ยอดนักรบจอมราชัน - ตอนที่ 178 ซ่งหลันผู้โดดเดี่ยวอย่างแท้จริง
หลังจากนัดหมายกับซ่งหลันแล้วเย่เชียนก็วางสายโทรศัพท์ไป
เย่เชียนไม่คาดคิดว่าผู้หญิงที่สง่างามและเพียบพร้อมอย่างซ่งหลันจะเลือกไปกินข้าวเย็นกับเขาที่แผงขายอาหารในค่ำคืนนี้ จากมุมมองของเย่เชียน มันเป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อเสียยิ่งกว่าการโคจรของดาวอังคารมายังโลกเสียอีก เย่เชียนไม่สามารถเข้าใจสิ่งเหล่านี้ได้เลย บางครั้งเขาคิดว่าตัวเองเป็นเหมือนกับท่อนไม้ที่ไม่มีความรู้สึกและไม่รู้ว่าจะมีความสุขกับชีวิตอย่างไร เพราะเขานั้นไม่เคยโหยหาอาหารที่เลิศหรูและฟุ่มเฟือยเหล่านั้นเลย ปัจจัยหลักที่สำคัญที่สุดสำหรับการกินของเขาคือ ขอแค่ให้เขาได้กินจนอิ่มท้องก็เพียงพอแล้ว
เขาเดินเล่นต่อไปตามท้องถนนอีกสักพัก เมื่อถึงเวลาที่นัดกันไว้กับซ่งหลันแล้ว เย่เชียนก็นั่งแท็กซี่ตรงไปยังสถานที่นัดหมาย ไม่นานนักเขาก็มาถึง เมื่อมองจากไกล ๆ เขาก็เห็นซ่งหลันในชุดสูททำงานอันแสนเรียบง่ายแต่ทว่าสง่างามยืนอยู่ที่หน้าร้านสะดวกซื้อ น่าแปลกที่มันกลับทำให้เย่เชียนรู้สึกตื่นเต้นเหมือนกับหมาป่าที่เห็นแกะน้อยอย่างไงอย่างงั้น เพราะซ่งหลันนั้นดูสง่างามและเต็มไปด้วยเสน่ห์ที่เย้ายวนใจอย่างมาก
ที่ใต้ต้นไม้ใหญ่ข้างถนนต้นหนึ่งนั้นมีชายหญิงคู่หนึ่งกำลังยืนกอดจูบลูบคลำกันอยู่ แต่จู่ ๆ พวกเขาทั้งสองก็หยุดลงและผู้ชายคนนั้นก็จ้องมองมาที่ซ่งหลันด้วยดวงตาที่เบิกกว้างราวกับสัตว์ร้ายที่กำลังจ้องจะพุ่งตัวเข้าหาเหยื่อ ทว่าผลที่ตามมานั้นคือผู้หญิงที่อยู่ข้าง ๆ เขาทุบและหยิกท้องของผู้ชายคนนั้นอย่างรุนแรง เขาร้องออกมาเล็กน้อยด้วยความเจ็บปวด แล้วจากนั้นเขาก็หันไปจูบเธอต่ออย่างเชื่อฟัง
เย่เชียนส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้และเดินไปหาซ่งหลัน นางฟ้าคนนี้เธอไม่แม้แต่จะขับรถมาเลยด้วยซ้ำ อีกทั้งเธอนั้นดูเหมือนว่าจะไม่เกรงกลัวกับภยันอันตรายใด ๆ เลย
“นายมาสายนะ” ซ่งหลันพูดด้วยรอยยิ้มที่มีเสน่ห์เย้ายวน
“คุณคิดอะไรอยู่น่ะ ?” เย่เชียนกังวลอยู่เสมอ เขาจึงถามตรง ๆ เพราะไม่เช่นนั้นเขาอาจจะตกใจเมื่อไหร่ก็ได้
“แล้วนายอยากให้ฉันทำอะไรเหรอ ?” ซ่งหลันมองไปที่เย่เชียนอย่างเย้ายวน
เย่เชียนคิดมากเกี่ยวกับเรื่องนี้และไม่รู้ว่าเขาจะตอบเธอว่าอย่างไรดี เมื่อหันหน้าไปสบตากับซ่งหลันแล้ว ดูเหมือนว่าเย่เชียนจะรู้สึกว่าเขานั้นอ่อนแออยู่เสมอ และเขาก็ไม่รู้ว่าทำไมทุก ๆ ครั้งที่เขาเห็นนางฟ้าคนนี้ เขามักจะรู้สึกอ่อนไหวและประหม่า หรืออาจจะเป็นเพราะผู้หญิงคนนี้มีเสน่ห์ที่ไม่มีใครเทียบเธอได้ ?
