ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ - บทที่ 8 พระชายาช่วยคน
ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ บทที่ 8 พระชายาช่วยคน
องครักษ์ตัวน้อยอวี๋เฟิงสายตาเป็นประกาย “จริงรึ พระชายาเป็นท่านหมอ จะช่วยองครักษ์เสิ่นได้รึ?”
“ใช่ เจ้าก็รู้ว่าใบหน้าข้าน่ะเดิมทีอัปลักษณ์มาก นั่นเป็นเพราะโดนพิษ ข้ามีความสามารถในการแก้พิษ บัดนี้ก็มีเพียงข้าเท่านั้นที่สามารถช่วยเสิ่นอี่ว์ที่โดนพิษร้ายได้ อาการของเขาสาหัสนัก น่ากลัวจะรอหมอหลวงไม่ไหว”
“ได้ ฟังพระชายาเถิด!” อวี๋เฟิงรู้ว่าอาการของเสิ่นอี่ว์น่ะรอไม่ได้ ดังนั้นเลยทำเหมือนตัดสินใจครั้งยิ่งใหญ่ มองหนานหว่านเยียนด้วยสีหน้าตัดสินใจเด็ดขาด “ด้านนอกมีองครักษ์เยอะมาก ข้าน้อยจะสู้กับพวกเขาเอง!”
“ช้าก่อนช้าก่อน!” หนานหว่านเยียนรีบขวางเขาไว้ เขาคนเดียวจะฝ่าออกไปได้ยังไง ยิ่งไปกว่านั้นสถานการณ์ก็จะยิ่งเลวร้ายมากขึ้น “เจ้าอย่าผลีผลาม ข้ามีแผน…”
หนานหว่านเยียนพูดออกมา องครักษ์ทำหน้าสงสัย “พระชายา แบบนี้จะได้การรึ?”
เธอตอบไปคนละเรื่อง “เจ้าชื่อว่าอะไร?”
อวี๋เฟิงลูบท้ายทอยตน “พระชายาเรียกข้าน้อยว่าอวี๋เฟิงเถิด”
“อวี๋เฟิง เจ้าทำตามที่ข้าบอกเถิด เรื่องหลังจากนั้นพอถึงเรือนด้านหน้า ข้าจะจัดการเอง” หนานหว่านเยียนรับประกันกับอวี๋เฟิง
ต่อให้อวี๋เฟิงเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง แต่ก็ยังไปทำตามที่หนานหว่านเยียนบอก
ทั้งสองคนวุ่นวายกันพักหนึ่ง ไม่นาน อวี๋เฟิงก็เปิดประตูออก ผลุนผลันออกไป ตะโกนออกไปข้างนอกประตูว่า “มีนักฆ่า รีบตาม…”
พอได้ยินคำนี้ เหล่าองครักษ์ที่อยู่ข้างนอกรีบพุ่งกันเข้ามา เห็นหนานหว่านเยียนหมอบอยู่ที่พื้น สีหน้าตกใจพรั่นพรึง ส่วนอวี๋เฟิงมีรอยเลือดที่มุมปาก
หัวหน้าองครักษ์ถามขึ้น “นักฆ่าเล่า?”
“พวกเขาทะลายหน้าต่าง ไป ไปทางนั้นแล้ว…” อวี๋เฟิงยกมือขึ้นชี้อย่างยากลำบาก เขาชี้ไปทางตรงกันข้ามกับเรือนหน้า พูดด้วยสีหน้าเจ็บปวด
เหล่าองครักษ์รีบตามไปกันทันที
อวี๋เฟิงพลันยืนขึ้นมา พลางหัวเราะ “ได้ผลจริงๆด้วย!”
เขาลูบรอยเลือดที่มุมปาก แลบลิ้นออกมาชิมรส รสหวานเปรี้ยวอย่างที่ไม่เคยกินมาก่อน ไม่รู้ว่าพระชายาไปเอาของเช่นนี้มาจากไหน มาทางที่หน้าตนเอง มันเหมือนกับรอยเลือดมิผิดเพี้ยนเลย
“ไปเถอะ ไม่งั้นจะไม่ทันการ” หนานหว่านเยียนเองก็ลุกขึ้น และออกจากเรือนเซียงหลินก่อนเขาก้าวหนึ่ง
อวี๋เฟิงตามหลังไปติดๆ
ทั้งสองคนมุ่งหน้าไปยังห้องของเสิ่นอี่ว์ที่เรือนหน้า
เวรยามของจวนอ๋องไม่ถือว่าเข้มงวดนัก พวกเขาหลบทหารองครักษ์ที่เดินตรวจยาม อ้อมไปยังห้องของเสิ่นอี่ว์
อวี๋เฟิงเห็นผู้ชายที่ยืนเฝ้าหน้าประตู เขาส่งสายตาให้หนานหว่านเยียน จากนั้นก็กระโดดไปในทางตรงกันข้าม สร้างความเคลื่อนไหวที่ไม่น้อยขึ้น
สองคนที่เฝ้าประตูได้ยินเสียง ก็ไล่ตามไปในทิศทางที่อวี๋เฟิงไปทันที
หนานหว่านเยียนแอบชื่นชมอวี๋เฟิงในใจว่าเป็นลูกผู้ชายตัวจริง และในขณะเดียวก็ลอบเข้าไปในห้องเสิ่นอี่ว์ได้อย่างราบรื่น
เธอเห็นเสิ่นอี่ว์นอนอยู่บนเตียงด้วยสีหน้าซีดเผือด ริมฝีปากออกสีม่วง เสื้อผ้าเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ แต่ปากเขากลับพึมพำไม่หยุด สองตาปิดแน่นสนิทกลอกไปมาอย่างกังวล
ยังมีสติ!
