ยอดกุ๊กบุกแดนเซียน - บทที่ 590 โม่จวินเจ๋อผู้ได้เป็นพ่อคนแล้ว!
บทที่ 590 โม่จวินเจ๋อผู้ได้เป็นพ่อคนแล้ว!
หลิงเยว่ยังไม่รู้ว่าขณะนี้มีคนโชคร้ายจำนวนมากกำลังมุ่งหน้ามาหานาง
นางปล่อยร่างแท้ไว้ที่เดิม แล้วแปลงร่างเป็นมนุษย์เดินเที่ยวไปในอาณาจักรใหม่
อาณษจักรใหม่ที่เพิ่งพัฒนาโดยเทพสวรรค์ ส่วนใหญ่ยังคงเป็นที่รกร้างว่างเปล่า เขาเพียงแค่รับผิดชอบการพัฒนา ส่วนหลิงเยว่รับหน้าที่ตกแต่งโลกใบนี้
ทุกที่ที่นางผ่านไป ปรากฏภูเขาและแม่น้ำ…
ภาพที่เคยปรากฏในความฝัน บัดนี้ได้ปรากฏขึ้นในโลกแห่งความเป็นจริงแล้ว
ไข่ปลาจำนวนมหาศาลถูกโยนลงสู่แม่น้ำลำธาร พวกมันฟักออกมาแล้วค่อย ๆ เติบโตขึ้น
บนผิวน้ำอันสงบนิ่ง มีปลากระโดดขึ้นเหนือผิวน้ำ กุ้งคลานอยู่บนหาดทราย เปลือกหอยเปล่งประกายสีสันงดงามภายใต้แสงอาทิตย์
เมล็ดพันธุ์งอกขึ้นจากผืนดิน บางส่วนเติบโตกลายเป็นทุ่งหญ้า บางส่วนกลายเป็นผืนป่า
นกบินผ่านท้องฟ้าอันว่างเปล่า ยอดเขาอันแห้งแล้งเริ่มมีสีเขียวผุดขึ้นไม่หยุด โลกที่เคยรกร้างและเงียบสงัดบัดนี้เต็มไปด้วยเสียงนานาชนิด
แต่ลูกกลมสีดำเล็ก ๆ และองค์ชายเย่าที่อยู่ด้านนอกกำลังร้อนใจจนแทบตายแล้ว ทั้ง ๆ ที่สามภพได้พัฒนาสำเร็จมานานแล้ว ทำไมยังไม่ยอมให้ผู้คนเข้าไปเลย!
เพียงเพื่อจะได้เข้าไปดูโลกใหม่ลูกกลมสีดำก็ลืมพิธีสาบานตนไปเลย
“หืม?”
“ทำไมพวกเจ้ายังอยู่ที่นี่อีกล่ะ?” ราชินีภูตม่วงถามอย่างสงสัย
“ฝ่าบาท อาณาจักรอาหารศักดิ์สิทธิ์ยังไม่ได้เปิดให้คนภายนอกเข้าไป”
องค์ชายเย่ายังไม่ทันได้เอ่ยปากก็ถูกภูตที่อยู่ข้างกายราชินีพูดแทรกขึ้นมาเสียก่อน
“แล้วจะเปิดประมาณเมื่อไหร่?”
หลังจากราชินีภูตม่วงก็มีผู้คนจากดินแดนว่างเปล่าอีกมากมายตามมา พวกเขาล้วนมาเพื่อขอบคุณต้นไม้แห่งชีวิตที่เคยช่วยเหลือดินแดนว่างเปล่าไว้ก่อนหน้านี้
เหตุผลที่พวกเขาเพิ่งมาขอบคุณ เป็นเพราะก่อนหน้านี้พวกเขาไม่รู้ว่าต้นไม้แห่งการเยียวยาสวรรค์ไปอยู่ที่ไหน จนกระทั่งตำราประวัติศาสตร์จักรวาลได้รับการปรับปรุง ซึ่งในนั้นมีข้อมูลและที่อยู่โดยละเอียด ส่วนต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ที่บรรยายไว้ในนั้น เหมือนกับต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ที่ซ่อมแซมสวรรค์ในตอนนั้นไม่มีผิดเพี้ยน!
ต้องไม่ผิดแน่นอน!
“ไม่รู้ว่าอีกสักพักหรืออีกหลายปีข้างหน้า?”
ทั้งหมดนี้ขึ้นอยู่กับเทพสวรรค์ที่อยู่ภายใน ใครเล่าจะคาดเดาความคิดของเทพสวรรค์ได้?
เหล่าคนโชคร้ายที่ซ่อนตัวอยู่ในฝูงชนกดข่มหัวใจที่กระสับกระส่ายของตน แม้ว่าอาณาจักรจะดีมาก แต่ก็ไม่สามารถปรับปรุงความโชคร้ายของพวกเขาได้ ดังนั้นการเปลี่ยนความเชื่อและเปลี่ยนโลก เทพสวรรค์คงจะไม่โกรธใช่หรือไม่?
