ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ - บทที่ 123 ท่านอ๋อง พระชายาช่างเก่งกาจยิ่ง
ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ บทที่ 123 ท่านอ๋อง พระชายาช่างเก่งกาจยิ่ง
หนานหว่านเยียนมิได้เอ่ยตอบ แต่กลับกล่าวขึ้นว่า “เตรียมตัวผ่าตัด!”
“พ่ะย่ะค่ะ!”
ณ ด้านนอกกระโจม เมื่อครู่กู้โม่หานเห็นทหารคนหนึ่งถือแผ่นกระดาษวิ่งออกไปจากค่ายด้วยความรีบร้อน เขายังมิทันได้เอ่ยถามสิ่งใด นายทหารผู้นั้นก็หายลับไปเสียแล้ว
ความรู้สึกโศกเศร้าในแววตาของเขาส่งผ่านออกมา ในขณะนั้นเองก็มีนายทหารอีกคนหนึ่งแบกเฉินจวินและเซียวลี่ออกมาข้างนอก ทำเช่นนี้อยู่สองหน
อาการบาดเจ็บของเซียวลี่นับว่าน้อยที่สุดจากสามคน เขายังคงมีสติรู้สึกตัว
กู้โม่หานก้าวไปข้างหน้า โดยมีรองแม่ทัพกวนติดตามอยู่ด้านหลัง มาหยุดอยู่ข้างกายของเซียวลี่
เมื่อเห็นสีหน้าที่ผ่อนคลายลงของเซียวลี่ รองแม่ทัพกวนก็เอ่ยขึ้นอย่างตื่นเต้นว่า “ท่านอ๋องได้แก้แค้นให้แก่พวกเราแล้ว เหล่าเซียว การที่พวกเราได้รับบาดเจ็บเช่นนี้นับว่าควรค่าเหลือเกิน”
เซียวลี่ได้ยินดังนั้นก็น้ำตาไหลพราก มือของเขาจับไปที่กู้โม่หานอย่างสั่นเทา
กู้โม่หานขมวดคิ้วเข้าหากันแล้วจับมือเขา สัมผัสได้ถึงฝ่ามือของเซียวลี่ที่ออกแรงเล็กน้อย เขาจึงเอ่ยอย่างเป็นห่วงเป็นใยว่า “ข้าบอกแล้วมิใช่หรือ พี่น้องในค่ายเสินเชื่อของข้า ข้าจะมิยอมให้ผู้ใดมารังแก!”
เซียวลี่ร้องไห้ออกมาด้วยความตื้นตันใจ แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นคลอนว่า
“ท่าน ท่านอ๋องพ่ะย่ะค่ะ ท่านอ๋องกลับค่ายเสินเชื่อเถิด พวกเราเหล่าทหาร เราทหารล้วนต้องการท่าน!”
เป็นเวลาหลายวันหลายคืนมาเท่าไหร่แล้วเหล่าทหารล้วนเฝ้ารอสักวันที่กู้โม่หานจะกลับไปยังค่ายทหารของพวกเขาอีกครั้ง พวกเขาได้แต่คอยเพ้อฝันถึงสิ่งนี้
แววตาของกู้โม่หานดูอ่อนลง สีหน้าของเขาชะงักชั่วขณะ ริมฝีปากเม้มเข้าหากันมิได้เอ่ยสิ่งใด
ทั้งรองแม่ทัพกวนและเซียวลี่ล้วนรู้ดีว่ากู้โม่หานกำลังหวั่นไหว แต่เขามิได้ยอมรับมัน หรือบางทีท่านอ๋องอาจมีเหตุผลที่อยากจะบอก รอให้เวลาเขามากกว่านี้สักหน่อยแล้วกัน
จู่ๆ น้ำเสียงของกู้โม่หานก็เอ่ยขึ้น หัวใจของเขาเต้นแรงอีกครั้ง “เหล่าเสิ่นอยู่ที่ใดเล่า?”
