ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ - บทที่ 3 นางให้กำเนิดลูกสาวสองคน
ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ บทที่ 3 นางให้กำเนิดลูกสาวสองคน
กู้โม่หานหิ้วเด็กน้อยเข้ามา ยิ่งเดินยิ่งรู้สึกผิดสังเกต นี่ไม่ใช่เรือนเย็นที่ขังนักโทษหญิงตระกูลหนานไว้รึ!
หน้าประตูเรือนเย็นยังปลูกผักเขียวขจีไว้เป็นแถวๆ ใครอนุญาตกัน?!
ในตอนที่เขากำลังไม่พอใจอยู่นั้น ก็ได้ยินเสียงคุ้นเคย เป็นเสียงของนังแพศยาหนานหว่านเยียนคนนั้น!
เขาเหลือบตาขึ้นมอง คิดว่าจะได้เห็นหนานหว่านเยียนที่อัปลักษณ์เป็นที่สุด ใครจะคิดกลับได้เห็นสตรีใบหน้างดงามในชุดสาวใช้คนหนึ่ง
นางงดงามยิ่งนัก ผมยาวพริ้วเพียงรวบไว้อย่างง่ายๆ ยังดูมีเสน่ห์ขนาดนั้น
“หนานหว่านเยียน?” กู้โม่หานเหม่อลอยไปชั่วขณะ เห็นนางเข้ามาก็จะแย่งตัวเด็กไป เขาเบี่ยงตัวหลบทันที อุ้มเด็กสองคนแน่นขึ้นอีก
หนานหว่านเยียนยิ่งเดือดจัด “กู้โม่หาน ปล่อยเด็กนะ!”
เกี๊ยวน้อยกับซาลาเปาก็ดิ้นรนขัดขืนไม่หยุด “ปล่อยพวกเรานะ พวกเราจะหาท่านแม่!
ท่านแม่?!
กู้โม่หานทั้งตกใจทั้งโกรธ ไม่อยากจะเชื่อหูตัวเองเลยว่า “หนานหว่านเยียนเป็นแม่ของพวกเจ้า?!”
หนานหว่านเยียนเลวทรามต่ำช้า ห้าปีก่อนใช้เล่ห์เหลี่ยมเพทุบาย ทำให้เขาต้องเสียโหรวเอ๋อร์ไป และพ่อของนางก็เป็นคนทำให้เสด็จแม่ต้องกลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา!
หลายปีมานี้ทุกครั้งที่เขานึกถึงเรื่องพวกนี้ ก็จะรู้สึกว่าในหัวใจมีหนามแหลมทิ่มแทง จนเขาไม่อาจหายใจได้!
แต่พอหันมาดูหนานหว่านเยียน ไม่เพียงพรวนดินปลูกผัก ใช้ชีวิตอย่างมีรสมีชาติ ขนาดจุดด่างดำบนหน้ายังหายไป กลายเป็นสตรีงดงามเลิศเลอ!
กระทั่ง—
“หนานหว่านเยียน เจ้ามันเป็นสตรีไร้ยางอาย ไม่รักนวลสงวนตัว เสียพรหมจรรย์ก่อนแต่งงานไม่พอ ยังไม่รู้จักแก้ไขตนเอง! เจ้าบอกมาสิ ห้าปีมานี้เจ้าขึ้นเตียงกับบุรุษมากแค่ไหน ถึงได้ให้กำเนิดเด็กสองคนนี้มา!
ห้าปีก่อนเขามอบยาคุมให้นาง หนานหว่านเยียนไม่มีทางให้กำเนิดลูกของเขา!
“ประสาท!” หนานหว่านเยียนโกรธจัด “ผู้ชายสารเลว เจ้าด่าใครน่ะ!”
เธอยังนึกว่าเขาจะมาหาเรื่องที่เธอพาลูกๆหนี ไม่คิดว่าอ้าปากมาก็ด่าว่าเธอมีชู้เลย?!
