ยอดนักรบจอมราชัน - ตอนที่ 116 ทุกอย่างเป็นเรื่องตลก
หลังอาหารเย็น ฉินหยูก็บอกว่าเธอยังมีสิ่งที่ต้องทำอยู่ เธอจึงบอกให้เย่เชียนกลับบ้านไปก่อนแล้วเธอจะแจ้งให้เขาทราบหากว่าเธอได้ข่าวหรือข้อมูลอะไรเพิ่มเติมเกี่ยวกับจ้าวหยา
เย่เชียนได้แต่เม้มปากและไม่ได้พูดอะไรสักคำ เขาทำได้เพียงหันกลับไปอย่างหมดหนทาง เพราะเขารู้ดีว่าตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาโอ้เอ้ยืดยาด หรือทำตัวไร้สาระไปทั่ว
ทันทีที่เย่เชียนออกไป ฉินหยูก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา จากนั้นเธอก็พึมพำกับตัวเอง “ฮ่า ๆ ๆ ช่างตลกร้ายเสียจริงนะ”
เมื่อเย่เชียนออกจากมหาวิทยาลัยแล้ว เขาก็มองเห็นคนสองคนจากระยะไกลซึ่งดูเหมือนจะเป็นบอดี้การ์ดกำลังเดินเข้ามาหาเขา เวลานี้มันก็เริ่มจะมืดแล้วแต่พวกเขาก็ยังคงสวมแว่นกันแดดสีดำอยู่
เย่เชียนหยุดเดินและจ้องมองชายสองคนในชุดสูทสีดำที่เดินเข้ามาอย่างเงียบ ๆ
“มากับเราเดี๋ยวนี้! เจ้านายของเราต้องการพบกับคุณ” ทั้งคู่หยุดอยู่ตรงหน้าเย่เชียนและชายที่มีร่างกำยำกว่าพูดขึ้น
เย่เชียนยิ้มอย่างเฉยเมยและพูดว่า “เจ้านายของพวกคุณเป็นใครล่ะ ? แล้วทำไมผมต้องไปหาเขาด้วย ถ้าเขาอยากจะพบกับผม พวกคุณก็ไปบอกให้เขามาที่นี่ด้วยตัวเองละกัน ผมมีเรื่องที่ต้องทำอีกเยอะ”
ปกติแล้วเย่เชียนจะอ่อนน้อมถ่อมตนอยู่เสมอ ถ้าอีกฝ่ายพูดคุยกับเขาอย่างเป็นมิตร เขาก็จะไม่ทำกิริยาเช่นนี้ แต่พวกเขาเดินมาจากไหนกันก็ไม่รู้ แล้วอยู่ ๆ มาสั่งราวกับว่าเย่เชียนเป็นคนรับใช้ของพวกเขาอย่างไงอย่างงั้น อีกทั้งในใจของเขาก็ยังมีเรื่องที่จ้าวหยาก็หายตัวไปอีกด้วย มันจึงทำให้เย่เชียนรู้สึกหงุดหงิดได้ง่าย ๆ
แต่ท้ายที่สุด เย่เชียนก็ให้ความร่วมมืออย่างไม่เต็มใจ
“คุณมากับพวกเราดีกว่านะ… ผมว่ามันคงจะดีสำหรับคุณมากกว่าถ้าคุณให้ความร่วมมือกับพวกเรา” ชายคนเดิมพูด ฟังจากน้ำเสียงของเขาดูเหมือนว่าถ้าเย่เชียนไม่ยอมไปกับพวกเขาอย่างเงียบ ๆ แล้วล่ะก็ พวกเขาก็คงจะต้องใช้กำลังอย่างช่วยไม่ได้
เย่เชียนคิดว่าตัวเองชักจะเริ่มชอบคนโง่สองคนนี้มากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะพวกเขาเข้ามาเกาะเย่เชียนในเวลาที่เขากำลังไม่สบอารมณ์อยู่พอดี ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว เย่เชียนก็จะใช้พวกเขาเป็นที่ระบายความโกรธของตัวเองไปเสียเลย
“หา… ว่าไงนะ ?! พวกคุณต้องการที่จะใช้กำลังงั้นเหรอ ? จะต้องให้ผมบอกไหมว่านี่คือประเทศจีน มันเป็นที่ที่มีกฎหมาย ระ… ระวังนะ ผมจะฟ้องร้องพวกคุณ” เย่เชียนเสแสร้งแกล้งทำเป็นกลัวและตอบเสียงสั่น
บอดี้การ์ดทั้งสองอดยิ้มอย่างเหยียดหยามไม่ได้ เพราะสำหรับพวกเขาแล้ว การใช้กำลังกับเย่เชียนนั้นไม่ใช่เรื่องร้ายแรงอะไรเลย
