ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ - บทที่ 7 ข้าจะตัดมือเจ้า
ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ บทที่ 7 ข้าจะตัดมือเจ้า
กู้โม่หานตะคอกดัง “หนานหว่านเยียน หุบปาก!”
“ขืนพูดมากอีกคำเดียว ข้าจะตัดมือเจ้าซะ!”
สำหรับกู้โม่หานแล้ว เสิ่นอี่ว์สนิทดุจแขนขา เวลานี้เสิ่นอี่ว์ได้รับบาดเจ็บ เขาย่อมรู้สึกไม่ดี สตรีผู้นี้กลับขัดขวางไม่ให้เขาหาหมอหลวงมารักษาเสิ่นอี่ว์ครั้งแล้วครั้งเล่า สมควรตายยิ่งนัก!
“จับนางโยนเข้าเรือนและจับตาดูไว้ให้ดี รีบตามหมอหลวง ถ้าเสิ่นอี่ว์ไม่รอด พ่อบ้านกาวเจ้าก็อย่าคิดจะได้อยู่ว่างๆในจวนอ๋องต่อไปเลย!”
“ขอรับ ท่านอ๋อง!” พ่อบ้านกาวรีบสั่งการคนรับใช้ให้ทำอะไรว่องไวหน่อยทันที
องครักษ์ส่วนหนึ่งคุมตัวหนานหว่านเยียนเข้าห้อง อีกส่วนหนึ่งหามเสิ่นอี่ว์ที่สลบไสลไม่ได้สติออกไป
หนานหว่านเยียนโกรธมาก โดนบังคับกลับเข้าห้อง ความโกรธในแววตายิ่งลึกขึ้น “กู้โม่หาน! ข้าบอกว่าเสิ่นอี่ว์โดนพิษร้าย เจ้าไม่ให้ข้าช่วย ถ้าเขาเป็นอะไรขึ้นมา ก็เพราะเจ้าน่ะแหละ!”
พอพูดจบ เธอก็โดนผลักเข้าห้อง องครักษ์ยังขวางไม่ให้เธอไป
กู้โม่หานโกรธจัด สะบัดชายเสื้อ ออกจากเรือนเซียงหลินไปโดยไม่เหลียวหลังกลับเลย
หนานหว่านเยียนกลับเข้าห้อง ก็ได้เห็นสองสาวพี่น้องหมอบข้างเผ็ดไม่เผ็ด ในดวงตาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
หนานหว่านเยียนรีบเข้าไปกอดพวกนางไว้ และลูบหัวเผ็ดไม่เผ็ด ถามอย่างละมุนละไม “พวกเจ้าตกใจกันมากล่ะสิ?”
“เปล่า พี่สาวคุ้มครองข้าไว้” เจ้าก้อนแป้งเอ่ยปากขึ้นอย่างอ่อนน้อม “ท่านแม่ คนเลวนั่นได้รับบาดเจ็บใช่หรือไม่?”
มือสั้นๆของเกี๊ยวน้อยกำแน่นเหมือนกัน นางมองหนานหว่านเยียน “ท่านแม่ ถึงคนนั้นจะเลว แต่เขาปกป้องข้ากับน้องสาวไว้ข้างหลัง ท่านแม่ เขาถือว่าเป็นคนดีคนหนึ่ง ท่านจะใช้เวทมนตร์ทำให้เขาหายดีเหมือนเมื่อก่อนที่รักษาข้ากับซาลาเปาได้ไหม? เมื่อครู่ เมื่อครู่ข้าเห็นท้องเขามีเลือดไหล…”
หนานหว่านเยียนตกใจเล็กน้อย แต่ก็ดีใจด้วย
ถึงเด็กน้อยสองคนจะเกลียดคนชั่วนัก แต่รู้จักแยกแยะผิดชอบชั่วดี ไม่เหมือนผู้ชายบางคน! รู้จักแต่ตีคนให้ตายอย่างเดียว!