แม้ว่าพวกคนโชคร้ายจะรู้สึกกังวล แต่พวกเขายังคงมุ่งมั่นที่จะเข้าร่วมอาณาจักรอาหารศักดิ์สิทธิ์
คนโชคร้ายจากโลกอื่น ๆ เริ่มมามากขึ้น แน่นอนว่าไม่ใช่แค่คนโชคร้ายเท่านั้น ยังมีผู้แข็งแกร่งรุ่นเก่าบางส่วนและทุกคนที่ถูกเหยียดหยามจากเผ่าพันธุ์เดียวกันในโลกเดิมของพวกเขา
สามารถอ้างอิงได้จากสี่ผีแห่งดินแดนเงาทมิฬ
โลกที่เคยรกร้างว่างเปล่าได้ถูกตกแต่งให้กลายเป็นโลกที่เต็มไปด้วยสีสันและชีวิตชีวา
ภารกิจหลักที่ 26 เสร็จสิ้นแล้ว โลกที่แห้งแล้งได้ฟื้นคืนและเทพสวรรค์ได้รับการช่วยเหลือ
พลังบุญกุศลมากมายไหลเข้าสู่ร่างแท้ของหลิงเยว่ พลังที่สูญเสียไปก่อนหน้านี้กำลังฟื้นคืนอย่างรวดเร็ว ทารกน้อยที่นอนนิ่งอยู่บนทุ่งหญ้าเขียวขจีถูกกิ่งของต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์อุ้มขึ้นมา
อย่างไรก็ตาม คราวนี้จะไม่มีใครเรียกนางว่าหลิงเยว่อีกแล้ว
ส่วนนางอยากจะใช้ชื่ออะไร คงต้องรอให้นางตื่นขึ้นมาแล้วค่อยถามความเห็นของนางเอง
ต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์วางร่างหญิงสาวที่ยังคงจมอยู่ในห้วงนิทราลง ต้นกล้าเสี่ยวจินหน้าลำต้นของมันกำลังเติบโตอย่างต่อเนื่องด้วยพลังแห่งบุญกุศลอันมหาศาล
โลกภายนอกคงไม่มีทางคิดว่าในอาณาจักรอาหารศักดิ์สิทธิ์ที่พวกเขาเชื่อว่ามีต้นไม้แห่งชีวิตเพียงต้นเดียวนั้น แท้จริงแล้วมีอยู่สองต้น
หลิงเยว่ไม่ได้ตั้งใจจะให้ต้นไม้ปีศาจหรือพูดให้ถูกคือต้นไม้แห่งชีวิตต้นที่สองปรากฏต่อสายตาผู้คนในตอนนี้ ร่างมนุษย์ที่ต้นไม้ปีศาจเคยปรารถนาก็ปรากฏขึ้นแล้ว
เด็กน้อยวัยราวหนึ่งขวบกว่าขดตัวอยู่หน้าลำต้นของต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ ใบหน้าของนางอวบอิ่ม แม้ในยามหลับยังยกมุมปากขึ้น ดูน่ารักยิ่งนัก
หลิงเยว่อดใจไม่ไหวแปลงร่างเป็นมนุษย์ แล้วเอื้อมมือไปแตะแก้มของนางเบา ๆ ช่างนุ่มนิ่มเสียจริง!
เด็กน้อยที่กำลังหลับฝันขมวดคิ้วน้อย ๆ ราวกับไม่ชอบที่มีคนมาจิ้มนาง
นางลืมตาขึ้น ดวงตาสีทองอ่อนกะพริบสองสามที แล้วกลับเป็นสีดำดังเดิม
เด็กน้อยกะพริบตาโตอย่างงุนงง ดวงตาใสกระจ่าง
“ดูเหมือนว่าจะจำไม่ได้แล้ว” หลิงเยว่รู้สึกผิดหวังอยู่บ้าง แม้ว่าต้นไม้ปีศาจจะบ้าไปสักหน่อย แต่ที่จริงแล้วนางค่อนข้างชอบบุคลิกและความมั่นใจของอีกฝ่าย แถมตอนนี้ยังดูอ่อนโยนและน่ารักกว่าเดิมด้วย
“มา เรียกข้าว่าท่านแม่สิ”
“……”
เด็กน้อยเข้าใจประโยคนั้น นางเม้มริมฝีปากแน่น ไม่มีทีท่าว่าจะเรียกเลยแม้แต่น้อย
หญิงผู้นี้ไม่ใช่ท่านแม่ของนางอย่างแน่นอน! แล้วนางเป็นใครกัน? เป็นใครกันแน่?
