ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ - บทที่ 96 กู้โม่หานด่านางโดยอ้อม
ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ บทที่ 96 กู้โม่หานด่านางโดยอ้อม
หนานหว่านเยียนรู้สึกโมโหมาก
กู้โม่หานใช้วิธีตีวัวกระทบคราด ด่านางโดยอ้อมอยู่นั่นแหละ
ไม่เป็นไร นางทนได้!เพราะว่ากู้โม่หานก็ช่วยนางอยู่จริงๆ
สีหน้าของฮูหยินเปลี่ยนไปทันที เห็นได้ชัดว่าโดนจุดที่เจ็บของนางพอดี สายตาเต็มไปด้วยความโกรธขรึม กู้โม่หานกล้ามาพูดว่าลูกสาวของนางคือลูกเมียน้อย!
ถึงแม้นางได้เป็นเมียหลวงหลังจากที่แม่ของหนานหว่านเยียนตาย แต่ตอนนี้ก็เป็นเมียหลวง ลูกของนางก็ต้องนับเป็นลูกเมียหลวง!
หนานฉีซานได้ยินเช่นนี้ จ้องไปที่ฮูหยินด้วยความโกรธทันที ตวาดว่า”ปีนั้นข้าทำอะไรลับหลังข้าบ้างเนี่ย!”
จากนั้นเขาก็คารวะต่อกู้โม่หาน”ท่านอ๋อง กระหม่อมไม่ได้หมายถึงเช่นนี้พ่ะย่ะค่ะ ท่านและอ๋องเฉิงล้วนเป็นผู้สูงศักดิ์ กระหม่อมมีความเคารพมาก แต่ตอนนั้นพระชายาเฉิงแต่งก่อน พอถึงพระชายาอี้กระหม่อมไม่อยู่ เรื่องงานแต่งล้วนมอบหมายให้ฮูหยินจัดการ แต่คิดว่านางก็ไม่ได้คิดจะไม่เคารพท่านอ๋องพ่ะย่ะค่ะ”
ฮูหยินกัดฟัน หนานหว่านเยียนไม่เท่าไหร่ แต่กู้โม่หานขัดใจไม่ได้ นางเลยรีบหาข้ออ้าง
“เรื่องนี้เป็นความผิดพลาดของหม่อมฉันเพคะ ตอนที่พระชายาเฉิงแต่งงานใช้งบประมาณเกินกำหนด ดังนั้นสินเดิมของพระชายาอี้ถึงน้อยไปหน่อย……แต่จวนเฉิงเซี่ยงไม่เคยคิดจะไม่เคารพท่านอ๋องเพคะ!”
กู้โม่หานหัวเราะเยาะ น้ำเสียงเต็มไปด้วยความเย็นชา”ความจริงเป็นอย่างไร เฉิงเซี่ยงและฮูหยินรู้อยู่แก่ใจ!”
หนานฉีซานขมวดคิ้ว คิดไม่ถึงว่าเช่นนี้ก็ขัดใจกู้โม่หานอีก
หนานหว่านเยียนมองอยู่ข้างๆ ในที่สุดก็ได้โอกาสพูดสอดเข้าไป พูดอย่างน่าสงสาร”แม่ของข้าเสียชีวิตเร็ว ตามหลักแล้วท่านแม่ก็คือแม่ของข้า แต่ลูกสาวแต่งงานออกไป ท่านไม่เพียงแต่ไม่ให้สินเดิม ตอนนี้ยังจะเอารางวัลราชทานที่ไทเฮาให้ข้ามา……”
“ไม่ใช่ว่าข้าไม่อยากให้ แค่รู้สึกว่าเสียใจเล็กน้อย ห้าปีแล้วกว่าข้าจะกลับจวนเสนาบดีได้เที่ยวหนึ่ง ท่านแม่ไม่เพียงแต่ไม่เป็นห่วงข้า ไม่ถามสถานการณ์ของข้า อยากได้แต่รางวัลที่ไทเฮาพระราชทานให้ข้าเท่านั้น ข้าเสียใจมากเลย……”
กู้โม่หานชอบเห็นคนในจวนเสนาบดีกัดกันเอง เขาเลยพูดซ้ำเติมอีก
“ข้าไม่ได้รังเกียจพระชายาก็ถือว่าไว้หน้าจวนเฉิงเซี่ยงแล้ว เฉิงเซี่ยงหนานอย่ามีความคิดต่อของๆจวนอ๋องอี้!และเฉิงเซี่ยงหนานก็ได้ยินว่าพระชายาก็ขาดสินเดิม จะไม่ให้คำตอบอะไรหรือ?”
