ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ - บทที่ 57 ข้าต้องเอาคืนจากตัวเจ้าแน่
ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ บทที่ 57 ข้าต้องเอาคืนจากตัวเจ้าแน่
ส่วนนอกเรือน ภายใต้เสื้อผ้าของหนานหว่านเยียนเนื้อหนังแตกแล้ว แต่นางกัดฟันไว้แน่น ก็เพื่อไม่ให้ตัวเองมีเสียงร้องอันเจ็บปวดอะไรออกมา
นางไม่สามารถยอมแพ้ได้ ให้นางร้องออกมาก็แพ้แล้ว นางไม่มีทางให้กู้โม่หานได้ใจ!
จากที่ไกล หนานหว่านเยียนก็มองเห็นกู้โม่หานฝีเท้าเร่งรีบ เดินมาที่นางด้วยสีหน้ามืดครึ้ม
ในที่สุดก็มาหัวเราะเยาะนางแล้วหรือ
เหอะ
หนานหว่านเยียนหัวเราะเย็นชา คิ้วกลับขมวดไว้แน่น “ท่านอ๋อง คืนเข้าห้องหอไม่ไปนัวเนียกับพระชายารองของเจ้า วิ่งมาดูข้าถูกโบย ช่างน่าสนใจนัก!”
กู้โม่หานไม่พูดสักคำ แค่จ้องมองหนานหว่านเยียนถูกโบย สีหน้ายากจะคาดเดา
เขารู้สึกว่าเมื่อครู่เขาต้องเกิดภาพลวงตาแน่นอน หนานหว่านเยียนวันนี้กำเริบเสิบสาน ถึงทำให้สมองของเขาเต็มไปด้วยเงาของหนานหว่านเยียน
ตอนนี้เห็นสภาพอนาถของหนานหว่านเยียน นอกจากความสะใจของเขา ในใจยังมีความรู้สึกประหลาดบางอย่างที่ยากจะสังเกตเห็น
หนานหว่านเยียนเห็นกู้โม่หานไม่ออกเสียง แค่มองดูนางถูกโบย ก็โมโหขึ้นทันที “กู้โม่หาน! เจ้าโรคจิตใช่ไหม! ชอบดูข้าถูกโบย?”
ผู้ชายสารเลว ก็ผู้ชายคนหนึ่งที่ชอบใช้ความรุนแรง เจ้าของร่างเดิมทำไมถึงชอบเขา? หากเป็นนาง ไม่มีทางยอมถูกทำร้ายชอบเขาแน่!
ได้ยินแล้ว กู้โม่หานหัวเราะเย็นชา สิ่งที่ทำให้เขาคิดไม่ถึงคือ หนานหว่านเยียนกลับไม่ร้องออกมาสักคำ ดูถูกความสามารถในความอดทนของนางเกินไป
ในที่สุด องครักษ์สองคนโบยเสร็จสามสิบไม้ ตอนนี้ก็เหงื่อไหลท่วมหลังแล้ว ยืนอยู่ด้านข้างอย่างเคารพ
กู้โม่หานเดินไปข้างหน้าหนึ่งก้าว จับคางของหนานหว่านเยียนไว้แน่นจากที่สูง ภายใต้น้ำเสียงนั้นมีความข่มขู่และโหดเหี้ยมที่ไม่อาจปฏิเสธได้
“หนานหว่านเยียน ทางที่ดีที่สุดเจ้าต้องจำเป็นบทเรียนบ้าง หากกล้ายั่วโมโหข้าอีก ครั้งต่อไป ข้าจะทำให้เจ้าตายทั้งเป็น! อนาถยิ่งขึ้นทุกครั้ง!”
ยังกล้าข่มขู่นาง?!
หนานหว่านเยียนจ้องกู้โม่หานอย่างเย็นชา จากนั้นก็จับนิ้วของกู้โม่หานไว้ กัดเข้าไปอย่างแรง!
“ซี๊ด…….” กู้โม่หานร้องเจ็บ ปล่อยมือออกทันที มองหนานหว่านเยียนที่ไม่ยอมแพ้ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความโกรธ
“เจ้าเป็นหมาบ้าหรือไง มองเห็นข้าก็กัด!”
