพียงชั่วพริบตาวิญญาณร้ายที่เร่ร่อนอยู่ในสองภพก็ถูกนางรวบจนหมดสิ้น แม้แต่พวกที่ซ่อนตัวอยู่ใต้ดินก็ไม่เว้น
ท้องฟ้าสองผืนที่มืดมนและแตกร้าวเป็นรอยแยกนับไม่ถ้วนถูก หลิงเยว่ซ่อมแซมอีกครั้ง
หลังจากที่หลิงเยว่ปรากฏตัว ดูเหมือนสองภพจะมีชีวิตชีวาขึ้นมา
[รวมสองส่วนนี้ ไม่สิ สามส่วนนี้ให้เป็นหนึ่งเดียวกันเถิด]
ระบบหลักที่หลับใหลอยู่ ตื่นขึ้นมาอีกครั้ง
“หากรวมเป็นหนึ่งเดียว แล้วเทพสวรรค์อีกสององค์จะทำอย่างไร?”
หลิงเยว่ยังจำได้หรือไม่ว่าครั้งหนึ่งสามวิญญาณผีเคยกล่าวไว้ว่า เนื่องจากเทพสวรรค์ของสามภพยังมีชีวิตอยู่ จึงไม่มีคุณสมบัติที่จะนำมาหลอมรวมเป็นพื้นที่ขนาดเล็กได้
[พวกเขาคือข้า และข้าก็คือพวกเขา]
ระบบยอมรับแล้ว!
เขายอมรับด้วยปากของตัวเองว่าเป็นเทพสวรรค์ของสามภพแล้ว!
หลิงเยว่รู้สึกชื่นชมสมองอันชาญฉลาดของตัวเองขึ้นมาทันที!