ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ - บทที่ 140 ท่านอ๋องเริ่มอิจฉาแล้ว
หนานหว่านเยียนไม่มีท่าทางลังเลว่าจะหลบเลย
กู้โม่หานฟันดาบห่างจากตัวนางไปไม่ถึงศอก แล้วพูดด้วยเสียงแหบห้าว “หลบไป!”
หนานหว่านเยียนเงยหน้าขึ้นสบตากับกู้โม่หานด้วยแววตามั่นคง และเย็นชา
“ข้าบอกให้รอก่อน เจ้าฆ่าเขาตอนนี้ไม่ได้!”
ในตอนนี้เจียงหรูเยว่กับหยุนอี่ว์โหรวกำลังดูอยู่ในห้องโถง
บรรดาคุณหนูตระกูลดังต่างก็ตกใจกลัวกับท่าทางของกู้โม่หาน แต่ละคนต่างลูบหน้าอกอย่างโล่งใจ
หยุนอี่ว์โหรวรีบเดินมายืนด้านข้างกู้โม่หาน แล้วดึงแขนเสื้อของเขา ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงห่วงใยและลนลาน
“ท่านอ๋อง ตอนนี้พระชายาเป็นคนโปรดของไทเฮา และเป็นถึงลูกสาวจวนเฉิงเซี่ยง และตระกูลหนาน ถึงแม้ชู้รักของนางจะ… ท่านอ๋องก็ควรห้ามใจไว้ ไม่ควรโยนความผิดให้พระชายานะเพคะ”
หนานหว่านเยียนมองไปทางหยุนอี่ว์โหรวที่กำลังพูดยุยง
“เหตุใดเจ้าถึงพูดมากเช่นนี้ เหมือนพวกแม่บ้านปากมาก”
ตระกูลหนาน? ใช่แล้ว เขาลืมไปได้อย่างไรว่า หนานหว่านเยียนเป็นลูกสาวของคนบาป เป็นพวกที่ชั่วร้ายมาจากภายใต้จิตสำนึก!
กู้โม่หานยิ่งโกรธมากขึ้น
พอเขาเห็นฉางชิงหยางหลบอยู่ด้านหลังหนานหว่านเยียน ตัวสั่นเทา เหมือนพวกคนขี้ขลาด
กู้โม่หานยิ้มเยาะ แล้วมองไปที่หนานหว่านเยียนด้วยสีหน้าที่เชิดขึ้นและพูดเยาะเย้ย “เขาเป็นแบบนี้ เจ้ายังปกป้องเขาอีกหรือ”
“ที่ข้าปกป้องเขา เพราะข้ารู้ว่าเขากำลังแสดง!” หนานหว่านเยียนมองไปที่หยุนอี่ว์โหรวก่อนจะพูดอย่างใจเย็นว่า “แสดงจบแล้วหรือยัง ถ้าแสดงจบแล้ว ก็ถึงเวลาที่ข้าจะแสดงให้พวกเจ้าดูแล้ว “
แสดง?
สีหน้าของกู้โม่หานเปลี่ยนไปทันที “เจ้าหมายความว่าอย่างไร”
พอเห็นเช่นนี้ หยุนอี่ว์โหรวก็คาดเดาในใจว่าต้องมีอะไรผิดปกติแน่นอน
หนานหว่านเยียนพูดว่าเป็นการแสดงได้อย่างไร หรือว่า นางรู้อะไรบางอย่าง …
ไม่มีทาง ถึงจะเป็นเช่นนั้น หนานหว่านเยียนอย่าคิดว่าจะหลบหนีได้!
ในเวลานี้ในเวลานี้เอง เจียงหรูเยว่ก็รีบกระโดดออกมา แล้วชี้หน้าด่าว่าหนานหว่านเยียน “พระชายา จนถึงตอนนี้แล้วเจ้ายังจะแก้ตัวเรื่องอะไรอีก”
หนานหว่านเยียนหันกลับมา และตบหน้าเจียงหรูเยว่อย่างแรง
“เจียงหรูเยว่ ข้าไม่รู้ว่าเจ้าโง่จริง ๆ หรือสมองของคุณมีแต่ขี้เลื่อย ถูกคนอื่นหลอกใช้งานแล้วยังโง่ให้เขาหลอกอีก”
เจียงหรูเยว่กุมใบหน้าด้วยสีหน้าไม่อยากจะเชื่อ นางรู้สึกอัปยศอดสูและความไม่พอใจมาก “เจ้า นี่เจ้ากำลังพูดถึงเรื่องอะไร! มีดวงตาตั้งหลายคู่มองอยู่! เจ้ากล้าดีอย่างไรถึงได้มาตบข้า!”
