ยอดกุ๊กบุกแดนเซียน - บทที่ 587 ช่างมั่นใจเสียจริง
บทที่ 587 ช่างมั่นใจเสียจริง
เมื่อเปรียบเทียบปริมาณพลังศรัทธาที่เกิดขึ้นระหว่างโลกผู้บำเพ็ญกับดินแดนว่างเปล่า พบว่าพลังศรัทธาของโลกแรกนั้นน้อยมากจนแทบไม่ต้องนำมาคิด
อย่างไรก็ตาม หนึ่งในนั้นเป็นโลกใหญ่ที่ติดอันดับยี่สิบของจักรวาล ส่วนอีกโลกหนึ่งเป็นเพียงโลกเล็ก ๆ ที่แม้แต่ชื่อก็ไม่เคยปรากฏในประวัติศาสตร์จักรวาล ดังนั้นการที่พลังศรัทธาไม่สามารถเทียบกันได้จึงเป็นเรื่องปกติ
“ทำไมถึงไม่มีปฏิกิริยาเลย?”
ราชินีภูตม่วงที่ส่งพลังศรัทธาให้กับเทพสวรรค์ของดินแดนว่างเปล่ามาเป็นเวลาหนึ่งปีอดทนไม่ไหว นางลืมตาขึ้นมองไปบนท้องฟ้า พวกเขามีคนมากมายในโลกนี้ มีส่วนใหญ่ที่เต็มใจใช้พลังศรัทธาในการรักษาเทพสวรรค์ เวลาหนึ่งปีน่าจะเพียงพอแล้วมิใช่หรือ?
หรือว่า… จะต้องใช้เวลาหลายสิบปีหรือร้อยปี?
มันไม่ควรจะเป็นเช่นนั้น
ราชินีภูตสีม่วงคิดไม่ออก
ทันใดนั้นสายฟ้าที่สว่างจ้าสาดสว่างไปทั่วทะเลสีม่วง ตามด้วยเสียงฟ้าร้องที่น่าตกใจดังขึ้นจากทุกทิศทาง ดูเหมือนว่าเทพสวรรค์แห่งดินแดนว่างเปล่าจะใช้วิธีนี้เพื่อบอกกับบรรดาผู้คนของตนว่า เขาตื่นขึ้นมาแล้ว!
ผู้บำเพ็ญ สัตว์อสูรแห่งความว่างเปล่าและพืชพรรณที่ยังไม่ทันได้ตั้งตัวก็ถูกสายฟ้าฟาดจนควันโขมง
“…”
จะไม่ให้พวกเขาได้เตรียมตัวก่อนหรือ?
อย่างไรก็ตามผู้ที่กำลังฝ่าด่านพบว่า สายฟ้าแรกที่เป็นของพวกเขานั้น แม้จะดูน่ากลัว แต่เมื่อฟาดลงมาที่ร่างกายแล้วถือว่าพอรับได้
สวรรค์กำลังผ่อนปรนให้พวกเขาหรือ?!
พวกผู้ฝ่าทัณฑ์สวรรค์ที่คิดถึงเรื่องนี้ต่างรู้สึกตื่นเต้น ไม่เสียเปล่าที่พวกเขาใช้เวลาส่งพลังศรัทธาให้แก่เทพสวรรค์ มันคุ้มค่าอย่างยิ่ง!
เสียงฟ้าร้องที่ดังขึ้นไม่หยุดได้ปลุกสัตว์อสูรแห่งความว่างเปล่าและนักรบภูตม่วงที่รออยู่นอกสามภพ
ดวงตาของพวกเขาสะท้อนภาพทัณฑ์สวรรค์ที่ผ่านเข้ามาเป็นระลอก ราวกับว่าสายฟ้าเหล่านี้จะฉีกท้องฟ้าทั้งผืนออกเป็นสองส่วน
“เทพสวรรค์ตื่นขึ้นแล้ว!”
“พลังศรัทธาได้ผลจริง ๆ!” สองเผ่าพันธุ์มองกันด้วยความตื่นเต้น และโอบกอดกัน
แต่พวกหลิงเยว่จะต้องใช้เวลาอีกนานเท่าไรกว่าจะได้ผล?
ลูกกลมสีดำตัวน้อยรวบรวมความกล้า ตัดสินใจเข้าไปดู ก่อนหน้านี้ราชินีภูตม่วงเข้าไปแล้วไม่มีอะไรเกิดขึ้น มันจะเข้าไปแค่ครู่เดียว คงไม่เป็นไรกระมัง?