“ทำไมวันนี้คุณถึงอยากมากินที่แผงขายอาหารล่ะ ? นี่มันไม่ใช่รสนิยมคุณเลยนะ” เย่เชียนถาม
“นายคิดว่าฉันเป็นผู้หญิงที่แสวงหาแต่ความสะดวกสบายทางวัตถุเท่านั้นหรือไง ?” ซ่งหลันจ้องมองเย่เชียนและพูดต่อ “ที่จริงนายก็น่าจะเข้าใจฉันได้แล้วนะ ว่าแค่นายอยู่กับฉัน ต่อให้ฉันต้องกินแต่แกลบฉันก็เต็มใจ แต่นายก็ไม่เคยอยู่เคียงข้างฉันเลย! ผู้หญิงอ่อนแอที่ไหนจะกล้ามาแถวนี้ตอนกลางคืนคนเดียวล่ะ ? มันจะเกิดอะไรขึ้นถ้าฉันถูกพวกอันธพาลทำไม่ดีไม่ร้ายเอาน่ะหา”
“อ้าว… คุณเป็นผู้หญิงที่อ่อนแอเหรอ ?” เย่เชียนขมวดคิ้วและพูดต่อ “ด้วยความสามารถของคุณแล้ว ถึงจะมีพวกอันธพาลยกโขยงกันมาสักกี่สิบคน คนพวกนั้นจะทำอะไรคุณได้ล่ะ ?”
“นายหึงเหรอ ?” ซ่งหลันหรี่ตาและยิ้มอย่างยั่วยวน
“ทำไมผมถึงต้องหึงด้วยล่ะ… ผมเป็นคนแบบนั้นเหรอ ?” เย่เชียนยักคิ้วและพูด
“เชอะ… ทำเป็นปากแข็ง ฮิ ๆ ๆ ” ซ่งหลันหัวเราะอย่างมีความสุข เพราะเธอนั้นรู้ว่าเย่เชียนมีความรู้สึกบางอย่างในใจของเขา แต่เขาแค่แสร้งทำเป็นว่าเขาไม่สนใจและไม่แยแสเพียงเท่านั้น แต่ถึงอย่างนั้นมันกลับทำให้เธอรู้สึกหดหู่ใจและเสียใจอย่างมาก แต่เธอก็ไม่เคยเผยมันออกมาให้ใครเห็น เพราะฉะนั้นเธอจึงพยายามอย่างหนักและอดทนต่อทุกสิ่งทุกอย่างจนเธอนั้นสามารถมายืนอยู่ในตำแหน่งที่โดดเด่นและสำคัญในหน้าที่การงานได้อย่างทุกวันนี้
“ไปกันเถอะ ฉันได้ยินมาจากเพื่อนร่วมงานในบริษัทว่าข้าวต้มปลากับผัดเต้าหู้หมักในแผงขายอาหารข้างหน้านี้อร่อยมาก” ซ่งหลันพูด
“คุณไม่กลัวที่จะทำลายภาพลักษณ์ของคุณหรือไงถึงอยากไปกินเต้าหู้หมักเหม็น ๆ นั่นน่ะ ?” เย่เชียนพูด
“เสน่ห์ของพี่สาวคนนี้หลุดโลกไปแล้วไม่ต้องห่วง” ซ่งหลันพูดอย่างมั่นใจ
เย่เชียนถึงกับส่ายหัว แต่เขาก็ต้องเห็นด้วยกับเธอ เพราะบอกได้คำเดียวเลยว่าเสน่ห์ของเธอคนนี้นั้นงดงามอย่างแท้จริง มีผู้ชายอยู่ไม่มากนักที่สามารถต้านทานเสน่ห์ของเธอได้ ยิ่งไปกว่านั้นเธอคนนี้ยังดูเหมือนว่าจะเข้าถึงจิตใจของผู้ชายได้เป็นอย่างดี และเธอก็มักจะทำให้พวกเขารู้สึกราวกับว่าเขากำลังจะได้ครอบครองหัวใจของเธอแล้ว แต่สุดท้ายแล้วพวกเขาก็ไม่ได้อะไรจากเธอไปเลยแม้แต่น้อย ไม่ว่าใครที่ต้องการจะจีบเธอต่างก็ต้องยอมพ่ายแพ้ไปอย่างราบคาบ
“นายกลัวฉันหรือไง… ทำไมถึงเดินห่างจัง” ซ่งหลันหันไปมองเย่เชียนและคิดเสมอว่าเด็กคนนี้มักจะรักษาระยะห่างจากเธอเสมอเรื่อยมา
“ผมอยากทำเหมือนสองคนนั่น แต่ผมกังวลว่าผมจะทำลายความสุขในชีวิตของคุณและทำให้คุณเสียใจ” เย่เชียนพูดพร้อมกับชี้ไปที่ชายหญิงคู่นั้นที่กำลังกอดจูบกันอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ที่อยู่ไม่ไกลนัก
“เราไปกันเถอะ!” ซ่งหลันฝืนยิ้มอย่างมีความสุขและไม่ได้แสดงความคิดเห็นใด ๆ กับคำพูดของเย่เชียน เธอเพียงเดินไปข้างหน้าและควงแขนของเย่เชียน
“ทำไมคุณถึงไม่ขับรถมาล่ะ ? ไม่งั้นเราคงไม่ต้องมาเดินให้มันเหนื่อยแบบนี้” เย่เชียนพูดอย่างหดหู่