“กฎหมายงั้นเหรอ ? เหอะ… เฮงซวย! ขอบอกอีกครั้งนะว่าให้คุณมากับพวกเราซะดี ๆ ไม่งั้นมันก็คงจะต้องถึงขั้นลงไม้ลงมือขึ้นมาจริง ๆ ต่อให้ผู้ว่าการเทศบาลจะมาดูเรื่องนี้ด้วยตัวเอง เขาก็ไม่กล้าแม้แต่จะพูดอะไรกับเราอย่างแน่นอน” บอดี้การ์ดอีกคนพูด
“นี่คิดจะทำร้ายผมเหรอ…? อย่านะ! โอ้… ผมกลัวแล้ว… อย่า…” เย่เชียนเอามือกุมท้องของเขาและโวยวายเสียงดังน่ารำคาญมาก ใครก็ตามที่เห็นเขาในตอนนี้ ก็คงอดไม่ได้ที่จะลงไม้ลงมือกับเขา
อันที่จริงแล้วบอดี้การ์ดทั้งสองไม่คิดที่จะลงไม้ลงมือจริง ๆ แต่เมื่อได้ยินคำพูดของเย่เชียนและการแสดงออกที่แสนจะน่ารำคาญ ทั้งสองก็เข้าใจว่าเย่เชียนกำลังล้อเลียนพวกเขาอยู่ และนั่นก็ทำให้พวกเขารู้สึกโกรธมาก
“ไอ้โง่เอ๊ย! เจ้านายบอกให้พาแกมากับเราก็แค่นั้น แต่ไม่ได้บอกว่าให้ใช้วิธีไหนในการพาตัวแกมา… เพราะงั้น… ต่อให้เราทำให้แกพิการกลับไป เจ้านายเราก็คงไม่ว่าอะไรหรอกมั้ง” หนึ่งในบอดี้การ์ดพูด แล้วเขาก็หันไปพูดกับบอดี้การ์ดอีกคนว่า “รอนี่แหละ… เดี๋ยวฉันจัดการเอง” หลังจากพูดจบเขาก็กำหมัดของเขาแน่นจนมีเสียงเอ็นและกระดูกกระชับเข้าที่
กลับกัน เย่เชียนยังคงมีสีหน้าที่ดูสงบ สายตาของเย่เชียนจ้องมองพวกเขาเหมือนพวกเขาเป็นคนโง่เง่า บอดี้การ์ดชายร่างกำยำตะโกนออกมาและกำลังจะเหวี่ยงหมัดไปที่ท้องของเย่เชียน
“เฮ้ย…! นี่พวกคุณจะทำร้ายผมจริง ๆ งั้นเหรอ ?” เย่เชียนแสร้งทำเป็นว่าเขากลัวมากและกำลังจะวิ่งหนีไป เขารอจนกระทั่งหมัดของบอดี้การ์ดชายร่างกำยำกำลังจะปะทะเข้ากับท้องของเขา จากนั้นเย่เชียนก็เบี่ยงตัวหลบทันทีและง้างฝ่าเท้าของเขาขึ้นเหนือพื้นนิดหนึ่ง วินาทีต่อมาร่างของบอดี้การ์ดคนนั้นก็กระแทกลงกับพื้น
เหตุการณ์นี้ทำให้บอดี้การ์ดอีกคนถึงกับผงะ เขาเห็นเพียงชายร่างกำยำวิ่งไปข้างหน้าพร้อมกับกำปั้นของเขา จากนั้นเย่เชียนก็ลุกลี้ลุกลนเหมือนจะกลัวและวิ่งหนีไป แต่ทุกอย่างกลับจบลงด้วยการที่ชายร่างกำยำนอนแน่นิ่งอยู่บนพื้น เขาแอบคิดอย่าง โง่ ๆ ว่ามันจะเป็นไปได้ไหมที่เมื่อคืนผู้ชายคนนี้ออกกำลังมากเกินไปจึงทำให้เขาเหนื่อยล้าจนซวยสลบไปก่อนที่จะถึงตัวเย่เชียน
ชายร่างกำยำรู้สึกมืดมน เขาไม่เข้าใจสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้นเอาเสียเลย เพราะก่อนหน้านี้เขาเห็นเย่เชียนดูเป็นคนขี้แพ้และกำลังวิ่งเตลิดหนีไป แต่แล้วก็มีบางอย่างมาสกัดขาเขาและทำให้เขาสะดุดล้ม เขารู้สึกว่าตัวเองล้มลงเหมือนกับหมากินขี้ยังไงยังงั้น นี่มันเป็นเรื่องที่น่าอับอายจริง ๆ เพราะจากนี้ไปคนอื่น ๆ คงจะหัวเราะเยาะเขาอย่างแน่นอน
เขาลุกขึ้นด้วยความโกรธเกรี้ยวและพูดว่า “ตอนแรกฉันก็แค่อยากจะสอนบทเรียนง่าย ๆ ให้แก… แต่ตอนนี้มันเปลี่ยนไปแล้ว ถ้าฉันคนนี้ไม่ทำให้แกกลายเป็นคนพิการล่ะก็… ฉันจะยกแซ่สกุลของฉันให้แกเลยเว้ย!” พูดเสร็จ เขาก็กำหมัดแน่นและพุ่งเข้าหาเย่เชียนอีกครั้ง