“ข้าคือแม่ของเจ้าจริง ๆ”
หลิงเยว่เคยสัญญาไว้ว่าจะให้ต้นไม้ปีศาจเติบโตเร็วขึ้น ตอนนี้อีกฝ่ายกลายเป็นทารกและเป็นต้นไม้แห่งชีวิตต้นที่สอง ส่วนต้นกล้าเสี่ยวจินนั้นเกิดจากเลือดของหลิงเยว่ ดังนั้นการให้นางเรียกหลิงเยว่ว่าแม่จึงไม่ผิดเลย!
“เรียกข้าว่าแม่สิ แล้วข้าจะให้เจ้ากินสิ่งนี้” หลิงเยว่ทำให้ลูกแก้วสีทองปรากฏขึ้นบนฝ่ามือ ภายในลูกแก้วเล็ก ๆ นั้นแผ่พลังบุญกุศลและลมหายใจแห่งชีวิตที่บริสุทธิ์ยิ่ง
เด็กน้อยน้ำลายไหลอย่างไร้ยางอาย แล้วเรียกเสียงอ่อนหวานว่า “ท่านแม่” จากนั้นก็รีบคว้าลูกแก้วเล็ก ๆ จากมือของหลิงเยว่แล้วยัดเข้าปากกลืนลงท้องในคำเดียว
นางหรี่ตา ตบท้องกลมป่องของตน ใบหน้าเต็มไปด้วยความพึงพอใจ
“ท่านแม่ ข้าต้องการอีก”
เมื่อเรียกคำว่าแม่ครั้งแรก การเอ่ยปากครั้งที่สองก็ไม่ยากเย็นนัก
หลิงเยว่ “……”
นางรวบรวมพลังเป็นก้อนเล็ก ๆ ส่งไปตรงหน้าเด็กน้อย
“ท่านแม่ นั่นใช่ท่านพ่อของข้าหรือไม่?”
หลิงเยว่มองตามนิ้วมือป้อม ๆ ไปทางด้านหลัง โม่จวินเจ๋อกำลังยิ้มมุมปาก เดินช้า ๆ มาทางนี้
ในตอนนี้โม่จวินเจ๋อที่อยู่มีแสงส่องอยู่ด้านหลังดูราวกับเทพเจ้าที่สวรรค์ถูกแกะสลักอย่างประณีต
หลิงเยว่ที่ตาพร่าไปด้วยความงามนั้นเผลอเอ่ยปากออกไปอย่างไม่รู้ตัว “เจ้าไปถามเขาดูสิว่าเขายินดีจะเป็นพ่อของเจ้าหรือไม่?”
ร่างเด็กน้อยของต้นกล้าเสี่ยวจินไม่เพียงแค่เรียกออกไปเท่านั้น แต่ยังวิ่งเข้าไปหา กระโดดขึ้นไปเกาะที่คอของโม่จวินเจ๋ออย่างคล่องแคล่ว “ท่านพ่อ เหตุใดท่านจึงไม่พูดจา?”
“ท่านพ่อ กลิ่นกายของท่านช่างหอมยิ่งนัก ไม่เพียงแต่มีกลิ่นของท่านแม่ แต่ยังมีกลิ่นอายที่คุ้นเคยอีกด้วย”
ประโยคหลังนั้นปลุกโม่จวินเจ๋อให้ตื่นจากภวังค์ได้สำเร็จ เขานึกถึงร่างก่อนหน้าของเด็กหญิงตัวน้อยตรงหน้าทันที มีเพียงหลิงเยว่และต้นไม้ปีศาจเท่านั้นที่เคยเข้าสู่ร่างของเขา ดังนั้นนางต้องเป็นต้นไม้ปีศาจแน่นอน!
“เจ้าให้นางเรียกข้าว่าท่านพ่อหรือ?” โม่จวินเจ๋อไม่อาจยอมรับการถูกเรียกว่าท่านพ่อจากต้นไม้ปีศาจบ้าคลั่งนั่นได้เลย แม้ว่าตอนนี้นางดูเหมือนจะสูญเสียความทรงจำและมีนิสัยอ่อนโยนน่ารักขึ้น แต่เมื่อนึกถึงสิ่งที่นางเคยทำในอดีต…
“นางเรียกข้าว่าท่านแม่” หลิงเยว่ยิ้มเดินเข้าใกล้พ่อลูกทั้งสอง
“ท่านรังเกียจท่านแม่หรือ?”
“ไม่ ไม่ ข้าจะรังเกียจนางได้อย่างไร? ข้าชื่นชอบนางจนแทบบ้า…” โม่จวินเจ๋อก้มหน้า ไม่กล้ามองหลิงเยว่เลย
เขาพูดออกมาแล้ว! ในที่สุดก็พูดออกมาได้!
“ถ้าเช่นนั้น ท่านเต็มใจจะเลี้ยงดูนางให้เติบใหญ่ไปพร้อมกับข้าหรือไม่?”
“ข้ายินดี”
โม่จวินเจ๋อเงยหน้าขึ้นมองหลิงเยว่ รอยยิ้มในดวงตาของเขาเอ่อล้นออกมาอย่างชัดเจน
………………..