ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ - บทที่ 179 กู้โม่หาน เจ้าเป็นบ้าไปแล้ว
ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ บทที่ 179 กู้โม่หาน เจ้าเป็นบ้าไปแล้ว
กู้โม่หานจูบอย่างหยาบคายและรุนแรง ท่ามกลางความห่างเหิน ได้แฝงความยึดครองไว้อย่างรุนแรง
หนานหว่านเยียนเบิกตาทั้งคู่กว้างขึ้นมาโดยทำอะไรไม่ได้ พยายามขัดขืนและผลักเขาออก เสียงฝ่ามือที่ดังก้องตบลงบนใบหน้ากู้โม่หาน
“กู้โม่หาน เจ้าบ้าไปแล้วหรือ?!”
ถึงได้กล้า……มาใกล้ชิดเกินขอบเขตแบบนี้กับนาง?!
อยู่ ๆ บนรถม้าก็เงียบสงัดลง
ใบหน้าครึ่งหนึ่งของกู้โม่หานบวมแดง เขาหยุดการกระทำที่ทำกับหนานหว่านเยียน จ้องมองเรียวปากของหญิงสามที่ถูกเขากัดจนเป็นสีแดง ในดวงตาสีดำสนิทเกิดความมึนงงขึ้นมา
เรื่องที่จูบหนานหว่านเยียนนี้ ตัวเขาเองก็ยังคาดคิดไม่ถึงเลย
ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นมาสบเข้ากับดวงตากับที่เต็มไปด้วยความโกรธ และแวววาวสีดำสนิทคู่นั้นของหนานหว่านเยียน ขณะเดียวกัน ก็รู้สึกถึงความเจ็บแสบบนใบหน้า แล้วเขาก็ยิ่งโมโหมากยิ่งขึ้นไปอีก ไม่รู้สึกผิดสักนิด
“เจ้าเป็นคนพูดจากระตุ้นครั้งแล้วครั้งเล่า บีบให้ข้าลงมือเองนะ!”
“หนานหว่านเยียน ถ้าเจ้ายังอยากจะหย่าละก็ ข้าขอเตือนเจ้าว่าพยายามอยู่ให้ครบกำหนดเวลาครึ่งปี ไม่งั้น ชาตินี้เจ้าก็ไม่ต้องคิดเรื่องนี้อีกเลย!”
ทั้งตัวหนานหว่านเยียนเต็มไปด้วยความหวาดระแวง ถูปากไปด้วยความรังเกียจ ท่าทีเยือกเย็นลงสุดขีดราวกับน้ำแข็ง
“อยากให้ข้านั่งเฉย ๆ เหมือนตายไปแล้ว? แล้วคอยจ้องมองเจ้าลงมือกับลูก ๆ ข้างั้นเหรอ? กู้โม่หาน ข้าขอบอกเจ้า ว่ามันไม่มีทางเป็นไปได้หรอก!”
“เจ้าจะรังแกข้าก็ดี จะรักใคร่หยุนอี่ว์โหรวก็ช่าง เรื่องพวกนี้ข้าจะไม่ถือสากับเจ้า แต่ว่า ถ้าเจ้าทำร้ายพวกลูก ๆ ของข้า เพียงเพราะข้าเป็นลูกสาวของศัตรูแล้วละก็ ข้าจะทำให้เจ้าตายไปพร้อมกับข้าแน่ ๆ!”
ในเรื่องของลูกสาวสองคนนั้น หนานหว่านเยียนจะไม่มีทางยอมแน่ ไม่มีทางปล่อยให้กู้โม่หานมีใจคิดร้ายอะไรแน่
ที่นางพยายามอยากจะหย่าเพราะอะไร? ก็เพราะไม่อยากเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับความวุ่นวาย การแก่งแย่งชิงดีในวังนั้นซับซ้อนและรุนแรงมากเกินไป
แล้วลูก ๆ ของนาง ก็ต้องไม่มีทางถูกเอามาใช้เป็นพื้นให้เหยียบย่ำเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจเด็ดขาด!
ที่สำคัญกู้โม่หานยังเกลียดนางมากขนาดนี้ เกลียดตระกูลหนาน ถ้าลูก ๆ ถูกเขาแย่งไปจริง ๆ แล้วเกิดวันไหนที่หัวร้อนขึ้นมา แล้วนึกขึ้นมาได้ว่าเด็กสองคนนี้มีสายเลือดของตระกูลหนานอยู่ด้วย งั้นจุดจบของพวกนาง……
ดวงตาเป็นประกายดาวของหนานหว่านเยียนหดตัวเล็กน้อย นางต้องไม่มีทางทนเห็นเรื่องพวกนี้เกิดขึ้นมาเฉย ๆ แน่!