“เจ้าจะเข้าไปทำอะไร?” ลูกกลมสีดำน้อยเพิ่งขยับตัวก็ถูกลูกกลมสีดำที่ใหญ่กว่าคว้าตัวไว้ทันที ก่อนหน้านี้พวกเขาไม่ทันได้ขัดขวาง แต่ตอนนี้พวกเขาจึงไม่ยอมให้ตัวที่สองเข้าไปอย่างเด็ดขาด
“ข้าแค่จะเข้าไปดูเท่านั้น แค่มองเพียงแวบเดียวแล้วจะออกมาทันที”
แม้ว่าลูกกลมสีดำขนาดเล็กจะพูดเช่นนั้น แต่ลูกกลมสีดำก็ยังไม่ยอมปล่อยมือ
ลูกกลมสีดำขนาดเล็ก “……”
“หรือว่าให้ข้าเข้าไปดูแทนดีหรือไม่?” ผู้นำนักรบภูตม่วงกล่าวพลางโบกปีกบาง ๆ แล้วกลายร่างเป็นลำแสงสีม่วงบินเข้าไปในโลกผู้บำเพ็ญ แต่
ยังไม่ทันที่เขาจะเข้าใกล้ก็ถูกพลังงานที่มองไม่เห็นผลักออกมาทันที
อะไรกัน?!
เขาถูกผลักออกมาได้อย่างไร?
นักรบเผ่าภูตสีม่วงกะพริบตาด้วยความงุนงง เหตุใดจึงเป็นเช่นนี้ เมื่อปีที่แล้วราชินียังสามารถเข้าไปได้ แต่เพียงแค่ผ่านไปหนึ่งปีก็ไม่อนุญาตให้ผู้ใดเข้าไปแล้ว?
เช่นนั้น องค์ชายเย่าคงออกมาไม่ได้เช่นกันกระมัง?
นักรบเผ่าภูตม่วงรู้สึกตื่นตระหนก เขาควรไปตามหาราชินีหรือรออีกสักพัก?
“เหตุใดเจ้าจึงกลับมาเร็วนัก?” ลูกกลมสีดำตัวน้อยไม่คาดคิดว่านักรบเผ่าภูตม่วงผู้อยู่ตรงหน้าจะขี้ขลาดถึงเพียงนี้ ในช่วงเวลาสั้น ๆ คงเพียงพอแค่บินเข้าไปดูแวบเดียวเท่านั้นกระมัง?
เขาเพียงแค่มองดูแวบเดียวแล้วก็ออกมาจริง ๆ นักรบภูตสีม่วงเล่าถึงประสบการณ์ของตนเอง
“เข้าไปไม่ได้หรือ?”
“เป็นไปไม่ได้! ข้าจะลองดู!”
ลูกกลมสีดำเล็ก ๆ ดิ้นรนหลุดออกจากมือของลูกกลมสีดำใหญ่ จากนั้นก็แปรสภาพเป็นสายหมอกล่องลอยเข้าไปในโลกผู้บำเพ็ญ
น่าเสียดายยิ่งนักแม้จะกลายร่างเป็นต้นกำเนิด เจ้าลูกกลมสีดำตัวน้อยยังคงถูกกั้นไว้นอกโลกผู้บำเพ็ญ
ใช่แล้ว องค์ชายเย่าอยังอยู่ข้างใน!
“จิตวิญญาณน้อย เจ้าได้ยินข้าพูดหรือไม่?” ลูกกลมสีดำเล็กๆ พยายามส่งเสียงไปหาองค์ชายเย่าที่ยังอยู่ข้างใน แต่น่าเสียดายที่เหมือนหินจมทะเล ไม่มีการตอบสนองใด ๆ เลย
หรือว่าการพัฒนาสามภพจะล้มเหลว ตอนนี้ข้างในกลายเป็นโลกแห่งความตายไปแล้ว!
มีความเป็นไปได้ แต่ก็ไม่ถูกต้องนัก โลกที่ล้มเหลวในการพัฒนาไม่ควรเงียบสงบเช่นนี้ มันควรระเบิดออกมาถึงจะถูก
บางทีตอนนี้อาจเป็นช่วงเวลาสำคัญก็ได้
ลูกกลมสีดำขนาดเล็กปลอบใจตัวเองพลางถอยห่างจากโลกผู้บำเพ็ญ
ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น มันต้องรอดูผลลัพธ์ให้ได้!
“ถ้าเช่นนั้นเจ้าก็รอเองเถอะ พวกข้าจะไปเที่ยวสักหน่อยแล้วค่อยกลับมาอีกที” พวกลูกกลมสีดำขนาดใหญ่ทิ้งคำพูดนี้ไว้แล้วแยกย้ายกันจากไป พวกมันต้องการไปดูผู้ที่กำลังฝ่าด่านเป็นหลัก อีกทั้งนี่เป็นครั้งแรกที่ดินแดนว่างเปล่าเกิดทัณฑ์สวรรค์พร้อมกันมากมายเช่นนี้ หากไม่ได้ไปดูคงน่าเสียดายแย่!
แน่นอนว่าลูกกลมสีดำเข้าใจความคิดของเหล่าสหาย แม้ว่าเขาก็อยากไปดูอย่างใกล้ชิดเช่นกัน แต่… เจ้าตัวน้อยสำคัญกว่า
เหล่านักรบเผ่าภูตม่วงไม่คิดจะจากไป พวกเขาต้องรอจนกว่าองค์ชายจะออกมา!