เสิ่นอี่ว์ที่ได้สติคืนมาสูดลมหายใจสะท้านเยือก
สตรีที่งดงามดุจเทพธิดาผู้นี้ก็คือพระชายาที่อัปลักษณ์โดนผู้คนรังเกียจเมื่อตอนนั้น และนางไม่หลงใหลท่านอ๋องอีก ไม่เพียงกล้าด่าท่านอ๋องว่า “ชายสารเลว” ยังลักลอบคบชู้และคลอดลูกออกมาสองคน?!
กู้โม่หานเองก็ไม่คิดเลยว่า หนานหว่านเยียนคนนั้นที่เอาแต่สงบเสงี่ยมมองสีหน้าเขา ตอนนี้กล้าด่าเขา!
เขาโกรธจัดทันที ยิ้มเย็นว่า “ข้าด่าเจ้าน่ะแหละ หนานหว่านเยียน เจ้าคงไม่กลัวว่าพ่อเด็กเป็นใครล่ะสิ หญิงแพศยามากชู้หลายผัวอย่างนี้ ทำไมเจ้ายังไม่ไปตายอีก!”
ตอนนี้เอง เกี๊ยวน้อยดิ้นรนจากการหิ้วของเขา หล่นลงพื้น และกอดขาเขาพลางกัดเต็มคำ
และเจ้าก้อนแป้งที่เขาอุ้มอยู่ ยิ่งปัดมือเล็กอ้วนตุ๊ของนางเข้าไปที่หน้ากู้โม่หานเต็มแรง!
สองสาวพี่น้องพูดพร้อมกันว่า “คนเลว! ห้ามรังแกท่านแม่!”
หนานหว่านเยียนยิ่งเดือดจัด ไอ้เลวบ้าอะไรตาบอดถึงขั้นนี้ แม้แต่ลูกสาวแท้ๆของตนยังดูไม่ออก! และยังให้เธอไปตายต่อหน้าลูกอีก?!
“ไอ้เลว!” เธอพลิกมือจับกระทะอันหนึ่งที่ไม่รู้ว่ามาจากไหน และฟาดไปที่หัวกู้โม่หานเต็มแรง
ได้ยินแค่เสียง “แกร๊ง” กู้โม่หานยังไม่ทันรู้ตัวก็โดนตีจนเห็นดาว ตัวเอนโซเซ
หนานหว่านเยียนอาศัยจังหวะเข้าอุ้มซาลาเปา เกี๊ยวน้อยที่เดิมทีกัดขากู้โม่หานอยู่ปล่อยปากออกและวิ่งกลับมายืนข้างกายเธอ
จากนั้นหนานหว่านเยียนก็ควักปืนฉีดน้ำสองอันออกมาจากด้านหลัง ยื่นให้สองสาวพี่น้องคนละอัน
หนานหว่านเยียนพยักหน้าทันที สองสาวพี่น้องยืนประกบซ้ายขวา ถือปืนฉีดน้ำยิงไปที่ดวงตากู้โม่หาน
เสิ่นอี่ว์ยืนมองอึ้งนานแล้ว ไม่รู้สึกถึงสภาพน่าอนาถของท่านอ๋องตนตอนนี้เลย และลืมเรื่องเข้าไปช่วยทิ้งไปแล้ว
เขาเห็นแค่พระชายาที่เคยขี้ขลาด ไม่รู้เอาของแปลกประหลาดมาจากไหน ของที่เรียบและกลมเหมือนเหล็ก และยังหาของที่ยากจะบรรยายได้ให้เด็กหญิงสองคนคนละอันด้วย
แต่ต้องยอมรับจริงๆ ท่าทางในการทะเลาะวิวาทของเด็กหญิงสองคนนี้ไม่ด้อยไปกว่าท่านอ๋องตอนเด็กที่แย่งขนมกับเด็กคนอื่นเลย
เผ็ดแสบพอตัว!
