ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ - บทที่ 186 ท่านอ๋อง พระชายารองตกน้ำ
ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ บทที่ 186 ท่านอ๋อง พระชายารองตกน้ำ
พระ…. พระชายาจะโหดเกินไปแล้ว…..ไหม?
ส่วนหยุนอี่ว์โหรวในเวลานี้ กำลังพยายามดิ้นรนเพื่อลอยขึ้นสู่ผิวน้ำ หนาวจนตัวสั่นงันงกเพราะแช่อยู่ในทะเลสาบอันเย็นเฉียบ
ขอบตาของนางแดงก่ำ ครั้งนี้ไม่ใช่การเสแสร้งแล้ว ลูกถีบของหนานหว่านเยียนเมื่อครู่นี้ ถีบจนทำให้นางรู้สึกเหมือนซี่โครงของนางอาจจะหักไปหลายซี่แล้ว อวัยวะภายในตันทั้งห้ากลวงทั้งหกต่างก็สั่นสะเทือนไปหมด เจ็บเป็นบ้า! เจ็บจนแทบจะขาดใจตายอยู่แล้ว!
นางพยายามขยับตัว ก็รู้สึกเจ็บมากจนแทบทนไม่ไหว กัดฟันกรอดแล้วมองไปที่หนานหว่านเยียน “หนานหว่านเยียน ทำไมเจ้าถึงได้…..”
ดวงตาที่เย็นชาของหนานหว่านเยียนเต็มไปด้วยแววดูถูกเหยียดหยาม “หยุนอี่ว์โหรว เจ้ายังคิดว่าข้าคือหนานหว่านเยียนคนเดิมกับเมื่อห้าปีก่อนอย่างนั้นรึ? คนที่ยอมให้เจ้าฆ่าแกงได้ง่าย ๆ ตามอำเภอใจนั่น?”
“ลูกถีบเมื่อครู่ เป็นการล้างแค้นที่เจ้าใส่ร้ายข้าเมื่อห้าปีก่อน! เมื่อห้าปีก่อนนั้นข้าไม่มีโอกาส ตอนนี้ถ้าข้าไม่ถีบสักหน่อย คงต้องขอโทษตัวเองแล้วล่ะ!”
เมื่อได้ยินดังนั้น หยุนอี่ว์โหรวก็นึกชังหนานหว่านเยียนจนกัดฟันกรอด ๆ “ข้าไม่เคยใส่ร้ายเจ้า แต่ทำไมพระชายาถึงต้องทำกับข้าแบบนี้ด้วย ท่านอ๋องไม่มีวันปล่อยให้เจ้าลอยนวลแน่!”
เมื่อครู่ตอนที่นางแกล้งล้ม ข้อเท้าไม่ได้แพลงอะไรทั้งสิ้น แค่ตอนที่นางล้มลงไป นางใช้ไขทาปากแต้ม ๆ ทา ๆ ที่ข้อเท้าให้ดูเหมือนมีบาดแผลเฉย ๆ
แต่ตอนนี้ นางเจ็บไปหมดทั้งตัวแล้วจริงๆ
หยุนอี่ว์โหรวขยิบตาไปทางเชี่ยนปี้ เมื่อครู่นี้เชี่ยนปี้มัวแต่ตกใจจนเซ่อไปหมด มาตอนนี้ค่อยกลับมามีสติรู้สึกตัว จึงรีบวิ่งไปที่เรือนซีเฟิงแบบไม่พูดพร่ำทำเพลง ตั้งใจว่าจะไปฟ้องกู้โม่หาน
เดิมทีเซียงอวี้คิดจะเข้าไปหยุดนาง แต่หนานหว่านเยียนกลับห้ามไว้
หนานหว่านเยียนยืนอยู่ริมทะเลสาบ จ้องมองหยุนอี่ว์โหรวที่กำลังดิ้นรนสะบัดปัดป่ายมือเท้าอยู่ในทะเลสาบเป็นพัลวัน
“เจ้าอยากไปฟ้องกู้โม่หานให้มาช่วยระบายความแค้นแทนเจ้าสินะ? ข้าจะรอให้เขามาก็แล้วกัน ลองดูซิว่าใครกันแน่ที่จะได้ระบายแค้น!”
เฮอะ! คิดว่านางกลัวกู้โม่หานงั้นเหรอ? กระทั่งสิทธิ์การดูแลจวนก็ยังกล้ายกให้เมียน้อยคนนึง นางยังต้องกลัวเขาทำซากอะไรอีก! เอามีดมาแทงกันให้ตายไปเลยเถอะ!