“มันน่าเบื่อจะตายถ้าเราขับรถไป เดินด้วยกันแบบนี้มันโรแมนติกกว่านะ” ซ่งหลันพูดไปยิ้มไป
โรแมนติก ? เย่เชียนไม่เข้าใจอะไรเลยในตอนนี้ เขารู้สึกเพียงแค่ว่าอากาศมันร้อนวูบวาบมาก
“คืนนี้แสงจันทร์สวยมากเลยนะ” จู่ ๆ เย่เชียนก็เหมือนจะเข้าใจอะไรบางอย่างเขาจึงพูดออกมาเอาใจเธอ
……
แผงขายอาหารที่นี่ไม่ใหญ่มากนัก มันถูกสร้างขึ้นอย่างเรียบง่ายด้วยผ้าใบกันน้ำ ซึ่งทำหน้าที่เป็นเพียงที่หลบลมและฝนเท่านั้น มีโต๊ะประมาณห้าถึงหกตัวถูกจัดวางอยู่อย่างไม่สม่ำเสมอภายใต้ผ้าใบกันน้ำนั่น แต่ธุรกิจก็ราบรื่นดีมาก เพราะเมื่อทั้งสองคนมาถึง มันก็เหลือที่นั่งว่างเพียงโต๊ะเดียว
เย่เชียนหยิบกระดาษทิชชู่ออกมาอย่างประณีตและเช็ดที่นั่งของซ่งหลันให้ จากนั้นเขาก็เลื่อนเก้าอี้ให้เธอนั่งลงอย่างอ่อนโยน ซ่งหลันไม่ได้ตอบสนองอะไรมากนัก ในตอนนี้ทั้งการแสดงออกและพฤติกรรมของเธอนั้นแตกต่างไปจากปกติอย่างมาก เพราะหากเป็นเมื่อก่อนล่ะก็ เธอคงไม่ยอมกินอาหารในสถานที่แบบนี้ หรือบางทีมันอาจจะเกี่ยวข้องกับสิ่งที่เธอเพิ่งจะพูดไปก่อนหน้านี้ว่าในสายตาของเย่เชียนนั้นไม่มีเธออยู่เลย
เถ้าแก่ของร้านเดินถือเมนูมาพร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้า ทว่าเมื่อเขาเห็นซ่งหลัน สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปเป็นความสดใสราวกับแสงแดดในฤดูใบไม้ผลิทันที เพราะเขาเห็นแบรนด์ดังที่มีชื่อเสียงจากการแต่งตัวของเธอ ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ร่ำรวยหรือดูสูงส่งก็ตาม แต่ถึงยังไงเธอก็ยังคงดูเหมือน ซูต้าจื่อในหนังสงครามเทพเจ้า ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และความงดงาม และเถ้าแก่เองก็ไม่อยากจะเชื่อว่าบุคคลเช่นนี้จะเข้ามาเยือนที่ร้านของตัวเองเพื่อรับประทานอาหารแบบนี้ มันทำให้เถ้าแก่นั้นรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งและการบริการก็ดีขึ้นอย่างเหลือเชื่อ
ซ่งหลันนั้นเคยชินกับสายตาของเหล่าบรรดาผู้ชายที่จ้องมองเธอ แต่เธอก็ไม่เคยแยแสอะไรกับสายตาเหล่านั้นเลย เพราะความงามของเธอนั้นถูกสงวนไว้สำหรับเย่เชียนเพียงคนเดียวเท่านั้น ดังนั้นซ่งหลันจึงไม่ตอบสนองต่อท่าทีของเถ้าแก่มากนักและสั่งอาหารสองสามอย่างในคราวเดียว ซึ่งมีข้าวต้มปลาและผัดเต้าหู้หมักอยู่ในรายการอาหารที่สั่งด้วย
เย่เชียนนั้นอยากดื่มแค่เบียร์ เพราะการดื่มไวน์นั้นมันยุ่งยากมากกว่าและทำให้เมาได้ง่ายมากกว่าเช่นกัน เย่เชียนจ้องมองไปที่ใบหน้าอันทรงเสน่ห์ของซ่งหลัน และคิดว่าถ้าหากวันนี้เขาไม่เผลอเมามากจนเกินไป เขาจะพยายามหาโอกาสหนีเธอไปให้ได้ เพราะถ้าเขาเมาขึ้นมาจริง ๆ คืนนี้เขาอาจจะพลาดพลั้งฉุดนางฟ้าคนนี้ไปโรงแรมแล้วทำสิ่งที่ชั่วร้ายกับเธอก็เป็นได้
“ที่บริษัทเป็นไงบ้างน่ะ ?” เย่เชียนไม่กล้าที่จะสบตาดวงตาที่มีเสน่ห์ของซ่งหลัน เขาเพียงก้มหัวลงและถามขณะที่กินถั่วลิสงในจานเพียงเท่านั้น