บวกกับอาวุธในมือพระชายา สตรีสามนางทำท่านอ๋องที่มีฉายาว่าเทพสงครามจนเงยหน้าไม่ขึ้น?
เสิ่นอี่ว์สะท้านเยือก ถอยหลังไปครึ่งก้าวอย่างหวาดหวั่น “ท่านอ๋อง ไม่ใช่ข้าไม่ช่วยท่าน แต่ท่าทีนี้อาวุธนี้ข้าไม่เคยเห็นมาก่อนจริงๆ จะเข้าไปแทรก ข้าเองก็แทรกไม่ได้น่ะ”
ซาลาเปาหยิบปืนฉีดน้ำยิงใส่หน้ากู้โม่หานพร้อมกับเกี๊ยวน้อย ทั้งสองคนเข้าขากันดีมาก แต่ละคนเล็งตาคนละข้าง มือที่ขยับเหนี่ยวไกก็ไม่หยุดเลย
สองสาวพี่น้องสีหน้าราวกับเจอศัตรูคู่อาฆาต “คนที่รังแกท่านแม่ล้วนเป็นคนเลว! เจ้าคนเลว! พวกเราจะเอาเจ้าให้ตาย! ดูสิว่าต่อไปยังกล้ารังแกท่านแม่อีกหรือไม่!”
พูดจบ เกี๊ยวน้อยยังทำหน้าผีหลอกใส่กู้โม่หาน
ใบหน้าน้อยนั่น หากเป็นยามปกติ ใครเห็นก็ต้องรู้สึกว่าเด็กน้อยเฉลียวฉลาดซุกซนน่ารักน่าชัง แต่กู้โม่หานในเวลานี้ไม่มีแก่ใจจะไปสนใจเรื่องพวกนี้
หนานหว่านเยียนกลับยกกระทะในมือเธอขึ้น ฟาดลงไปที่หัวกู้โม่หานเต็มแรง “ห้าปีก่อนตอนเจ้าลบหลู่ข้าอย่างนั้น เจ้าควรจะรู้ว่าต้องมีวันนี้! ผู้ชายสารเลว!”
จากนั้นหนานหว่านเยียนก็จิ้มหัวไหล่กู้โม่หานไม่หยุด ยังไม่ลืมสั่งสองเด็กน้อย “ซาลาเปา เกี๊ยวน้อย อัดมันให้ตายเลย! ยิงตามันเลย! ใช่! อย่างนี้แหละ!”
กู้โม่หานทนไม่ไหวอีกต่อไป เขาพอคุ้นชินกับการโจมตีของหนานหว่านเยียนแล้ว เลยหาจังหวะคว้าหมับจับกระทะที่หนานหว่านเยียนยกขึ้น ตะคอกเสียงต่ำว่า “หนานหว่านเยียน! บังอาจนัก! ข้ายังไม่ได้กล่าวโทษเจ้าที่คบชู้ ลอบคลอดลูกชู้ เจ้ากลับร่วมมือกับเด็กสองคนมาทำร้ายข้า มีโทษสมควรตายนัก!”
เขาไม่ใช่ว่าสู้ตอบไม่ได้ แต่ไม่รู้ทำไม เขาไม่อยากทำร้ายเด็กสองคนนี้
พอเห็นสองสาวพี่น้องฝาแฝดจิกตามองเขาด้วยความโกรธ กู้โม่หานรู้สึกอึดอัดใจมาก
พอได้ยินอย่างนั้น หนานหว่านเยียนเหมือนโดนเติมน้ำมันลงในกองเพลิง “กู้โม่หาน ไปตายซะเถอะ!”