“ตบก็ตบไปแล้ว ยังจะมีอะไรต้องกลัวอีก!”
หลังจากที่ด่าจบ นางก็หยิบจดหมายที่ห่อด้วยกระดาษน้ำมันออกมาจากแขนของนาง แล้วคลี่จดหมายออก ก่อนจะชี้ไปที่ลายมือสวยงามไปของกู้โม่หาน
ตอนที่หยุนอี่ว์โหรวเห็นจดหมาย รูม่านตาของนางก็หรี่ลงลงทันที!
มันมาได้อย่างไร!
ของสิ่งนี้เหตุใดถึงตกไปอยู่ในมือของหนานหว่านเยียนได้? !
หนานหว่านเยียนพูดออกมาทีละคำ เนื้อหาในนั้นนางจำได้ขึ้นใจ “วันนี้ข้าจะให้เจ้าแกล้งทำเป็นชู้รักของหนานหว่านเยียน ทำให้หนานหว่านเยียนอับอายขายหน้าต่อหน้าทุกคน เรื่องนี้เป็นความลับห้ามให้ใครรู้เด็ดขาด… “
ในจดหมาย มาพร้อมกับภาพเหมือนของหนานหว่านเยียน และอธิบายถึงตำแหน่งปานบนร่างกายของ หนานหว่านเยียนอย่างชัดเจน
สีหน้าของกู้โม่หานเปลี่ยนไปทันที ดวงตาหรี่ลง
หนานหว่านเยียนโยนจดหมายใส่กู้โม่หานสุดแรง ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“กู้โม่หาน ข้าเคยบอกท่านแล้ว ว่าอย่าฟังแค่คำพูดของฝ่ายเดียว แต่ท่านกลับไม่เชื่อ ตอนนี้เบิกตาของท่านแล้วดูให้ชัดเจน! หลักฐานที่เป็นอักษร ท่านเอาไปอ่านเอาเอง!”
กู้โม่หานคว้าจดหมายมา แล้วก้มลงไปอ่านอีกครั้ง
มีคนตั้งใจจะใส่ร้ายหนานหว่านเยียน!
ปลายดาบของเขาชี้หน้าฉางชิงหยาง ก่อนจะถามอย่างดุดัน “บอกมาเดี๋ยวนี้ ว่าใครสั่งเจ้าให้ทำเช่นนี้!”
พอพบว่าตนเองถูกจับได้แล้ว ฉางชิงหยางก็พูดอ้ำอึ้ง และซ่อนตัวอยู่ด้านหลังหนานหว่านเยียนด้วยท่าทางหวาดกลัว “ข้า ข้า … “
กู้โม่หานสังเกตเห็นท่าทีผิดปกติได้ทันที
เรื่องนี้ มีใครบางคนคอยบงการอยู่เบื้องหลัง และคนๆ นี้ก็มีจุดประสงค์เพียงอย่างเดียว คือไม่ยอมให้หนานหว่านเยียนมีชีวิตทึ่สุขสบาย!
เซียงอวี้เบิกตาโต คิดไม่ถึงเลยว่าเรื่องราวจะพลิกผันเช่นนี้
ไม่แปลกใจเลยที่ก่อนหน้านี้พระชายาจะมีท่าทีสงบนิ่ง ที่แท้ก็คาดเดาได้ก่อนแล้ว
แต่ว่า วันนี้พระชายาไม่ได้ออกไปไหน เหตุใดถึงรู้เรื่องทั้งหมดเลยล่ะ
อีกทั้งยังมีหลักฐานอยู่ในมือด้วย
แต่ไม่ว่าจะอย่างไร ตอนนี้นางแค่อยากจะปรบมือให้พระชายาเท่านั้น!
ยอดเยี่ยมมากเลย!
เจียงหรูเยว่ไม่อยากเชื่อ นางลืมความเจ็บแสบที่แก้มของนางไป แล้วถูกสถานการณ์ที่พลิกผันไปมาทำให้มึนงงไปหมด “นี่ นี่มัน เรื่องทั้งหมดนี้เป็นเรื่องโกหก?หมายความว่าอย่างไรกันแน่!”
