ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ - บทที่ 45 ไม่ต้องกลัว มีข้าอยู่
ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ บทที่ 45 ไม่ต้องกลัว มีข้าอยู่
ในห้องโถงด้านหน้าของจวนอ๋องอี้ เต็มไปด้วยความครึกครื้นไม่ธรรมดา
ในจวนอ๋องประดับประดาไปด้วยผ้าไหมสีแดง ลูกบอลแพรปักสีแดง ถึงแม้จะจัดเตรียมอย่างเร่งรีบ แต่สิ่งที่งานแต่งงานควรมี กู้โม่หานล้วนจัดเตรียมเอาไว้ทุกอย่างแล้ว
เพื่อหยุนอี่ว์โหรวแล้ว เขาถึงขั้นเชิญบุคคลที่มีหน้ามีตามากกว่าครึ่งในแคว้นซีเย่ ให้เกียรติหยุนอี่ว์โหรวเต็มที่อย่างไม่ต้องสงสัย
จะไม่ปฏิบัติต่อไม่ดีนางอย่างเด็ดขาด
เวลานี้ ขบวนรับเจ้าสาวก็มาถึงแล้ว
กู้โม่หานมองเห็นรูปร่างที่งดงาม เดินมาอย่างสง่างามจากระยะไกล
ทันใดนั้นบนใบหน้าที่เย็นยะเยือกราวกับเกล็ดหิมะของเขาจู่ๆก็ละลายราวกับพบสายลมแห่งฤดูใบไม้ผลิ รอยยิ้มอบอุ่น
ชายหนุ่มก้าวเท้าเดินเข้าไปอย่างรวดเร็ว เห็นหยุนอี่ว์โหรวยิ้มให้เขาอย่างอ่อนโยน ความสุขในแววตาทำให้กู้โม่หานจิตใจหวั่นไหว
“โหรวเอ๋อร์ ลำบากเจ้าแล้ว”
เขารู้ว่า เพราะข้อจำกัดในเรื่องเวลา จวนแม่ทัพจัดเตรียมขบวนส่งเจ้าสาวไม่ทัน ที่ หยุนเจิ้นซงบอกว่าจะมาส่งด้วยตัวเอง ก็ย่อมกลายเป็นคำพูดที่เลื่อนลอยเช่นกัน
เวลานี้ ข้างกายของหยุนอี่ว์โหรวมีเพียงคนรับใช้สองสามคนติดตามอยู่ ล้วนยืนกันอย่างเคารพนบนอบ
หยุนอี่ว์โหรวกล่าวด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยน: “ท่านอ๋องอย่าพูดเช่นนี้ โหรวเอ๋อร์ไม่ลำบาก โหรวเอ๋อร์ได้รับความรักของท่านอ๋อง ก็มีความสุขมากแล้ว”
ชุดแต่งงานที่อยู่บนตัวของหยุนอี่ว์โหรว คือชุดที่กู้โม่หานซื้อแล้วก็ส่งมาให้นางในความเรีงรีบ
ถึงแม้ในใจจะรู้สึกไม่เต็มใจ แต่ในที่สุดนางก็ได้แต่งงานกับกู้โม่หานแล้ว!
นางตั้งหน้าตั้งตารอวันนี้มาห้าปีแล้ว ความตื่นเต้นและภาคภูมิใจที่อยู่ในใจชนะทุกสิ่งทุกอย่างแล้ว!
กู้โม่หานจูงมือของหยุนอี่ว์โหรว ทั้งสองเดินเข้าไปในประตูใหญ่ของจวนอ๋องทีละก้าว
บรรดาแขกเหรื่อมองดูคู่แต่งงานคู่นี้ บนใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่มีความสุข
“รูปลักษณ์ของพระชายาไม่ธรรมดาจริงๆ ยืนคู่กับอ๋องอี้ของเราแล้วเป็นคู่ที่สวรรค์สรรค์สร้างชัดๆเลย!”
“อ๋องอี้กับพระชายาล้วนมั่นคงในความรัก รอมาห้าปีในที่สุดก็สมหวังเสียที ยินดีด้วย ยินดีด้วย!”
“ท่านอ๋อง ท่านอย่าละลายพระชายาไปล่ะ หาเวลา เพิ่มลูกหลานให้กับแคว้นซีเย่สักคนสองคน นั่นถึงจะสมบูรณ์ที่สุด!”
ในดวงตาของหยุนอี่ว์โหรวมีประกายความได้ใจที่ยากจะสังเกตเห็นแวบผ่านไป วันนี้ทุกคนต่างก็เรียกนางว่า “พระชายา” เห็นได้ชัดว่ายอมรับฐานะของนางในจวนอ๋องอี้แล้ว
หนานหว่านเยียนนั่นถือเป็นตัวอะไร คู่ควรจะมาแย่งชิงกับนางด้วยหรือ? ถึงแม้วันนี้งานแต่งงานจะจัดเตรียมไม่พร้อมแล้วอย่างไร นางก็แต่งเข้าจวนอ๋องอย่างมีหน้ามีตา กดขี่หนานหว่านเยียนไปอย่างสิ้นเชิงไม่ใช่หรือ?