พูดจบ เธอยกมือขึ้น สลัดกู้โม่หานจนหลุด ไม่มีรีรอชักช้าเลยสักนิด พกแรงเต็มสิบฟาดลงไปที่กู้โม่หาน
เสียงดังสนั่น หนานหว่านเยียนครั้งนี้ทำเอากู้โม่หานสะท้านจนหูอื้ออึง ทั้งตัวโอนเอน เกือบจะล้มลงไปแล้ว
ในที่สุดเสิ่นอี่ว์ก็เตรียมใจพร้อม พรวดเข้ามาคว้าสองมือของหนานหว่านเยียนเอาไว้
หนานหว่านเยียนกลับไม่สนใจ เธอหันไปส่งสายตาให้เด็กๆ “หนานจือ ปิดประตู หนานเสี่ยวปล่อยเผ็ดไม่เผ็ดออกมา!”
สองสาวพี่น้องเผ็ดแสบพอกัน เห็นแค่หนานจือวิ่งไปปิดประตูเรือนเล็กอย่างคล่องแคล่ว และยังลั่นดาลล็อกเอาไว้ด้วย ส่วนหนานเสี่ยววิ่งไปในเรือน เปิดประตูเล็กประตูหนึ่ง
หมาตัวใหญ่สองตัววิ่งพรวดออกมาจากในเรือน ตะโกนเห่าเสียงดังใส่เสิ่นอี่ว์ ตัวหนึ่งในนั้นที่ขาสั้นยังแยกเขี้ยว ทำท่าจะเข้ามากัดเขา
เสิ่นอี่ว์ตกใจจนหน้าซีด ปล่อยมือที่คว้าจับสองมือหนานหว่านเยียนไว้ทันที และหลบไปอย่างรวดเร็ว
กู้โม่หานตอนนี้ยังมึนๆงงๆ เห็นหมาทั้งอ้วนทั้งกลมตัวหนึ่งแยกเขี้ยวพุ่งเข้าหาตน เขาสะบัดหัวไล่ความมึน ถึงเห็นชัดว่าเป็นหมาที่ท่าทางดุร้ายตัวหนึ่ง
กู้โม่หานไม่มีเวลามาครุ่นคิด เขาโดนบีบให้ลุกขึ้นหนีจากเรือนเย็น เสิ่นอี่ว์ตามไปติดๆ นายบ่าวสองคนวิ่งหนีล้มลุกคลุกคลานออกจากเรือนเซียงหลิน และยังได้ยินเสียงหมาเห่าไล่หลังไม่หยุด รวมถึงเสียงเกี๊ยวน้อยที่แหกปากร้องไม่หยุดว่า “คนชั่ว! ดูสิเจ้าจะกล้ารังแกท่านแม่อีกหรือไม่! ถ้าเจ้ากล้ามาอีก มาหนึ่งครั้งข้าก็จะยิงเจ้าหนึ่งครั้ง! ฮึ!”
ซาลาเปาก็ตะโกนไล่หลังมาว่า “คนเลว! ถ้าเจ้ามาอีก ข้าจะปล่อยเผ็ดไม่เผ็ดกัดก้นเจ้า! ฮึ!”
ผ่านเหตุการณ์เมื่อครู่มา พวกนางสองคนเกลียดกู้โม่หานนัก ผู้ชายที่รังแกท่านแม่ล้วนเป็นคนเลว!
หนานหว่านเยียนค่อยผ่อนลมหายใจ ยื่นมือโอบกอดลูกสาวสองคนของเธอ จูบขมับพวกนางอย่างรักใคร่
ลูกสาวทั้งสองคนนี่ช่างเข้าใจตนดีจริงๆ!
ซาลาเปามองหนานหว่านเยียนพลางว่า “ท่านแม่ พวกเรายังจะหนีไปได้หรือไม่?”
เกิดการเคลื่อนไหวใหญ่ขนาดนั้น ดูท่าคงไปไม่ได้แล้ว
แต่หนานหว่านเยียนกลับหวีดนิ้วปิ้ว เรียกหมากลับมา
เธอจูงเด็กสองคน เก็บห่อผ้าที่ไม่รู้ว่าหล่นพื้นไปตั้งแต่เมื่อไหร่ ปีนกำแพงวิ่งทันที….