ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ - บทที่ 150 แม่เป็นซูเปอร์ฮีโร่
ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ บทที่ 150 แม่เป็นซูเปอร์ฮีโร่
เสิ่นอี่ว์เห็นว่ากู้โม่หานทำสีหน้าที่สมเหตุสมผล ทันใดนั้นก็รู้สึกว่า ถ้าท่านอ๋องอยากให้พวกนางเกิดความรู้สึกที่ดีต่อเชา ยังต้องทำอะไรอีกมากมาย……
มือซ้ายของหนานหว่านเยียนจับมือเกี๊ยวน้อย มือขวาอุ้มซาลาเปา แม่ลูกสามคนกับเซียงเหลียนกลับเรือนเซียงหลินพร้อมกับเซียงเหลียน
พอถึงเรือน เซียงเหลียนก็ถอยลงไปก่อน
เซียงอวี้รออยู่หน้าประตูตั้งนานแล้ว ตอนที่หนานหว่านเยียนกลับมานางรู้สึกใจร้อนมาก จับหนานหว่านเยียนแล้วมองหลายๆรอบ หลังจากยืนยันว่ากู้โม่หานไม่ได้ทำให้นางได้รับบาดเจ็บ ถึงโล่งใจ
เกี๊ยวน้อยวิ่งมาถึงหน้าเซียงอี่ว์แล้วยิ้มหวานให้”พี่เซียงอวี้!”
เซียงอวี้ใจจะสลายแล้ว ทำความเคารพต่อพี่น้องสองคนอย่างเคารพ
“เจ้านายน้อยลำบากแล้วนะ บ่าวได้เตรียมขนมให้พวกเจ้า”
ซาลาเปาตบมือร้องขึ้นมา เด็กน้อยสองคนจับขนมคนละชิ้น อยู่ๆก็หันไปมองหนานหว่านเยียน”ท่านแม่!ตรวจสอบสถานการณ์ของศัตรูไม่ได้เพคะ!”
พวกเจ้ายกมือขึ้นบริเวณหัว เหมือนเป็นการทำความเคารพ
หนานหว่านเยียน”นี่ไปเรียนจากไหนมา?”
เกี๊ยวน้อยกะพริบตาอย่างฉลาด”ความลับ!ท่านแม่ ศัตรูล้วนถูกท่านแม่ไล่ออกแล้วใช่ไหม?การแจ้งเตือนถอนได้แล้วใช่ไหมเพคะ?”
เซียงอี่ว์รู้สึกแปลกใจมาก
ปกติพระชายามักจะพูดคำพูดที่ประหลาด นางฟังไม่รู้เรื่อง ตอนนี้เจ้านายน้อยสองคนนี้ก็สืบทอดนิสัยของนาง สิ่งที่พูดนั้นยิ่งแปลกเข้าไปใหญ่
อยู่ๆหนานหว่านเยียนก็ยิ้มอย่างลึกลับ ยื่นมือไปเการักแร้ของซาลาเปา”แม่เป็นซูเปอร์ฮีโร่ที่ถูกส่งตัวมา!ไม่มีใครเอาชนะข้าได้!เพียงหญิงน้อยหลายคนเท่านั้น จะเอาชนะแม่ได้อย่างไรล่ะ?”
ซาลาเปาถูกแกล้งจนขำออกมา”ท่านแม่เก่งมากเลย!คนมากมายขนาดนั้นรังแกแม่ แม่ก็ไม่กลัวหรือ?”