แววตาของเซียวลี่เต็มไปด้วยความโศกเศร้า เขาส่ายหน้าแล้วถอนหายใจว่า “เส้นลมปราณของรองแม่ทัพเสิ่นถูกตัดขาด และมีเลือดออกมากโข เกรงว่า……”
เมื่อประโยคนี้ถูกกล่าวออกมา กู้โม่หานก็ราวกับว่าถูกโจมตีอย่างสาหัส ลมหายใจอันเยือกเย็นไหลผ่านเข้าไปที่หน้าอก
เขารู้ดีว่าสำหรับผู้ที่ฝึกกังฟู การที่ถูกตัดเส้นลมปราณนั่นหมายความว่าในอนาคตก็มิต่างอะไรกับพวกไร้ประโยชน์
ด้วยอาการบาดเจ็บเช่นนี้ ตั้งแต่โบราณมามิเคยมีใครรักษาให้หายได้ ความหวังเดียวของเขาในตอนนี้ก็คือให้เสิ่นจวินสามารถรักษาชีวิตเอาไว้ได้ก็ดีแล้ว
หัวใจของกู้โม่หานตกลงไปที่ตาตุ่ม
เสิ่นจวินอยู่กับเขามายาวนานที่สุด และเป็นผู้ที่อาวุโสที่สุด เขาปฏิบัติต่อกู้โม่หานเหมือนกับเป็นพี่น้องตอนอยู่ในสนามรบ มีความกล้าหาญตรงไปตรงมา
กู้โม่หานมิรู้ว่าหลังจากเสิ่นจวินตื่นขึ้นมาแล้วต้องเผชิญหน้ากับสิ่งใดบ้าง และมิรู้ว่าจะบอกเรื่องนี้กับเขาอย่างไร
รองแม่ทัพกวนหลั่งน้ำตานองหน้า เขาหันหน้าหนีโดยมิรู้จะทำเช่นไร มือใหญ่หยาบกร้านยกขึ้นเช็ดน้ำตาที่หางตา “เหล่าเสิ่นเขา……เขามีความปรารถนาเพียงหนึ่งเดียวนั่นก็คือการได้พบกับลูกชาย”
“หลายปีมานี้ก่อนที่จะออกไปสู้รบเขาจะบอกกับข้าว่า เมื่อไรที่เขาหาลูกชายพบ เขาก็จะกลับคืนไปสู่บ้านเกิดและใช้ชีวิตอย่างเป็นสุขที่นั่นในบั้นปลาย”
แต่ตอนนี้เหล่าเสิ่นจะมีชีวิตรอดได้หรือไม่ก็มิมีใครรู้
กู้โม่หานได้ยินคำพูดนี้ก็รีบพับแขนเสื้อขึ้นแล้วพูดกับรองแม่ทัพกวนอย่างเคร่งขรึมว่า “จงส่งคนออกไปตามหา ให้ไปหาเด็กกำพร้าบริเวณรอบอาณาจักรซีเหย่ ผู้ที่มีรูปร่างหน้าตาคล้ายกับเหล่าเสิ่น”
“หากมีลักษณะพิเศษใดให้พวกเขาบอกออกมา ใครเป็นคนหาลูกชายของเหล่าเสิ่นพบ ข้าจะตกรางวัลให้ด้วยเงินหนึ่งพันตำลึง!”
หากว่าเหล่าเสิ่นจะต้องจากไปจริงๆ อย่างน้อยเขาก็ควรได้เห็นหน้าลูกชายของตนอีกสักครั้ง เพื่อเติมเต็มความปรารถนาเดียวของเขาก่อนที่จะจากไป
นี้เป็นสิ่งเดียวที่กู้โม่หานทำให้เขาได้ในตอนนี้ ส่วนที่เหลือก็ขึ้นกับหนานหว่านเยียนที่อยู่ในกระโจม ณ ตอนนี้
“พ่ะย่ะค่ะท่านอ๋อง!” รองแม่ทัพกวนตอบรับคำสั่งจากนั้นส่งคนออกไปค้นหาทันที
หลังจากที่กู้โม่หานปลอบเซียวลี่แล้ว ก็สั่งให้คนพาเขากับเฉินจวินไปพักผ่อนที่กระโจมอีกแห่งหนึ่ง
กู้โม่หานเงยหน้าขึ้นมองดูกระโจมนั้นอย่างลึกซึ้ง สายตาเผยถึงความเศร้าสุดจะบรรยาย
“เหล่าเสิ่น เจ้าจะต้องตื่นขึ้นมาให้ได้!”