นอกจากนี้ ไม่ใช่ว่าหยุนอี่ว์โหรวอยากร่วมหอกับกู้โม่หานมาตลอดหรอกรึ? นางจะทำให้แม่ดอกบัวขาวจอมมารยานี่ ประจำเดือนมาทุกวันไม่หยุดเลยคอยดู!
ถ้ามีปัญญาจริง ก็ให้ชายชั่วช้ากับหญิงสารเลวคู่นี้ ต่อสู้โรมรันกันในสมรภูมินองเลือดนั่นไปเถอะ!
หยุนอี่ว์โหรวแช่อยู่ในน้ำอันเย็นเฉียบในทะเลสาบ หนาวจนเวียนหัวตาลายไปหมด
แต่ตอนนี้ นางทำได้เพียงแสร้งทำเป็นอ่อนแอไม่สู้คน หนาวจนตัวสั่นงันงกอยู่ในทะเลสาบเพื่อรอ “วีรบุรุษผู้จะมาฉุดช่วยสาวงาม” อย่างกู้โม่หาน
เซี่ยงอวี้ที่ดูอยู่อีกด้านรู้สึกได้ระบายแค้นไปมาก แต่ในใจก็ยังรู้สึกกลัวอยู่ลึก ๆ
หยุนอี่ว์โหรวเป็นที่โปรดปรานของกู้โม่หานถึงขนาดนั้น ตอนนี้พระชายาทำเรื่องใหญ่แบบนี้ นี่ไม่เท่ากับเจตนายั่วยุอีกฝ่ายแบบเห็น ๆ เลยหรอกหรือ?
นางพูดอย่างระมัดระวังว่า “พระชายา จะไม่ช่วยพระชายารองจริง ๆ หรือเจ้าคะ?”
หนานหว่านเยียนหรี่ตา ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงอึมครึมว่า “ช่วยนาง? เจ้าเห็นว่านางต้องการความช่วยเหลือจากพวกเราอย่างนั้นรึ?”
นางพูดถึงขนาดนี้แล้ว เซียงอวี้จึงไม่เหมาะจะพูดอะไรมากไปกว่านี้อีก
หยุนอี่ว์โหรวกัดริมฝีปากล่างจนแน่น มองไปที่หนานหว่านเยียนอย่างดุดัน
“ทุกสิ่งที่พระชายาทำกับข้าวันนี้ ข้าล้วนจดจำใส่ใจไม่มีวันลืม อีกครู่หนึ่งเมื่อท่านอ๋องมา ข้าน้อยจะ “ฟ้องทุกอย่างไปตามความจริง” อย่างแน่นอน!”
หนานหว่านเยียนสองมือกอดอก เยาะเย้ยด้วยสายตาของคนที่อยู่เหนือกว่า แล้วมองลงไปยังคนที่อยู่ต่ำกว่า
“เจ้าไปฟ้องเลย ฟ้องให้ดี ๆ ล่ะ ถ้าข้าหนานหว่านเยียนขมวดคิ้วนิ่วหน้าเมื่อไหร่ ถือว่าข้าแพ้!”
นี่มันจะบ้าคลั่งเกินไปแล้ว!
หยุนอี่ว์โหรวจ้องไปที่หนานหว่านเยียนด้วยสายตาเกลียดชัง “เจ้า….”