หยุนอี่ว์โหรวคิดเอาไว้เช่นนี้ บนใบหน้ากลับเอียงอาย จับมือของกู้โม่หานเอาไว้แน่น “อี่ว์โหรวขอขอบคุณทุกท่าน การได้แต่งงานกับท่านอ๋องในวันนี้ ก็เป็นวาสนาที่ใหญ่ที่สุดในชีวิตของอี่ว์โหรวเช่นกัน”
กู้โม่หานมองดูหยุนอี่ว์โหรว หน้าตาเต็มไปด้วยความอ่อนโยน “ได้แต่งงานกับโหรวเอ๋อร์ คือวาสนาของข้าต่างหาก ในวันมงคลสมรส ทุกคนไม่ต้องมากพิธี หากมีตรงไหนที่จวนอ๋องอี้ดูแลไม่ทั่วถึง วันหน้าข้าค่อยจัดงานเลี้ยงเชิญทุกท่านอีกครั้ง!”
ทุกคนต่างก็พากันพยักหน้า ในใจทอดถอนใจว่าความรักที่กู้โม่หานมีต่อหยุนอี่ว์โหรวคือความลำเอียงอย่างชัดเจนจริงๆ ถึงแม้เรื่องการแต่งงานจะถูกคนทำให้ล่าช้า แต่กลับเอาอกเอาใจนางอย่างเต็มความสามารถ
ทันใดนั้น พ่อบ้านกาวก็ตะโกนมาทางห้องโถงด้านหน้า : “หลี่มามามาถึงแล้ว——”
สีหน้าของหยุนอี่ว์โหรวเปลี่ยนไปในทันที จู่ๆในใจก็กระวนกระวายขึ้นมา จับมือของเขาแน่นด้วยความประหม่าเล็กน้อย
เวลานี้ หลี่มามาจะมาทำไมกัน? !
กู้โม่หานปลอบประโลม: “ไม่ต้องกลัว มีข้าอยู่ ไม่มีใครทำร้ายเจ้าได้!”
หยุนอี่ว์โหรวเงยหน้าขึ้นมา พยักหน้าอย่างว่าง่าย
หลี่มามาเดินเข้ามาก็คำนับไปทางกู้โม่หาน หลังจากที่นางมองสำรวจห้องโถงด้านหน้าหนึ่งรอบแล้ว ก็กล่าวขึ้นมาด้วยสีหน้าจริงจัง: “ท่านอ๋อง ทำไมไม่เห็นพระชายา?”
กู้โม่หานเสียงเย็นชา: “ข้าแต่งงาน เกี่ยวอะไรกับนางด้วย?”
หลี่มามากลับหัวเราะเสียงเบา “ท่านอ๋อง นับตั้งแต่โบราณ หากพระชายารองไม่ได้ยกน้ำชาแก่นายหญิงผู้ครองเรือน ถึงแม้ว่าจะทำพิธีใหญ่ไปแล้ว ก็จะไม่ถูกยอมรับ ท่านไม่รู้หรอกหรือ?”
บรรดาแขกเหรื่อได้ยินคำพูดต่างก็พึมพำกันเป็นส่วนตัวเช่นกัน หนานหว่านเยียนในฐานะที่เป็นนายหญิงผู้ครองเรือนของจวนอ๋องอี้ ไม่ปรากฏตัวในเวลานี้ ไม่ค่อยเหมาะสมจริงๆ
แต่เมื่อนึกถึงผู้หญิงที่มีชื่อเสียงฉาวโฉ่คนนั้น ทุกคนก็ไม่ค่อยเห็นเป็นเรื่องอะไรเช่นกัน
ถึงอย่างไรสุดท้าย หยุนอี่ว์โหรวต่างหากที่จะเป็นคนที่ได้รับความโปรดปรานและมีอำนาจที่แท้จริงในจวนอ๋องอี้
แต่กู้โม่หานรู้ว่า หลี่มามาก็แค่คนที่ไทเฮาส่งมาสอดแนมเขาเท่านั้น วันนี้หากไม่ทำตามที่หลี่มามาสั่งการ การแต่งงานในครั้งนี้ไม่รู้ว่าจะเกิดความผิดพลาดอะไรขึ้นมา!
กู้โม่หานนึกถึงหน้าตาที่ได้ใจนั่นของหนานหว่านเยียน ในใจก็ไม่พอใจขึ้นมา แต่ก็ยังกล่าวต่อพ่อบ้านกาวด้วยเสียงทุ้มต่ำ “ไปเรียกหนานหว่านเยียนมา!”
