ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ - บทที่ 61 ท่านอ๋อง ท่านเริ่มสนใจพระชายาแล้วงั้นหรือ
- Home
- ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้
- บทที่ 61 ท่านอ๋อง ท่านเริ่มสนใจพระชายาแล้วงั้นหรือ
ดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ บทที่ 61 ท่านอ๋อง ท่านเริ่มสนใจพระชายาแล้วงั้นหรือ
ภายในห้องนั้น ทั้งเงียบสงบและดูอบอุ่น
หลังจากนั้นมินาน บาดแผลด้านแผ่นหลังของหนานหว่านเยียนก็ได้รับการรักษาใส่ยาอย่างรวดเร็ว ซาลาเปาและเกี๊ยวน้อยจับผ้าพันแผลคนละข้าง แล้วพันไปรอบ ๆ กระทั่งห่อหุ้มบาดแผลไว้จนทั่ว เกี๊ยวน้อยผูกโบที่ผ้าพันแผลด้วยความมั่นใจ
นางยกมือขึ้นเท้าสะเอวแล้วมองไปทางหนานหว่านเยียน เผยอริมฝีปากยิ้มขึ้นว่า “ท่านแม่ลองจับดูสิ! ข้าผูกโบได้งามหรือไม่!”
หนานหว่านเยียนรู้สึกขำ เจ้าหนูน้อยโมโหง่ายหายเร็ว ทำให้นางวางใจมิน้อย จึงลูบคลำไปที่ใบหน้าเล็กๆ ของเกี๊ยวน้อยว่า “อืม! โบที่เกี๊ยวน้อยผูกให้แม่งดงามที่สุด!”
“แม่จะพาพวกเจ้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อเตรียมตัวนอนดีหรือไม่?”
สองพี่น้องตอบปากรับคำอย่างว่าง่าย
เมื่อเข้ามาถึงในห้อง หนานหว่านเยียนจึงพบว่าที่เตียงตั่งถูกหมอนขนเป็ดอันอ่อนนุ่มปูเอาไว้ ความรู้สึกอบอุ่นใจถาโถมเข้ามาข้างใน
นางเปลี่ยนเสื้อผ้าให้สองพี่น้องพลางกำชับอย่างเคร่งขรึมว่า “เกี๊ยวน้อย ซาลาเปา จากนี้ไปพวกเจ้าอย่าได้ออกจากเรือนเซียงหลินโดยลำพังรู้หรือไม่? ต่อให้ออกไปเที่ยวเล่นใกล้ๆ พวกเจ้าก็ควรเรียกพี่อวี๋เฟิง พี่เซียงอวี้กับเซียงเหลียนไปด้วย เกี่ยวก้อยกับแม่ได้หรือไม่!”
เมื่อกล่าวจบ นางก็ยกนิ้วก้อยขึ้นมา
เกี๊ยวน้อยรีบยื่นมือออกไป ซาลาเปามองดูเกี๊ยวน้อยด้วยความงุนงง ดวงตากลมโตของนางเปี่ยมไปด้วยความสงสัย
ท่านพี่มิอยากแก้แค้นคนเลวนั่นแล้วหรือ?
เกี๊ยวน้อยเห็นดังนั้นก็แอบใช้ข้อศอกดันน้องสาวเบาๆ “มาเกี่ยวก้อยสัญญากันสิ! ข้าและซาลาเปาสัญญาว่าจะฟังคำท่านแม่! จากนี้หากออกไปเที่ยวเล่นข้างนอก พวกเราจะพาพี่อวี๋เฟิงไปด้วย!”
ถึงอย่างไรก็นับว่าเป็น “ผู้สมรู้ร่วมคิด” อยู่แล้ว บางทีหากเรียกอวี๋เฟิงไปด้วยก็มิเลว
เกี๊ยวน้อยเข้าใจได้ในทันทีแล้วได้สติกลับคืนมา เจ้าหนูเอื้อมมือมาเกี่ยวก้อย “ใช่แล้ว ข้าจะฟังท่านแม่!”
หนานหว่านเยียนพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ จากนั้นก็ดึงสองพี่น้องเข้ามาสนทนาว่า “ลูกสาวทั้งสองของแม่ช่างว่านอนสอนง่ายนัก!! แม่รักพวกเจ้าที่สุด!”
ขณะที่นางกำลังชื่นชมนั้น แววตาของนางก็ดูลึกล้ำ
มิรู้ว่าต่อจากนี้หยุนอี่ว์โหรวจะแก้แค้นเช่นไร แต่นางจะมิยอมให้หยุนอี่ว์โหรวมาแตะต้องสองพี่น้องนี่เด็ดขาด
อีกอย่าง ในคืนนี้หากว่ามิใช่เพราะ‘บริสุทธิ์โหรว’เสี้ยมเขาควายให้ชนกันอยู่ข้างๆ นางเองก็คงมิทำถึงเช่นนี้ เป้าหมายต่อไปก็คือการจัดการหยุนอี่ว์โหรว!
ส่วนความแค้นที่กู้โม่หานทำกับนางในวันนี้ นางก็จะมิปล่อยได้อย่างแน่นอนด้วยเช่นกัน!
รอให้นางมีโอกาสก่อน ทุกเรื่องทุกราวนางจะต้องเอาคืนทั้งสิ้น!