หนานฉีซานวางแผนมาหลายปี ก็เพื่อจะหาโอกาสปีนไปที่สูงขึ้น เรื่องเล็กน้อยไม่อดทน ก็จะทำให้เสียการใหญ่ เมื่อเผชิญกับการสงสัยของกู้โม่หาน เขาก็มีแต่ต้องทอดทิ้งบางอย่าง
เขามองไปทางฮูหยิน ถามด้วยเสียงทุ้ม”ฮูหยิน ไปเอาของล้ำค่าที่เจ้าเก็บไว้ออกมาหมด จวนเฉิงเซี่ยงติดค้างสินเดิมของพระชายาจริงๆ”
“เฉิงเซี่ยง……”ฮูหยินอยากจะเถียงโดยจิตสำนึก แต่ไม่นานนางก็ฟื้นสติกลับมา ให้หนานหว่านเยียนนิดๆหน่อยๆก็พอ เลยส่งสายตาสะกิดหมัวมัวที่อยู่ข้างๆ”หวางหมัวมัว เจ้าไปเอาของที่ข้าวางไว้ในลังมาสิ”
ของที่ดีนางล้วนเตรียมไว้ให้หลานสาวในอนาคตของนาง จะให้หนานหว่านเยียนได้อย่างไรล่ะ?!
หมัวมัวเข้าใจความหมายของฮูหยิน กำลังคิดจะถอยลงไป ก็ได้ยินหนานหว่านเยียนที่อยู่ข้างหลังพูดว่า
“ท่านแม่ไม่ต้องยุ่งยากขนาดนี้เจ้าค่ะ ข้าจำได้ว่าวันก่อนในงานเลี้ยงของไทเฮา ท่านแม่ได้หยกปะการังความสูงเท่าครึ่งตัวของคน ข้าชอบอันนั้นเจ้าค่ะ”
ร่างกายของฮูหยินอึ้งไปทันที จากนั้นเริ่มจับผ้าเช็ดหน้าไว้อย่างแน่น
“ข่าวของพระชายาว่องไวจริงๆ ถ้าท่านชอบ งั้นก็……เอาไปเถอะ”
นางเสียดายมาก แต่เมื่อเผชิญกับสายตาที่อาฆาตของหนานฉีซาน นางก็มีแต่ต้องเสียสละของล้ำค่า
หนานหว่านเยียนยังไม่พอ เริ่มท้าวคางคิดอะไรขึ้นมาอีก”หากข้าจำไม่ผิด ในมือของท่านแม่น่าจะยังมีของที่แม่ข้าเหลือไว้เนอะ?พวกปิ่นผม เครื่องประดับและชุดหรูหรา ท่านว่า……”
นั่นเป็นของๆแม่เจ้าของร่างเดิม วันนี้ฮูหยินต้องคายออกมาให้หมด!
ฮูหยินโมโหมาก ระงับความโกรธอยู่ในใจ”เดิมทีก็เป็นของท่าน ข้ายังจะหาเวลาคืนให้ท่านเลย”
ไม่ทราบว่าตอนนั้นแม่ของหนานหว่านเยียนเป็นใครกันแน่ สินเดิมที่แต่งมาพร้อมกันมีหลายๆอย่างที่มีราคา เดิมทีนางคิดจะเก็บเอาไว้ใช้เอง แต่คิดไม่ถึงว่าหนานหว่านเยียนจะรู้เรื่องนี้ด้วย!
หนานหว่านเยียนเอียงหน้า ยิ้มอย่างอ่อนหวาน”ช้าไปห้าปีก็ไม่เป็นไร ถ้าให้สองเท่าก็สามารถปลอบใจข้าได้ ข้าจำได้ว่าในมือของแม่มีกล่องสี่เหลี่ยมแก้วหยกทอง ยังมีไม้กฤษณาชั้นดี ชามหยก ไฟประดับอบเชย……สิ่งเหล่านี้ข้าล้วนชอบมาก ล้วนให้เป็นสินเดิมแก่ข้าเถอะ”
ตัวหนังสือแต่ละตัวที่หนานหว่านเยียนพูดออกมา ทำให้ฮูหยินรู้สึกตามืดขึ้นเรื่อยๆ เกือบจะโมโหจนสลบไป
ของแต่ละชิ้นที่นางพูดถึง ล้วนเป็นของมีราคาที่นางใช้วิธีต่างๆกว่าจะได้มา!