โชคดีเธอเลี้ยงเด็กสองคนนี้มากับมือ และทำการถ่ายทอดความคิดสมัยใหม่มากมาย เรียกได้ว่า ไม่ได้ทำการอบรมสั่งสอนหลายปีมานี้ของเธอเสียเปล่า
แถมเสิ่นอี่ว์ก็ไม่ใช่คนเลว ขืนชักช้าอย่างนี้ต่อไป ต้องตายแน่…
พอคิดถึงตรงนี้ หนานหว่านเยียนก็รู้สึกเสียใจ เธอยิ้มบางให้ลูกๆ ลูบหลังปลอบโยนพวกนาง “อย่ากังวลไปเลย แม่ต้องช่วยเขาแน่ ขอเพียงพวกเจ้ารับปากแม่ไม่วิ่งวุ่น นอนหลับอย่างว่าง่าย แม่ก็จะไปทำเวทมนต์ให้เขา ให้เขากลับมาดีดุจเดิม”
พอเด็กสองคนได้ยินดังนั้น คิ้วที่เดิมขมวดมุ่นพลันคลายออก พูดพร้อมกันว่า “เจ้าค่ะ”
ระหว่างพูด พวกนางก็พากันถอดเสื้อนอก ปีนขึ้นเตียงไปนอนอย่างว่าง่าย
เผ็ดไม่เผ็ดหมาสองตัวก็นอนอยู่มุมห้อง หลุบตามุดหัวตนอย่างเงียบเชียบ
หนานหว่านเยียนห่มผ้าห่มให้สองสาวเรียบร้อย ก็เดินออกไป
พอออกจากห้อง ลมเย็นน้อยๆพัดมา หนานหว่านเยียนจับสาบเสื้อตัวเองแน่น จากนั้นได้ยินเสียงฝีเท้าไปมานอกเรือน
เธอมาที่ประตูเรือน มองลอดช่องว่างประตูออกไปเห็นด้านนอกเรือนเซียงหลินมีทหารองครักษ์มากกว่าเมื่อกี้อีก องครักษ์ด้านนอกเปลี่ยนไปแล้ว แต่ทั้งหมดล้วนเข้มงวดยิ่งนัก
คนพวกนี้ส่วนมากเป็นคนที่กู้โม่หานส่งมา เพราะจวนอ๋องมีนักฆ่าลอบเข้ามา เขาเองก็ไม่ชอบหน้าเธอ เลยให้คนมาเฝ้าเธอไว้
พอคิดอย่างนี้ หนานหว่านเยียนสังเกตเห็นสองคนที่อยู่ใกล้ประตู กำลังกระซิบกระซาบอะไรกัน หนึ่งคนในนั้นมีสีหน้าเศร้าสร้อย สายตามีแววเสียดายและไม่อยากยอมรับ
หนานหว่านเยียนครุ่นคิด ก่อนผลักประตูออกอย่างแรง “พวกเจ้าเฝ้ายามกันอย่างนี้รึ? ไม่คอยสังเกตรอบๆ กลับมาซุบซิบนินทากัน?!”
องครักษ์สองคนนี้ตะลึงอย่างเห็นได้ชัด ต่างสงบลง ยกมือขึ้นคารวะขอขมาหนานหว่านเยียน
ในดวงตาหนานหว่านเยียนมีแววมืดมนลง มององครักษ์ที่มีสีหน้าเศร้าสร้อย “เจ้า เจ้ามานี่ ข้ามีเรื่องจะถามเจ้า”
องครักษ์งงเล็กน้อย เห็นเขาอึ้งเล็กน้อย ถึงชี้นิ้วมาที่ตนเองพลางถามว่า “พระชายาเรียก เรียกข้าน้อยหรือขอรับ?”
หนานหว่านเยียน “ใช่ เจ้าน่ะแหละ มานี่”
องครักษ์คนอื่นคิดว่านางจะลงโทษ เลยไม่กล้าพูดอะไร
หนานหว่านเยียนกวาดตามองด้านนอกประตู ปิดประตูทันที
เธอรีบถามอย่างร้อนใจ “อาการเสิ่นอี่ว์เป็นอย่างไรบ้าง?”
“องครักษ์เสิ่น?” องครักษ์น้อยมองหนานหว่านเยียนตรงหน้าอย่างงงงวย
เหล่าองครักษ์ล้วนบอกว่า พระชายาหน้าตาอัปลักษณ์ ชอบทำเรื่องต่ำช้า แต่วันนี้ได้พบ พระชายาไม่เพียงหน้าตางดงาม แววตาจริงใจยิ่งทำให้มองไม่เห็นความลวงหลอกแต่อย่างใด องครักษ์รู้สึกว่า พระชายากำลังเป็นห่วงเสิ่นอี่ว์ เลยเปิดปากอย่างยากลำบากเล็กน้อย
“องครักษ์เสิ่นเขา เขาไม่ค่อยดีเท่าไหร่…เมื่อครู่ท่านหมอในจวนไปดูอาการแล้ว บอกว่าอาการบาดเจ็บสาหัส พิษในตัวรุนแรงมากเกินไป น่ากลัว น่ากลัวจะรักษาได้ยาก บัดนี้ได้แต่รอหมอหลวงมาดูอาการ”
หนานหว่านเยียนเดาได้นานแล้วว่าเป็นผลลัพธ์อย่างนี้ สีหน้าก็เลยไม่ได้ผิดแผกอะไร
แต่เธอไม่คิดลเยว่าองครักษ์ตรงหน้านี้พูดไปพูดไปก็เริ่มน้ำตาคลอ ดูจะสนิทกับเสิ่นอี่ว์ไม่น้อย อย่างน้อยก็ไม่ได้คิดร้ายกับเสิ่นอี่ว์ และยังเป็นห่วงมาก
เธอคิดแผนในใจอย่างหนึ่ง “เจ้าอยากช่วยเสิ่นอี่ว์หรือไม่?”
องครักษ์ตัวน้อยพยักหน้าทั้งน้ำตา “อยาก!”
“ข้ารู้วิชาแพทย์ และมั่นใจว่าจะช่วยรักษาเสิ่นอี่ว์ได้ แต่เจ้าต้องพาข้าออกไปจากเรือนเย็น….”