ยังพูดไม่ทันจบ จู่ ๆ สุนัขตัวใหญ่สองตัวก็กระโจนเข้ามา รวดเร็วดุจดั่งสายฟ้าฟาดสองสาย
ทุกคนยังไม่ทันมีปฏิกิริยาตอบสนอง สุนัขสองตัวนั้นก็กระโดดลงไปในทะเลสาบแล้ว จากนั้นก็ลากหยุนอี่ว์โหรวลงยังส่วนลึกของทะเลสาบ
“อ๊า! นี่มันตัวบ้าอะไรน่ะ — บุ๋ง ๆ ๆ”
ดวงตาของหยุนอี่ว์โหรวเต็มไปด้วยความหวาดกลัว ปกติแล้วสุนัขสองตัวนี้ถูกเลี้ยงดูจนตัวอ้วนหนากลมกิ๊ก ใช้ชีวิตดุจดั่งลูกหมูสองตัว แม้ว่าพละกำลังจะไม่มากมายนัก แต่น้ำหนักของพวกมันก็เทียบได้กับหยุนอี่ว์โหรวสองคนรวมกันเลยทีเดียว
พวกมันลากหยุนอี่ว์โหรวให้จมลงไป หยุนอี่ว์โหรวไม่มีที่ว่างให้ต่อสู้ขัดขืน นางถูกลากจนจมลงไปในทะเลสาบ สำลักน้ำติด ๆ กันหลายครั้ง
หนานหว่านเยียนตกตะลึงไปครู่หนึ่ง แต่แล้วก็กลับมารู้สึกตัวในที่สุด
เป็นไปไม่ได้ที่ล่ากับปู๋ล่าจะพุ่งเป้าโจมตีไปที่ใครบางคนโดยไม่มีเหตุผล โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์ที่มีเป้าหมายชัดเจนมากขนาดนี้ น่าจะเป็นเพราะสองศรีพี่น้องนั่นเป็นคนชี้นำแน่ ๆ
นางไม่ได้รู้สึกเห็นอกเห็นใจเท่าไหร่นัก แม้ว่าจะไม่อยากให้ลูกสาวต้องออกหน้าระบายความแค้นแทนตัวเอง แต่พอได้เห็นหยุนอี่ว์โหรวที่ “แสร้งทำเป็นอ่อนแอ” เสแสร้งได้ทุกข์ยากลำบากขนาดนั้น นางก็รู้สึกมีความสุขอยู่ไม่น้อย
การคาดเดาของหนานหว่านเยียนนั้นถูกต้อง เพราะแท้จริงแล้วที่ล่ากับปู๋ล่าโจมตี เป็นเพราะเกี๊ยวน้อยเป็นคนจัดเตรียมให้พวกมันออกมาจัดการกับหยุนอี่ว์โหรว
บนตัวของพวกมันถูกทาด้วย “ยาโหมกลิ้งซัดสาดนับพันลี้” จนทั่ว ชั่วขณะที่กระโดดลงไปในทะเลสาบ ก็ลากขาของหยุนอี่ว์โหรวให้จมลงไป หยุนอี่ว์โหรวถูกบังคับให้ดื่มน้ำในทะเลสาบที่ “เจืออาหารเสริม” เข้าไปหลายอึก ตะเกียกตะกายตบสองมือบนผิวทะเลสาบสุดชีวิต
“อ๊า! เดียรัจฉานจากที่ไหนเนี่ย! รีบปล่อยข้าเดี๋ยวนี้นะ!”
หนานหว่านเยียนยังคงมีท่าทีเหมือนดูละครเรื่องสนุก ไม่ลืมพูดเหน็บแนมไปอีกประโยคว่า
“พระชายารองหยุน เจ้าคิดจะอยู่ในทะเลสาบอีกนานแค่ไหนรึ?”
หยุนอี่ว์โหรวนึกชังน้ำหน้านางแทบตายแล้ว เดิมทีนางคิดว่าแค่ต้องรอจนกว่ากู้โม่หานจะมา แล้วค่อยเล่นบทโศกแสดงท่าทางให้ดูน่าสงสารก็พอ แต่ไอ้หมาสองตัวนี้กลับลากนางลงน้ำแบบเอาเป็นเอาตาย จนนางรู้สึกว่าถ้ายังยื้อแบบนี้ต่อไป อีกเดี๋ยวกู้โม่หานคงได้มาเก็บศพนางแทนแน่ ๆ
“หนานหว่านเยียน บุ๋ง
หลังจากดื่มน้ำในทะเลสาบไปหลายอึก หยุนหว่านโหรวก็หมดเรี่ยวแรงที่จะต่อสู้โดยสิ้นเชิง รู้สึกทรมานจนแทบจะเป็นบ้าให้ได้แล้ว
เซียงอวี้ที่มองดูอยู่อีกด้าน ถึงกับตะลึงจนปากอ้าตาค้าง แข็งทื่อไปทั้งตัวแล้ว
ในยามปกติ พระชายารองหยุนมักจะแต่งตัวอย่างพิถีพิถัน ดูมีเสน่ห์จับใจคน แต่นี่เป็นครั้งแรกที่นางได้เห็นพระชายารองหยุนในสภาพที่ดูจนตรอกถึงขนาดนี้
แต่ก็ไม่รู้ว่าทำไม นางกลับรู้สึกสะใจขึ้นมาเล็กน้อย
ใครใช้ให้นางเสนอหน้ามาพูดจายั่วยุพระชายาก่อนล่ะ ยังมีการมาใส่ร้ายพระชายาว่าทำร้ายนางอีก ก็สมน้ำหน้าแล้ว! อยากหาเรื่องใส่ตัวก็รับกรรมไปเองแล้วกัน!
แต่นางก็ยังนึกเป็นกังวลอยู่เล็กน้อยว่า ถ้าท่านอ๋องมาถึงแล้ว พระชายาจะถูกลงโทษหรือไม่…..
