ยอดคุณหมอสกุลเฉิน - ตอนที่ 36 คลื่นถาโถม (3)
ตอนที่ 36 คลื่นถาโถม (3)
ตามกฏระเบียบข้อบังคับ เฉพาะผู้นำระดับประเทศ หรือรองลงมาเท่านั้น จึงจะได้สิทธิ์ในการมีแพทย์ดูแลประจำอย่างเต็มเวลา ส่วนสุขภาพของผู้นำระดับมณฑลนั้น จะได้รับการดูแลจากทีมแพทย์พิเศษของกรมอนามัยประจำมณฑลนั้นๆ
แพทย์พิเศษในทีมนั้น ล้วนแล้วแต่ถูกคัดเลือกมาจากโรงพยาบาลหลัก แม้ทีมแพทย์พิเศษจะอยู่ภายใต้สำนักงานสุขภาพ แต่แพทย์ทุกคนก็ไม่ได้ถูกควบคุมให้อยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของใคร พวกเขาจะเพียงแค่เข้ามาทำหน้าที่เท่านั้น เพราะหากทีมแพทย์พิเศษลาออกกันหมด คณะกรรมการคนอื่นๆก็คงจะทำอะไรไม่ได้
ด้วยเหตุนี้ บทบาทและฐานะของแพทย์พิเศษนั้นจึงสำคัญยิ่ง แม้ว่าจะไม่มีตำแหน่งที่สูงส่ง แต่กระทั่งผู้อำนวยการยังต้องเกรงอกเกรงใจ และไม่กล้าเสียมารายาทกับทีมแพทย์พิเศษนี้ นั่นเพราะการมีเรื่องกับแพทย์พิเศษไม่ว่าคนใด โอกาสที่จะกระทบถึงทีมแพทย์พิเศษทั้งทีมย่อมมีอยู่มาก
และหากเกิดปัญหากับทีมแพทย์พิเศษ เมื่อผู้นำระดับมณฑลมีปัญหาด้านสุขภาพขึ้นมา พวกเขาจะหาทีมแพทย์พิเศษไปทำการรักษาให้ได้อย่างไรกัน? และผลลัพธ์ที่จะตามมาคงยากที่จะ
และเนื่องจากชายหนุ่มได้ปล่อยให้แพทย์พิเศษยืนคอยอยู่นาน เขาจึงรู้สึกหวาดกลัวมาก เมื่อรู้ตัว ก็รีบชงชาไปบริการให้ฉีเล่ย จากนั้นจึงรีบวิ่งไปที่ห้องของหัวหน้าทันที
ทันทีที่เกาว่านฮุยซึ่งเป็นหัวหน้าสำนักงานสุขภาพได้รับรายงานว่า แพทย์พิเศษคนใหม่มาถึงแล้ว เขาก็รีบวางงานทั้งหมดที่กำลังทำอยู่ แล้วรีบออกมาต้อนรับแพทย์พิเศษอย่างรวดเร็ว
เมื่อเกาว่านฮุยก้าวเท้าออกจากห้อง เขาก็ได้พบกับผู้อำนวยการฝ่ายทรัพยากรบุคคลที่หน้าประตูห้องพอดี
“คุณเกา ผมได้ยินมาว่าวันนี้จะมีแพทย์พิเศษมารายตัวใช่มั๊ย?”
แต่หลังจากที่เห็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสี่นาย ยืนอยู่ด้านหลังของผู้อำนวยการฝ่ายทรัพยากรบุคลเช่นนั้น เกาว่านฮุยจึงเริ่มรู้สึกว่า มีบางอย่างที่ไม่ปกติ แต่ก็พยักหน้า และตอบกลับไปตามตรง
“ใช่แล้ว! นี่ผมก็กำลังจะออกไปต้อนรับเขาอยู่พอดี!”