ในใจขององครักษ์และพ่อบ้านกาวมีคลื่นซัดขึ้นมา ครั้งแล้วครั้งเล่า พวกเขารู้สึกว่าพระชายากล้าหาญอย่างน่าทึ่ง ไม่กลัวตายแม้แต่น้อย!
มองไปทั่วจวนอ๋อง ประมาณการดูแล้วคงมีแค่พระชายาที่กล้าโต้เถียงท่านอ๋องแล้ว!
หนานหว่านเยียนถุยไปคำหนึ่ง พูดอย่างโมโห “ทำไม? หากท่านอ๋องรู้สึกว่าข้าเป็นหมา เช่นนั้นตีหมายังต้องดูเจ้าของ หากเรื่องในวันนี้ข้าฟ้องไทเฮา ท่านอ๋องเดา นางจะคิดอย่างไร?”
ผู้ชายทำเสียงเย็นชา “ข้าโบยก็โบยไปแล้ว เจ้าคิดว่านางจะทำอะไรได้?! หนานหว่านเยียน! ทางที่ดีที่สุดเจ้าให้ข้าสำรวมหน่อย! อย่าลืม สัญญาระหว่างเจ้ากับข้า!”
ขอเพียงภายในครึ่งปีนางไม่ก่อเรื่อง หลังจากครึ่งปีนางก็สามารถเอาหนังสือหย่าร้างไสหัวไปได้!
มิเช่นนั้น ทำไมเขาต้องปล่อยนางไป?!
ความเจ็บปวดตอนนี้ทำให้นางเปียกไปทั้งตัวแล้ว แต่นางยังคงโต้ตอบอย่างโมโห “กู้โม่หาน สัญญาต้องรักษาด้วยกันสองคน ทำไมข้าจะไม่สำรวม เป็นพวกเจ้าที่รังแกคนเกินไป จะให้ข้าคุกเข่ายอมรับผิด! แล้วอีกอย่างกู้โม่หาน
เอาเจ้าตัวน้อยสองคนข่มขู่นาง ยั่วยุถึงจุดขีดสุดของนางแล้ว!
กู้โม่หานเม้มริมฝีปากขึ้นมากะทันหัน เขาคิดอยากเอาเจ้าตัวน้อยสองคนข่มขู่นางจริง แต่คำพูดถึงสุดท้ายก็เปลี่ยนแล้ว รู้สึกพูดไม่ค่อยออก
คำพูดของเขาเปลี่ยนไป “ถอนพิษในตัวข้า!”
หนานหว่านเยียนเสมือนคาดเดาถึงแล้วเสียอย่างนั้น เงยหน้าอย่างไม่แยแส “ทำไมข้าต้องถอนให้เจ้า? เจ้าก็ทนไปเถิด ข้าสามารถบอกเจ้าได้ พิษนี้ถึงแม้จะง่าย และขจัดออกอย่างง่ายดาย แต่ว่า…….”
นางยิ้มเย็นชาให้กับเขา “แต่ว่า มีผลค้างเคียงร้ายแรงสำหรับผู้ชาย ถึงแม้จะถอนพิษแล้วก็ไม่หาย!”
“หนานหว่านเยียน!”
“ไม่แข็ง! ไม่แข็งเข้าใจไหม! ขอเพียงเมื่อครู่เจ้าฟังคำพูดของข้า ไม่รังแกข้าให้ข้าถอนพิษให้ ก็จะไปมีผลลัพธ์เช่นนี้!”
ไม่แข็ง?!
เมื่อครู่เขารู้สึกเพียงขาสองข้าชา คิดไม่ถึงว่ากลับเป็น——
ผู้ชายรู้สึกเหมือนโดนสายฟ้าแลบ เมื่อตอบสนองทันแล้วก็โมโห “หนาน ว่าน เยียน! เจ้ามันคนบ้า! เจ้ากล้าคิดร้ายกับข้า!”
พูดจบ สายตาของกู้โม่หานทีเดียวทำให้องครักษ์ด้านข้างนิ่งไป “พวกเจ้า! คำสั่งที่ข้าให้พวกเจ้าเข้าหูซ้ายทะลุหูขวาแล้วหรือ? แม้แต่ผู้หญิงคนเดียวก็โบยไม่เจ็บ! ให้ข้าไปรับโทษทั้งหมด!”