ล่ากับปู๋ล่าบรรลุเป้าหมายของพวกมันแล้ว จึงไม่ตามพัวพันอีกต่อไป ปล่อยหยุนอี่ว์โหรวแล้วแหวกว่ายสายน้ำในท่าลูกหมาตกน้ำไปที่ริมฝั่งอย่างสบายอกสบายใจ ขึ้นฝั่งได้ก็ไปกระดิกหางส่ายบั้นท้ายริก ๆ ตรงหน้าหนานหว่านเยียนราวกับจะขอคำชม
“ทำได้ดีมาก” หนานหว่านเยียนตบ ๆ ที่หัวของล่ากับปู๋ล่าด้วยรอยยิ้มจนตายิบหยี มองไปที่หยุนอี่ว์โหรวที่สุดท้ายก็ทนอยู่ในทะเลสาบต่อไปไม่ไหว ต้องตะเกียกตะกายปีนขึ้นฝั่งอย่างทุลักทุเล
“ทำไมพระชายารองหยุนถึงขึ้นฝั่งซะแล้วล่ะ? ไม่ใช่ว่าชอบอาบน้ำในทะเลสาบหรอกรึ? แช่ต่ออีกสักหน่อยสิ”
หยุนอี่ว์โหรวใช้เรี่ยวแรงทั้งหมดที่มี นอนพังพาบอยู่บนฝั่งพลางหายใจหอบฮั่ก ๆ ผมเปียกโชกยุ่งเหยิง บนใบหน้าอันงดงามยังมีพืชน้ำสองสามต้นเกาะติดอยู่ด้วย บนหัวมีจอกแหนเขียวอื๋อซึ่งมี “กลิ่นและรสชาติ” ที่พิเศษเป็นเอกลักษณ์เกาะหนึบ
นางกำมือแน่นแบบเอาเป็นเอาตาย ตาจ้องมองหนานหว่านเยียนเขม็ง ในดวงตาสาดประกายความเกลียดชังอย่างถึงที่สุด
หนาน! หว่าน! เยียน!
รออีกเดี๋ยวพอท่านอ๋องมา นางขอสาบานเลยว่า นางจะต้องฉีกปากของหนานหว่านเยียนออกเป็นชิ้น ๆ แน่!
ในขณะเดียวกัน ที่เรือนซีเฟิง
กู้โม่หานหยิบกระดาษทดสอบออกมาจากกล่องผ้า เอามาใส่ไว้ในอกเสื้อ ขณะที่กำลังจะเดินออกไป พ่อบ้านกาวก็ถือเอกสารปึกหนึ่งเดินเข้ามาหา
“ท่านอ๋อง ข้อมูลตัวตนและภูมิหลังของพระชายาที่ท่านสั่งให้บ่าวตรวจสอบเมื่อหลายวันก่อน ทั้งหมดล้วนอยู่ในนี้แล้วขอรับ”
สีหน้าที่ปรากฏบนใบหน้าคมคายของกู้โม่หานไม่เปลี่ยนแปลง เขารับเอกสารจากมือของพ่อบ้านกาวมาพลิกเปิดดู
ข้อมูลในนั้น เป็นบันทึกรายละเอียดชีวิตในอดีตของหนานหว่านเยียน ไม่ว่าจะเป็นความสัมพันธ์เครือญาติภายในจวนเฉิงเซี่ยง รวมถึงภูมิหลัง
แต่ยังขาดไปอีกสองจุดสำคัญ
จุดแรกคือเมื่อตอนที่หนานหว่านเยียนยังเด็ก กู้โม่หานกวาดสายตาอ่านดูอย่างระมัดระวัง บังเอิญเป็นช่วงปีไม่ก่อนก็หลังจากที่เขาตกน้ำ
ส่วนอีกจุดหนึ่งคือ ในวันที่หนานหว่านเยียนอายุครบวัยปักปิ่น นางหายตัวไปหนึ่งวัน
หนานหว่านเยียนถึงกับเคยหายตัวไปด้วยอย่างนั้นรึ ? เขาไม่เคยได้ยินหนานหว่านเยียนพูดถึงเรื่องนี้มาก่อนเลย…..
เขาหรี่ตาลงจนแคบ นัยน์ตาดำขลับทะมึนฉายแววความคิดอันลึกล้ำยากจะคาดเดาบางอย่าง
แต่ยังไม่ทันที่เขาจะได้คิดหาคำตอบ เชี่ยนปี้ก็วิ่งเข้ามาด้วยท่าทางตื่นตระหนกจนขวัญหนีดีฝ่อ “ท่านอ๋อง! พระชายารองนาง —— ตกน้ำแล้วเจ้าค่ะ!”