ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ - บทที่ 20 บังอาจ วันนี้ข้าจะฆ่าเจ้าซะ
ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ บทที่ 20 บังอาจ วันนี้ข้าจะฆ่าเจ้าซะ
นางพลันชะงัก “ช่างเถิด ข้าไม่พูดดีกว่า”
ชื่อของผู้ชายสารเลวนี้ไม่คู่ควรให้เธอเอ่ยถึง
เสิ่นอี่ว์ร้อนใจมาก “พระชายา ท่านบอกเถิด!”
ผู้ชายนอกห้องที่แอบฟังอยู่กุมหัวใจแน่น หนานหว่านเยียนกลับเพียงหันไปยิ้มบางให้กับเสิ่นอี่ว์ และเปลี่ยนหัวเรื่องคุยว่า “ไม่มีอะไรต้องพูดดอก ข้าว่านี่ก็ดึกมากแล้ว เจ้ารีบเข้านอนเถอะ พรุ่งนี้ข้ากับท่านอ๋องเจ้าต้องเข้าวังอีก ข้ากลับไปก่อนนะ”
เธอไม่มีทางบอกคนพวกนี้ถึงชาติกำเนิดของเกี๊ยวน้อยและเจ้าก้อนแป้งหรอก ชายหญิงในราชวงศ์มีคนไหนไม่เป็นเครื่องเสียสละทางการเมืองบ้าง?
โดยเฉพาะผู้หญิง
ยังไงซะไม่ช้าก็เร็วเธอต้องแยกทางกับกู้โม่หานอยู่แล้ว ตอนนี้ในจวนอ๋องนี้ เพิ่มมาเรื่องหนึ่งไม่สู้น้อยไปเรื่องหนึ่ง
เสิ่นอี่ว์เห็นหนานหว่านเยียนไม่อยากพูด เขาร้อนใจนัก แต่เห็นนางหมุนตัวผลักประตูออกไป
ต่อให้เขาจะสงสัยแค่ไหน ก็จำต้องยอมแค่นี้
นางยังคงระแวงเขาอยู่ ต่อไปค่อยหาโอกาสถามอีกก็แล้วกัน
หนานว่านเยียพึ่งปิดประตู คอเสื้อกลับโดนมือใหญ่คว้ามั่น จับเหอี่ว์ยงอย่างแรง
“อ๊า!” หนานหว่านเยียนร้องกรี๊ดอย่างไม่ทันตั้งตัว ระหว่างทางเธอโดนลากไปยังมุมของเรือน
“หนานหว่านเยียน เจ้าตอบข้ามาตามตรงซะ เด็กเป็นลูกของใครกันแน่?”
หนานหว่านเยียนยังไม่ทันได้สติ ก็ได้ยินเสียงตะคอกดังของผู้ชาย พอเงยหน้าขึ้นมา ก็เห็นดวงตาที่เหมือนสุมไฟโกรธของกู้โม่หานทันที
ตอนนี้กู้โม่หานสีหน้าบูดบึ้ง บีบคั้นหนานหว่านเยียนเข้ามุม มือหนึ่งขวางด้านข้างนาง เค้นถามจากผู้ที่อยู่สูงกว่า
เขาร้อนใจ อยากรู้ชาติกำเนิดของเด็กน้อยสองคนอย่างที่สุด
“ถ้าเด็กหญิงสองคนนั้นเป็นลูกของข้า ข้าสามารถยกโทษให้กับทุกการกระทำของเจ้าโดยเห็นแก่หน้าพวกนาง!”
หนานหว่านเยียนใจกระตุก อ๋องสารเลวนี่กล้ามาแอบฟังเธอพูดกับเสิ่นอี่ว์!
ผู้ชายที่ใช้ความรุนแรงกับครอบครัวอย่างเขาอีกไม่กี่วันก็จะแต่งเมียน้อยแล้ว เธอไม่จำเป็นต้องตอแยเขา โดยการบอกว่าพวกเด็กๆเป็นลูกของเขา
และลูกๆอยู่กับเธอก็ดีนี่นา มีเนื้อกิน มีหมาให้เล่นด้วย สามทรรศนะยังดี ถ้าพวกเด็กๆตกไปอยู่ในมือเขา เขาก็รักใคร่ผู้หญิงเสแสร้งอย่างหยุนอี่ว์โหรวนั่นอีก ลูกของเธอยังไม่รู้จะโดนพวกเขาทำร้ายจนเป็นอย่างไงเนี่ย
ไม่ได้ เธอไม่มีทางยอมให้เขาสงสัยอะไรเด็กสองคนเด็ดขาด!
หนานหว่านเยียนแอบกัดฟันกรอด แต่พูดด้วยรอยยิ้มว่า “ทำไมท่านอ๋องถึงคิดว่าเด็กๆเป็นลูกของท่านล่ะ? ข้าไม่เคยพูดอย่างนี้เลยนะ”
คำพูดนี้ของหนานหว่านเยียนถือว่ายอมรับว่าคบชู้แล้วใช่ไหม!