“อย่าเลย… ผมยังไม่ได้แต่งงานเลยนะ” เย่เชียนพูดขณะที่เขาวิ่งไปรอบ ๆ
ชายร่างกำยำกลั้นลมหายใจและสีหน้าของเขาก็เต็มไปด้วยความแค้นขณะที่เขาวิ่งไล่ตามเย่เชียนจากด้านหลัง และถึงแม้ว่าเย่เชียนจะไม่ได้ใช้ความเร็วเต็มที่ของเขา แต่ชายร่างกำยำก็ยังจับเขาไม่ได้ และทุกครั้งที่เขากำลังจะคว้าตัวเย่เชียนได้ เย่เชียนก็กลับเร่งฝีเท้าขึ้นเรื่อย ๆ
ตั้งแต่ต้นจนจบ เย่เชียนรักษาระยะห่างระหว่างพวกเขาเอาไว้ตลอด ซึ่งสิ่งที่น่าเจ็บใจที่สุดก็คือเย่เชียนไม่ได้หนีไปไหน เขาเพียงแต่วิ่งวนไปวนมาเพื่อความสนุกก็เท่านั้น
“นี่พวกแกกำลังเล่นแมวไล่จับหนูกันอยู่หรือไง ?! ถ้าไม่รีบจัดการกับเรื่องนี้ พวกเราต้องแย่แน่ ๆ เจ้านายกำลังรอพบเขาอยู่นะ!” บอดี้การ์ดอีกคนตะโกน
แมวกับหนูงั้นเหรอ ? มันก็ถูก… แต่ใครเป็นแมวและใครเป็นหนูนั้นยากที่จะบอกได้
บอดี้การ์ดร่างกำยำเริ่มรู้สึกหดหู่และคิดอย่างเกรี้ยวโกรธ ‘ไอ้โง่เอ๊ย…! เห็นมันง่ายนักหรือไงวะ ? เอาแต่ยืนดูอยู่ได้ งั้นแกทำไมไม่ลองมาจัดการเองดูล่ะ ?’ แน่นอนว่าเขาไม่ได้พูดออกมา เพราะไม่เช่นนั้นมันก็จะทำให้เขาเสียหน้าอย่างที่สุด
ส่วนเย่เชียนที่ดูเหมือนกำลังสนุกกับการวิ่งไปรอบ ๆ ทันใดนั้น เย่เชียนก็หยุดและชายร่างกำยำก็ไม่สามารถทนได้อีกต่อไป เขากำลังจะพุ่งตัวใส่เย่เชียนแต่เย่เชียนก็ยังจะแสร้งทำเป็นเหนื่อยมากและพูดขณะที่เหนื่อยหอบว่า “แฮ่ก ๆ ๆ… คุณไม่เหนื่อยบ้างเหรอ…? เรามาพักกันก่อนเถอะ”
แน่นอนว่าชายร่างกำยำจะไม่ปล่อยให้โอกาสนี้หลุดลอยไป เขาไม่ลังเลแม้แต่น้อยในขณะที่เหวี่ยงขาไปข้างหน้าเพื่อเตะเย่เชียน เมื่อเขาคิดว่า ในที่สุดเขาก็สามารถจัดการกับไอ้บ้านี่ได้สักที แต่แล้วเขากลับรู้สึกราวกับว่ามีพลังเวทมนตร์บางอย่างมาทำให้เขาเตะไปผิดทาง เขาไม่เข้าใจในสิ่งที่เกิดขึ้นเลย เพราะในช่วงเวลานั้นเขารู้สึกเหน็บชาที่ขาซึ่งมันก็มากพอที่จะทำให้เขาล้มลงไปนั่งคุกเข่าโดยไม่รู้ตัว
เหตุการณ์นี้ได้ทำให้บอดี้การ์ดอีกคนตกใจอย่างมาก เขาไม่รู้ว่าทำไมจู่ ๆ เพื่อนของเขาถึงได้ลงไปคุกเข่าต่อหน้าเย่เชียนแบบนั้น โลกนี้กำลังเล่นตลกอะไรอยู่กันแน่ ?
เย่เชียนรู้ได้อย่างเป็นธรรมชาติว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น เพราะก่อนหน้านี้เขาไม่เพียงแค่หลอกล่อเท่านั้น แต่เขายังดีดก้อนหินเล็ก ๆ ไปที่จุดฝังเข็มที่ขาของบอดี้การ์ดร่างกำยำอีกด้วย
เมื่อเห็นชายร่างกำยำที่ล้มลงคุกเข่าต่อหน้าเขาแล้ว เย่เชียนจึงพูดอย่างเสแสร้งว่า “อ้าว! นี่มันเกิดอะไรขึ้น… คุณไม่ต้องคุกเข่าขอโทษก็ได้… ตราบใดที่คุณรู้ตัวว่าคุณทำผิด คุณก็ไม่ต้องคุกเข่าให้ผมหรอก…”