ระหว่างนั้น ผู้อำนวยการฝ่ายทรัพยากรบุคคลก็ได้ก้าวเข้าไปใกล้เกาว่านฮุย พร้อมกับกระซิบกระซาบเสียงเบา
หลังจากนั้น เกาว่านฮุยก็ได้ยกมือขึ้นกวักเรียกชายหนุ่มที่มารายงานเรื่องนี้ให้เข้ามาใกล้ว พร้อมกับกระซิบถามเสียงเบา
“คุณเองก็ได้เห็นจดหมายฉบับนั้นกับตาใช่มั๊ย?”
“ใช่ครับท่านหัวหน้า!”
“ลงวันที่เมื่อไหร่?”
“เมื่อวานนี้ครับ!”
เกาว่านฮุยพยักหน้าพร้อมกับโบกมือไล่ชายหนุ่ม “เอาล่ะ! คุณรีบกลับไปดูแลแพทย์พิเศษก่อน เดี๋ยวผมจะรีบตามไป!”
จากนั้น เกาว่านฮุยก็ได้พยักหน้าส่งสัญญาณให้ผู้อำนวยการฝ่ายทรัพยากรบุคคล เข้าไปพูดคุยในห้องทำงานของตน
ส่วนเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทั้งสี่คน ก็ได้แต่ยืนอยู่หน้าประตูห้องทำงาน ของหัวหน้าสำนักงานสุขภาพแน่นิ่ง
“คุณหลู่ คุณนี่สมกับเป็นผู้อำนวยการฝ่ายทรัพยากรบุคคลจริงๆ มีความละเอียดละออช่างสังเกตมากกว่าคนทั่วไป..”
เกาว่านฮุยเอ่ยชมหลู่ฉีเว่ยที่นั่งอยู่บนโซฟาทันที “ข้อสังเกตของคุณฟังดูมีเหตุมีผลอย่างมาก ผมจะรีบโทรไปเช็คเรื่องนี้กับสำนักงานประจำมณฑลก่อน..”
พูดจบ เกาว่านฮุยก็รีบคว้าโทรศัพท์บนโต๊ะขึ้นมา และโทรออกหาใครบางคนทันที หลังจากรออยู่ราวสิบกว่าวินาที เสียงจากปลายสายก็ดังขึ้น
“ฮัลโหล นั่นใครโทรมา?”
เกาว่านฮุยกำโทรศัพท์ในมือแน่น และรีบตอบกลับไปทันที “สวัสดีครับท่านผู้อำนวยการจาง ผมเกาว่านฮุยจากสำนักงานสุขภาพครับ!”
ปลายสายรีบตอบกลับมาทันที “อ่อ.. อาเกาเองหรอกเหรอ? มีเรื่องอะไรงั้นรึ?”
“คือผมมีเรื่องสำคัญอยากจะสอบถามท่านผู้อำนวยการจาง พอดีมีชายหนุ่มคนหนึ่งมารายงานตัวที่สำนักงาน ในฐานะแพทย์พิเศษครับ แล้วก็มาคนเดียวด้วย! คือผมไม่มั่นใจว่าเรื่องราวมันเป็นมายังไงครับ ก็เลยต้อง..”
เกาว่านฮุยไม่ลืมที่จะเน้นคำว่า ‘ชายหนุ่ม’ และคำว่า ‘มาคนเดียว’ ให้กับท่านผู้อำนวยการจางได้ยินอย่างชัดเจน ซึ่งก็ได้ผล เพราะทันทีที่ได้ฟังรายงานจากเกาว่านฮุย ผู้อำนวยการจางถึงกับพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด
“หืมม.. มีเรื่องแบบนี้ด้วยงั้นเหรอ? ทำไมฉันถึงไม่รู้เรื่องนี้มาก่อน?”
ผู้อำนวยการจางนอกจากจะดำรงตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการสำนักงานประจำมณฑลแล้ว ยังเป็นหนึ่งในคณะกรรมการด้านสุขภาพประจำมณฑลด้วย
เกาว่านฮุยเข้าใจได้ทันที และรีบตอบกลับไปว่า “รบกวนท่านประธานจางแล้วครับ..”