หนานหว่านเยียนกอดเด็กสองคนเข้ามา และใช้สายตาที่อ่อนโยนมองตาของพวกนาง
“ท่านแม่ไม่กลัวตลอด เพราะหน้าที่ของแม่ก็คือปกป้องพวกเจ้าไง พวกเจ้าเป็นแรงกระตุ้นของแม่!ดังนั้นเพื่อพวกเจ้า แม่ก็จะกลายเป็นคนที่กล้าหาญมาก”
เมื่อพูดถึงที่นี่ เซียงอวี้ก็รู้สึกอยากร้องไห้ ไม่รู้เป็นความรู้สึกแบบไหน อาจจะเป็นเพราะว่าเป็นแม่ เลยอยากติดเป็นคนที่ทำได้ทุกอย่างเลยเนอะ
ใครจะไปรู้ล่ะว่า ซาลาเปาและเกี๊ยวน้อยมองหน้าเข้าหากัน จากนั้นก็ดึงมือที่หนานหว่านเยียนจับอยู่ออกมา
พี่น้องสองคนวางมือทั้งสี่ข้างไว้บนฝ่ามือของหนานหว่านเยียน และห่อหุ้มมือของนาง
หนานหว่านเยียนรู้สึกว่ามีความอบอุ่นพุ่งถึงศีรษะ
สายตาของเกี๊ยวน้อยมีแสงสว่างที่อบอุ่นและยืนหยัด นางจึงรีบพูดก่อน
“แม่เป็นซูเปอร์ฮีโร่ ข้าเป็นลูกสาวของแม่ ข้าก็มีความสามารถพิเศษ!จากนี้ไป แม่อย่าแบกเรื่องไว้ทุกอย่างด้วยตัวเอง*
ซาลาเปาพูดต่อ”พวกข้าก็สามารถปกป้องท่านแม่ได้ เป็นซูเปอร์ฮีโร่ของแม่เพคะ”
“ดังนั้นแม่ไม่ต้องกลัว!ไม่ว่าเมื่อไหร่ พวกข้าล้วนอยู่ในข้างๆของแม่!”
คำพูดนี้พูดออกมาจากปากของเด็กน้อยสองคน แต่ในเวลานี้กลับเหมือนสูงกว่าท้องฟ้าอีก
น้ำเสียงของพวกนางไม่มีความลังเลแม้แต่นิด จ้องหนานหว่านเยียนอยู่แบบนี้ ซึ่งดูแน่วแน่และจริงจังมาก
ขอบตาของหนานหว่านเยียนแดงขึ้นมาทันที ประทับใจมาก”ได้ พวกเจ้าก็ล้วนเป็นซูเปอร์ฮีโร่ที่ดีเลิศที่สุดของแม่”
เซียงอวี้หันหน้าไปอีกข้างหนึ่ง แอบเช็ดน้ำตา
จริงๆแล้วไม่มีใครรู้ว่า หลายปีนี้หนานหว่านเยียนมีชีวิตลำบากขนาดไหน
ผู้หญิงคนนี้คลอดลูกเอง เลี้ยงเด็กสองคนจนเติบโตมาได้อย่างยากลำบาก เป็นทั้งพ่อและแม่ ถึงแม้มีห้วงเวลาช่วยอยู่ แต่ความยากลำบากดังกล่าว ไม่มีใครเข้าใจได้
ดังนั้นพอตอนนี้หนานหว่านเยียนได้ยินคำพูดจากใจของพี่น้องสองคนนี้ ก็ซาบซึ้งใจมาก
นางอุ้มเด็กทั้งสองคน เดินไปนั่งลงบนเก้าอี้ที่อยู่ข้างๆโต๊ะกลมในลานบ้าน
แตะหัวของพวกนางสองคนด้วยความรักใคร่ นางรู้สึกแสบจมูก”พวกเจ้าเป็นที่รักของแม่ พวกเจ้าอยู่กับแม่ ชีวิตนี้ของแม่มีความสุขแน่นอน”
นี่ก็คือเด็กๆที่นางเลี้ยงเอง นางรู้สึกโชคดี โชคดีที่ปีนั้นไม่ได้ทอดทิ้ง แม้ต้องตายก็จะคลอดเด็กสองคนนี้ออกมาให้ได้
ในสมัยนี้ที่ไม่มีญาติพี่น้อง ไม่เคยชิน ทุกคนล้วนเป็นศัตรูกับนาง หากไม่ใช่ว่าเด็กๆอยู่ นางอยู่ไม่ได้หรอก
ไม่ว่าเป็นตอนนั้นหรือตอนนี้เด็กๆล้วนเป็นเหตุผลที่นางต้องมีชีวิตอยู่ต่ออย่างเข้มแข็ง
เกี๊ยวน้อยและซาลาเปาล้วนรู้สึกเป็นห่วงมาก ยื่นมือไปเช็ดน้ำตาบริเวณมุมปากให้หนานหว่านเยียน
“แม่อย่าร้องไห้เลยนะ แม่เป็นคนที่ดีที่สุด เมตตาที่สุดในโลก เป็นที่พึ่งของพวกข้า!”