หนานหว่านเยียนรีบหยิบแคปซูลขวดหนึ่งออกมาจากในห้วงเวลา และหยิบน้ำอุ่นบนโต๊ะมาพลางเดินไปข้างตัวเสิ่นอี่ว์อย่างรวดเร็ว
เธอบีบคางชายหนุ่ม ใช้แรงเล็กน้อย ปากที่แห้งผากปิดสนิทก็เปิดออก เธอวางแคปซูลสองเม็ดในปากเสิ่นอี่ว์ และเทน้ำอุ่นตามลงไป
“อย่าหลับ มีสติให้ข้าหน่อย ซาลาเปากับเกี๊ยวน้อยยังรอเจ้าหายดีขึ้นมาอยู่”
แคปซูลพวกนี้เป็นยาถอนพิษที่เธอคิดค้นขึ้นเองตอนนั้น เดิมทำมาเพื่อแก้พิษในร่างตน เลยทำมากไปหน่อย ตอนนี้เสิ่นอี่ว์ก็โดนพิษร้าย เมื่อครู่ตอนจับชีพจรก็รู้สึกว่าพิษนี้คล้ายคลึงกับพิษในร่างเธออยู่เจ็ดแปดส่วน แคปซูลนี้เลยได้ใช้พอดี
ไม่นาน ใบหน้าที่บิดเบี้ยวของเสิ่นอี่ว์พลันค่อยๆสงบนิ่งลง
หนานหว่านเยียนหมุนตัวหันเข้าไปในห้วงเวลา เธอใส่ถุงมือใช้แล้วทิ้ง หยิบเข็มฉีดยากับยานอนหลับออกมา และหลังจากดูดยานอนหลับออกมาอย่างระมัดระวังแล้ว เธอดึงกางเกงท่อนล่างของเสิ่นอี่ว์ลงเล็กน้อย เผยให้เห็นก้นของผู้ชาย
หนานหว่านเยียนไม่ลังเลเลยสักนิด เธอจิ้มเข็มไปที่กล้ามเนื้อก้นของเขาทันที
อาจเพราะเป็นคนฝึกวรยุทธ์ กล้ามเนื้อของเสิ่นอี่ว์แข็งกว่าคนทั่วไปหลายเท่า มือที่ปักเข็มของหนานหว่านเยียนต้องออกแรงอย่างมาก ถึงจะปักปลายเข็มเข้าไปได้
เธอกำลังจะฉีดยานอนหลับเข้าไปช้าๆ ก็เห็นเสิ่นอี่ว์ลืมตาขึ้นฉับพลัน พลางว่า “เจ็บ…”
ก้นของเสิ่นอี่ว์ถูกจิ้ม เขาลืมตาก็เห็นหนานหว่านเยียนย่อตัวข้างกายเขา ในมือถือของที่เล็กแหลมแต่น่ากลัวไว้ แทงเข้ามาในร่างกายตน
เสิ่นอี่ว์เบิกตากว้างอย่างหวาดกลัว อยากดิ้นรน แต่เขาอ่อนแอเกินไป นิ้วมือยังขยับไม่ได้เลย
เวลานี้หูกลับได้ยินเสียงปลอบประโลมจากหนานหว่านเยียนว่า “อย่ากลัว เจ้าถูกพิษ ข้ากำลังช่วยเจ้า คนอย่างข้าหนานหว่านเยียนมิใช่อสูรร้ายที่ไร้หัวใจ ข้าไม่ทำร้ายเจ้าหรอก”
พูดไป เธอก็ฉีดยานอนหลับเข้าร่างเสิ่นอี่ว์อย่างเงียบเชียบ
เสิ่นอี่ว์เห็นสายตามั่นคงของนาง และยังราศีอันบอกไม่ถูกที่แผ่ซ่านออกมาจากทั้งร่างอีก
แต่เขาไม่กล้าจะเชื่อว่า หนานหว่านเยียนที่เคยทำชั่วเลวทรามหมัวมัวกจะหวังดีมาช่วยเขา? อีกอย่างเขาไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยว่า หนานหว่านเยียนเป็นท่านหมอ!
เขาถลึงตาใส่หนานหว่านเยียนอย่างเคียดแค้น “ต่ำ…ช้า…”