หลังจากวางสายไป ใบหน้าของเกาว่านฮุยก็เปลี่ยนเป็นซีดขาวขึ้นมาทันที นั่นเพราะการที่มีคนแอบอ้างมาเป็นแพทย์พิเศษนั้น นับเป็นเรื่องที่อันตรายอย่างมาก!
หากวันนี้ ผู้อำนวยการหลู่ไม่ได้เอะใจสงสัยขึ้น และรีบมาบอกให้เขารู้แล้วล่ะก็ อาจเกิดเรื่องราวใหญ่โตเกินกว่าจะแก้ไขได้แน่ และเขาในฐานะที่เป็นหัวหน้าสำนักงานสุขภาพ คงจะต้องตกที่นั่งลำบาก เพราะทำหน้าที่บกพร่อง ละเลยที่จะตรวจสอบรายละเอียด..
หลังจากสงบสติอารมณ์ได้แล้ว เกาว่านฮุยก็เข้าไปจับมือหลู่ฉีเว่ย พร้อมกับเอ่ยขอบคุณ “คุณหลู่ ต้องขอบคุณคุณมากจริงๆสำหรับวันนี้ แล้วผมจะรายงานความดีความชอบครั้งนี้ของคุณ ให้ผู้อำนวยการหลิวทราบ..”
“ไม่เอาน่าคุณเกา! พูดอย่างกับว่าเราสองคนเป็นคนแปลกหน้าอย่างนั้นล่ะ อีกอย่าง ผมเองก็รับผิดชอบเรื่องความปลอดภัยของที่นี่ มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น ผมก็ต้องระแวงสงสัยไว้ก่อน!”
“เรื่องอันตรายแบบนี้คงปล่อยไว้ไม่ได้ เพื่อไม่ให้มิจฉาชีพพวกนี้ไปสร้างเลือกได้อีก ผมว่าคงต้องจับตัวส่งตำรวจจะดีกว่า!”
..…..
ฉีเล่ยยังคงนั่งอยู่ในห้อง และพูดคุยกับชายหนุ่มอย่างเป็นกันเอง แต่แล้วจู่ๆ ก็มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหน้าตาดุดันสี่นาย เปิดประตูห้องเข้ามาพร้อมกับถือกระบองไว้ในมือ เมื่อเข้ามาได้ ก็เข้าไปล้อมร่างของฉีเล่ยไว้ทันที
“อย่าคิดหนีเชียวล่ะ!”
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคนเดิมซึ่งฉีเล่ยพบที่หน้าประตู ได้ยกกระบองในมือชี้หน้าชายหนุ่ม ปากก็ร้องตะโกนสั่งเสียงดัง
“หึ! ฉันคิดอยู่แล้วเชียวว่าแกต้องเป็นพวกมิจฉาชีพ! เอาล่ะ ยกมือขึ้นประสานไว้หลังลำคอ แล้วนั่งยองๆลงกับพื้นเดี๋ยวนี้ ไม่อย่างนั้นก็อย่าหาว่าไม้กระบองในมือของฉันไม่เกรงใจล่ะ!”
ฉีเล่ยได้แต่หันไปมองเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคนเดิมด้วยสีหน้างุนงง ชายหนุ่มคิดว่าเขาอาจจะยังโมโหค้าง จึงได้ตามมาหาเรื่องตนเองถึงที่นี่ จากนั้น ฉีเล่ยก็ได้หันไปมองหน้าชายหนุ่มที่นั่งอยู่ตรงหน้าแทน
“นี่พวกคุณทำบ้าอะไรกัน?”
ชายหนุ่มลุกขึ้นยืนพร้อมกับตวาดเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเสียงดัง พร้อมกับพูดต่อว่า “คุณหมอฉีเป็นถึงแพทย์พิเศษนะรู้มั๊ย? ออกไปให้พ้น!”
“แพทย์พิเศษที่ไหนกัน? หมอนี่ก็แค่มิจฉาชีพ!”