ภายในกระโจม หนานหว่านเยียนทำการผ่าตัดอย่างมิหยุดหย่อน ทักษะการเย็บแผลที่ใช้บริเวณข้อมือจัดการได้เรียบร้อยแล้ว ท่ามกลางคำแนะนำของหนานหว่านเยียน หมอทหารได้พยายามช่วยเสิ่นจวินใส่โครงที่ข้อมือลงไป
การผ่าตัดใช้เวลาเนิ่นนานมาก ขาทั้งสองข้างของหมอทหารก็เริ่มอ่อนแรง
แต่เมื่อเขามองไปทางหนานหว่านเยียนพบว่านางมีสมาธิยิ่งนัก ทั้งยังมิรู้สึกเหนื่อยล้า มือที่ถือมีดผ่าตัดนั้นดูคล่องแคล่วกว่ามือของเหล่าทหารเสียอีก นางทำการตัดและเย็บทุกอย่างช่างสมบูรณ์นัก
หนานหว่านเยียนสัมผัสได้ว่าเขาเริ่มเหนื่อยจึงเอ่ยว่า “เจ้าไปพักผ่อนก่อนเถิด บัดนี้ข้ายังมิต้องการความช่วยเหลือจากเจ้า”
นางทำการผ่าตัดเอ็นร้อยหวายให้แก่เสิ่นจวิน
เนื่องจากบาดแผลมีขนาดใหญ่มาก หนานหว่านเยียนก็มิรู้ว่าจะต้องใช้เวลาเท่าไหร่ในการจัดการผ่าตัด นางพยายามจัดการกับบาดแผลที่เน่าเปื่อยออกไปอย่างเบามือ และจัดการเอ็นร้อยหวายที่ขาดของเสิ่นจวินให้เข้าที่
นางใช้ไหมในการเย็บให้เป็นเส้นวงกลม
ที่จริงนางสามารถใช้วิธีการเย็บที่ดีกว่านี้ได้ แต่ด้วยสถานการณ์ของเสิ่นจวินและหนานหว่านเยียนในตอนนี้ อุปกรณ์คุณสมบัติต่างๆ มิเอื้ออำนวย
หนานหว่านเยียนเห็นใบหน้าของเสิ่นจวินค่อยๆ แสดงถึงความเจ็บปวดเพิ่มมากขึ้น นางก็รีบเคลื่อนไหวเร็วขึ้นกว่าเดิมโดยมิรู้ตัว
ในที่สุด นางก็สิ้นสุดการผ่าตัดอันตึงเครียดนี้อย่างสมบูรณ์ นางแทบจะกลั้นลมหายใจยามจดจ่อ เย็บปิดเนื้อเยื่อและผิวหนัง จากนั้นจึงนำผ้าพันแผลฆ่าเชื้ออย่างดีวางเอาไว้ด้านบนแน่นหนา
นางหันหลังกลับมามองหมอทหารที่ตกใจเสียจนอ้าปากค้างแล้วพูดว่า “รบกวนช่วยข้าหน่อย ยกขาของเขาขึ้น ข้าต้องการใส่เฝือกที่เท้าของเขา”
แม้ว่าบัดนี้หมอทหารจะรู้สึกเหนื่อยล้ายิ่งนัก แต่เขาก็ก้าวเข้าไปช่วยเหลือ จับขาให้แก่หนานหว่านเยียน เพื่อมิให้ขาของเขากระดกขึ้น
หนานหว่านเยียนถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก ก่อนจะหยิบอุปกรณ์สำหรับให้น้ำเกลือของเธอออกมา หาที่แขวนตะเกียงน้ำมันนำมาแขวนขวดยา ใส่ยาลงไปในรูเข็ม หาเส้นเลือดที่ศีรษะของเสิ่นจวินแล้วเจาะลงไปอย่างรวดเร็ว
หมอทหารเห็นอุปกรณ์อันซับซ้อนเหล่านั้น ดวงตาของเขาก็เบิกกว้าง และอดมิได้ที่จะเอ่ยถามด้วยความสงสัยว่า “พระชายาพ่ะย่ะค่ะ นี่คือ……”
หนานหว่านเยียนเหนื่อยมากแล้วจริงๆ แต่นางก็ยิ้มขึ้นว่า “นี่คือสิ่งที่ใช้รักษา การผ่าตัดของเขาประสบความสำเร็จมาก ……เอ่อ ข้าหมายความว่าชีวิตของเขามิมีอะไรน่ากังวลแล้ว เอ็นร้อยหวายที่มือและเท้าของเขาข้าได้ทำการเย็บให้เหมือนเดิม แต่ในอนาคตเขาจะกลับมาเป็นปกติได้อีกหรือไม่ ก็ต้องดูเรื่องการฟื้นตัวหลังผ่าตัด”
“สิ่งของเหล่านี้เจ้าอย่าให้ใครแตะต้อง รอเมื่อยาทั้งสามขวดหมดแล้วเจ้าค่อยดึงเข็มออก แล้วใช้สิ่งนี้กดไปที่ตรงรูเข็ม จนกระทั่งเลือดหยุดไหล”
นางพยายามสุดความสามารถแล้ว เรื่องต่อจากนี้ก็ต้องดูกับการฟื้นตัวของเสิ่นจวินเอง
“จริงหรือ พระชายาท่านเก่งกาจเหลือเกิน!”
หมอทหารรู้สึกตื่นเต้นมากยิ่งนัก เขาเปิดประตูกระโจมออกแล้วรีบไปหากู้โม่หานทันที
“ท่านอ๋องพ่ะย่ะค่ะ รอดแล้ว! พระชายาได้ช่วยรองแม่ทัพเสิ่นขึ้นมาจากประตูนรกได้แล้วพ่ะย่ะค่ะ…..”