ทั้งหมดล้วนเป็นของที่นางจะเอาให้หลานสาว เพราะถ้าชิงชิงคลอดลูกสาว อนาคตนางก็จะเป็นแม่ของไท่จื่อแล้ว!
แต่กลับคิดไม่ถึงว่า จะถูกหนานหว่านเยียนแย่งไป!
แม้กระทั่งหนานฉีซานก็นั่งไม่นิ่ง สีหน้าดำสนิท
เนื่องจากต้องรักษาหน้า มีแต่ต้องพูดว่า”พระชายาอยากได้ ก็ล้วนให้พระชายา ส่วนเรื่องอดีต พระชายาก็อย่าไว้ในใจนะพ่ะย่ะค่ะ”
หนานหว่านเยียนแกล้งพูดอย่างเกรงใจ”ขอบคุณท่านพ่อ ท่านแม่เจ้าค่ะ เราเป็นครอบครัวเดียวกัน เรื่องที่ผ่านไปก็ปล่อยให้ผ่านไป ไม่ต้องพูดถึงอีกแล้วเจ้าค่ะ”
หนานหว่านเยียนเกือบจะดูดเลือดนางไปหมดแล้ว ถ้ายังจะพูดถึงอีกนางก็จะตายให้หนานหว่านเยียนดู!
ฮูหยินเริ่มรู้สึกหายใจลำบากแล้ว
ดวงตาของกู้โม่หานลึกซึ้งมาก เห็นว่าหนานหว่านเยียนพูดชื่อของที่แม้กระทั่งเขายังไม่รู้เลย ก็รู้สึกสงสัยมากขึ้น
ผู้หญิงคนนี้รู้จักของมีราคาเหล่านี้ด้วย ไม่เหมือนกับคนโง่ในเมื่อก่อนเลย……
เซียงวี่ที่อยู่ข้างๆดูจนอ้าปากค้างไว้!
ขโมยไก่ไม่ได้ ยังเสียข้าวสารอีกกำมือที่พระชายาพูดนั้น มีความหมายอย่างนี้นี่เอง!
ฮูหยินไม่ได้อะไร แถมยังต้องเสียของมีราคาเหล่านั้นด้วย!
พระชายาเก่งมาก รู้สึกสะใจจริงๆ!
หนานอี่ว์จับผ้าเช็ดหน้าอย่างแน่น และมองหนานหว่านเยียนอย่างอิจฉา
แต่พอนางเห็นว่าลักษณะของฮูหยินเหมือนวิญญาณหลุดไปครึ่งหนึ่ง ก็สบายใจขึ้นมาอีก
สมน้ำหน้า!
มื้อเช้านี้มีคนดีใจมีคนเศร้า
หลังจากหนานหว่านเยียนกินเสร็จ ก็ยกของมีราคาทีละถุง พร้อมจะจากไปกับกู้โม่หาน
ก่อนจะจากไป หนานฉีซานมาส่งพวกเขา แถมยังพูดกับนางอย่างจริงจัง”พระชายา ว่างๆก็กลับมาเยี่ยมที่บ้านนะ”
ตอนนี้ความสัมพันธ์ของนางและกู้โม่หานยังใช้ได้อยู่ งั้นแผนที่สำหรับหนานหว่านเยียน ก็ต้องเลื่อนไปก่อน
หนานหว่านเยียนยิ้มมุมปาก เจตนาโชว์ของเหล่านั้นต่อหน้าฮูหยิน
“ได้เลย ข้าจะกลับมาแสดงความกตัญญูต่อท่านพ่อท่านแม่เจ้าค่ะ”
พูดจบ นางก็ขึ้นรถม้าที่กลับจวนอ๋องอี้
ได้ยินเช่นนี้ ฮูหยินก็ทนไม่ไหว อาเจียนเลือดออกมา แล้วสลบไปทันที!
หนานหว่านเยียนมาครั้งหนึ่งก็ทำให้นางเกือบจะตายแล้ว ถ้านางมาอีกหลายครั้ง คือจะทำให้นางตายให้ได้ใช่ไหม!
บทที่ 95 ยังไงนางก็เป็นพระชายาของข้า
บทที่ 97 ข้าจะบิดหัวของเจ้า