“ถุย..”
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคนเดิมถึงกับทำท่าทางถ่มน้ำลายดูถูก ก่อนจะพูดต่อในทันที “พี่เขยของผม.. ไม่ใช่สิ! หัวหน้าหลู่โทรไปตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว จดหมายนั่นเป็นของปลอม!”
แต่เมื่อชายหนุ่มคนนั้นหันไปเห็นเกาว่านฮุยยืนนิ่งอยู่หน้าประตู เขาก็รู้ได้ทันทีว่า เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยไม่ได้พูดโกหก เขาถึงกับกระโดดถอยหลังหนีด้วยความตกใจ ก่อนจะหันไปจ้องมองฉีเล่ยด้วยสีหน้าหวาดกลัว พร้อมกับรำพึงรำพันว่า
“ผมเองก็สังสัยอยู่แล้วเชียว! ทำไมแพทย์พิเศษถึงได้ยังหนุ่มยังแน่นแบบนี้?”
“พวกคุณจะกินอะไรก็ได้ที่ต้องการ แต่จะพูดทุกอย่างที่ต้องการพูดไม่ได้!”
ฉีเล่ยพูดขึ้นด้วยใบหน้าที่เย็นชา เขายังคงนั่งนิ่งไม่ขยับเขยื้อนแม้แต่นิ้วเดียว จดหมายฉบับนั้น เลขานุการของหลิวเฟิงเจิ้นเป็นคนยื่นให้กับเขาด้วยมือตัวเอง เขาจึงไม่รู้สึกกังวลใจเลยแม้แต่น้อย
“ใครที่กล่าวหาว่าจดหมายของผมเป็นของปลอม ก้าวออกมาข้างหน้าเดี๋ยวนี้!”
“ไอ้หมอนี่! ฉันว่าคนอย่างแกไม่เห็นโลงศพ คงไม่หลั่งน้ำตาแน่! วันนี้ฉันจะสั่งสอนแกให้รู้จักคำว่า ‘ตาย’ เอง!”
หลังจากพูดจบ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคนเดิม ก็ได้เงื้อกระบองในมือขึ้น ฟาดเข้าที่ไหล่ข้างหนึ่งของฉีเล่ยทันที และด้วยความโมโห เขาจึงออกแรงฟาดอย่างสุดกำลัง จนได้ยินเสียงซวบผ่านห้วงอากาศได้..
ปัง!
ตุ้บ!
ก่อนที่ทุกคนจะทันได้รู้ตัวว่าเกิดอะไรขึ้น เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคนเดิม ก็ได้ทรุดลงไปกองกับพื้นแล้ว และที่ใบหน้าก็มีเหงื่อเม็ดโตผุดขึ้นมาเต็มไปหมด ส่วนกระบองในมือก็ได้หลุดไปกลิ้งอยู่กับพื้น
และที่น่าตกใจมากที่สุดก็คือ บนเสื้อยูนิฟอร์มสีขาวสะอาดสะอ้านนั้น ได้มีฝ่าเท้าข้างหนึ่งประทับอยู่!
“ห๊ะ?!”
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอีกสามคน ถึงกับผงะถอยหลังออกไปด้วยความตกใจ ในขณะที่เกาว่านฮุย และคนอื่นๆ ต่างก็ถอยห่างออกไปจนไกล
‘อันตรายแบบนี้นี่เอง! มิน่าล่ะ มันถึงได้กล้าปลอมมาเป็นแพทย์พิเศษ!’
“ล้อมมันไว้! อย่าให้มันหนีไปไหนได้! เดี๋ยวเจ้าหน้าที่ตำรวจก็คงจะมาถึงแล้วล่ะ”
เกาว่านฮุยร้องตะโกนสั่งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่เหลือ พร้อมกับยกมือขึ้นชี้ไปทางฉีเล่ย ในขณะที่ตัวเขาเองไม่กล้าแม้แต่จะเดินเข้าไปใกล้ว!