กู้โม่หานเดือดจัดทันที สองตาแดงก่ำถลึงตาใส่ใบหน้ายิ้มแย้มของนาง ฝ่ามือใหญ่คว้าหมับจับเข้าที่คอระหงของเธออย่างแน่นหนา
“หนาน ว่าน เยียน! เจ้ามันนังแพศยาที่ไม่รู้ยางอาย!”
ลมหายใจของหนานหว่านเยียนขาดห้วงไปทันที ความทุกข์ทรมานของการใกล้จะขาดใจ เธอยกมือขึ้นหวังแกะมือกู้โม่หานออก แต่กลับพบว่ามันไม่มีประโยชน์เลย
ภายใต้ความรีบร้อน เธอหยิบเข็มเงินเล่มหนึ่งออกจากห้วงเวลา และแทงไปที่จุดลมปนาณง่ามมือบนมือกู้โม่หานอย่างแรง
“ซี๊ด!” ฝ่ามือของเขาเจ็บอย่างไม่ทันตั้งตัวขึ้นมา และปล่อยนางออกโดยพลัน
หนานหว่านเยียนอาศัยจังหวะนั้นถอยหลังไปหลายก้าว หอบหายใจรัวเร็ว ถลึงตาใส่ใบหน้าที่ขมวดมุ่นของเขา
สองตาแดงก่ำของกู้โม่หานจ้องมองหนานหว่านเยียนเขม็ง ตะคอกเสียงต่ำว่า “หนานหว่านเยียน เจ้าบังอาจนัก! วันนี้ข้าจะฆ่าเจ้าซะ!”
สตรีผู้นี้เปลี่ยนเป็นเหิมเกริมเพียงนี้ ทำให้เขาเห็นทีไรก็เดือดเลือดพล่าน และบ้าคลั่งอย่างคุมตัวเองไม่อยู่
ถ้าบอกว่าเขารังเกียจหนานหว่านเยียนเมื่อห้าปีก่อนมากนัก เช่นนั้นบัดนี้นางทำให้เขากลายเป็นบ้าคลั่ง!
ไอสังหารแผ่ซ่านเต็มร่างกู้โม่หาน หนานหว่านเยียนไม่กลัวเลยสักนิด กระทั่งยังยิ้มหยันใส่
“กู้โม่หาน เจ้าคิดว่าเจ้าเก่งกาจมากหรือไง! อ๋องอี้แห่งราชวงศ์ซีเย่ ในเมื่อไม่ไปปกป้องบ้านเมืองในสนามรบ ก็ไม่ทำเรื่องคน กระทั่งไม่กล้าสู้กับอ๋องเฉิงที่กดขี่เจ้า แต่กลับอยากเป็นผู้ชายที่ใช้ความรุนแรงกับครอบครัว! เจ้าช่างเก่งกาจเสียจริงนะ!”
“อ๋องเฉิง”ที่นางพูดถึง คืออ๋องสามแห่งราชวงศ์ซีเย่ตอนนี้—กู้โม่เฟิง พี่ชายคนละแม่กับกู้โม่หาน
และพระชายาของกู้โม่เฟิงคือพี่สาวคนละแม่ของร่างเดิม
กู้โม่หานได้ยินอย่างนั้น ใบหน้าหล่อเหลายิ่งโกรธจนเขียวปั๊ด!
เขาสะบัดมืออย่างแรง “เรื่องของข้า เจ้าไม่ต้องยุ่ง! สตรีแพศยาที่ต่ำช้า คบชู้สู่ชายเช่นเจ้า ข้าจะลงโทษเจ้าอย่างหนักแล้วเป็นไร?!”
หนานหว่านเยียนยังไม่ได้ตอบ ก็ได้ยินเสียงพ่อบ้านกาวร้องขึ้นว่า “ท่านอ๋อง ข้าหาท่านเจอจนได้!”
หนานหว่านเยียนสบตากับกู้โม่หาน ประกายไฟในนั้นโชติช่วงนัก แต่ไม่มีใครพูดอะไร
พ่อบ้านกาววิ่งหอบเข้ามาหาพวกเขา เมื่อครู่เขาตามหาไปทั่วเรือนซีเฟิง แต่ไม่เจอแม้แต่เงาของกู้โม่หาน ถึงได้อ้อมมาเรือนข้าง อยากจะมาดูว่ากู้โม่หานมาเยี่ยมเสิ่นอี่ว์หรือไม่
กู้โม่หานขมวดคิ้วพูดเสียงเย็นที่ฟังไม่ออกว่าโกรธหรือยินดี “มีเรื่องอะไรลุกลนปานนี้?”
“กราบทูลท่านอ๋อง คือ มีข่าวเรื่องนักฆ่าที่ทำร้ายองครักษ์เสิ่นแล้ว!”