เหล่าองครักษ์เหงื่อไหลพราก ถอนตัวออกไปอย่างหวาดกลัว
หนานหว่านเยียนเห็นเขาโมโห ก็หัวเราะเสียงดังทันที ถึงแม้จะทำให้บาดแผลฉีดขาด แต่นางยังคงดีใจ “ไม่แข็ง…….อ๋องอี้ทั้งคนกลับไม่แข็ง หากเรื่องแบบนี้ถูกลือออกไป ท่านอ๋องคิดว่าทั่วแคว้นซีเหย่จะหัวเราะเยาะท่านยังไง?! ฮาฮาฮา!”
คำพูดของหนานหว่านเยียนเพิ่งจบ กู้โม่หานก็รู้สึกว่าร่างกายไม่ค่อยสบาย หัวใจรีบรัดทันที
เขาบีบหน้าของนางอย่างโหดเหี้ยม โน้มตัวเข้าใกล้นางจ้องตานางไว้ “หนานหว่านเยียน! หากข้าสูญเสียความสามารถในการเป็นผู้ชาย ต้องเอาคืนจากตัวเจ้าทีละอย่างแน่นอน! ให้เจ้าลิ้มรสผลลัพธ์ที่ทำให้ข้าโกรธ!”
หนานหว่านเยียนจ้องเขาอย่างไม่กลัวแม้แต่น้อย
เมื่อตาทั้งสองคู่สบตากันก็สถานการณ์ตึงเครียด บรรยากาศประหลาดและดุเดือด
พ่อบ้านกาวมองดูอยู่ด้านข้าง มีความรู้สึกผิดปกติบางอย่างที่พูดไม่ถูก
ถึงแม้ท่านอ๋องจะพูดว่าลงโทษพระชายาหนัก แต่ว่าดูอย่างไร ตอนนี้ทั้งสองพูดกันคนหนึ่งสูงคนหนึ่งต่ำ ฟังไปแล้วก็รู้สึกเหมือนคู่รักถกเถียงกัน
หากเปลี่ยนเป็นเวลาปกติ คนที่กล้าทำเช่นนี้กับท่านอ๋องถูกลากไปให้หมากิน หั่นร้อยชิ้นพันชิ้นตั้งนานแล้ว แต่ว่าท่านอ๋องครั้งนี้ไม่ได้ลงมือหนักต่อพระชายาเสียเท่าไหร่เลย แม้กระทั่งไม่ได้ลงมือเองต่อพระชายาเลย
กู้โม่หานไม่ได้สังเกตมากขนาดนั้น ยิ่งคิดยิ่งโมโห เขาเห็นหน้าใบนี้ของหนานหว่านเยียนก็จิตใจไม่แน่นิ่ง นางทำให้เขาคาดการณ์ไม่ถูก!
เขาสะบัดมือออก หันหลังไปพูดอย่างโมโห “เข้ามา! โยนพระชายากลับเรือนเซียนหลิน! อย่าให้ข้าเห็นนางอีก!”
หนานหว่านเยียนไม่ยอมแพ้ไม่แต่น้อย นางทนต่อความเจ็บที่ยากจะทน ขัดขืนการจับตัวขององครักษ์อย่างกะโผลกกะเผลก เดินไปทางด้านเรือนเซียนหลิน
ส่วนกู้โม่หานก็ส่งสายตาให้กับพ่อบ้านกาวทีหนึ่ง พ่อบ้านกาวรับทราบ รีบไปเรียกซินแส
ไม่นาน ซินแสในจวนก็ช่วยกู้โม่หานจับชีพจร กู้โม่หานสีหน้าเคร่งเครียดพิงอยู่บนเก้าอี้ นิ้วมืออันเรียวยาวเคาะอยู่บนโต๊ะอย่างร้อนรน
ความจริงเขาก็ตื่นเต้น อย่างไรเสียนี่มันเกี่ยวข้องกับศักดิ์ศรีความสามารถของผู้ชายคนหนึ่ง ใจก็เต้นมาถึงลำคอแล้ว
“นี่…….” ทันใดนั้น ซินแสเปิดปากอย่างตื่นเต้น
“ไอ้หยา เจ้าก็รีบพูดเสียทีเถิด!” พ่อบ้านกาวถามอย่างกังวล……