พอกู้โม่หานได้ยินแบบนี้ ใจก็กระตุกขึ้นอย่างแรง ท่าทางหนานหว่านเยียนเช็ดปากเหมือนเป็นหนามอันหนึ่งอย่างไม่ต้องสงสัย และปักเข้าไปในใจเขาอย่างแรง จนเขาโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ
แต่ถึงจะเป็นเช่นนี้ กู้โม่หานก็ยังไม่อยากยอมรับอยู่ดี ว่าความรู้สึกที่เขามีต่อหนานหว่านเยียน ไม่ได้มีแค่ความโกรธแค้นอย่างเมื่อก่อนแล้ว!
“เจ้าเอาแต่พูดว่าข้าจะลงมือกับเด็กสองคนนั้น แต่ว่าข้าได้ทำจริง ๆ หรือเปล่า? ถึงเด็กสองคนนี้จะไม่ใช่ลูกของข้า แต่ข้าก็จะดีกับพวกนาง คอยเอาอกเอาใจเหมือนเป็นของล้ำค่าเลย!”
“ส่วนเจ้า เป็นคนละเมิดสัญญาของพวกเราก่อน แถมยังคอยยั่วยุข้าซ้ำแล้วซ้ำเล่า ถ้าเจ้าอยากจะหย่าตอนนี้ ก็ได้ เจ้าไปคุยกับเสด็จพ่อตอนนี้เองเลย! ข้าจะคอยดูซิว่า เสด็จพ่อจะอนุญาตเจ้าหรือเปล่า หรือจะเอาชีวิตเจ้ากันแน่!”
บนใบหน้างดงามของหนานหว่านเยียนแข็งทื่อไปราวกับน้ำแข็ง “กู้โม่หาน ลูกของข้าไม่ต้องให้เจ้ามาทำดีด้วยหรอก ขอแค่เจ้าไม่ลงมือกับเด็ก ๆ อย่างโหดเหี้ยมก็พอแล้ว! อีกอย่าง เจ้าไม่ต้องใช้ฮ่องเต้มาข่มขู่ข้าหรอก ในเมื่อวันนี้ข้ากล้าเอ่ยปากออกมา ก็เท่ากับว่าข้ามีวิธีที่จะทำให้หย่าได้ของข้า!”
ถึงจะพูดแบบนี้ แต่หนานหว่านเยียนก็เข้าใจดี วันนี้นางกับกู้จิ่งซานเผชิญหน้ากันได้อันตรายมาก พระราชาอย่างกู้จิ่งซาน จิตใจเจ้าเล่ห์และอุบายลึกล้ำมาก
ถ้านางก้าวพรากไปก้าวเดียว ก็ต้องร่างกายแตกละเอียดไปแน่
แต่การเผชิญหน้ากับกู้โม่หาน หนานหว่านเยียนไม่เคยรู้สึกหวาดกลัวมาก่อนเลย!
“หนานหว่านเยียน!” กู้โม่หานเหมือนถูกนางแตะโดนจุดอ่อนแล้ว ยื่นมือไปกดไหล่หนานหว่านเยียนไว้แน่น แล้วกดทับนางลงไปบนเบาะนั่งหลังรถม้า ทั้งตัวชิดเข้าไปใกล้
กลิ่นอายรุนแรงของผู้ชายจู่โจมเข้ามา ทั้งตัวหนานหว่านเยียนพยายามต่อต้าน แต่เรี่ยวแรงของเขาหนักมาก แถมยังกดคางนางไว้แน่น บังคับนางให้มาสบตากับเขา
เขายิ้มเย็น “ข้าประเมินเจ้าต่ำเกินไปจริง ๆ แต่เจ้าอย่านึกนะว่าตอนนี้มีความสามารถแล้ว ก็จะคิดว่าฝ่ามือสามารถบังฟ้าได้แล้ว? เจ้าอย่าลืมไปล่ะ คำเดียวของราชานั้น แทนทหารเป็นพันเป็นหมื่นได้ ถ้าเสด็จพ่อจะเด็ดหัวคน ก็แค่เรื่องง่ายเหมือนกะพริบตาเท่านั้น”
“และที่สำคัญไทเฮาก็กำลังเห็นดีเห็นงามกับเราสองคน แล้วฮ่องเต้ก็เป็นคนกตัญญูมาก ไม่ว่าเจ้าจะไปพูดเรื่องหย่ากับพวกเขาคนไหน ก็ไม่มีทางสำเร็จทั้งนั้น! ถ้าอยากจะหย่า เจ้าก็ต้องฟังคำพูดของข้า!”
เขาไม่เชื่อหรอกว่าหนานหว่านเยียนจะไม่เกรงกลัวอำนาจฮ่องเต้ ถึงนางจะใจกล้าไม่กลัวฮ่องเต้ แต่ทางไทเฮา ดีกับนางซะขนาดนี้ นางจะยอมฉีกหน้าได้เหรอ?