สายฟ้าในดินแดนว่างเปล่าดำเนินต่อไปเป็นเวลานาน ในช่วงเวลานี้ผู้ที่ฝ่าด่านทั้งหมดประสบความสำเร็จ สายฟ้าลดลงจากหลายพันหลายหมื่นสายเหลือเพียงไม่กี่สิบสาย
เวลาผ่านไปอีกร้อยปี เหล่าภูตและลูกกลมสีดำที่รออยู่ด้านนอกรู้สึกว่าตนเองแก่ลงไปมาก เมื่อคำนวณเวลาดูแล้ว ตอนนี้ผ่านไปกว่าสามร้อยปี!
ขณะที่พวกเขากำลังจะหมดความอดทน แสงสีม่วงสายหนึ่งก็พุ่งมาทางนี้อย่างรวดเร็ว
“องค์ชาย!”
องค์ชายเย่าปรากฏตัวขึ้น ทำให้ทุกคนต่างรู้สึกฮึกเหิมขึ้นมาทันที!
“ข้างในเป็นอย่างไรบ้าง?” ลูกกลมสีดำเล็ก ๆ ถามอย่างกระวนกระวาย
“เหลืออีกนิดเดียวหลิงเยว่ก็จะสามารถซ่อมแซมท้องฟ้าของสามภพเข้าด้วยกันได้แล้ว!” องค์ชายเย่าพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นมาก หากไม่กลัวว่าหลิงเยว่จะทำสำเร็จในพริบตา เขาคงจะอยู่ดูต่ออีกสักพัก
แต่น่าเสียดาย…
โอ้! ก็ไม่มีอะไรน่าเสียดายหรอก ตำราประวัติศาสตร์ยังอยู่ข้างใน มันจะบันทึกทุกเหตุการณ์ไว้อย่างครบถ้วน
“ดีมาก นั่นหมายความว่าเราจะรู้ผลลัพธ์ในไม่ช้านี้” ลูกกลมสีดำเล็ก ๆ ก็รู้สึกตื่นเต้นไปด้วย และจากสีหน้าขององค์ชายเย่า อัตราความสำเร็จในการรวมสามภพเข้าด้วยกันจะต้องสูงแน่นอน โลกผู้บำเพ็ญจะต้องได้รับการบันทึกลงในประวัติศาสตร์เป็นแน่!
เมื่อเทียบกับสองสิ่งมีชีวิตตัวน้อยที่ตื่นเต้นจนกอดกันไปมา นักรบภูตม่วงดูสงบยิ่งกว่า การรอคอยอย่างทรมานกว่าสามร้อยปีได้ทำให้จิตใจของพวกเขาสงบลงแล้ว
“ใช่แล้ว พวกเจ้าเข้าไปแล้วถูกผลักออกมาใช่หรือไม่?”
ลูกกลมสีดำและนักรบภูตม่วงพยักหน้าพร้อมกัน ฝ่ายแรกตบตัวเองด้วยมือไม้ขีดไฟอย่างหวาดกลัว “ข้านึกว่าจะล้มเหลวเสียแล้ว”
“จะล้มเหลวได้อย่างไร? ข้ามั่นใจมากว่าสามภพที่หลิงเยว่ซ่อมแซมด้วยตนเองต้องสำเร็จแน่นอน!”
“……”
เขาช่างมั่นใจเสียจริง
แต่นับเป็นข่าวดีอันดับสองในรอบกว่าสามร้อยปี และแน่นอนว่าข่าวดีอันดับหนึ่งคือเรื่องที่เทพสวรรค์ของดินแดนว่างเปล่าได้กลับคืนสู่สภาวะปกติ
ความกังวลขององค์ชายเย่านั้นมีเหตุผล เพียงแค่สองปีหลังจากที่เขาออกมา สามภพเบื้องหน้าก็สั่นสะเทือนขึ้นมาทันที แม้แต่พวกเขาที่ยืนอยู่บนพื้นที่ของดินแดนว่างเปล่ายังรู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง
นี่เป็นสัญญาณบ่งบอกถึงความล้มเหลวและการระเบิด หรือว่าเป็นช่วงเวลาแห่งความสำเร็จที่โลกกำลังจัดระเบียบใหม่กันแน่?
ลูกกลมสีดำเล็กและองค์ชายเย่าจับมือกันแน่น ดวงตาคู่โตของทั้งสองไม่กล้ากะพริบแม้แต่ครั้งเดียว ด้วยกลัวว่าจะพลาดอะไรไป
นักรบภูตม่วงที่คิดว่าตัวเองสงบลงแล้ว พบว่าพวกเขาไม่ได้สงบอย่างแท้จริง ตอนนี้ยิ่งรู้สึกว่าหัวใจของพวกเขาเต้นเร็วขึ้น
………………..