นี่แสดงว่านางดีใจเปล่าประโยชน์หรือ? !
หนานหว่านเยียนมองไปที่เจียงหรูเยว่ด้วยสายตาดูถูก “เพราะอย่างนั้นข้าถึงบอกว่าเจ้าโง่ ถูกคนหลอกใช้งาน แล้วยังเต็มใจให้หลอกอีก”
ทันใดนั้นเอง เจียงหรูเยว่เหมือนตระหนักได้ จึงมองไปที่หยุนอี่ว์โหรวด้วยสีหน้าแค้นเคือง
จากนั้นนางถึงได้คิดได้ว่าตั้งแต่ต้นจนจบ นางถูกหยุนอี่ว์โหรวหลอกใช้งานตลอด
ไม่อย่างนั้น เหตุใดถึงเป็นวันนี้ไม่ใช่วันอื่นที่หยุนอี่ว์โหรวเชิญพวกนางมาที่นี่ ?
พอเห็นอย่างนี้ ถึงแม้หยุนอี่ว์โหรวจะไม่สบายใจ แต่นางก็พยายามรักษาท่าทีนิ่งสงบไว้ นางเดินไปยืนด้านข้างกู้โม่หาน “ท่านอ๋องเพคะ เรื่องนี้…”
ก่อนที่นางจะพูดจบ หนานหว่านเยียนก็ยิัมเยาะ และมองหน้าหยุนอี่ว์โหรว “ท่านอ๋อง คนเรารู้หน้าไม่รู้ใจ ในเมื่อจะดูละครแล้ว ก็ต้องดูให้จบ!”
ได้ผลลัพธ์เช่นนี้ ล้วนแต่อยู่ในแผนของหนานหว่านเยียนทั้งหมด
ในช่วงเช้า นางบอกให้อวี๋เฟิงแอบตามเชี่ยนปี้สาวใช้ของหยุนอี่ว์โหรวออกไป ต่อมานางก็รู้สึกไม่สบายใจจึงให้ล่าปู๋ล่าตามอวี๋เฟิงไปด้วย
ให้อวี๋เฟิงหาโอกาสลงมือ
แต่คิดไม่ถึงว่าเชี่ยนปี้กับชิงหว่านกำลังไปบอกเล่าแผนการกับชายชู้ผู้นี้พอดี
จึงถูกอวี๋เฟิงจับตัวไว้ทันที
จากนั้น อวี๋เฟิงค้นเจอจดหมายจากตัวเชี่ยนปี้ และให้ล่าปู๋ล่านำจดหมายและรายงานที่เขาเขียนกลับมาที่จวนอ๋องอี้ เพื่อนำมาให้นาง
ดังนั้น นางถึงได้จดหมายมาถึงมือ หลังจากอ่านจดหมายแล้ว นางพอจะเดาได้ว่า หยุนอี่ว์โหรวจะจัดการกับนางอย่างไร
เพราะเช่นนั้น นางจึงเขียนกลับไปว่า “อีกฝ่ายให้ค่าตอบแทนเจ้าเท่าไหร่? ข้าจะให้เจ้าเป็นห้าเท่า! ขอแค่เจ้ายอมร่วมมือแสดงละครครั้งนี้กับข้า!”
แล้วให้ล่าปู๋ล่าเอาไปส่งให้ให้อวี๋เฟิง
ดังคำโบราณกล่าวไว้ว่า มีเงินสามารถสั่งงานผีได้ และทุกอย่างก็ดำเนินไปอย่างราบรื่น จนมาถึงเหตุการณ์ในปัจจุบัน
……
แต่ฉากที่แสดงความรัก ความแค้นที่ไม่ได้ครอบครองของฉางชิงหยางนั้นเล่นได้ดีเกินไป…
นางปล่อยให้เขาเล่นละครอย่างอิสระแต่ไม่ได้ปล่อยให้เขาเล่นตามใจชอบ
พอเห็นหนานหว่านเยียน วางแผนได้อย่างแนบเนียน กู้โม่หานมองจดหมายในมืออีกครั้ง ความโกรธของเขาก็ลดลง
“มองอะไร”
“แน่นอนว่าต้องเป็นเรื่องดีอยู่แล้ว!” หนานหว่านเยียนดีดนิ้ว แล้วตะโกนออกไปข้างนอก “อวี๋เฟิง!”