ได้ยินคำพูด หยุนอี่ว์โหรวแอบกัดฟันเงียบๆ รู้สึกโกรธในใจ
……
ในเรือนเซียงหลิน
หนานหว่านเยียนอธิบายเรื่องการทำเสื้อผ้าให้กับเซียงอี่ว์เสร็จ เจ้าตัวเล็กสองคนก็กลับมาแล้ว แม่ลูกสามคนกำลังนั่งคุยสัพเพเหระกันอยู่หน้าโต๊ะ
พ่อบ้านกาวมาหาหนานหว่านเยียน เห็นข้างกายของนางมีเด็กน้อยสองคนก็ไม่ได้พูดอะไรมาก: “พระชายา ท่านอ๋องเชิญท่านออกไป”
หนานหว่านเยียนไม่ได้รู้สึกแปลกใจเลย นางยิ้มอย่างสดใส หยิกแก้มของนังหนูน้อยสองคนหนึ่งที “แม่จะออกไปทำการใหญ่ ส่วนพวกเจ้า ก็อยู่ที่นี่ดีๆ เฝ้าเรือนเซียงหลินกับเผ็ดไม่เผ็ดให้ดี รอแม่กลับมาแล้ว จะทำอาหารมื้อใหญ่ให้พวกเจ้า!”
ซาลาเปาสับสนมึนงง เกี๊ยวน้อยปฏิกิริยาเร็วกว่าก้าวหนึ่ง ตบไปที่หน้าอกเล็กของตัวเองอย่างน่าเชื่อถือ “ท่านแม่วางใจได้! ข้ากับซาลาเปาจะดูแลบ้านเป็นอย่างดีแน่นอน!”
พูดจบ นางก็รีบขยิบตาให้กับซาลาเปา
ซาลาเปาเข้าใจทันที กล่าวขึ้นมาอย่างเอาจริงเอาจัง: “อืมๆ! ข้าจะดูแลพี่สาวให้ดีเอง!”
หนานหว่านเยียนคลึงใบหน้าเล็กของพวกนาง จากนั้นก็ลุกขึ้นมา มองไปทางพ่อบ้านกาวที่ยืนอยู่ตรงหน้าประตู
“ไปกันเถอะ”
ยังไม่รอให้พ่อบ้านกาวเอ่ยปาก หนานหว่านเยียนก็เดินไปอยู่ข้างหน้าอย่างกระฉับกระเฉงแล้ว ราวกับรู้ความเป็นไปของเหตุการณ์แล้ว
พ่อบ้านกาวสงสัยในใจ นี่ เขายังไม่ได้พูดอะไรเลย ทำไมถึงรู้สึกว่าท่าทางของพระชายาเหมือนทุกอย่างอยู่ในการควบคุม?
แต่คิดก็ส่วนคิด หนานหว่านเยียนยินยอมให้ความร่วมมือ ไม่ทำให้ท่านอ๋องลำบากใจต่างหากที่เป็นเรื่องสำคัญที่สุด
หนานหว่านเยียนรู้ว่าพ่อบ้านกาวมาทำไมจริงๆ
นางรู้อยู่แล้วว่าหลังจากที่นางทำเรื่องวุ่นวายในงานเลี้ยงในวัง กู้โม่หานจะต้องโกรธมากอย่างแน่นอน กลังจากที่กลับจวนจะกักบริเวณนาง ดังนั้นตอนที่กล่าวลาหลี่มามา นางอาศัยตอนที่กู้โม่หานไม่ทันสังเกต แอบยัดกระดาษข้อความให้กับหลี่มามา ฝากนางไปบอกไทเฮา——
ในตอนที่กู้โม่หานแต่งงาน ต้องมีความเปลี่ยนแปลงแน่นอน ขอเสด็จย่าไทเฮาโปรดออกหน้าแทนหว่านเยียนให้ได้
ถึงได้มีสถานการณ์ในตอนนี้
ริมฝีปากแดงของหนานหว่านเยียนเกี่ยวขึ้นมาเล็กน้อย ชั่วครู่หนึ่งก็มาถึงห้องโถงด้านหน้า
ผ้าไหมสีแดงถูกแขวนไปทั่วทั้งจวนอ๋อง ยังประดับประดาสิ่งของที่ใช้ในการเฉลิมฉลองมากมาย เห็นได้ถึงความใส่ใจ
หนานหว่านเยียนยิ้มเย้ยหยัน นึกถึงบรรยากาศเงียบเหงาน่าสังเวชตอนที่ร่างเดิมแต่งงานเข้าจวนอ๋อง ก็ยิ่งรู้สึกเสียดสี
และเวลานี้ กู้โม่หานที่ถูกบรรดาแขกรายล้อมราวกับดาวล้อมเดือน มีชีวิตชีวาอย่างมาก
เขายังไม่รู้ว่า การมาของหนานหว่านเยียน จะทำให้งานแต่งงานของเขายากที่จะควบคุมเอาไว้ได้……