เซี่ยงอวี้รู้สึกสงสาร อดไม่ได้ที่จะเดินขึ้นไปพูดด้วยขอบตาที่แดงก่ำ
“พระชายา เจ้านายน้อยน่ารักและเชื่อฟัง ล้วนเป็นเพราะว่าท่านสั่งสอนได้ดี ท่านและเจ้านายน้อยล้วนใจตรงกัน ถึงแม้บ่าวไม่สามารถรับรู้ได้ แต่ก็รู้ว่า พระชายาต้องลำบากมามากแน่นอน”
หนานหว่านเยียนได้ยินเช่นนี้ก็เปลี่ยนความเศร้าเป็นรอยยิ้ม มุมปากยิ้มขึ้นมาอย่างภูมิใจ
“ใช่ไง ข้ามีเด็กๆสองคนที่เห็นอกเห็นใจขณะนี้ ข้ายังร้องไห้ไปทำไม!ถ้าเป็นหนานหว่านเยียนที่ไม่กลัวอะไรทั้งสิ้นเลยนะ!”
นางแอบสัญญาในใจ ชีวิตต่อจากนี้ ไม่ว่าต้องแลกกับอะไร ล้วนต้องปกป้องเด็กๆของนางให้ดี ไม่ให้พวกนางได้รับคสามเจ็บปวดแม้แต่นิด!
ซาลาเปายื่นผ้าเช็ดหน้ามาให้หนานหว่านเยียนอย่างเป็นห่งง รอยยิ้มสวยงามมาก
หนานหว่านเยียนเลยเช็ดหน้าไปเลย แล้วยิ้มมุมปากมองเด็กสองคน
“บอกแม่มาสิ วันนี้กู้โม่หานร้องเพลงเป็ดว่ายน้ำยังไง?”
พูดถึงเรื่องนี้ เกี๊ยวน้อยก็เกิดความสนใจทันที
เห็นแต่นางลูบแขนเสื้อขึ้นแล้วยืนอยู่บนเก้าอี้กลม เลียนแบบขึ้นมา”แค่กๆ พวกเจ้าโกรธข้าใช่ไหม?งั้นข้าร้องเพลงเป็ดว่ายน้ำให้ฟังเถอะ!”
หนานหว่านเยียนขำออก”เป็นแบบนี้จริงหรือ?”
ซาลาเปาปิดปากแอบหัวเราะ”ไม่ใช่!พี่สาวแกล้งทำแบบนี้!”
เซียงอวี้อดกั้นหัวเราะเอาไว้ไม่ได้
ซาลาเปาคิดจะลองดู ก็ลุกขึ้นมา มือเล็กทั้งสองวางอยู่บนหัว เลียนแบบกู้โม่หานแล้วพูดด้วยสีหน้าที่แปลกประหลาด”ก๊าบๆ”
ระหว่างที่ร้อง นางก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา
หนานหว่านเยียนตีอกชกหัว”กู้โม่หานเลียนแบบเป็ดร้อง สถานการณ์แบบนั้นต้องยอดเยี่ยมแน่นอน!”
จมูกของเกี๊ยวน้อยโด่งมาก”ใช้แล้ว ร้องเพลงไม่เพราะเลย ไม่มีสิทธิ์เป็นพ่อของพวกข้า แม่เพคะ ข้ากับซาลาเปาจะหาสามีที่ดีที่สุดในโลกให้เจ้า!”
เรื่องนี้พวกนางสองพี่น้องยืนยันที่จะทำให้ได้!
หนานหว่านเยียนจนปัญญากับนาง มีแต่ต้องส่ายหน้า
เสีนงหัวเราะของแม่ลูกสามคนรวมตัวกัน ในที่สุดกลายเป็นว่าทุกคนล้วนร้องขึ้นมา
หนานหว่านเยียนตีจังหวะ และขยับหัวไปตามจังหวะเพลง เกี๊ยวน้อยเป็นคนที่ร้องเพลงเพี้ยนเหมือนกับกู้โม่หาน แต่ร้องอย่างเต็มที ส่วนเสียงของซาลาเปาเหมือนหนานหว่านเยียนมาก ร้องเพลงขึ้นมาก็เพราะมาก
เซียงอวี้เห็นเช่นนี้ ก็รู้สึกดีใจมาก
ถ้าอนาคต ท่านอ๋องก็อยู่ที่นี่ได้ ครอบครัวสี่คนอยู่อย่างกลมกลืน ก็ดีเลิศ
ไม่มีใครรู้ว่า ในห้องของหนานหว่านเยียนที่อยู่ห่างจากพวกนางไม่ถึงสิบเมตรนั้น มีร่างหนึ่งกำลังแอบค้นหาอะไรอยู่
ในที่สุด คนนั้นได้เห็นของอย่างหนึ่ง ตาสว่างขึ้นมา แล้วหยิบของพลิกออกไปจากเรือนหลัง……