ไม่นาน อวี๋เฟิงก็พาเชี่ยนปี้กับชิงหว่านเดินเข้ามา
เชี่ยนปี้แอบส่งสายตาให้กับหยุนอี่ว์โหรว
อวี๋เฟิงคำนับ “คารวะท่านอ๋อง บ่าวเห็นสองคนนี้กับฉางชิงหยางท่าทางลับๆ ล่อๆ ดังนั้นจึงตามหลังพวกเขาไป แล้วพบว่าพวกเขากำลังวางแผนใส่ร้ายพระชายาที่วัดร้างนอกเมือง ดังนั้นบ่าวจึงจับตัวพวกเขาไว้เพื่อนำตัวมาสอบสวนขอรับ”
พอกู้โม่หานเห็นเชี่ยนปี้ เขาก็จำได้ทันทีว่าเป็นสาวใช้คนสนิทของหยุนอี่ว์โหรว
ดังนั้นสีหน้าของเขาจคงเปลี่ยนไปทันที “เป็นเจ้าได้อย่างไร”
หลังจากพูดจบ เขาก็มองไปที่หยุนอี่ว์โหรว
สาวใช้คนสนิทถูกจับแล้ว
หยุนอี่ว์โหรวไม่มีท่าทีได้ใจนานแล้ว ฝ่ามือของนางเต็มไปด้วยเหงื่อเย็น
นางไม่ได้ตอบคำถามของกู้โม่หาน แค่ทำสีหน้าตกใจ
“เชี่ยนปี้! เจ้ามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร”
ไม่เป็นไร เรื่องนี้ไม่มีทางดึงนางเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยได้ นางไม่เคยขอให้เชี่ยนปี้ทำอะไร ขอแค่โยนความผิดทั้งหมดให้คนอื่น นางก็จะไม่เป็นไร
เชี่ยนปี้เข้าใจได้ทันที นางสะอึกสะอื้น แล้วร้องไห้ออกมา
“พระชายารองเพคะ บ่าว บ่าวเองก็ไม่ทราบเจ้าค่ะ… บ่าวเห็นว่าช่วงนี้ชิงหว่านดูท่าทางผิดปกติ บ่าวจึงแอบตามนางไปอย่างเงียบๆ เพื่อดูว่านางคิดจะทำอะไร แต่ว่าองครักษ์อวี๋เฟิงกลับเข้ามา แล้วจับตัวบ่าวไว้โดยไม่พูดอะไรเลย”
หนานหว่านเยียนสีหน้าเคร่งขรึม
มาถึงขนาดนี้แล้ว หยุนอี่ว์โหรวกลับยังคงไม่ยอมรับความผิด เหอะ ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา
ฉางชิงหยางเห็นอวี๋เฟิงก็ยิ่งกลัวมากขึ้น
หนานหว่านเยียนเอ่ยถามอย่างเฉียบขาด “ฉางชิงหยาง ใครสั่งให้เจ้ามาใส่ร้ายข้า ถ้าเจ้าไม่บอกข้าตอนนี้ เจ้าจะยิ่งตานทรมานมากกว่านี้!”
ฉางชิงหยางอยากจะพูด แต่เชี่ยนปี้กลับพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “เจ้า! ทางที่ดีเจ้าพูดให้ดี! อย่าคิดจะใส่ร้ายคนดี”
ประโยคนี้ถือเป็นการตักเตือน เพร่ะนางให้เงินชายชู้ผู้นี้จำนวนมาก และเขาจะต้องเล่นละครให้จบถึงจะได้เงิน
ฉางชิงหยางชี้หน้าเชี่ยนปี้ แล้วตะโกนด่าอย่างโมโห
“เป็นเจ้านั่นแหละ! เป็นเจ้าที่บอกว่านายหญิงของเข้าขอให้ข้าปลอมตัวเป็นชู้รัก แล้วทำให้พระชายากับท่านอ๋องผิดใจกัน ถ้าทำสำเร็จจะมอบเงินให้ข้าจำนวนมาก เจ้าเป็นคนวางแผนเรื่องนี้ทั้งหมด”