สามแม่ลูกจึงได้นอนหลับไปอย่างงัวเงีย
……
เช้าวันต่อมา ในเรือนซีเฟิง กู้โม่หานตื่นขึ้นมาแต่เช้าแล้วเดินมาเยี่ยมที่ห้องของเสิ่นอี่ว์
“ท่านอ๋องพ่ะย่ะค่ะ……” เสิ่นอี่ว์ต้องการจะลุกขึ้นขึ้นคารวะ แต่ถูกกู้โม่หานรั้งเอาไว้
ผู้ชายเห็นว่าเสิ่นอี่ว์สีหน้าดูดีขึ้นมาบ้างแล้ว รวมถึงบาดแผลก็ดีขึ้นมาก เพียงแค่พักผ่อนอีกสักหน่อยก็คงจะดีขึ้น
“ฟื้นฟูได้มิเลว”
“พ่ะย่ะค่ะ” เสิ่นอี่ว์ยกมือขึ้นลูบศีรษะแล้วเอ่ยถามด้วยความตื่นเต้นว่า “ท่านอ๋องพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมได้ยินมาว่าคุณหนูโหรวเข้ามาในจวนอ๋องแล้ว เรื่องเสกสมรสราบรื่นหรือไม่? ในที่สุดท่านอ๋องก็ทำได้ดั่งใจหมาย กระหม่อมขอยินดีกับท่านอ๋องด้วยพ่ะย่ะค่ะ! แต่การที่มิอาจอยู่อารักขาข้างกาย ขอท่านอ๋องอภัยแก่กระหม่อมด้วย!”
ใบหน้าของกู้โม่หานดูอ่อนโยนลง ริมฝีปากเผยอยิ้มขึ้นว่า “นั่นสิ ในที่สุดข้าก็ได้เสกสมรสกับโหรวเอ๋อร์แล้ว เจ้าเองก็อย่าได้โทษตนเองไป ข้ารู้ว่าเจ้าบาดเจ็บอยู่ เจ้าจงรีบรักษาตนให้หายเร็ววันเถิด แล้วค่อยมาคุ้มกันข้าก็มิสาย”
เสิ่นอี่ว์กำลังจะเอ่ยปาก แต่ก็ได้ยินกู้โม่หานเอ่ยขึ้นมาประโยคหนึ่งว่า “แม่นางหนานหว่านเยียนนั่น สองสามวันมานี้ทำเอาข้าหัวหมุนยิ่งนัก!”
เสิ่นอี่ว์รู้สึกประหลาดใจ “พระชายาทำให้ท่านอ๋องมิพอพระทัยอีกแล้วหรือพ่ะย่ะค่ะ?”
“มิเพียงเท่านั้น! นางสตรีนั่นทำให้ข้าอับอายครั้งแล้วครั้งเล่า นางกล้าขัดขาข้าในงานเลี้ยงวันเกิดไทเฮา! นางยังสาดน้ำเย็นใส่ข้า! กัดข้าราวกับหมาบ้า! ทั้งยังวางยาพิษข้า หลอกว่าข้าจะมิอาจแข็งตัวได้! ความชั่วร้ายที่นางทำต่อข้า มิอาจบรรยายออกมาได้หมด!”
สีหน้าของเสิ่นอี่ว์เปลี่ยนไปเล็กน้อย เขาเป็นกังวลเรื่อง “วางยาพิษ? มิแข็งตัว!”
“มิเป็นไรหรอก ซินแสตรวจดูอาการข้าแล้ว เป็นเพียงแค่พิษธรรมดา ตอนนี้ข้าดีขึ้นแล้ว หนานหว่านเยียนเพียงแต่อยากทำให้ข้าตกใจก็เท่านั้น นางมิมีความกล้าหาญพอที่จะทำเช่นนั้นต่อข้า!”
ฟังจบ เสิ่นอี่ว์ก็โล่งอก โชคดีเหลือเกินที่พระชายาอ๋องมิได้รนหาที่ตาย
เมื่อตื่นจากภวังค์ สีหน้าของเขาก็ดูประหลาดใจเล็กน้อย
มิใช่สิ ก่อนหน้านี้เพียงแค่เอ่ยถึงหยุนอี่ว์โหรวกู้โม่หานก็สามารถเอ่ยเรื่องราวของ “โหรวเอ๋อร์” ออกมาได้อย่างมิหยุดหย่อน
ทว่าบัดนี้ ท่านอ๋องเอาแต่กล่าวถึงเรื่องที่พระชายาก่อเรื่องขึ้นมิขาดปาก ส่วนเรื่องของหยุนอี่ว์โหรวเขาเพียงเอ่ยออกมาลอยๆ เท่านั้น
ในใจของเสิ่นอี่ว์รู้สึกตกตะลึงอย่างเหลือเชื่อ
เหตุใดท่านอ๋องในบัดนี้จึงใส่ใจพระชายาถึงเพียงนี้?!
ระวะเวลาสั้นๆ เพียงสองวัน ท่านอ๋องมีความรู้สึกชื่นชอบต่อพระชายาแล้วหรือ?
เดิมทีตัวเขาเองก็เปลี่ยนมุมมองที่มีต่อหนานหว่านเยียนมิน้อย บัดนี้เมื่อเห็นท่าทางของกู้โม่หาน ในใจก็แอบหวังอยู่ลึกๆ
เมื่อคิดได้ดังนี้ เสิ่นอี่ว์จึงเอ่ยถามขึ้นว่า “ท่านอ๋องพ่ะย่ะค่ะ ทรง……เริ่มสนใจพระชายาแล้วหรือ?”
ได้ยินดังนั้น ริมฝีปากที่บิดเบี้ยวของกู้โม่หานก็หัวเราะขึ้นด้วยความเยือกเย็นอีกครั้ง “สนใจหรือ? เหอะๆ แน่นอนว่าข้าต้องสนใจนาง!”