กู้โม่หานเดาความในใจหนานหว่านเยียนถูกแล้ว เมื่อกี้นางถูกเขากระตุ้นจนจะหย่าให้ได้เดี๋ยวนี้ แต่ในใจนั้นเข้าใจดี ไม่มีใครสามารถช่วยนางได้ แล้วก็ทำไม่ได้ด้วย
ถ้าอยากจะหย่าล่วงหน้าจริง ๆ นางก็ต้องคิดแผนระยะยาว ต้องทำการวางแผน
แต่หนานหว่านเยียนไม่มีทางทนได้ที่กู้โม่หานโอหังมากขนาดนี้ ถ้าปัดเรื่องอำนาจหลวงอะไรนั่นออก แล้วนางด้อยกว่าเขาตรงไหน? จะมายอมให้เขาเหยียบย่ำ ข่มเหงรังแกได้ยังไง!
มือของนางจับคอเสื้อกู้โม่หานเอาไว้ จ้องมองดวงตาของกู้โม่หานตรง ๆ น้ำเสียงโหดร้ายมากกว่าเขาเย็นชามากกว่าเขา
“ได้ ตอนนี้ข้าจะอดทนไว้ แล้วก็ให้เวลาเจ้าได้”
“แต่ว่ากู้โม่หาน เจ้าฟังข้าไว้ให้ดี ห้ามแตะต้องตัวข้าแม้แต่นิดเดียว แล้วก็ห้ามมีความคาดหวังใด ๆ ต่อลูกข้าด้วย ข้าเคยพูดไว้แล้ว ว่าข้าไม่ได้แหย่ได้ง่าย ๆ อย่างมากสุดก็เจ็บปวดกันไปทั้งสองฝ่าย ไม่ต้องมีใครอยู่สุขสบายทั้งนั้น!”
พอคำพูดจบลง นางก็ล้วงเข็มฉีดยาออกมาจากมืออย่างหูตาว่องไว แล้วก็ปักไปหลอดเลือดดำในมือซ้ายของกู้โม่หานอย่างรวดเร็ว
หญิงสาวใช้แรงอย่างโหดเหี้ยม จนกระทั่งเข็มหัวเข็มฝังเข้าไปในผิวหนังกู้โม่หานทั้งหมด “นี่เป็นสิ่งที่เจ้าติดค้างข้าเมื่อกี้!”
นางจะต้องทำให้เขารู้ การขโมยจูบนางนั้นจะต้องจ่ายค่าตอบแทน!
ดวงตาของกู้โม่หานกระตุกขึ้นมาทีหนึ่ง แล้วรีบคลายมือออกและถอยหลังไปอย่างรวดเร็ว
เขามองเห็นที่ข้อมือตัวเองมีวัตถุแปลก ๆ หลงเหลืออยู่ แล้วก็ดึงออกมาโดยที่ไม่ได้คิดอะไร
อยู่ ๆ เลือดสด ๆ ก็ทะลักออกมา กู้โม่หานรีบใช้พลังภายในบีบบังคับให้ของเหลวสีแดงที่ไหลออกมาข้างนอกไม่หยุดรีบถอยกลับเข้าไป
ในดวงตาเขาเต็มไปด้วยความเย็นชา จ้องมองหนานหว่านเยียนด้วยความเกลียด เห็นแค่หนานหว่านเยียนเก็บเข็มฉีดยาที่ถูกเข้าโยนทิ้งขึ้นมา สีหน้าที่เย็นเหมือนน้ำแข็งเมื่อกี้เปลี่ยนกลับมาดูดีขึ้นมาก
หนานหว่านเยียนมักจะสามารถล้วงของแปลก ๆ ออกมาจากมือได้มากมาย นี่เป็นแค่ส่วนหนึ่ง ก่อนหน้านี้เขาเคยล้มต่อหน้าของเล็ก ๆ นี่มาครั้งหนึ่งแล้ว ตาเห็นว่า มาโดนหนานหว่านเยียนเอาคืนอีกครั้งแล้ว?!
กู้โม่หานกำลังจะแสดงท่าที กลับพบว่าแขนขาอ่อนแรง เวียนหัวและอึดอัดหายใจไม่ออก พยุงประตูรถม้าไว้แล้วล้มตัวนั่งลงไปด้านหลัง ตอนที่เงยหน้าขึ้นมาอีกครั้งนั้น ท่าทีบนใบหน้าหนานหว่านเยียน เหมือนจะกำลังพยายามควบคุมสุด ๆ อยู่
จู่ ๆ กู้โม่หานก็โมโหขึ้นมากะทันหัน “หนานหว่านเยียน เจ้าทำอะไรกับข้าอีกแล้ว? ทำไมถึงได้มีของแปลก ๆ มากมายพวกนี้อยู่ตลอด?!”